++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2548

แมลงชีปะขาว ผู้บอกเล่าตำนานการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ท่วงท่าเริงระบำเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์ และซากฟอสซิลของบรรพบุรุษแมลงชีปะขาวกำลังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจการ เปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลก ที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 300 ล้านปีก่อนดีขึ้น

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเแมลงชีปะขาวมีวิวัฒนาการเพียงเล็กน้อยตั้งแต่พวกมันเกิดขึ้นมาบนโลก และมีการเคลื่อนไหวเข้าหาเพศตรงกันข้าม นักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่า ถ้าบรรยากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ก็น่าจะกระทบกับขนาดซากฟอสซิลของปีกและกล้ามเนื้อของแมลงชนิดนี้

จอห์น ซิสเน นักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลกล่าวในการประชุมของสมาคมนักธรณีกายภาพ ชาวอเมริกาว่า ข้อมูลก่อนหน้านี้ก็แสดงให้เห็นว่า ความกดอากาศมีความเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก

"ตราบเท่าที่แมลงชีปะขาวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ดูเหมือนว่ามวลและความกดอากาศในระดับใกล้พื้นดินจะมีสภาพเช่นเดียวกับช่วง สามล้านปีหลัง" จอห์น ซิสเน กล่าวพร้อมกับเสริมว่า แมลงชนิดอื่นๆ ก็ดูจะให้ร่องรอยต่างๆ พวกนี้ แม้ว่า จะย้อนเวลาถอยหลังไปนานกว่านั้น

สำหรับสาเหตุที่นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ ก็เนื่องมาจากว่า หากเข้าใจว่า บรรยากาศของโลกมีวิวัฒนาการมาอย่างไร จะทำให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ง่ายขึ้นเพียงนั้น นอกจากนี้ยังทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจช่วงเวลาที่บรรยากาศมีสภาพเอื้อให้ เกิดสิ่งมีชีวิตเป็นครั้งแรกมากขึ้น

โดยก่อนนี้นักวิทยาศาสตร์คาดเดาลักษณะของบรรยากาศของโลกจากการวิเคราะห์ฟอง อากาศในหินต่างๆ เช่น หินลาวาที่แข็งตัว พวกเขาทราบว่าตอนนั้น อากาศมีปริมาณออกซิเจนอยู่น้อยมาก และมีการสูญเสียก๊าซจำนวนมากออกไปสู่อวกาศ

ดังนั้นการศึกษาที่ ถูกต้องมากขึ้น เกี่ยวกับแมลงชีปะขาว จึงสามารถช่วยสร้างความเข้าใจใหม่ๆ ให้นักวิจัย ในเรื่องช่วงเวลาที่บรรยากาศเกิดการเปลี่ยนปลงและปริมาณของบรรยากาศที่รั่ว ออกไปนอกโลก ตั้งแต่บรรพบุรุพของแมลงชีปะขาวเริ่มบินครั้งแรก

การบันทึก ข้อมูลที่แน่นอน ยังทำให้เกิดความเข้าใจใหม่ๆ ในเรื่องผลกระทบจากการพุ่งชนของอุกกาบาตที่ทำให้เกิดความเชื่อว่า เป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ไปจากโลกเมื่อ 65 ล้านปีที่ผ่านมา โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศ อาจจะทำให้สัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ชนิดนี้ถึงกาลอวสาน

"แมลง ชีปะขาวเป็นกรณีศึกษาที่ดีเป็นพิเศษ เพราะว่ากลไกการบินของพวกมันไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการแยกแยะลักษณะ และเพราะว่าพวกมันอยู่ในกลุ่มสัตว์ดึกดำบรรพ์" ซิสเนกล่าว

หลัง จากใช้เวลาเป็นตัวอ่อนอยู่หนึ่งปีหรือกว่านั้น แมลงชีปะขาวมีเวลาไม่ถึงหนึ่งวันในการใช้ชีวิตช่วงตัวเต็มวัยก่อนที่จะตาย พวกมันจึงอุทิศเวลาเกือบทั้งหมด ในช่วงนี้ให้กับการดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้าม ระหว่างที่เริงระบำเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ ตัวชีปะขาวจะแสดงท่าประหนึ่งเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก โดยการตีปีกด้วยความถี่ 20-30 ครั้งต่อวินาที ก่อนที่จะพักด้วยการร่อนลงสู่เบื้องล่าง แล้วก็กลับขึ้นมาทำท่าเช่นเดิมอีก

นักธรณีวิทยากล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้อย่างมาก ที่มันจะเปลี่ยนแปลงท่วงท่าในการเริงระบำนี้ เพราะแมลงชีปะขาวในยุคนี้ก็ดูไม่แตกต่างจากบรรพบุรุษของพวกมัน

ซิสเนกล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาหันมาศึกษาแมลงชีปะขาวว่า มาจากการเฝ้าดูพวกมันที่บ้านของเขา

"เย็น วันหนึ่ง ขณะที่กำลังมองออกไปหลังบ้าน ระหว่างที่กำลังดูการเต้นระบำบิดตัวของเหล่าแมลงชีปะขาว ผมก็เกิดความคิดขึ้นว่า แมลงตัวเล็กๆที่น่าทึ่งพวกนี้ กำลังทดลองวัดความหนาแน่นของบรรยากาศ และพวกมันก็ทำอย่างนี้มานานนับล้านๆปี " ซิสเนกล่าว

ส่วนผลการศึกษาจะออกมอย่างไรนั้น คงต้องให้เวลาเขาอีกหน่อย

มาร์ลีย์ แปลเรียบเรียง

โดยคุณ : มาร์ลีย์ / GWFT/ WETLAB

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น