โดย พัชรา อร่ามศรี
27 พฤษภาคม 2547 03:54 น.
หากจะพูดว่า ยาอายุวัฒนะกับชาวจีนเป็นของคู่กันก็คงจะไม่เกินเลยนัก เพราะชาวจีนเขาเชื่อเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่น แถมยังมีสูตรยาอายุวัฒนะมากมาย ซึ่งก็มีทั้งสูตรที่นานาชาติชื่นชอบและที่นานาชาติไม่ชื่นชม ที่บอกว่าไม่ชื่นชมก็อย่างความเชื่อเรื่องการรับประทาน “อุ้งตีนหมี” เพื่อให้มีอายุยืนยาว หรือการรับประทานอวัยวะบางส่วนของเสือ เพื่อให้มีสุขภาพทางเพศแข็งแรง หรือบรรดาเมนูอาหารแปลกๆ
วันนี้ เราจะนำเรื่องของสมุนไพรจีนมาฝากกัน เป็นชนิดที่เรียกได้ว่า “นานาชาติชื่นชอบ” ซึ่งผู้หญิงชาวจีน ตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงยุคใหม่ เขานิยมรับประทานเพื่อประทินโฉมและบำรุงร่างกาย แถมยังหาไม่ยาก เพราะมีขายตามร้านสมุนไพรจีนทั่วไป
โสม เป็นสมุนไพรที่มีราคาแพง เพราะปลูกยากและต้องใช้เวลาเลี้ยงดูตั้งแต่ 3-7 ปีกว่าจะเอามา “ทำยา” ได้ ส่วนที่นำมาใช้ก็คือราก ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รสหวาน และชุ่มคอ คล้ายรากชะเอมเทศของไทยเรา แพทย์จีนเชื่อกันว่า โสมมีสรรพคุณในการบำรุงพลังชีวิต ปอด ม้าม แก้อาการเหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม และอื่นๆ อีกมากมาย
ขณะที่แพทย์แผนปัจจุบันพบว่า รากโสมนั้นมีสารชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่สามารถช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังสดชื่นและเปล่งปลั่ง ไม่เหี่ยวแห้ง หรือแตกเป็นขุย แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย คนจีนเขาจึงเชื่อกันว่าโสมจะช่วยทำให้อายุยืนยาวได้
โสมนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาและสมุนไพรจีนทั่วไป เขาจะขายเป็นท่อนๆ ให้นำมาหั่นแบ่ง แล้วต้มหรือตุ๋นเป็นน้ำซุปรับประทาน
ตังกุย แพทย์จีนมักจะจัดให้หญิงที่ย่างเข้าสู่วัยทองรับประทานสมุนไพรชนิดนี้ เพราะเชื่อว่ามีธาตุอุ่น และมีสรรพคุณบำรุงโลหิต กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ประจำเดือนมาปกติ แก้ปวดประจำเดือน ลดอาการร้อนวูบวาบ เพิ่มเม็ดเลือดสำหรับผู้หญิงที่โลหิตจาง อีกทั้งยังช่วยบำรุงตับและม้ามด้วย
ไข่มุก ปกติเราจะรู้จักไข่มุกในฐานะเครื่องประดับงดงามที่มีราคาแสงแพง ยิ่งเป็นมุกแท้ที่ได้จากธรรมชาติเพียวๆ ยิ่งแพงกว่ามุกเลี้ยงหลายเท่า แต่ชาวจีนเขาจะนำไข่มุกมารับประทานเพื่อความงาม แล้วยังใช้ในการรักษาโรคต่างๆ หลายโรค
ถึงแม้จะยังไม่มีผลพิสูจน์ทางการแพทย์ออกมาแน่ชัดว่าไข่มุกสามารถ รักษาโรคได้จริง แต่ก็ยังเป็นที่นิยมในหมู่หญิงชาวจีน ซึ่งเชื่อกันว่าไข่มุกจะช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส เพียงแต่มีข้อบ่งชี้ว่า หญิงสาวที่ยังไม่มีลูกไม่ควรกินเกินปีละ 4 ตำลึง (อัตราชั่งของแพทย์จีน) เพราะจะทำให้มดลูกบีบตัวและมีบุตรยาก
ใครหลายๆ คนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ! แล้วไข่มุกจะเอามารับประทานได้ยังไง คนที่สนใจการบำรุงความงามด้วยสูตรนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการไปที่ร้านขายยาจีน แล้วไปซื้อไข่มุกจากร้านยานั่นแหละ ลองปรึกษาเขาดูว่าจะซื้อกี่กรัมดี เสร็จแล้วก็ให้ทางร้านนั้นบดไข่มุกให้เป็นผงละเอียด แล้วเอาใส่แคปซูลไว้รับประทาน
หอสิ่วโอ จัดเป็นยาบำรุงชั้นดีของคนจีน มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับ บำรุงไต บำรุงเลือด แก้ปัญหาผมหงอกก่อนวัน กล้ามเนื้อและผิวหนังเหี่ยวแห้ง หากกินเป็นประจำจะทำให้หน้าแจ่มใส มีน้ำมีนวล ผมดกดำสลวยและไม่แห้งแตกปลาย
แปะฮวยแปขี่เฉ้า จัดเป็นยาถอนพิษขนานหนึ่งของจีนที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณ สามารถใช้ถอนพิษได้หลายชนิด ทั้งพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย และพิษจากพืชบางชนิด
จิงจูฉ่าย เป็นผัดชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอม แพทย์จีนเชื่อกันว่าเป็นยาเย็นและช่วยแก้ไข้ได้ นอกจากนี้ ความเย็นของจิงจูฉ่าย ยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด ทำให้เลือดอุ่นและไหลเวียนได้ดี คนจีนจึงนิยมนำผักชนิดนี้มาปรุงเป็นอาหารรับประทานในหน้าหนาว สำหรับเมืองไทยแล้ว ความเชื่อเช่นนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน เราจึงสามารถนำผักชนิดนี้มาปรุงรับประทานได้ในช่วงที่อากาศเย็นๆ
กระเพาะปลา กระเพาะปลาที่พูดถึงนี้ หมายถึงกระเพาะปลาแท้ๆ ไม่ใช่ที่เราเห็นตามร้านขายกระเพาะปลาข้างทาง หากแต่เป็นกระเพาะปลาที่เราไปหาซื้อได้จากร้านขายยาและสมุนไพรจีน โดยเขาจะใส่ตราชั่งขายและมีราคาแพงมาก
ในกระเพาะปลานี้ พบว่ามีสารคาซิเลตซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง แม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสารนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร (เช่นเดียวกันหูฉลาม) แต่คนจีนก็เชื่อว่ากระเพาะปลาจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เลือดลมไหลเวียนดี ทำให้มีพละกำลัง จึงนิยมรับประทานกันในหน้าหนาวเช่นกัน และจัดเป็นอาหารบำรุงร่างกายอย่างดี
แต่ที่ต้องเตือนกันไว้ ณ ที่นี้ ก็คือสมุนไพรตามตำรับจีนที่กล่าวมาข้างต้นนั้น บางอย่างมีราคาแพงมาก ดังนั้น คนที่ไม่มีความพร้อมทางด้านทุนทรัพย์ ก็อาจจะไม่ต้องขวนขวายไปหาซื้อมารับประทาน
เพราะความจริงแล้ว ยังมีสมุนไพรอีกมากมายหลายชนิด ทั้งของไทยและจีน ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงความงามและรักษาโรค ทั้งยังมีราคาถูก แถมบางอย่างก็ปลูกเองได้ มาใช้ทดแทนกันได้โดยไม่ต้องรบกวนทุนรอนที่เก็บหอมรอมริบไว้
นอกจากนี้ เคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้คนเรามีผิวพรรณผ่องใสและร่างกายแข็งแรง ก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคร้าย แค่นั้นก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพดีด้วยวิธีธรรมชาติได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น