++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2550

ต่อเช้านี้


ใครบ้างจะหลับตาลงสนิท
เต็มคืนคิดฟุ้งซ่านพลุ่งพล่านไหว
ต่อรุ่งเช้าเล่าจะกินอะไร
ข้าวสักก้อนหาไม่ใจโรยแรง


หรือจะให้มึกน้ำเต็มชามข้าว
ห่อนสงสารนะเดือนดาวเปล่งพราวแสง
ขอกี่ครั้งกี่คราวทั้งข้าวแกง
ยังไม่แจ้งใจฝันทุกวันมา


จึงข่มตาคราใดจะได้ปิด
ท้อเหลือเกินชีวิตผู้เสดสา
ประทังรอแตกดับวันลับลา
หรือจะฆ่าตัวตายก็สายใย


ยิ้มพิมพ์ใจของลูกยังผูกสร้อย
บ่วงรัดร้อยอุราน้ำตาไหล
ตัดช่องน้อยพอตัวกลัวเหลือใจ
จะมีใครถนอมกล่อมรักนวล


เลยเปอดตาปรือแรงแข่งดาวจ้า
ทั้งรู้ว่าแพ้พ่ายนอนไห้หวน
รุ่งเช้าคงได้กินรสชิมชวน
จะยิ้มสรวลให้งามกลบความจน


ใครบ้างจะหลับตาฝันว่าหวาน
กับชีวิตดักดานเสียทุกหน
จึงคิดจะหาใดดับหิวทุรน
เป็นขโมยหรือทนก้มขอทาน


สิทธิธรรม บุญช่วย


ต่อเช้านี้


ใครบ้างจะหลับตาลงสนิท
เต็มคืนคิดฟุ้งซ่านพลุ่งพล่านไหว
ต่อรุ่งเช้าเล่าจะกินอะไร
ข้าวสักก้อนหาไม่ใจโรยแรง


หรือจะให้มึกน้ำเต็มชามข้าว
ห่อนสงสารนะเดือนดาวเปล่งพราวแสง
ขอกี่ครั้งกี่คราวทั้งข้าวแกง
ยังไม่แจ้งใจฝันทุกวันมา


จึงข่มตาคราใดจะได้ปิด
ท้อเหลือเกินชีวิตผู้เสดสา
ประทังรอแตกดับวันลับลา
หรือจะฆ่าตัวตายก็สายใย


ยิ้มพิมพ์ใจของลูกยังผูกสร้อย
บ่วงรัดร้อยอุราน้ำตาไหล
ตัดช่องน้อยพอตัวกลัวเหลือใจ
จะมีใครถนอมกล่อมรักนวล


เลยเปอดตาปรือแรงแข่งดาวจ้า
ทั้งรู้ว่าแพ้พ่ายนอนไห้หวน
รุ่งเช้าคงได้กินรสชิมชวน
จะยิ้มสรวลให้งามกลบความจน


ใครบ้างจะหลับตาฝันว่าหวาน
กับชีวิตดักดานเสียทุกหน
จึงคิดจะหาใดดับหิวทุรน
เป็นขโมยหรือทนก้มขอทาน


สิทธิธรรม บุญช่วย


แม่เจ้าพระยา


1. เจ้าพระยาไหลบ่าไปหล่อเลี้ยง
พลบค่ำจุดตะเกียงอยู่เคียงใกล้
หลอมซับสรรพสิ่งนั่งผิงไฟ
โอบกอดอิงกระไอ,ใบไผ่คว้าง


เคว้งคว้างอยู่ครู่หนึ่งถึงผิวน้ำ
คร่ำเพลงหนาวลำนำพร่ำเพรียกห่าง
หากวางใจใบใผ่ลอยปลดปล่อยวาง
เจ้าพระยาอ้างว้างก็กังวล


ลึกลงไปในนามความเป็นแม่
ทนเห็นลูกถูกรังแกบนท้องถนน
รักแม่มั่นพันผูกลูกทุกคน
ค่ำคืนดับลับหนแม่ดลดาว


ถึงนิทานทนเห่เปลก็ไกล
จักจั่นเรไร ก็ไม่หนาว
เห็นเจ้าคืบเจ้าคลานอยู่ทุกคราว
แต่ละก้าวแต่ละก้าวก็ห่างไกล ฯ


2.แลสายรุ้งคุ้งโค้งเจ้าพระยา
แลแววตาวัยเยาว์เจ้าสดใส
ม้าก้านกล้วยโผนเผ่นตระเวนไป
เรือใบใผ่ไล้แผ่วแนวผิวน้ำ


ว่าคนดีของแม่แลมาดมั่น
จุดประกายไฟฝันนั้นเถื่อนถ้ำ
เจ้าพระยาลาลับมิกลับลำ
ไปเนื่องหนุนคุณธรรม ณ ธานี


ไหวเพลงว่าว้าเหว่เร่ปีกนก
อนธกาลนานตระหนกนกไม่หนี
เพลงก็ขานดาลเดือดเลือดเสรี
ก็ไหลปรี่ลงเปื้อนอุดมการณ์


ดาวสูงอยู่ลิมฟ้าปลาร่ำไห้
เจ้าลูกรักจากไปไม่กลับบ้าน
แวมตะเกียงไหววูบลงจูบธาร
โศกกรรแสงกังสดาลของแผ่นดิน ฯ


3.ไปแล้วหรือไปแล้วแก้วตาเอ๋ย
สองปีกอันเปิดเผยเคยโผผิน
โอ้เจ้าดวงมณีของชีวิน
มิได้ยินเพลงกล่อมกระท่อมฟาง


หลับตาเถิดแม่ไกลเปลเพลงเห่กล่อม
สองมือจะถนอมจวบดาวสาง
เรือชีวิตปุบปับมาอับปาง
ลงท่ามกลางอกแม่กระแสชล


หลับตาเถิดลูกรักพักใจร่าง
แม่เคียงข้างมอห่างหายไปทุกหน
แม่คือแม่เจ้าพระยาประชาชน
เห่เพลงกล่อมท้องถนนราชดำเนิน ฯ


เรวัตร พันธุ์พิพัฒน์


บันทึกรัก ฯ : SMS ไม่ต้องดีใจนะ...


ไม่ต้องดีใจนะว่า เค้ารักตัวเองมาก


บันทึกรัก ฯ : SMS ไม่อยากกลับเลย....


ไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ใกล้ๆคุณ ทำไมใจร้ายจัง
ใจแข็งด้วย ไม่ยอมให้ฉันค้างด้วย ตาบ้า!!




วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550

คนกลางแดด


เช้าแล้วนิทรา
ลืมตาตื่นฝันรับวันใหม่
ดาวจะลาอุษาจะยิ้มแย้มอุทัย
น้ำค้างใสหยาดเม็ดร่วงเกล็ดพราวฯ


นางฟ้าเอาสายรุ้งมาตากรุ้ง
ที่โคนคุ้งขอบหล้า ก่อนฟ้าขาว
ราตรีจะเก็บอัจกลับดาว
กลับคืนห้องหาวก่อนอรุณฯ


ไก่แก้วแว่วมาว่าจวนสาย
ดอกบานเช้า ระเหยหายใกล้วายกรุ่น
ตลาดจะวายถนนจะชุลมุน
อาทิตย์กำลังอุ่นละมุนละไมฯ


วังเวงเหง่งหง่างระฆังแก้ว
เช้าแล้วบิณฑบาตเฉลิมสมัย
หุงข้าวหอมตักบาตรสะอาดใจ
รับขวัญวันใหม่ให้พลังฯ


แดดแจ่มตรู่เติบขึ้นเต็มฟ้า
เฝ้าก้มหน้าสู้ดินไม่สิ้นหวัง
สายตัวเกลียวเอ็นเป็นกำลัง
เก็บแดดไว้เต็มหลังทั้งทิวาฯ


คือชีวิตคนงานผู้กร้าน แกร่ง
หยาดแรงจึงเห็นงานตระการค่า
งามหยาดเหงื่อพราวของชาวนา
น่าบูชาราวบุรุษอัศจรรย์ฯ


กรำแดด แผดเผาได้เพลาพัก
ได้น้ำสักขันหนึ่งซึ้งใจนั่น
เห็นรวงทองก่องประกายหายเหนื่อยพลัน
นี่แหละทุ่งนาสวรรค์ ของคนดินฯ


ลมไล้ใบข้าวเหมือนสาวน้อย
อ่อนช้อยร่ายรำฉ่ำใจถวิล
หอมข้าวเบาดั่งสาวอบร่ำประทิน
เติม ชีวินให้ชาวนาคุณานันต์ฯ


แดดรอนอ่อนชายบ่ายคล้อย
เหงื่อย้อยหยาดเค็มเต็มหน้านั้น
เมื่อแดดแดงแรงก็รอน อ่อนปานกัน
ล้ากายแต่ใจพลันกลับบรรเทาฯ


พลบค่ำร่ำไรฟ้าใกล้มืด
ลมวืดหวิวไหวพาใจเหงา
ยิ้มหนึ่งจุด เจื่อนเปื้อนบางเบา
บอกว่าเพลาผ่อนคลายหายอาการฯ


ค่ำแล้วทิวา..
หลับตาเติมฝันเหมือนวันก่อน
เนตร ดาวตากดวงดอกอัมพร
จงพักผ่อนเอาแรงมุ่งเพื่อพรุ่งนี้ ฯฯฯ


,พระไม้


วุ่น-วาย


เอื้อมมือหยิบตัววุ่น
มาปั่นหมุนและไขลาน
ทั้งเดินวิ่งกลิ้งและคลาน
ดูวุ่นวายอยู่อลวน


ยักยึกดูยึกยัก
ตึกตึกตักในตัวตน
กลไกกลสับสน
สลับซ้ายและป่ายขวา


พอเผลอก็ล้มคว่ำ
หัวคะมำตีลังกา
จับใหม่ตั้งขึ้นมา
มันก็เดินอยู่กึงกัง


เอื้อมมือหยิบตัววาย
มาวางรายเรียงระวัง
ลำดับมิเผลอพลั้ง
ค่อยค่อยตั้งทีละตัว


หยิบไปมันก็หาย
สูญสลายเลือนสลัว
มืดมนแล้วหม่นมัว
เลื่อนไถลไปไกลลิบ


ลางลางอยู่ไกลไกล
เหลืออาลัยไม่อาจหยิบ
เรืองรองอยู่พรายพริบ
แล้วลับหายไม่เห็นเลย


เอื้อมคว้าเจ้าตัววุ่น
มาปั่นหมุนเหมือนอย่างเคย
กลไกกลก่ายเกย
จนลืมวายคลายกลตน


ไพลิน รุ้งรัตน์


ถึง....ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์


ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ทุกวันนี้มีบทบาทเพื่อการไหน
เพื่อตนเองเพื่อพวกพ้องหรือเพื่อใคร
ตอบตัวเองอยู่ในใจได้ไหมฤา


เงินเดือนที่เจ้าได้มาทุกบาท
ได้มาจากประชาราษฎร์มิใช่หรือ
ฉะนั้น จงประกาศให้โลกลือ
ว่าเจ้าคือผู้พิทักษ์ราษฎร์


พิทักษ์ความเป็นธรรมตามหน้าที่
ทั้งพิทักษ์ศักดิ์ศรีมิให้กร่อน
ทำทุกสิ่งให้เป็นไปตามขั้นตอน
อย่าโอนอ่อนเอนเอียงความเที่ยงธรรม


จงกลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ
อย่าจมปลักความกักขฬะสิ่งต่ำต่ำ
เลิกรีดไถชาวประชาตาดำดำ
เลิกทำตัวระยำกันเสียที


เลิกให้ความคุ้มครองเจ้ามือหวย
เลิกหวังรวยทางลัดได้ไหมนี่
เลิกคุมซ่องหากินกับโสเภณี
เลิกทำตัวอัปรีย์เยี่ยงแมงดา


เลิกคุมบ่อนการพนันกันให้หมด
เลิกเอายศเอาตำแหน่งมาบังหน้า
เลิกใช้อำนาจประกาศศักดา
เลิกแสวงหาประโยชน์เข้าใส่ตัว


ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่รัก
พึงตระหนักและแยกแยะสิ่งดีชั่ว
ที่ผ่านมาภาพพจน์เจ้าสุดหมองมัว
เพราะเกลือกกลั้วกับอบายทั้งหลายทั้งปวง


ติติงมาเพราะว่ารักพวกเจ้าดอก
ที่ได้บอกก็เพราะความเป็นห่วง
หากไม่ห่วงไม่รักไม่ทักท้วง
ไม่ทะลวงหาเรื่องให้เปลืองตัว


ตำรวจเด่นตำรวจดีก็มีมาก
แต่ที่เลวก็หลายหลากมีอยู่ทั่ว
เพราะฉะนั้นช่วยกันลบภาพที่มืดมัว
ความน่ากลัวชั่วช้าจักกลายเป็นดี


นิด ระโนด


ดู ดี ดี


แดนดินถิ่นไกล
ช่างไร้คุณค่า
เด็กน้อยหน้าตา
ไม่น่ารักใคร่


แต่..ดูให้ดี
ดูที่ดวงใจ
ล้วนแล้วสดใส
ไร้ซึ่งมารยา


"ครูจิ๊ก" จ.พิจิตร
23 ก.พ.2541


บันทึกรัก ฯ : ใจคอยแต่จะคิดถึงตลอด


....คุณจ๋า คิดถึงจังเลย มาอยู่ใกล้ๆฉันหน่อยสิ ฉันอยากหลับอยู่บนอกอุ่นๆ ของคุณจังจะได้หลับสบาย
คุณทำอะไรกับฉันเนี่ย ใจคอยแต่จะคิดถึงตลอด....


บันทึกรัก ฯ : ถึงเหนื่อยแต่ก็ยังคิดถึง


ช่วงนี้เธอรับบทหนัก
ร่วมเตรียมงาน ช่วยงานเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันจันทร์ อังคาร พุธ
และยังจะมีวันพฤหัสอีกด้วย
เธอแทบหมดแรง เพราะพักผ่อนน้อย
เพลีย

ช่วงที่นอนพักเหนื่อยที่ห้อง
ได้แต่โทรมาหาเขาเพราะความคิดถึง
โถ....
ขนาดเหนื่อย กลับมานอนตอนเลิกงาน
...ก็ยังคิดถึง



วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550

ที่รัก


ด้วยความรัก ความดีและชีวิต
ขอให้ข้าจุมพิตเจ้าได้ไหม
แม้ไร้ค่าต่อเจ้าข้าเข้าใจ
แต่ยิ่งใหญ่ต่อข้าคณานัก


เจ้าผ่านร้อนผ่านเย็นความเข็ญยาก
เจ้าลำบากตรากตรำทำงานหนัก
เจ้าไม่เคยปริบ่นเพื่อคนรัก
แม้ไม่มีใครมารักเจ้าสักคน


มีแต่คนเขาคอยเข้าขูดรีด
จนร่างโทรมเหลืองซีดสลดหม่น
ปากเคยแย้มแก้มเคยอิ่มยิ้มเคยยล
บัดนี้แยกแตกย่นด้วยรอยยับ


เนตรเคยคมผมเคยยาวสาวน้อยเอ๋ย
บัดนี้เกยตีนกามาประดับ
เส้นผมไหมไร้แล้วร่วงโรยลับ
ไปพร้อมกับผิวขาวร้าวร่างกาย


เจ้าเจ็บปวดเพียงใดข้าได้รู้
เจ้ากัดฟันเพื่อสู้รักษาหาย
แต่บาดแผลแสนฉกรรจ์นั้นมากมาย
ที่ผู้คนใจร้ายทำลายแล้ว


บัดนี้เจ้าย่อยยับอัปภาคย์
เหลือเพียงซากหายใจรินระรวยแผ่ว
ทั้งกายใจมอบให้ไปหมดแล้ว
แต่ใครเขายังไม่แคล้วมาคอยล้าง


แม้เลือดเจ้ามันก็เอาไปเสียสิ้น
แม้น้ำลายยังเอาลิ้นมาเลียบ้าง
แม้น้ำตาที่ไหลคล้อยย้อยเป็นทาง
มันยังรองใส่อ่างไว้ล้างเท้า


อนิจจาเจ้าเอ๋ยไม่เคยคิด
ว่าชีวิตเว้งว้างและว่างเปล่า
ว่าคนที่เคยขุนและขุ่นคาว
จะสามหาวชูคอทรพี


ข้าจะอยู่ที่นี่นะที่รัก
จงผ่อนพักกายใจให้เต็มที่
เมื่อเจ้าตายข้าจะตายในทันที
จะไม่มี "ชาตินี้" อีกต่อไป


ด้วยความรัก ความดีและชีวิต
ขอให้ข้าจุมพิตเจ้าได้ไหม
แม้ไร้ค่าต่อเจ้าข้าเข้าใจ
นะผืนแผ่นดินไท ที่ข้ารัก


เวหา วาปี


ความปลอดภัย


ความเอ๋ย ความปลอดภัย
จงร่วมใจร่วมรักสมัครสมาน
ระมัดระวังอย่าพลั้งเผลอเมื่อทำงาน
อย่าริอ่านเสพยา มันน่ากลัว
มีสติ รอบคอบตามขอบเขต
"อุบัติเหตุ" เกิดได้ มีไปทั่ว
รักษาตน รักษาคนในครอบครัว
รักษาตัว ให้ปลอดภัยไม่ทุกข์เอย


สุชีพ แก้วแสงอ่อน จ.ปัตตานี
16 ก.พ.2541


บันทึกรัก ฯ :เสียงทักทาย ในวันเกิดของเธอ


ตอนเช้า เขาก็ส่ง SMS ไปอวยพรเธอีกรอบตอน 7 โมงเช้า
สัก 8 โมงเช้า ก็ส่งข้อความไปอีก


ทำเอาเธอต้องโทรมาหาเขา ตอนก่อน 9 โมง
โทรมาบุ๊ป เขาก็ร้อง Happy birthday to you รอบเดียวแค่นั้น
เธอบอกว่า งง ทำไมตานี่ ถึงส่ง SMS มาหลายครั้งนักหนา ตั้งแต่เช้าเลย
รวมทั้งเมื่อคืนด้วย ไม่รู้จักหลับจักนอนหรือยังไง


ก็เมื่อคืนเขาพึ่งมาถึงบ้าน ก่อนเข้าบ้านก็ส่ง SMS ไปหาพอดี
ก่อนจะเข้านอน


เมื่อคืน ที่งานเลี้ยง เธอบอกว่า เธอกลับตอน ก่อน 6 ทุ่มเล็กน้อย
เพราะไม่ไหว วันต่อมายังต้องจัดงานเลี้ยงอีกวัน
แถมวันที่ 27 ก็จะต้องจัดงานเกษียณอีกวัน
วันที่ 26 เธอได้พัก


แหม.. น่าจะจัดทั้ง 5 วันไปเลยนะเนี่ย..
ในวันที่ 27 หน่วยงานของเธอจะให้เธอเป็นพิธีกรบนเวที
เธอรีบแว้ดๆ เพราถ้างั้น เธอจะไม่ได้แดกเหล้าแหงๆ...


ท่าทางจะเหนื่อยหนัก ต้องช่วยเตรียมงานเกษียณทั้งสัปดาห์นี้ 3 วันรวด
เหนือยเหมือนกัน
มีเวลาพักผ่อนนอนหลับน้อย คงต้องให้เวลาเธอนอนมากๆซะแล้วล่ะ




วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : .สุดๆกับวันสอบ ก.พ. ที่มาคนเดียว


เขามาถึง หมอชิตตอนตี 4. 40 เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า
แล้วออกมานั่งรอที่รถเมล์สาย 90 ที่จะไปยังสถานที่สอบ
สำนักงาน ก.พ. ที่ นนทบุรี ใกล้กระทรวงสาธารณสุข


รถเมล์ออกตอน ตี 5 ครึ่ง แล่นผ่าน สะพานควาย บางโพ มาจนถึงแถวท่าน้ำนนท์
ลงรถตรงทางเข้ากระทรวงสาธารณสุข นั่งพักตรงม้าหินอ่อนตรงตู้ยาม 6.55 น.
เธอก็โทรมาทักทายก่อน 7 โมงเช้าซะอีก
บอกว่า เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ หลับๆตื่นๆ
รู้สึกตัว เหลียวดูนาฬืกา ตอนตี 2 ตี 4 ตี 5
พยายามส่ง SMS หาเขา แต่ส่งไม่สำเร็จ เพราะเขาปิดมือถือเอาไว้
แต่ก็ส่งมาหาเขาตอน ตี 5


ตอน โมงครึ่ง เขาก็ไปนั่งกินข้าว
ช่วงก่อนสอบ 2 โมงเช้า เธอก็โทรมาสอบถาม และให้กำลังใจก่อนสอบ


เขาเข้าห้องสอบตอน 2 โมง 40 นั่งสอบตรงที่โดนแอร์ตรงตัวพอดี
นั่งทำข้อสอบไป ขนแขนลุกไป หนาวๆสั่นๆ
ออกจากห้องสอบตอน เที่ยงตรง หมดเวลาพอดี
แถวยังทำไม่เสร็จอีกตามเคย
คิดไม่ทัน สมองไม่แล่น
ออกจากห้องสอบ เขาก็ออกมาขึ้นรถสาย 90 กลับตอน 12.25 น. ถึงหมอชิต 2 กินข้าว แล้วนั่งรถมาลงที่โคราช ถึงตอน 17.45. น.


ส่ง SMS ทักทายเธอ
ในช่วงที่เธอกำลังอยู่ที่งานเลี้ยงเกษียณ เธอก็ส่ง SMS กลับมาทักทาย



รถกรุงเทพ ไป นครพนม แล่นเข้า บขส.โคราชตอน 19.25. น. เขาขึ้นรถคันนี้กลับบ้าน ถึงบ้าน 5 ทุ่ม 35 น.


ระหว่างที่เดินกลับบ้าน
เขาก็กด SMS ส่งข้อความอวยพรวันเกิดถึงเธอ
เดินๆกดๆไป ท่ามกลางความมืดบ้าง สลัวบ้าง
เดินๆ กดๆตัวอักษร เลยได้ส่งข้อความ HAppy birthday ตอน 6 ทุ่ม 5 นาที ของวันเกิดเธอ
25 ก.ย. 2550



บันทึกรัก ฯ : .SMS ก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม....




เย็นนี้ เธอต้องไปทำหน้าที่คอยต้อนรับแขกที่มาร่วมในงานเลี้ยงเกษียณอายุของหน่วยงานของเธอ
แต่ก็ยังมีเวลาส่ง SMS มาทักทายเสียด้วยสิ...


"ว้า แย่เลย คุณเหนื่อยอีกแล้วสิ ตอนนี้แขกเริ่มมางานแล้ว จะทำไงดีน้า
งั้นฉันติดหอมแก้มแก้เหนื่อยไว้ก่อนนะที่รัก"





บันทึกรัก ฯ : . SMS จะคอยเอาใจช่วย


วันนี้ เธอส่ง SMS มาหาเขาตั้งแต่เช้าเลย


"จะคอยเอาใจช่วบอยู่ใกล้ๆนะที่รัก เป็นห่วงคุณจัง ทุกครั้งฉันไปด้วย และส่งถึงห้องสอบ ขอโทษนะครั้งนี้ที่ไปด้วยไม่ได้ ฉันเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องเลย อย่าลืมเช็คชื่อนะ 508977 สอบอาคาร 6 ชั้น 2 นะค่ะ"






วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : .ระหว่างการเดินทางเข้า กทม.


คืนนี้ เขาจะต้องเดินทางเข้า กทม.
รถออกตอน 3 ทุ่ม ซึ่งเธอได้โทรมาสอบถาม และบอกเขาว่า ตอนขึ้นรถให้โทรบอกด้วย


แต่เขามาขึ้นรถตอน 2 ทุ่ม 45 ยังไม่ได้โทรไปบอก
แต่เธอก็โทรมาหาก่อน
แล้วค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควร เลยตะโกนใส่มือถือ ทำไมไม่รู้จักโทรมาบอก
ขึ้นเสียง เอะอะโวยวายเสียยกใหญ่


เขาก้ไม่รู้จะทำยังไง เพราะที่นั่งตรงที่เขานั่งบนรถ ตรงกับลำโพงพอดี
บนรถก็เปิดเพลงดังเสียด้วย พยายามจะเงี่ยหูฟังยังไงก้ไม่ค่อยจะได้ยิน


เหลือบดูแบตมือถือ
เขาลืมชาร์ตแบตไว้
แถมไม่ได้เอาที่ชาร์ทติดมือมาอีกด้วย
เลยปิดมือถือ save แบตไว้ก่อน แล้วหลับตานอนไป


รถถึงโคราชตอน 6 ทุ่ม 40




บันทึกรัก ฯ : .SMs อย่ากลัว...


"อย่ากลัวและกังวลในความรักของฉันที่มีต่อคุณ เส้นทางสายแฟนอาจจะมีหลุมหรืออุปสรรคบ้าง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนและคงเดิม คือ ฉันรักคุณ"




วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2550

ศักดิ์ศรีแห่งเม็ดทราย


หนึ่งเม็ดทรายกระจิริด
บางนิดเกือบมองมิเห็น
แค่ลมแผ่วโผยโรยเย็น
ลอยเร้นหายวับลับตา


ดูเหมือนไร้ค่าน่าเยาะ
ไม่เหมาะปกปักรักษา
ไร้ประโยชน์เสียแรงเวลา
เม็ดทรายถูกค่าควรคิด


รวมร้อยแสนล้านเม็ดทราย
ทุกสะเก็ดมีส่วนควรสิทธิ์
ในกองเม็ดทรายน้อยนิด
คือหนึ่งนฤมิตกองทราย


กองทรายใช่เยี่ยมคุณค่า
หากทรายเม็ดกล้าห่างหาย
ทรายเม็ดหนึ่งค่าเพชรพราย
เดียวดาย ฤาค่าน้อยลง


กองทรายฤามีสิทธิ์เย้ย
ยกค่าตนเผยสูงส่ง
ชอบหรือที่อวดทระนง
เหยียบย่ำทรายผงแวววาม


หนึ่งเม็ดทรายแม้กระจิริด
มีศักดิ์ศรีสิทธิ์เกินหวาม
ทรายแยกแตกเม็ด กองทราม
กองทรายงดงามด้วยเม็ดทราย


กร ศิริวัฒโณ


นางทิพย์


รวงผึ้งนั้นยังหวานน้อยไปไหม
ถ้าเทียบไพเราะเสนาะสำเนียงหวาน
กรนี้น้อยไปไหมตระกองกานต์
ถ้าเทียบมือที่เจือจานจากอาทรฯ

ฟ้านี้ยังสูงไม่ถึง
เพียงกึ่งหัวใจละเอียดอ่อน
ฟ้ากว้างกว่ากำหนดเขตอัมพร
ถูกครึ่งค่อนอมรสรวงแห่งห้วงใจฯ


ตานางสร้างจากรวงผึ้งทิพย์
เพียงกระพริบปิ้มปานหัวใจไหว
ริมฝีปากประหนึ่งเรียวกลีบดอกไม้
สรรแล้วในภพไตรมาแต่งเติมฯ


รอยยิ้มพิมพ์ไว้ทุกวงแย้ม
แต่งแต้มทุกหัวใจให้เคลิบเคลิ้ม
หลับหรือตื่น,ชื่นหรือเศร้า ยังเท่าเดิม
หยาดเยิ้มหยาดฟ้ามาหรือไรฯ


มองโลกด้วยรอยยิ้มอิ่มใจเอ่ย
ดั่งจะเย้ยบานบอกดวงดอกไม้
อาทิตย์ยังคลายร้อนอ่อนอุทัย
โทสะใดเพลาสงบสงัดเย็นฯ


ขี่รุ้งตามหานางแก้ว
ไร้แวววายฝันอันสวยเด่น
เธอมาอยู่ในฝันคืนวันเพ็ญ
แล้วคืนนี้เร้นลับไกลฯ


คืนแรมแวมดาววาววับ
เพลินหลับฝันกลายเป็นหมองไหม้
นางทิพย์คนเดิมมาเปลี่ยนไป
ดั่งใครอมทุกข์ขลาดคลุกแค้นฯ


รอยหมองกรมกลุ้มโรครุมเร้า
แม้ยิ้มยังดูเศร้าเหงาแสน
ดอกไม้บานดูไม่เบิกบอกโรยแทน
ดูเปล่า แปลนหาพิสุทธิ์ใดบ่มีฯ


นักล่ากามกับตำรวจไล้กวดจับ
ล้มพับก็บ่เพลา เข้าขยี้
หลับสะดุ้งตื่นมากลางราตรี
ในฝันเล่า..เจ้ายังหนีไปไม่พ้นฯ


พระไม้


คุณภาพคน


คนจะเก่งเก่งอย่างเดียวใช่คนเก่ง
อย่าอวดเบ่งว่าฉลาดขาดขยัน
คุณธรรมจริยธรรมต้องครบครัน
ร่าเริงจิต แจ่มใสพลันร่างกายดี

ความซื่อสัตย์คือสมบัติพึงประสงค์
ใจซื่อตรงคงมั่นไว้ในศักดิ์ศรี
จิตแน่วแน่แก้ไขตนจนได้ดี
ยศคงมีปรากฏชื่อ ลือสักวัน


ภูผา สารภี
ชมรมนักกลอนอักษรสยาม
ร.ร.อนุบาลระยอง จ.ระยอง



กะลาและป่าช้า


คางคกกบกู่ก้อง ตะโกน
วิตกต่างสาดโคลน ป่าวร้อง
สองงัดเล่ห์โชกโชน ชาญเชี่ยว
รักชาติยิ่งชีพป้อง ปกหล้า ประชาชน


คางคกกบกะลา ต่างแข่งท้าครองสวรรค์
แดนรัตนวรรณ ขวานทองอันเรืองวิไล
ประชาธิปไตย กระสันฝันใฝ่ประเทือง
ป่าช้าเน่าแห่งเมือง กรุงสวรรค์ควันวิญญาณ
เบ่งพองจองหองคับ ดาวเดือนดับดั่งบาดาล
เมฆหมอกมืดมนต์มาร นอกกะลาโกลาหล
ปลาไหลมุดดินดัน เข้าอัดอั้นกะลาล้น
เบียดรัดกัดปะปน อุดอู้อัดรัดโรมรัน
อ่อนโหยโรยแรงล้า ต่างหันมาผสมพันธุ์
สมสู่ประสานสันต์ สร้างอสูรสัตว์เลื้อยคลาน
ประชาธิปไตย แนวคิดใหม่มุ่งวิมาน
เรืองรุ่งวาดหวังหวาน วิมานคับอับกะลา
นอกกะลาร้างไร้ ซากศพเกลื่อนไปกลบหล้า
ซากคนซากไม้ป่า ซากน้ำซากฟ้าซากดิน
ซากร่างวิญญาณร่ำ ถูกเหยียบซากซ้ำซบสิ้น
อุดมการณ์แผ่นดิน วนแว่งวิ่นในกะลา


ศุกร์ ตุลาคม


วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ เมื่อเธอ...รับบทคุณครูสอนคอนพิวเตอร์, สังสรรค์-น้องแจงสอบเสร็จ


เสาร์นี้ เธอไม่ได้เจอหน้าเขา เพราะจะไปรับหน้าที่เป็นครูสอนคอมพิวเตอร์
เจ้าของสถานที่บอกให้เธอแต่งตัวดีๆ ใส่กระโปรงมาสอน
แต่น้องสาวของเธอแฮบกระโปรงไปหมดแล้ว
คงเพราะ บุคลิกเธอไม่เหมาะที่จะใส่กระโปรงอีกแล้วกระมัง


(ยังกะว่า น้องสาวจะเหมาะที่จะใส่กระโปรง น่าจะใส่กางเกงนักมวยไปทำงานมากกว่า)


ไม่รู้ว่า ไปสอนเด็กแล้ว จะรักเด็กมากขึ้นมั้ย
รักเด็ก = นางงาม


ตอนเย็น เธอก็เป็นหวัดซะอีก สงสัยเจออากาศเปลี่ยน


วันวาน เธอเจอน้องแจง
น้องแจงชวนเธอสังสรรค์ชนแก้ว ฉลองบรรดาน้องๆสอบเสร็จ
อยากให้เธอชวนเขามาด้วย


แต่เขาบอกว่า คงไม่ไหว
สังสรรค์แล้ว ให้เข้า กทม.คืนนั้นเลย
เดี๋ยวไปไม่ถึงที่หมาย
ไปสอบไม่ถูกที่
สอบไม่ไหว สอบไม่ได้
เลยไม่ไป


ทีแรกเธอวางแผนไว้ว่า มาสังสรรค์กับน้องๆ
เสร็จแล้ว จะได้ส่งขึ้นรถตอน 4 ทุ่มซะเลย
แต่สรุปแล้ว เขาคงจะเดินทางเข้า กทม.วันอาทิตย์ ไปค้างบ้านเพื่อน
แล้ววันจันทร์ก็ตื่นแต่เช้า เดินทางไปสอบอย่างไม่ต้องง่วงมากนัก



วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : ขวัญเอ๋ย ขวัญมา


"ขวัญเอ๋ย ขวัญมานะคนดี ถ้าอยู่ใกล้ๆคงจะดี จะได้กอดปลอบขวัญ คุณจ๋า คุณรู้มั้ย
ทุกอย่างที่ได้รู้และรับจากผู้ชายที่ชื่อ... ซาบซึ้งและประทับอยู่ในหัวใจและความรู้สึกเสมอมาถึงแม้บางครั้งจะไม่ได้พูดออกมา แต่ฉันก็สัมผัสได้ในความรัก ความห่วงใย ที่มีให้ฉัน ขอแค่ฉันมีคุณเป็นที่รักก็พอแล้ว"



วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2550

สักเท่าไรใจจึงแกร่ง..

จะต้องเจ็บกี่ครั้งพังกี่หน
ใจจึงทน แกร่งนักกับรักได้
แกร่งกับความฝันแปรไม่แน่ใจ
แกร่งต่อใครหลายคนบนเส้นทาง

จะต้องฝ่ากี่ขวากหนามคอยตามทิ่ม
กี่รอยยิ้มเย้ยเยาะเพราะถากถาง
กี่ความฝันผ่านมาแล้วพร่าพราง
กี่หนทางที่สับสนด้วยกลลวง

จะต้องหลั่งน้ำตารดกี่หยดเล่า
ใจของเจ้าจึงชินรักที่หนักหน่วง
กี่ความช้ำจึงชาชินลิ้นคนลวง
หรือต้องอยู่ในบ่วงนี้ ทั้งชีวิต

สีตวัน..

ลมพัดใบไม้ไหว

เจ้านิ่งร่างวางนิรันดร์
ไว้บนความผูกพันอันล้ำค่า
ไม้ใหญ่คือเยื่อใยแห่งกายา
เจ้ามิอาจค้นหาจากสิ่งใด

ผูกพันแต่แรกผลิมิแปรผัน
จนเจ้ามีสีสันแสนสดใส
บนกิ่งกำเนิดกายมิเคยไกล
ชิดใกล้ในทุกกาลที่ผ่านมา

ใกล้ชิด กระชับ ชั่วชีวิต
มีเคยมีความคิดจะปลิดค่า
ครรไลจากคบคอนก่อนเวลา
มิคุ้มหากถึงคราต้องลาไกล

จึงไร้ความหมายใดให้เคียงคู่
เพราะข้าเพียงพัดพานเจ้าพลิ้วไหว
หมดแรงจะรบเร้าเจ้าเมื่อไร
ข้าคงเป็นเช่นใครที่ชั่วคราว

ศราทร

แม่ดอกจิ้งจก

เธอผุดเกิดขึ้นกลางป่าคอนกรีต
ตามครรลองจารีตที่ก้ำกึ่ง
อารยะดิบด้านก็ร่านดึง
จมเธอจนถึงซึ่งมายา

เติบโตจากความหวังอันแหว่งวิ่น
มีหัวใจคล้ายหินไว้คบหา
จิตใจหยาบกร้านและด้านชา
ไม่รู้สีกรู้สา-ไหวอารมณ์

เอิบอิ่มเอมเงินตราเป็นอาหาร
ไขว่คว้าควานหาค่าเอามาข่ม
แสวงหาสวาปามอยู่ตามปม-
เงื่อนแห่งความโง่งมทุกมุมเมือง

เรียนโลกเรียนรู้สู่สวรรค์
แก่งแย่งกันคือฉลาดชาญปราดเปรื่อง
วัตถุงอกพวยพุ่งความรุ่งเรือง
และเป็นเครื่องตัดสินค่าราคาคน

เธอผลิดอก,ออกผลอยู่บนผับ
สังเคราะห์แสงไฟระยับระยิบต้น
แปรเปลี่ยนสีแปลงร่างอำพรางตน
ตามสมัยมืดมนด้วยกลการณ์ฯ

สันต์ธวัช ศรีคำแท้

ตลาดจอแจ

1.ตลาดจอแจแซ่ซ้องสรรพเสียง
ไฟตะเกียงเรียงวางสองข้างถนน
รุ่งอรุณอุ่นไอในอึงอล
กลิ่นควันไฟกลิ่นฝนกลิ่นคนพร้อม

ฉันเยาววัยเช้าชื่นตื่นชมตลาด
มีข้าวของเกลื่อนกลาดสะอาด-หอม
มีกระบุงมีตะกร้ามีชะลอม
มีแมวหมาแมมมอมคอยมองเมียง-ฯ

2.คนเช้าชื่นตื่นตามาจ่ายตลาด
ทักกระจาดถามกระบุงจึงฟุ้งเสียง
ตำลึงสาวจากริมรั้วมานอนเรียง
ผักบุ้งหนุ่มนอนเคียงเตียงใบตอง

ผลหมากรากไม้ในป่าดง
ขนมไทยในกระทงส่งกลิ่นท่อง
ใครบางคนสั่งกาแฟไข่ลวกฟอง
เสียงหัวร่อต่อรองเสียงร้องทัก ฯ

3.ฉันมักคุ้นเคยคุณยายขายหมากพลู
ฉันเฝ้าดูกระจาดเก่าเหงาและหนัก
คานไม้ใผ่สึกหรอขอนอนพัก
จะมีสักกี่คนที่สนใจ

แต่คุณยายยังคงนั่งตรงนั้น
หลังงองุ้มไม่ท้อวันไม่หวั่นไหว
นั่งเคี้ยวหมากพลูหยับหยับนับพลู-ใบ
ประจงมัดน้อยใหญ่ละไมละมุน

หนอคุณยายหาบกระจาดมาจากไหน
คอนคานล้าบ่าไหล่ใครอุดหนุน
มีลูกหลานกี่ประน้อยคอยเจือจุน
ครั้นแดดอุ่นตลาดสายก็วายวาง-ฯ

4.หนอหลายปีที่ฉันจากบ้านไห
ขณะก้าวเยาววัยได้เหินห่าง
แต่ตลาดยังอยู่มิรู้จาง
สองปากทางวางเรียงตะเกียงไฟ

ยังอบอุ่นกรุ่นหอมพร้อมเสียงเพรียก
เสียงร้องเรียกเพรียกพล่ามเสียงถามไถ่
และพลันนั้นฉันวาบภาพตรึงใจ
ป่านฉะนี้เป็นไฉนหนอยายชรา

เมื่อไม่เห็นกระจาดเก่าฉันเหงารู้
ไม่เห็นคานวางคู่ หมากพลู-หา
ทั่วตลาดจอแจแลสายตา
อีกไม่ช้าตลาดสวยจะวายวาง-ฯ

เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์

บันทึกรัก ฯ : SMS คำอวยพรที่....

"คุณ ขอบคุณมากนะ สำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้และทำเพื่อฉันขอให้ผลตอบแทนของความห่วงใยและความรักและทุกอย่างที่มีให้ฉันจงทำให้ที่รักของฉันประสบผลสำเร็จและพบแต่สิ่งที่ดีเสมอนะค่ะคนดี"

เขาอ่านแล้วก็รู้สึกดี
แต่เอ๊ะ ดูเนื้อหาแล้ว ข้อความมันแปลกๆ
เหมือนคนที่ต้องการสื่อว่า กำลังจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง

เหมือนอย่างจะบอกร่ำลา

เหมือนคนที่กล่าวอำลา ก็จะมีคำพูดสวยหรูว่า
"ขอบคุณมากนะ สำหรับทุกอย่างที่ทำให้ ........."
แล้วข้อความหลังจากนั้น กลับหักมุม ทำให้ผู้ฟังต้องช็อคไปเลยทีเดียว

ไม่รู้ว่า เมื่อเธอกลับบ้าน มาอยู่บ้าน 2 วัน
อาจจะมีบางเรื่องที่ทำให้เธอ คิดบางสิ่งบางอย่าง
ทำให้ส่ง SMS มาตอนเย็น ด้วยข้อความประมาณนี้

คิดอะไรอยู่นะ
น่าหวาดหวั่น

เพราะช่วงก่อนหน้านี้หลายเดือน
เธฮมักจะพูดอะไรทำนองนี้
พูดเหมือนเป็นลาง อะไรสักอย่าง
พูดถึงความไม่แน่นอน
พูดว่า หากไม่ได้อยู่ด้วยกัน........



แต่ในอีกแง่หนึ่ง เธออาจจะส่งข้อความด้วยความรู้สึกที่จริงใจ
สื่อสารอย่างที่ใจอยากจะบอก

เห็นข้อความแล้ว ดูแปลกๆ
เพราะเธอไมค่อยที่จะส่งข้อความอะไรประมาณนี้


แต่บางที เธออาจจะเปลี่ยนความคิดใหม่
จากที่มักจะคิดถึงความไม่แน่นอน
หรือ ความคิดที่จะบอกว่า หากไม่ได้อยู่ด้วยกัน.....

เป็นพยายามอยู่กับวันเวลาปัจจุบัน และทำปัจจุบันให้ดีที่สุดหรือเปล่าหนอ....

บันทึกรัก ฯ : รอยแผลจากบ้าน

เมื่อเธอกลับมาทำธุระเรื่องบ้าน
ช่วงหนึ่ง เธอไปทักทาย สุนัขของคนใกล้บ้าน
ไม่รู้ทำอีท่าไหน คงจะรีบมากเกินไป ไมาดูตาม้าตาเรือ
เดินตกท่อระบายน้ำข้างบ้านเข้าให้
แม่ของเธอที่อยู่ในเหตุการณ์ หัวเราะแทบไม่ทัน

แต่เธอได้รอยแผลที่ระลึกที่ต้นขาไว้ด้วย

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2550

ดอกไม้ ความรัก

ดอกไม้ผลิบาน
ริมหน้าต่างบ้านสวยสดใส
ปีกผีเสื้อ..กับดอกไม้
พลิ้วไหวกลางสายลม

ความรักผลิบาน
หอมหวานกว่าขนม
ไขว่คว้าหวานหอมดอมดม
ลืมชมผีเสื้อและดอกไม้

ยามรักโรยรา
หยาดน้ำตาพราวแก้มใส
โศกตรมทับถมใจ
ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากทุกข์

ดอกไม้ยังผลิบาน
ผีเสื้อสนุกสนานมีความสุข
อย่าเพลินโศกซมจมทุกข์
มาเถอะสร้างยุคดอกไม้บาน

วันรวี รุ่งแสง

ฉัน เธอ เขาและสีขาว

เธอผ่านมาพบสีขาว
เธอหยังเห็นดวงดาวพร่างพราวไสว
เธอบิกเขาทั้งจิตกระจ่างใจ
นั่นอย่างไร สีขาวแสนคมคาย

เขามองแล้วหมกมุ่นอย่างครุ่นคิด
เขาพินิจพิสมัยในแดดฉาย
เขาหยั่งเห็นดวงดาวพราวพร่างพราย
เกิดประกาย ปัญญาพลันพรั่งพรู

เขาบอกว่านี่สีขาว !
โอพระเจ้า พระทรงเป็นพยานอยู่
สีขาว สีขาว นี่เธอดู
โธ่ ดวงใจ เธอมองรู้อย่างไรกัน

เธอว่า เอ๊ะ! ไหนสีขาว
เขาช่างอ้างพระเจ้าไม่สร้างสรรค์
สีขาวชัดชัด เธอจำนรรจ์
เขาฟั่นเฟือนเลือนเลอะหรืออย่างไร

ฉันผ่านมาพบทั้งสอง (และมัน)
ฉันจ้องมอง(สิ่งนั้น) สว่างไสว
ฉันเกิดความกระจ่างข้างใน
บอกเขาไป สีขาว ช่างวาววาม

เขาและเธอมองฉันอย่างขุ่นเคือง
"ดวงตาคุณขุ่นมัวหรือ" เธอถาม
สีขาวชัดชัด ที่วาววาม
เถิดเชื่อตามเธอแต่โดยดี

ฉันบอกเขาทั้งสอง บ้า!
ฉันร้องท้าวิญญาณพยานผี
เขาสองคน-สี่ตา ถั่วสิ้นดี
ขยี้ตาดู นี่สีขาว ดู!

เราทั้งสามจึงถกเถียง
ล้วนลำเลียงแต่ละคนเหตุผลสู้
สีขาว สีขาว สีขาว เอ้าดู!
ดูให้รู้ ดูกันทั้งวันคืน

เราต่างเห้นแต่สีขาวของตน
เราต่างคนมิเห็นสีขาวคนอื่น
เราถกเถียงกันทั้งวันคืน
เพื่อหยัดยืนสีขาวของตัวเอง

วาด รวี

แล้ว

' กว่าแสงจะเดินทางมาถึง
ดวงดาวก็มิได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
กว่าที่รักจะรวยรินมาถึง
เธอก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
เห็นคุณค่าเมื่อสาย
หรือหลงไหลในภาพลวง
ใคร่ครวญครุ่นคิด

กว่าจะได้คำตอบ
มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

อาทิเช่น

ข้าเห็น

1. ข้าเห็นชีวิตรอดชีวิต
ประตูนรกปิด สนิทแน่น
ประตูสวรรค์เปิดเพื่อเกิดแทน
ใจข้าอิ่มแสนแทนอิ่มท้อง

2.กระจาดกระบุงผ้าถุงผ้านุ่ง
หาบผัก-รอปรุงเลี่ยงพุงป่อง
มีด เขียง แขวนเนื้อเพื่อเรียกร้อง
นั่งรอต่อรองของลูกค้า

ตลาดโชยกลิ่นชื่นตลาด
ผักหญ้าค้าขาดรอคาดค่า
กุ้ง ปู หมู ไก่ เนื้อ ไข่ ปลา
รอมือซื้อหาตะกร้าพร้อม

ปูถูกจับมัดถูกจัดท่า
ผูกก้ามล่ามขาเหมือนว่าถนอม
ปลาซุกน้ำแข็งหมดแรงยอม
โดยมีดละม่อมย่อมไปนรก

กุ้งเกลื่อนเหมือนกลุ้มนอนสุมแน่น
ไก่ถูกผ่าแล่นไร้ขนปรก
กบใหญ่อยากยุบร่างเป็นคางคก
มัจจุราชอาจตลกอาจยกเว้น

3.ข้าพบสินค้าป่าช้าผี
แม่ค้ายุ่งตบตีต่างปรี่เต้น
กบหนึ่งจำนวนนี้แอบหนีเร้น
ข้าเห็นชีวิตรอดชีวิต

โชคชัย บัณฑิต

ชายชรา

', ' ชายชราเดินบนถนนในเมืองด้วยความสงสัย
บางสิ่งบางอย่างได้เกิดขึ้นและสูญสลายไป
บางสิ่งบางอย่างทั้งที่เข้าใจง่ายและไม่อาจเข้าใจได้เลย
ชีวิตและโลกดำเนินไปพร้อมๆกับความตาย

ชายชราเดินช้าๆเหมือนไร้เรี่ยวแรง
วันเวลาทั้งหมดกลับกลายเป็นสายลมและละอองฝุ่น
กาลข้างหน้าของแกหดสั้นเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลง
เส้นผมที่เปลี่ยนสี
ผิวหนังที่เหี่ยวย่น
ดวงตาที่หม่นมัว
ความฝันที่พร่าเลือน

ชายชรารู้สึกว่าความศรัทธาในใจนั้นสั่นคลอน
โลกได้ให้อะไรกับชีวิตบ้าง ?
ประเทศได้ให้อะไรกับความทรงจำบ้าง ?

ชายชราคิดว่าตัวของแกสูญเสียความใฝ่ฝันที่มีอยู่
ให้แก่โลกและประเทศ
โลกที่เหวี่ยงหัวใจของมันเข้าสู่วงโคจรของเงินตรา
ประเทศที่เนรคุณประชาชนทุกครั้งที่สบโอกาส

ชายชราไม่เข้าใจจำนวนรถที่มากมายเกินจำเป็น
ชายชราไม่เข้าใจความสูงของตึกและหนาแน่นของเมือง
ชายชราไม่เข้าใจจำนวนครั้งของการต่อสู้ของพลังประชาชน
ชายชราไม่เข้าใจความยากจนที่กัดกร่อนมาชั่วนาตาปี
ชายชราไม่เข้าใจความหมายที่เลื่อนลอยระหว่างชีวิตต่อชีวิต

ชายชราดุ่มเดินอยู่บนถนนของประเทศ
ชายชราอาศัยอยู่ในประเทศที่อยู่ในโลก
ชายชรามีชีวิตอยู่ในโลกโดยปราศจากความเชื่อมั่น

ชายชราก้มลงมองตีนทั้งสอง
ตีนทั้งสองห่อหุ้มด้วยรองเท้า
รองเท้าห่อหุ้มด้วยตีนทั้งสอง
ในความเงียบ..

สมพงษ์ ทวี

บันทึกรัก ฯ : SMS เซอร์ไพร์ส จากเธอ

"คุณจ๋า ฉันมาทำธุระเรื่องบ้านมาอยู่สารคามตั้งแต่เมื่อวานกำลังยุ่งๆอยู่เลยไม่ได้โทรบอก ฉันคงไม่ได้ไปชัยภูมิจะกลับวันพุธฉันเอาเอกสารมาให้ด้วยนะ ...คิดถึงคุณจัง ปล.วันนี้ฝนตกหนักแต่เช้ายังไม่หยุด"

เขาได้รับข้อความแล้วถึงกับอึ้ง แหม แอบกลับบ้านก็ไม่ยอมบอกเสียด้วยสิเนี่ย

พรุ่งนี้วันพุธ คงต้องรีบไปหาเสียแล้วสิ

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : วันอาทิตย์ที่เงียบเหงา


วันอาทิตย์นี้ ทั้งวัน เงียบทั้งวัน
เงียบเพราะไม่ได้ยินเสียงเธอ
ได้ยินในตอนเย็นๆที่เธอโทรมา


พ่อแม่ของเธอเดินทางกลับบ้านตอนเที่ยง
ตอนเย็นโทรคุยกับเธอ เธอยังบ่นว่า ง่วงนอน
เอ๊ะ ไม่มีเวลานอนอีกหรือ
หรือว่า นอนไม่พอ


วันนี้ก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝน และฝนตกลงมาปรอยๆ ในตอนที่เธอโทรมาหาเขา
เมื่อวาน เธอไม่ค่อยได้โทรหาใคร เพราะอยู่กับพ่อแม่
พาพ่อแม่ไปเที่ยวสุรินทร์
มือถือเลยไม่ได้ชาร์ทแบตไว้
แบตคงจะอ่อน เพราะไม่ค่อยได้ยินเสียงเธอเล้ย
เสียงในมือถือเบามากๆ



บันทึกรัก ฯ : SMS ว้า แย่จังเลย


"ว้า แย่จังเลย วันนี้วันอาทิตย์ กว่าจะถึงวันเสาร์หน้าถีงจะได้เจอหน้าคุณ นานจังเลยอ่ะ
คิดถึงหัวหยองจะแย่อยู่แล้วนา.."



วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ SMS วันเสาร์ที่เหงาๆ....


"ทำอะไรอยู่น้า คิดถึงฉันมั้ย อย่านอนดึกมากนะคะ
อ่านหนังสือด้วยนะ นี่คือ คำสั่งของที่รักค่ะ"


บันทึกรัก ฯ เธอหน้าบูดทั้งวัน


วันนี้ช่วงกลางวัน เธอพาพ่อแม่ หลาน ไปเที่ยวสุรินทร์
ระหว่างทางที่ไป เธอค่อนข้างจะหน้าบูด
หงุดหงิด เพราะอยากไปหาเขา
ไปเที่ยวกับเขา
แต่ผิดคาด พ่อแม่กลับพาหลานมาเยี่ยมหน้าตาเฉย
ไม่ยอมบอกกล่าวล่วงหน้า


ช่วง 6 โมงเย็นที่โทรคุยกับเขา
เธอรีบนัดหมายล่วงหน้าถึงวันเสาร์หน้าที่จะมาเจอกันเลย


เขารีบบอกว่า ให้ใกล้ถึงวันค่อยนัด
ขนาดพึ่งคุยกันเมื่อคืน วันนี้ยังพลิกความคาดหมายไปเลย


บันทึกรัก ฯ : เมื่อผิดคาด ผิดนัด


คืนวันศุกร์ เธอขับมอเตอร์ไซต์กลับมาถึงตัวเมืองบุรีรัมย์ ตอน 1 ทุ่มกว่าๆ
เพราะฝนตกตอนเลิกงาน เธอจึงออกจากสำนักงานตอนค่ำๆ
เส้นทางกลับ เป็นยามโพล้เพล้ และเริ่มมืด
เส้นทางค่อนข้างเปลี่ยว ต้องขับรถอย่างระมัดระวัง
ทำให้เธอมาถึงตัวเมืองค่อนข้างช้ากว่าทุกวัน


เธอเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม โทรบอกเขาว่า พรุ่งนี้ จะขึ้นรถไปตอน 8.40 น.
ถึงขอนแก่นคงราวๆเที่ยงกว่าๆ


เมื่อถึงเช้าวันเสาร์
เธอโทรมาหาเขาตอนก่อน 9.00 น.
เธอบอกว่า พ่อ แม่ และ หลานชายจอมซน มาหาเธอที่บุรีรัมย์ โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า
หลานชายจอมซน รบเร้าพ่อแม่ของเธอ ให้พามาหา เพราะเธอสัญญาว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้


ขับรถมาตั้งแต่เช้าตรู่
ขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปขอนแก่น
เมื่อเจอพ่อแม่ขับรถมาหาแต่เช้า ทำเอาเธอเอ๋อไปเหมือนกัน


เธอรู้สึกเสียใจ กลัวว่า เขาจะเสียความรู้สึก
เพราะอุตส่าห์นัดหมาย และพูดกันไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน
และเธอก็ตั้งใจที่จะไปกับเขา


แต่แล้วก็ไม่ได้ไป
เธอกลัวว่า จะทำให้เขาเสียความรู้สึก
เพราะเขาอยากไปมากๆ


แต่เขาตอบกลับมาว่า
เมื่อเธอไปไม่ได้ เขาก็ไม่ไป อย่างที่บอกไว้แล้ว
"มีอีกหลายงานที่จะไปดูคอนเสิร์ต แม้ว่าจะไม่ได้ไปดูบ้านของศิริพรก็ตาม..."


ถือซะว่า ไม่มีวาสนาได้ไปละกัน
แต่เขาได้ทำใจเผื่อไว้แล้ว
หากไม่ได้ไปดูในครั้งนี้ ก็ไปดูในครั้งต่อไปแทนละกัน


โปรแกรมหน้า น่าจะไปดูกะน้องแจงและเพื่อนๆ ให้ครบทีมไปเลย
เพราะมีงานเดินสายของศิริพร และวงลูกทุ่งหมอลำอื่นๆ ที่น่าดูไม่แพ้กัน..:))




วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : ระหว่างตัวเธอกับน้องแจง


วันนี้เขาโทรคุยกับเธอ
เธอบอกว่า เมื่อวาน ขำขำ ที่เขาส่ง SMS มาให้เธอตอนดึกๆ
"แหม อุตส่าห์พิมพ์มา..แต่ข้อความเหมือนลิเกมากๆ


เธอบอกเขาว่า บางที วันศุกร์นี้ อาจจะกลับบ้านก่อน เพื่อที่วันเสาร์จะได้ไปหาเขา และไปอุดรกันตั้งแต่เช้าๆเลย


เรื่องไปอุดร เขาเลยโทรไปถามน้องแจง..คนที่มีหลายอย่างคล้ายๆกับเธอ ทั้งความคิด อารมณ์และความรู้สึก
น้องแจง บอกว่า เสียดายมากๆ เพราะใช่ว่า จะไปกันได้ง่ายๆ กับงานซ้อมใหญ่ที่บ้านดอยกลอยของศิริพร อำไพพงษ์ แต่ติดสอบในช่วงนี้พอดีเลย


"หน่องก็ยังเสียดายเลย.."


แต่น้องแจงก็อยากได้รูปถ่ายของแดนเซอร์รูปหล่อ ที่หลายๆคนแอบชอบ แอบรัก และอยากเข้าไปวิ่งเล่นในหัวใจของ "ดักกี้" แดนเซอร์คนนั้น ทั้งสาวเล็ก สาวใหญ่ และหนุ่มอย่างว่า...


พูดคุยสอบถามไปแล้ว น้องแจงก็บ่นว่า เสียดายอีกหลายรอบ แล้วก็พูดคุยถึงความชื่นชอบและความประทับใจถึงหมอลำวงอื่นๆให้ฟัง ตั้งแต่ วงเสียงอีสาน, ระเบียบรัตนวาทะศิลป์, ประถมบันเทิงศิลป์, เอม อภัสรา, จินตหรา พูนลาภ, บานเย็น รากแก่น, ปริศนา วงศิริ


เขาฟังแล้วก็อมยิ้ม ดูเหมือนว่า น้องแจงกับเธอแทบจะถอดแบบกันมาเลย เวลาที่ชื่นชอบเพลงไหน ก็จะชอบอย่างสุดใจขาดดิ้น ฟังน้องแจงคุยไป เขายังนึกว่า น้องแจงเป็นน้องสาวแท้ๆที่คลานตามกันมาของเธอซะอีก


ตอนที่ไปเจอกับครั้งแรกที่ค่าย เด็กรักป่า สุรินทร์ เห็นทั้งเธอและน้องแจง ปลื้มกันและกัน กรี๊ดใส่กัน แหม
เขายังขำขำภาพในวันนั้นไม่หาย เสียดายที่ทั้งคู่ไม่ได้ไปดูศิริพร อำไพพงษ์ด้วยกัน


ถ้าได้ไปด้วยกัน ไม่รู้จะกรี๊ดด้วยกันถึงขนาดไหน


วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : อีก 1 วันที่เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ


เขาโทรไปหาเธอตอนเย็น วันนี้เธอมารับจ็อบพิเศษ ซึ่งเธอมาขายได้หลายวันแล้ว
"ขายเครื่องสำอางให้เจ๊ลี่" เพื่อนรุ่นพี่ของเธอ
"วันก่อนขายได้ตั้งหลายพันแน่.."


ป็าด ฝีมือจริง...


วันนี้เธอยังพูดคุยได้อย่างอารมณ์ดีอย่างต่อเนื่อง และยังกำชับกำชาให้อ่านหนังสือสอบด้วย เพื่อ สอบ กพ.ให้ได้ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดของเธอในปลายเดือนนี้


เธอพูดคุยกับเขาทางโทรศัพท์ด้วยความคิดถึงอีกหลายนาที ก่อนเผลอหลุดพูดออกมาว่า
ก่อนนอนหลับฝันดี เธอจะหยิบมือถือ มาเปิดดูรูปที่ถ่ายคู่กัน แหม ทำไมเขาชอบทำหน้าโหดๆ ดุๆ มีหนวดเคราเฟิ้มเลย ดูรูปแล้วก็เปิดอ่าน SMS เก่าๆ หวานๆ แล้วจะนอนหลับฝันดี...




บันทึกรัก ฯ ; เมื่อเธอขนลุก.. (WoW!)


ตอนเที่ยงวันวานเธองานหนัก กว่าจะได้ทานข้าวเที่ยงก็ตอนบ่ายโมง
เธอก็โทรมาหาเขาตอนที่ทานข้าวนั้นแหละ


หมู่นี้ทานข้าวมื้อเดียว เพื่อนร่วมงานบอกว่า จะซื้อกับข้าวอร่อยๆมาฝาก
แต่เธอคงจะรอไม่ไหว หิวมาก ขอแดก..เอ๊ย ขอกินซะก่อนเลย


มองท้องฟ้า ก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝน พยากรณ์อากาศก็บอก ภาคอีสานจะมีฝนตกไปทั่ว
ระวังน้ำท่วม ดินถล่มทางอีสานตอนบน
ตอนเที่ยงที่สำนักงานของเธอ ฟ้ายังสว่าง แต่ตอนเลิกงาน 5555
ฝนตกจนได้
เธอว่าจะรอให้ฝนซาลง อุตส่าห์โทรมาคุยกับเขารอเวลาฝนซา
แต่ดูท่า ฝนไม่ยอมหยุดเสียที เลยตัดสินใจ
ขับรถตากฝนออกมา เดี๋ยวค่ำมืดกว่านี้ ทางเปลี่ยว น่ากลัว


ขับรถออกมาได้สักพัก 10 กิโล.. โห มาถึงที่ที่แห้ง ฝนไม่ตกสักเม็ด
เฮ้อ ฝนตกไม่ทั่วฟ้าจริงๆ


วันนี้ เธอได้ส่งอีเมล์แนบไฟล์เพลงที่โดนใจ
"เส้นทางสายแฟน" ไปให้เขาฟัง พร้อมเนื้อร้อง
ฟังแล้วโดนใจมากๆ...


เขาก็เปิดเมล์ และดาวน์โหลดไป ทั้งๆที่ Internet ค่อนข้างช้า
Download เสร็จ ตอน 4 โมงครึ่งพอดี
เลยเอาไปฟังที่บ้าน


ดูเนื้อเพลงแล้ว แหม เธอช่างไปสรรหาฟังดีเนาะ


เส้นทางสายแฟน
เขาฟังแล้ว นึกถึงเส้นทางความรักที่ผ่านๆมา ตั้งแต่วันแรกๆที่เจอกัน
เขาพาเธอเข้าไปสัมผัส ไปพบกับหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอหลายเหตุการณ์
เกิดความรู้สึกมากมาย ระหว่างเส้นทางสายหัวใจของเขาและเธอ
เติมความรัก ความคิดถึง และห่วงใย ไปทุกหลักกิโลเมตรของเส้นทางสายแฟน


แม้จะเติมยังไง ก็ไม่เคยเต็มหัวใจสักที เพราะตัวเธอมีแต่ไขมัน
เติมอะไรเข้าไป ก็มักจะล้นออกมาเรื่อยๆ


แต่ช่วงนี้เธอน่ารักนะ
พูดคุยเจื้อยแจ้ว ลื่นไหล ใส่ความคิดถึง ห่วงใย อย่างที่หัวใจเธอต้องการจะบอก

เขาเขียนว่า ถ้าให้หัวใจทำงานอย่างที่ใจเธอต้องการจริงๆ
เธอจะน่ารัก มีเสน่ห์

ข้อความประมาณนี้ ทำเอาเธอขนลุก!!
ขนลุก แม้ว่า แอร์ในห้องทำงานจะถูกหนูกัดสายจนขาด แอร์ไม่ทำงาน
แต่เธอก็ยังหนาวๆจนขนลุกได้....






วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ :เมื่อพายุสงบ ท้องฟ้าก็สดใส

พายุฝนที่ตั้งเค้า อากาศช่วงนั้นจะร้อนก่อนฝนตก
เมื่อฝนตก อากาศจะเริ่มเย็น

เช่นเดียวกับความรู้สึกของเขาและเธอ
เมื่อผ่านไป 1 คืน ที่เธอหงุดหงิด น้อยใจ
เที่ยงวันจันทร์ เธอโทรมาหาเขา
กดโทรศัพท์ถึง 9 ครั้ง ไม่มีคนรับ จนเธอต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน
วันนี้ เขาไม่ได้ไปทำงาน เลยได้รับสาย
เขาบอก เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เพราะเอาวางไว้อีกห้องหนึ่ง
พอไปเปิดดูเครื่อง เอ้า ตั้งค่าผิด
จากตั้งระบบสั่น พอตั้งค่าทั่สไป ซึ่งจะได้ยินเสียงเรียกเข้า
พอมาเปิดดูตรงในส่วน ตั้งค่าเสียง กลับถูกเลือกไว้ว่า

"ปิดเสียง"

มิน่าล่ะ ต่อให้ใครโทรเข้ามาถึง ร้อยครั้ง พันครั้ง ก็จะไม่ได้ยินอยู่ดี

หลังจากที่เธอโวยวาย ตอนที่โทรเข้าโทรศัพท์บ้านแล้ว สักครู่ เธอก็โทรเข้ามือถือของเขา
น้ำเสียงเริ่มสงบลง เธอยังคงนั่งทำงาน ยังไม่ได้ไปทานข้าว
เพราะพยายามทานข้าวมื้อเดียว
เธออยากจะลดความอ้วน เพื่อตามใจเขา

ช่วง 6 โมงเย็น เธอก็โทรมาหาเขาอีกครั้ง
เธอบอกว่าวันนี้ มีข้อความมาเตือนว่า โปรโมชั่น เบอร์โทรคนสนิท ที่คิดค่าโทรนาทีละ 25 ส.ต. หมดโปรโมชั่นแล้ว
เธอคงต้องต่อโปรโมชั่นใหม่หรืออย่างไร ต้องติดตามกันต่อ

วันนี้ เขาอยู่ที่บ้าน และที่โน่น ฝนฟ้าเหมือนกำลังจะตก เลยไม่มีคนไปออกกำลังกาย
เขาและเธอจึงว่างตรงกัน
เลยคุยกันทางโทรศัพท์ ถึง 53.35 นาที

เป็นการพูดคุยอย่างคนที่รักกันจริงๆ เป็น 53 นาทีที่ใช้หัวใจคุยกัน
คุยในสิ่งที่อยากจะพูดคุยกันจริงๆ
เขายิ้ม..
... นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่ไม่ได้คุยกับเธอแบบนี้เลย ทั้งๆที่โทรคุยกันออกบ่อย

ปกติแล้ว เวลาที่โทรคุยกัน มักจะโทรในเวลาที่อีกฝ่ายไม่ค่อยจะว่าง
กำลังติดภาระกิจอื่นอยู่
สัญญาณไม่ดี
มีเวลาน้อย
โทรมาเวลาที่เพลียๆ, เมา, กำลังจะนอน, เวลากินข้าว ฯลฯ

เธอบอกว่า เมื่อคืน เธอน้อยใจ ไม่พอใจเขา
อยากให้รู้ว่า เธอเจ็บปวด เสียใจ เลยอยากให้เขาเจ็บด้วย

เธอยอมรับว่า การทำแบบนี้ เธอกลับรู้สึกเจ็บปวดมากกว่า เหมือนคนที่ทำร้ายตัวเอง
ส่วนเขาก็ไม่อยากจะทำร้ายคนที่เขารัก หากพูดอะไรรุนแรงไป หรือ เต้นไปตามกระแสอารมณ์ของเธอ
เรื่องที่ดูจะรุนแรง ก็จะหนักขึ้น เธอจะเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม จากเรื่องที่ไม่น่าจะทำให้เจ็บช้ำเลยด้วยซ้ำ...

ในช่วงเวลาที่ฟ้าสดใส ที่เธอใช้หัวใจคิด พูด ในสิ่งที่อยากทำ
ต่างจากวันวาน ที่เธอไม่ได้ใช้หัวใจ ทำในสิ่งที่คิด และอยากทำ
เอาแต่น้อยใจ เสียใจ

เมื่อท้องฟ้าสดใส บางที เมฆฝนอาจจะลอยมาจากที่อื่นได้เสมอ
เขาก้ไม่รู้ว่า เธอจะอารมณ์ดี ใช้หัวใจ ทำในสิ่งที่เธอต้องการจะทำได้นานแค่ไหน
แล้วพายุฝนจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่


...
ผู้หญิง ไม่ว่าจะมีรูปร่างหน้าตา สวยหรือไม่
เวลาที่ผู้หญิงใช้หัวใจ คิด และทำในสิ่งที่เธอต้องการ
โดยเฉพาะเรื่องความรัก ความห่วงใย ความหวังดี

ไม่ว่าเธอคนนั้นจะหน้าตาอย่างไรก็ช่าง....
...เธอจะดูน่ารักมากกว่าปกติ
เพราะหัวใจได้ทำงาน อย่างที่ใจต้องการแล้ว
ไม่เสียใจ น้อยใจ จนหัวใจทำงานไม่ได้..

ยิ่งหัวใจได้ทำงานบ่อยครั้ง จะยิ่งเกิดเสน่ห์ที่น่ารักติดตัวตลอดไป
.....เป็นคนที่น่ารักมีเสน่ห์ อบอุ่น น่าทะนุถนอม เมื่อยามอยู่ใกล้ๆ...

เขาหวังว่า สักวัน เธอคงจะดูเป็นผู้หญิงที่ดูน่ารัก มีเสน่ห์ยิ่งๆขึ้น
แทนที่จะเป็นผู้หญิงที่ดูแข็งกร้าว เหมือนผู้ชายมากเกินไป
สักวัน หัวใจของเธอคงผลักดันให้เสน่ห์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริง

บันทึกรัก ฯ : พาเธอไปเจอกับศิลปินนักร้องในดวงใจ

เธอเป็นคนที่ชอบเพลงลูกทุ่งของต่าย อรทัย และศิริพร อำไพพงษ์อย่างมาก
แม้ว่า ช่วงนี้ จะหันมาชอบเพลงของ ลีเดีย เจ้าหญิง อาร์แอนบี
แต่ก็ไม่แปลกที่เธอจะชอบฟังเพลงหลากหลายแนว

แต่สิ่งหนึ่งที่เขาประทับใจ คือ เธอเปิดฟังเพลงของ พี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ แทบทุกวัน
ฟังแล้ว คิด ซึมซาบกับบทเพลงช้าๆ ที่ตรงกับความรู้สึกของเธอหลายบทเพลง
เขาเคยพาเธอไปดูคอนเสิร์ตของศิริพร อำไพพงษ์แสดง 2 ครั้ง
ที่โคราช และ กทม.
เธอประทับใจ ชื่นชอบ และสนุกสนาน
แต่เป็นการยืนดูศิริพร ที่หน้าเวทีเท่านั้น
ไม่มีโอกาสได้พูดคุย ใกล้ชิิดมากกว่านั้น

เขาตั้งใจว่า วันหนึ่ง จะให้เธอได้ใกล้ชิดกับพี่นางสักครั้ง
ได้ใกล้ชิดกับศิลปินในดวงใจ ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้ใกล้ชิด

เมื่อรู้ว่า เธอชอบลิเดีย
เขาไม่รู้ว่า จะพาเข้าไปดู ไปให้ถึงตัวลิเดียได้อย่างไร
เพราะลิเดีย เป็นนักร้องสตริงวัยรุ่น (อาร์แอนบี)
ต่างจากนักน้องลูกทุ่ง ที่มีความเป็นกันเองมากกว่า ใกล้ชิดได้มากกว่า

แม้หลายคนจะบอกว่า เพลงหมอลำเป็นอะไรที่ดูเชยๆ
แต่เธอก็ยอมรับ และเลือกที่จะฟัง
แน่นอนว่า เธอเป็นคนที่มีโอกาสได้เข้าถึงศิลปินนักร้องที่เธอชื่นชอบ
ในขณะที่หลายคน ชื่นชอบนักร้องคนอื่นๆ
ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปดู ไปเจอตัวจริงเสียงจริง
และอาจจะไม่มีโอกาสได้พูดคุย เจอตัวจริงของนักร้องที่ชื่นชอบอย่างที่เธอมีโอกาสเลยสักครั้งในชีวิต

เขาตั้งใจที่จะเห็นภาพเธอ สวมกอดกับพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ศิลปินในดวงในของเธอสักครั้งหนึ่งในชีวิต
อยากเห็น เธอพูดคุยกับศิริพร อย่างใกล้ชิด

ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ว่า ตามใจเธอ ให้เธอได้พบกับคนที่เธอชื่นชมเท่านั้น
แต่ผลพลอยได้ เธอมักจะสังเกตเห็นหลายสิ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
พี่นางนั้น เป็นผู้นำวงดนตรี เสียงอีสาน
ผู้หญิงที่เป็นผู้นำวงดนตรี รับผิดชอบคนหลายชีวิต และอยู่มานานหลายปี ย่อมมีหลายอย่างที่น่าสนใจ
เธอน่าจะเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากตัวของพี่นาง นอกจากเป็นแฟนเพลงที่เข้าไปชื่นชมเท่านั้น
ยิ่งการได้ไปสัมผัสตัวจริงถึงที่บ้าน
ได้เห็นอะไรมากกว่า เห็นบนเวทีคอนเสิร์ต

เห็นความเป็นผู้นำ ในตัวพี่นาง
เห็นความเป็นพี่ เป็นน้า เป็นป้าของหลาน ในตัวพี่นาง
เห็นความหนักแน่น เข้มแข็งในตัวพี่นาง
เห็นคนที่ผ่านชีวิต ผ่านความลำบากมามาก ในตัวพี่นาง
ฯลฯ

แค่นี้ ก็เกินจะคุ้มแล้ว

แม้ว่า ตั้งใจจะพาเธอไป
แต่บางที ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เพราะเธออาจจะติดธุระด่วน ติดงานด่วน
จนไม่สามารถที่จะไปบ้านของพี่นางได้
ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกัน
เพราะมีโอกาสนี้โอกาสเดียวเท่านั้น ที่จะได้สัมผัส พบเห็นหลายสิ่งที่มากกว่าบนเวทีคอนเสิร์ต
เหมือนการเติมสีสันใหม่ๆใส่ชีวิต
กับการได้พบเจอสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน

แต่ก็ช่างเถอะ การที่จะได้ไปหรือไม่ คงอยู่ที่โชควาสนาของเธอเช่นกัน
หากไม่ติดธุระอะไร ย่อมทางสะดวก
น่าจะเป็นปีนี้เท่านั้น ที่เขาจะมีโอกาสพาเธอไป
ในปีหน้า หรือปีต่อๆไป ใช่ว่าจะมีเวลาว่างเหมือนในปีนี้

ช่วงก่อนหน้านี้ เธอไม่พอใจที่เขาจะไปอุดร
ไม่อยากให้เขาไป เพราะไม่พอใจบางสิ่งบางอย่าง
ไม่พอใจคนที่เขาไปพบ
ความไม่พอใจ กลับมาบดบังเป้าหมายที่สำคัญ คือ การที่เขาจะได้มีโอกาสพาเธอไปพบกับพี่นาง

เป้าหมายคือสิ่งสำคัญ แต่วิธีการที่จะไปถึงเป้าหมาย มีหลายวิธี
เมื่อเธอไม่พอใจคนที่เขาไปพบ เมื่อความตั้งใจแต่เดิม เขาจะพาเธอเดินทางไปกับคนที่ทำให้เธอไม่พอใจ
งั้นเขาก็ไปกับเธอแค่ 2 คน
ตัดสิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจออกไป เพื่อเดินไปสู่ความตั้งใจหวังไว้

ความจริงแล้ว ไปหลายๆคนจะสนุก คึกคัก อบอุ่นมากกว่า
เขานึกถึงน้องแจง น้องสาวคนเก่งของเขา ซึ่งชอบเพลงหมอลำ และชอบศิริพร เหมือนกัน
พาน้องแจงไปด้วยกับเธอคงจะดีไม่น้อย
หากน้องแจงและเพื่อนๆว่าง ก็ชวนไปด้วยกันเลย
ขึ้นรถมากับเธอ วันเสาร์ มาเจอเขาที่ขอนแก่น และกลับวันอาทิตย์

เขาไม่แน่ใจนักว่า น้องแจงกะเพื่อนๆจะว่างไหม
หากเคลียร์ได้ ก็น่าจะเคลียร์ให้ว่าง
เพราะเขาคงจะมีโอกาสพาน้องแจงและเพื่อนๆร่วมเดินทางไปกับเธอได้...
....เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น...
ปีหน้าหรือปีต่อไป ถึงอยากจะพาไปอย่างไรก็คงจะยาก และคงเป็นไปไม่ได้
เพราะน้องแจงและเพื่อนๆ เรียนจบกันแล้ว ต่างแยกย้ายไปทำงานกันแล้ว...
คงจะมีโอกาสเพียงในช่วงนี้เท่านั้น
และบางที อาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิต ที่จะได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาววพิณแคนแดนอีสาน
วงดนตรีหมอลำชื่อดังวงหนึ่งของเมืองไทย

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่
ทุกอย่างย่อมมีจังหวะและเวลาของมันเอง
ใช่ว่า ทุกคนจะได้รับโอกาสนั้นๆ
เพราะหลายคน มักจะพลาดโอกาสดีๆหลายอย่างของชีวิตไปหลายต่อหลายครั้ง..

ชีวิตก็แบบนี้แหละ..
มีทั้งสมหวัง และพลาดหวัง .....

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : SMS ก่อนนอน

"คิดถึงจัง อย่านอนดึกนะ รักษาสุขภาพด้วยที่รัก ฉันเป็นห่วงคุณนะจ๊ะ"

บันทึกรัก ฯ : ทำไมคนอื่นทนเธอไม่ได้ แต่เขาทนเธอได้....................


"เพราะรักนะสิ"
คนอื่นก็รัก แต่ไม่อดทน
ไม่เข้าใจในตัวตนของเธอ
ไม่ยอมให้อภัย ไม่เห็นใจ ไม่พยายามเข้าไปให้ถึงหัวใจของเธอ


มีคนบอกว่า
ผู้หญิงบางคนสวมรองเท้าส้นสูง ย่อมเดินไม่สบายเท่าสวมรองเท้าผ้าไบ หรือรองเท้าแตะ...
มีคนบอกว่า หากผู้ชายลองสวมรองเท้าส้นสูงเดินทั้งวันดูบ้าง
คงจะเข้าใจผู้หญิงมากยิ่งขึ้น


แม้ว่า ผู้หญิงจะดูเข้าใจยาก แต่ก็ต้องพยายามเข้าใจ


ใช่เพราะความรัก ความห่วงใย อย่างที่พูดบ่อยๆ
แต่จะต้องเข้าใจ...เพราะเธอเป็นเธอ
เธอที่คิดไม่เหมือนเรา
แม้แต่ในบางที ตัวเราเองยังงงๆตัวเองเลยว่า ทำไมบางเรื่องถึงคิดไปยังงั้นได้


คนอื่น ทนเธอไม่ได้ เพราะไม่พยายามเข้าใจเธอ
แต่พยายามให้เธอเข้าใจตัวเขาเองมากกว่า...


แต่ถ้าลองทำความเข้าใจตัวเธอ และเข้าใจตัวเองไปพร้อมกัน
ก๋จะสามารถทนต่อสิ่งที่จะบั่นทอนความรักที่เธอเพียรพยายามก่อเรื่องขึ้นมาได้เรื่อยๆ...
จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง...


เขาคาดว่า
วันหนึ่งข้างหน้า
เธอคงจะเข้าใจตัวเขาและเข้าใจตัวเธอเองให้ตรงกันทั้งสองฝ่าย เหมือนที่เขามอง
แม้อาจจะต้องใช้เวลานาน จนถึงวันสิ้นลมหายใจก็ตามที..


บันทึกรัก ฯ : SMS ก่อนนอน


"คิดถึงจัง อย่านอนดึกนะ รักษาสุขภาพด้วยที่รัก ฉันเป็นห่วงคุณนะจ๊ะ"


บันทึกรัก ฯ : รักหนักแน่น และความทรงจำที่จะสร้างร่วมกัน


คนเราต้องหนักแน่น แน่นหนัก
หากคิดเล็กคิดน้อย มองเรื่องบางอย่าง ให้เป็นเรื่องกวนใจ
เรื่องเล็กๆ ขี้ปะติ๋ว กลับกลายเป็นอุปสรรคของความรักหวานๆได้


ครั้งหนึ่ง เขาพาเธอไปเยี่ยมพี่หน่อย ที่เด็กรักป่า
เมื่อเธอได้รับรู้เรื่องราวชีวิตรักของพี่หน่อยกับแฟน
เธออิจฉาพี่หน่อย ที่มีชีวิตรักที่น่าอิจฉา โรแมนติก
ชีวิตรักที่สองคน ร่วมกันสร้าง ประคองความรัก ผ่านอุปสรรคจากวันวาน มาถึงวันนี้


ทั้งสองคน ร่วมกันสร้างเรื่องราว ความทรงจำที่งดงาม น่าประทับใจ
มีหลักฐานให้เธอเห็นและสัมผัสได้
สัมผัสได้ว่า ทั้งคู่รักกัน....ผูกพันกันมากเพียงไหน
แล้วที่ผ่านมา เขาและเธอมีเรื่องราวที่สวยงาม น่าประทับใจมากน้อยเพียงใด
หรือมีเรื่องที่ขัดแย้ง ไม่เข้าใจมากกว่า เรื่องที่สมควรเก็บไว้ในความทรงจำ


มองดูพี่หน่อย ดอกแก้ว
พี่หน่อยต้องติดต่อประสานงานกับหลายคน
ดูแล เทคแคร์คนอื่นๆ
บางจังหวะ ดูเหมือนจะดูแล พูดคุยด้วยมากมายเหลือเกิน
คุยด้วย นานเหลือเกิน


หากคนรักจะคิดเล็กคิดน้อย หึงหวง ไม่พอใจ
คิดว่า ไม่ให้ความสำคัญกับฉัน กับเธอเลย ก็สามารถที่จะคิดได้


แต่คู่ของพี่หน่อย ดอกแก้ว ไม่ได้คิดอย่างนั้น


การที่เธอได้ไปสัมผัส ไปเห็นมาแล้ว
ถ้าเก็บเอามาเป็นแบบอย่างบ้าง คงจะดีไม่น้อย
แต่ความจริงแล้ว ระหว่างเธอกับพี่หน่อย - ดอกแก้ว ต่างกันนิดเดียว


พี่หน่อย เป็นคนคิดบวก ทุกเรื่อง คิดในแง่ที่นำมาเสริมแรงใจ เสริมความรักให้มั่นคงยิ่งขึ้น
แต่เธอ.. เป็นคนคิดแง่ลบ บางเรื่อง นำมาคิดแง่ลบ บั่นทอนความรักได้ทุกจังหวะเวลา


เขาพยายามจะใช้ความรักบรรเทาความคิดแง่ลบของเธอลง
แม้อาจจะยาก แต่ก็ต้องอดทนต่อไป
สะกดคำว่า หนักแน่นเอาไว้....


เพื่อให้เกิดความทรงจำที่จะสร้างร่วมกัน
เพื่อให้เกิดความทรงจำในแง่มุมที่ดี ให้มากกว่า ความทรงจำในแง่ลบ ที่เธอเพียรพยายามสร้างขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ


รักต้องหนักแน่น


วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : SMS....คุณค่าของฉัน.....


"ฉันเป็นใคร มีความสำคัญแค่ไหนในใจคุณ ทำไมคุยกับคนที่ไม่เคยเห็นเคยรู้จักเหมือนพวกน้องๆอะไรของคุณๆได้เป็น ชม. แต่กับฉันโทรไปกว่าจะรับ พอรับก็บอกว่าหิวข้าว ไม่สมกับที่ฉันคิดถึงเลย คุณรู้มั้ยว่าฉันน้อยใจและเสียใจแค่ไหน...."

เห็นข้อความแล้วต้องถอนหายใจหลายๆครั้ง


บันทึกรัก ฯ - ชีวิต - รัก - อาภัพ


วันนี้เธอคงนอนเต็มอิ่ม
5 โมงเย็น จึงเห็นเธอโทรมาทักทาย
เป็นตอนที่เขากำลังนั่งอยู่บนรถโดยสารระหว่างเดินทางกลับบ้าน
เมื่อรับสายไม่ค่อยได้ยินเสียงเธอพูด เพราะรถกำลังวิ่ง
เธอบอก กำลังจะไปออกกำลังกาย เดี๋ยวค่อยโทรมาหาละกัน

เขานั่งรถกลับมาถึงบ้าน
แต่วันนี้ช้าไปนิด เพราะรถโดยสารคันเก่า เกิดเสียกลางทาง
ต้องจอดซ่อม 15 นาที ทำให้มาถึงที่หมายช้าพอสมควร
ข้าวเที่ยง เขาก็ยังไม่ได้ทาน ระหว่างอยู่บนรถ เลยเผลอหลับไปหลายงีบ
เพราะ..เพลียมากๆ

เกือบ 1 ทุ่ม เขาหยิบมือถือออกมาดู เมื่อถึงบ้านแล้ว
เห็นมีสายที่ไม่ได้รับถึง 4 สาย
แย่แล้ว เธอนั่นเอง....
ท่าทางจะเกิดเรื่องอีกแหงๆ
และแล้วก็จริงตามคาด
ช่วงทุ่มกว่าๆ ในขณะที่เขากำลังตักข้าวใส่จาน
กำลังตักข้าวจะใส่ปากด้วยความหิวกระหาย
เธอก็โทรมาพอดี...
... เขาต้องรีบวางช้อน แล้วออกไปรับสาย คุยกับเธอ

เธอโวยวายทันที
อุตส่าห์คิดถึง ทำไมไม่ยอมรับสาย...

โกรธมาก ไม่พอใจ

เขารู้ว่า เขาก็ผิด เพราะไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์ไว้
เลยไม่ได้ยินในตอนที่เธอโทรเข้ามา
และด้วยความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียอีกด้วย
หิว..
เหมือนจะหน้ามืด..

ระหว่างฟังเธอเอะอะ โวยวาย..
... หิว แสบท้อง แต่ก็รับฟังเธอพูด และพูดตอบเหมือนปกติ
...ในขณะที่ตัวเองไม่ค่อยจะปกติ เพราะหิวข้าว...
..เพราะไม่ได้ทานข้าวเที่ยง...

เธอโวยวายด้วยความไม่พอใจกว่า 10 นาที ก่อนที่จะวางสายไป
"ไม่อยากคุย ไม่รับสายแล้ว....
..ถ้าโทรมาหา 3 ครั้งแล้ว ไม่รับ ถ้าเขาโทรมา ก็จะไม่รับสายอีกแล้วล่ะ"

วางสายไปแล้ว เขาเดินมาทานข้าวอย่างหงอยๆ...
.... ไม่ได้คุยกับเธอทางมือถือหลายวัน
แทนที่จะได้คุยด้วยความคิดถึง...
แต่ เจออาการโวยวาย ไม่พอใจ ตะโกนใส่ซะอีก...
.... ทำได้แต่สะกดคำว่า อดทน ในช่วงเวลาที่อ่อนเพลีย หิวข้าว...

ที่จริง เขาเองก็ผิด และได้เอ่ยคำขอโทษไปแล้ว..
...แต่คงไม่สาสมกับการรอคอยของเธอ...

ดูไป ชีวิตของเขาเหมือนคนอาภัพจริงๆ
มองดูเด็กๆ น้องๆ คู่รักคนอื่นๆ เค้าดูแลกันและกันดีจริงๆ
พูดกันดีๆ หวานๆ......หลายคู่คบกันมานาน ก็ยังพูดดี ทำดีต่อกันมาตลอด
หลายคู่เวลาที่ไม่พอใจกัน ทะเลาะกัน ก็ไม่โวยวายมากมาย..
ท่าทางชีวิตของเขาจะอาภัพจริงๆ...
..แต่ไม่มีปัญหา เพราะเขาสะกดคำว่า อดทนได้
โดยเฉพาะ อดทนกับคนที่เขารัก...

แม้จะน้อยใจนิดๆ ที่ไม่ได้คุยกัน 2-3 วัน
แทนที่จะได้คุยกันด้วยความคิดถึง กลับเจอสิ่งที่ตรงกันข้าม..
... คิดแล้วขำๆ สิ่งที่รอคอยมา 2-3 วัน คือ อารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจจากเธอหรือเนี่ย...

เศร้าใจนิดๆ
เวลาที่เธอพุดคุยกับคนอื่นๆ เธอจะพูดดีมากๆ
รักษามารยาทอย่างดี ทั้งเพื่อนร่วมงาน คนที่มาติดต่อด้วย ฯลฯ
แต่กับเขา
คนพิเศษของเธอ ในบางเวลา เวลาที่ไม่พอใจ กลับพูดออกมา จนเขารู้สึกด้อยค่ากว่า คนอื่นๆ...
คนที่ไม่ได้เป็นคนที่พิเศษของเธอ....

ในบางเวลาที่หงุดหงิด ไม่พอใจอย่างแรงๆ..
... เธอกลับปฏิบัติต่อเขา จนดูด้อยค่ากว่า คนอื่นๆหลายเท่า...

บางทีก็สงสัยเหมือนกัน ...
... คนรักกันต้องทำร้ายกันเรื่อยๆหรือเปล่า.....

บางที เธอคงไม่อยากให้เขา มีความสุขตลอดเวลากระมัง
เวลาที่ได้คุยกับเธอ คิดคำนวณจริงๆ แค่ไม่กี่นาทีที่โทรคุยกัน
10 นาที หงุดหงิด โวยกว่า 9 นาที...

แต่ไม่ว่า จะอย่างไร เธอก็เป็นเธอ
ชีวิตของคนเรานั้นแสนสั้นนัก...
ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า...
...เธอเองก็มักที่จะเตือนอยู่เสมอ...

แต่เธอจะเป็นอย่างไรก็ช่างเธอเถอะ
หากสิ่งนั้น คือ ความพอใจของเธอ....
สิ่งที่สำคัญ อยู่ที่ตัวเขา..
... ได้พูดดีๆ ทำดีๆ ต่อเธอ ตลอดไป...
ไม่ว่าเธอจะมาร้าย หรือมาดีก็ตาม....




วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ - เงียบๆ เสียงคุ้นๆหายไป


เออ... ไม่ได้ยินเสียง 2 วัน วังเวงจัง
ลองโทรไปตอนกลางวัน ไม่มีสัญญาณ
อาจกำลังเดินทาง
หรือแบตหมด
หรือกำลังชาร์ทแบต เลยปิดมือถือ
ฯลฯ


เลยได้แต่ SMS ไปหาด้วยความห่วงใย
เวลาที่เธอเดินทางไกลทีไร
กลับมา เหนื่อยหนักทุกที
ครั้งนี้ คงใช้เวลานอนนานพอสมควร เพื่อการฟื้นตัว
ยังดีที่วันอาทิตย์ เธอจะได้นอนทั้งวัน



วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ - เงียบเหงา


วันนี้ เธอออกเดินทางไปพร้อมกับคณะตั้งแต่ ตี 5
คงต้องตื่นตั้งแต่ตี 4
เมื่อวานโทรมาก่อน 3 ทุ่ม ก่อนจะเข้านอน
เงียบเหงา ไม่ได้ยินเสียงเธอทั้งวัน
เธอบอกว่า ไปที่เขาหินซ้อน อาจไม่มีสัญญาณมือถือ DTAC
อาจจะไม่ได้โทรคุยกันนะ เพราะโทรไม่ติด
เขาบอกเธอว่า ไม่เป็นไรหรอก 2 วัน แป๊บเดียวเอง
เดี๋ยวก็กลับแล้ว

แต่พอถึงเวลาจริงๆ
เหงาเหมือนกันนะ
ตอนดึก เลยได้แต่ส่ง SMS ไปถึงเธอ
คงจะได้รับตอนที่เธออยู่ในที่ที่มีสัญญาณล่ะน่า


วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2550

Clip video On Air 5 ก.ย. ดร.ปุ้ย VS Pijika

เขียนบันทึกพาดพิงถึง พี่ฮอลล์ pijika และ ดร.ปุ้ยใน blog หลายครั้ง มีแต่ตัวหนังสือและรูปภาพ

หลายคนไม่มีโอกาสได้ดูรายการสดๆ เพราะไม่ได้ติดเคเบิลทีวี หรือ มีจาน ASTV มั่ง



เลยเอาคลิปบางช่วงบางตอนจากรายการ Parent room และ Only the lonely ที่ออกอากาศเมื่อ 5 ก.ย.50
มาให้ชมกัน



สัปดาห์ก่อน ที่เคยเอารูปถ่าย 2 รายการมาเปรียบเทียบกันระหว่าง parent room กับ only the lonely

พี่ฮอลล์ pijika แก้ตัวว่า แสงในรายการ parent ดีกว่า only

เลยเอาคลิปมาแปะให้ดูกันจะจะซะเลย




รายการ Parent room 5 ก.ย.2550 ASTV3


บางช่วงบางตอนของรายการ Parent room ห้องพ่อแม่ ออกอากาศเมื่อ 5 ก.ย.2550

20.30- 21.30 น. ทาง ASTV3 ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.กุลธิดา ธรรมวิภัชน์ และ อ้อ รัชนี คำนึงควร







รายการ Only the lonely 5 ก.ย.2550 ASTV3


บางช่วงบางตอนของรายการ Only the lonely ออกอากาศเมื่อ 5 ก.ย.2550

23.00- 24.30 น. ทาง ASTV3 ดำเนินรายการโดยพี่ฮอลล์ pijika จรินยา ศักดิ์ศิริ และ พี่ปุ้ย รศ.ดร.กุลธิดา ธรรมวิภัชน์







รายการเมื่อคืนนี้ แซวกันเองสนุกสนานเลยนะครับ

พี่ฮอลล์ pijika เล่นใส่กางเกงลายทหารมาซะด้วย พอ ดร.ปุ้ยแซวเรื่องกางเกง

pijika ก็แซวไปถึง คมช.เข้าให้



มีแฟนรายการเขียน จม.มาถึงรายการด้วย แหม

อ่านออกอากาศทันที ท่าทางต่อไปจะต้องมีช่วงตอบจดหมายเพิ่มอีกแล้วล่ะครับ

อุตส่าห์เอามาอ่านถึงขนาดนี้ แฟนๆรายการ คงจะปรากฏตัวมากขึ้น (ยกเว้นนายบอน)



ช่วงแรกๆ ก็พากันนั่งบ่นว่า สปอร์ตโฆษณาของรายการที่จะเอาไปยิงที่ News1 หายมั่ง หาไม่เจอมั่ง

คงต้องทำใจแล้วล่ะครับ ขนาดบางวันยังใส่เสื้อมาไม่เหมือนกันเล้ย บางวันก็จับผมเม้าข่าวมากกว่า จับเข่าเม้าข่าวซะอีก 555555





นานทีปีหน ถึงจะขึ้นที่อยู่ของรายการ เอ้า ช่วยโปรโมทให้



รายการ Only the lonely

102/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์

แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร

กทม. 10200



น่าจะมี SMS ให้ส่งบ้างนะครับ



เห็นคลิปวิดีโอบางช่วงบางตอนจากรายการแล้ว เห็นลีลาท่าทางของ pijika แล้ว จะรู้ว่า พี่เค้าน่ะ ลีลาสุดๆถึงขนาดไหน



บันทึกรัก ฯ : ข่าวร้ายของเธอ


ตอนค่ำๆ เธอโทรมาหาเขา บอกว่า มีข่าวร้ายจะบอก
ศุกร์-เสาร์ที่ 7-8 ก.ย.นี้ เธอจะต้องไปเขาหินซ้อนที่ฉะเชิงเทรา ไม่ได้เจอหน้าเขา
วันที่ 19 ไปงานเลี้ยงเกษียณอายุที่ชัยภูมิ
24-25 ติดงานเลี้ยงเกษียณอายุที่เธอต้องช่วยรับแขกเหรื่อ
อดเลี้ยงฉลองวันเกิด
ไม่น่าเลย..
... ไม่ได้ตามไปให้กำลังใจเขา ในการสอบ กพ.

เขาฟังแล้ว ก็ถอนใจ
ไม่เป็นไร.. เพราะชีวิตต้องเดินไปตามหน้าที่และวิถีที่เป็นไป
ไม่อยากไป ไม่อยากร่วม แต่ก็ต้องยอมรับและปฏิบัติไปตามนั้น


บันทึกรัก ฯ : ชีวิต บนเวลาที่ผ่านไป

สิ้นเดือน สิงหาคม เธอร่วมขบวนกับหน่วยงานไปที่เขื่อนอุบลรัตน์
ไปงานเลี้ยงเกษียณอายุที่นั่น และต้องพักค้างคืนที่เขื่อน
เธอนอนไม่ค่อยจะหลับ เพราะเพื่อนร่วมห้อง เปิดประตูห้องเดินเข้าเดินออกอยู่ตลอด
พรรคพวกที่ไปร่วมงาน ต่างตั้งวงสังสรรค์ จนถึงสว่างก็หลายวง

ตอนสายๆ เธอจึงให้รถของสำนักงาน มาส่งเธอ ที่ บขส.ขอนแก่น ก่อนที่เธอจะนั่งรถไปหาเขาถึงจังหวัดที่เขาอยู่
และในคืนวันต่อมา เมื่อเธอพักที่โรงแรมในจังหวัดนั้น
เธอก็นอนไม่ค่อยหลับอีก เพราะแปลกที่
เขาพาเธอไปหลายๆที่ เจอทั้งอากาศร้อน แล้วเจออากาศเย็นจากแอร์
ทำเอาหลายจังหวะ เธอรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด
ปรับตัว ปรับร่างกายไม่ทัน

วันอาทิตย์ เธอเดินทางกลับ
กลับแบบเพลียๆ หลับได้ตลอดเส้นทาง
เช้าวันจันทร์ เธอลุกไปทำงานไม่ไหว
เลยไม่ได้ไปทำงาน

เธอนอนทั้งวัน จนถึงเย็นวันจันทร์ น้องสาวของเธอต้องเดินทางจากสุรินทร์
มาดูแลเธอให้แน่ใจ ก่อนที่จะเดินทางกลับในตอนสามทุ่ม
มาเยี่ยมอยู่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น

วันอังคาร จึงไปทำงานได้บ้าง
แต่เดิม เธอซ่า เธอเฮี้ยว ทุกรูปแบบ
แต่วันอังคาร เธอเงียบๆไป จนเพื่อนร่วมงานทัก ทำไมวันนี้ ไม่ซ่าเหมือนเดิม

เขาได้ส่ง SMS ไปบอกน้องแจง ถ้าว่าง ช่วยแวะไปดูแลสักหน่อย
มีเวลาก็พาไปหาหอพักแห่งใหม่ให้ด้วย

ตอนเย็นย่ำ เธอแหวมาทางโทรศัพท์
ไปรบกวนน้องแจงทำไม เกรงใจเค้า
ก็เห็นไม่มีใครดูแล
ขนาดวันจันทร์ ลุกไม่ขึ้น ไม่ไปทำงาน มีใครรู้บ้าง
หากเป็นอะไรที่มากไปกว่านั้น จะมีใครคอยดูแล ช่วยเหลือบ้าง
วันจันทร์ ข้าวยังไม่ได้ตกถึงท้องเธอเลยสักมื้อ
ข้าวปลาไม่ทาน ร่างกายย่อมขาดภูมิต้านทาน
ร่างกายอ่อนแอ เป็นอะไรได้ง่ายๆ

น้องแจง และพรรคพวก อยู่ใกล้ๆ สามารถแวะเวียนไปดูอาการได้
คงเป็นช่วงนี้เท่านั้นที่น้องแจง และพรรคพวก จะแวะเวียนมาดูแลได้
หากเรียนจบไปแล้ว น้องแจงคงไม่มีโอกาสเช่นนี้

....
วันเวลา ยังคงเดินต่อไป
วันเวลาที่ผ่านไป ย้อนกลับมาอีกไม่ได้
เหมือนกับการที่เขา พาเธอไปไหนต่อไหนหลายแห่ง
ก่อนที่เธอจะไปไหนต่อไหนไม่ได้
เพราะ
ไม่ว่าง
ติดธุระ
ร่างกายไม่อำนวย
ป่วย
เวลาไม่พอ
ฯลฯ


..
คนที่อยู่ในวิถีที่แข้งกระด้าง
วิถีทางที่ต้องต่อสู้ บอบช้ำจากความรักในอดีต
มีความเป็นตัวของตัวเอง
หลายครั้ง เมื่อมาพบกับความจริงใจ ความปรารถนาดี
หลายครั้ง ทำตัวไม่ถูก

น่าขำ เมื่อน้องแจง และพรรคพวก โทรมาถามไถ่
เธอรู้สึกเขินๆ...

แหม ทีตัวเธอ ยังมีน้ำใจ มอบเครื่องดื่มให้น้องตั้งหลายขวด และหลายครั้ง
เธอยังไม่เขินเลย

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2550

บันทึกรัก ฯ : SMS.... อาการของโรคคิดถึงขึ้นสมอง


"เข้านอนแล้วค่ะ อีกแล้วนะคุณ อาการของโรคคิดถึงขึ้นสมองฉันอีกแล้ว คุณช่วยมาอยู่ใกล้ๆ หน่อยซิ ถึงจะมีแต่กระดูก เวลานอนกอดคงไม่มีใครรู้หรอกว่าจะอุ่นแค่ไหน มีฉันคนเดียว อุ่นไปทั้งตัวและหัวใจ....."


วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2550

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2550

คุยมือถือ10นาทีมีโอกาสสมองผิดปกติ!?!
















โดย ผู้จัดการออนไลน์30 สิงหาคม 2550 17:28 น.











































ขอบคุณภาพประกอบจาก telegraph.com


นักวิทยาศาสตร์อิสราเอลชี้ การคุยโทรศัพท์มือถือต่อเนื่องนานเพียง 10 นาทีก็เพียงพอต่อการก่อตัวของเซลล์เนื้องอกในสมอง ย้ำว่าคลื่นความถื่ในโทรศัพท์มือถือล้วนมีผลรบกวนกระบวนการแบ่งเซลล์สมองไม่ ว่าจะเป็นคลื่นความถี่สูงหรือต่ำ โดยกระบวนการแบ่งเซลล์สมองที่ผิดปกตินี้เองที่จะนำไปสู่การเกิดก้อนเนื้อร้า ยในอนาคต

ผลการศึกษาชิ้นนี้เป็นของกลุ่มนักวิจัยในสถาบันวิทยาศาสตร์ไวส์แมนน์ (Weizmann Institute of Science) ของอิสราเอล โดยแม้ทีมวิจัยจะไม่ได้แถลงว่าคลื่นสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีอันตรายอย่าง ชัดเจน แต่การศึกษาพบว่ามีโอกาสเป็นไปได้ สวนทางกับผลวิจัยของหลายสถาบันที่ยืนยันว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือไม่มีผลเ กี่ยวข้องกับสาเหตุการเกิดก้อนเนื้องอกหรือมะเร็งในสมองแต่อย่างใด

สถาบันเหล่านี้ระบุว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากปริมาณคลื่นความถี่ที่โทรศัพท์มือถือส่งออกมานั้นอยู่ในระดับต่ำมา ก ซึ่งไม่เข้มข้นพอจะทำให้เกิดการผิดปกติในสมอง แต่การศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอลพบว่าคลื่นความถี่เพียงน้อยนิดก ็สามารถเกิดความเสี่ยงได้ โดยทำการทดลองนำเซลล์สมองของมนุษย์และหนูมาวิจัยร่วมกับคลื่นรังสีระดับ 875 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งเป็นความถี่ย่านเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือหลายๆรุ่น

จ ากการทดลองใช้คลื่นความถี่ระดับอ่อนกว่าคลื่นความถี่ในโทรศัพท์มือถือรุ่นทั ่วไป คลื่นเหล่านี้เริ่มมีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นสัญญาณเคมีในเซลล์สมองโ ดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ทีมวิจัยระบุว่าสัญญาณเคมีที่ตรวจจับได้ส่งผลโดยตรงต่อการแบ่งตัวของเซลล์สม อง

ผลการศึกษาเรื่องนี้โดยละเอียดถูกตีพิมพ์เป็นรายงานในนิตยสารเคมีชีว ภาพ Biochemical Journal โดยระบุว่าความร้อนไม่มีผลต่อปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น และย้ำว่าการค้นพบครั้งนี้คือการประกาศความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์จากการใช้โ ทรศัพท์มือถือที่แตกต่างจากการวิจัยอื่นๆในอดีต

"การทดลองนี้ทำให้เห็นปฏิกิริยาของสมองที่เกิดขึ้นกับคลื่นความถี่โด ยไม่มีการนำประเด็นความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง" ดร.รอนนี่ ซีเกอร์ (Rony Seger) หนึ่งในสองผู้เขียนรายงานการวิจัยครั้งนี้ให้สัมภาษณ์

ไม่เป็นเอกฉันท์

ผลการวิจัยล่าสุดนี้กลับสวนทางกับความเห็นของนักวิทยาศาสตร์รายอื่นแ ม้แต่ในอิสราเอลเอง เช่น ดร.ไซมอน อาเธอร์ (Simon Arthur) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัย Dundee University ระบุว่าผลการศึกษาที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างจากมูลเหตุการเกิดโรคมะเร็งโดยสิ้น เชิง เช่นเดียวกับดร.ดาเรียส เลสซินสกี้ (Dariusz Leszczynski) จากสำนักงานดูแลความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และคลื่นความถี่ในเฮลซิงกิ ที่มองว่าตราบใดที่คลื่นความถี่โทรศัพท์มือถือไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงด้าน ชีววิทยา เมื่อนั้นคลื่นความถี่โทรศัพท์มือถือก็จะไม่มีทางเป็นอันตรายต่อมนุษย์

"เมื่อไรก็ตามที่มีใครสามารถแสดงผลข้างเคียงด้านชีววิทยา เมื่อนั้นถึงจะเป็นเรื่องที่แตกต่างอย่างแท้จริง"

สำนักข่าวเดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า รายงานการศึกษาความปลอดภัยจากการใช้โทรศัพท์มือถือหลากหลายชิ้นจะถูกตีพิมพ์ เผยแพร่โดยสำนักอนามัยหรือ Health Protection Agency ของอังกฤษในเดือนกันยายน โดยเป็นรายงานต่อเนื่องจากรายงานที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2004 เพื่อให้ประชาชนวางใจการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างเต็มที่ ซึ่งการตีพิมพ์ในครั้งนั้นมีการแนะนำให้ระวังการใช้งานในเด็กเป็นพิเศษ

Company Related Links :
Weizmann Institute of Science


บันทึกรัก ฯ : ความเข้มแข็งที่ซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้ และความพยายามในการเติมรักให้เต็มหัวใจที่บอบช้ำ

คนที่รักกัน ผูกพันมานานแสนนาน ก็อยากที่จะให้ความรักทอดยาวต่อไปเรื่อยๆ เหมือนถนนที่ทอดยาวผ่านไปไกลโพ้น
ผ่านทางแยกมากมาย ไปได้ไกลลิบ

แต่ทำไมคนที่รักกันมานาน ผูกพันกันมาแน่นเหนียว
กลับเดินทางมาถึงสุดทางรักจนได้

เห็นน้องแจง ที่เป็นจ่าฝูง หัวหน้าแก๊งคูบ้านนอก
ในช่วงเวลาที่เขาคนนั้นโทรมา แล้วเอ่ยคำขอเลิกรา
คนที่ดูเข้มแข็ง ความเข้มแข็งดูเหมือนจะพังทลายลงในพริบตา
แม้ว่า ในหมู่คน ต่อหน้าคน จะรักษาความเข้มแข็งไว้ได้
แต่ในช่วงเวลาอยู่คนเดียว
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ นั่งอยู่ในมุมมืด
น้ำตาก็ทลายความเข้มแข็งลงได้

เห็นน้องแจง So sad แล้ว ชายคนหนึ่ง ก็นึกถึงเธอ
เธอนั้น ดูเข้มแข็ง แข็งกร้าวในหลายเวลา
แต่ชีวิตที่ผ่านมา ผ่านความผิดหวัง มีหัวใจที่บอบช้ำมากพอสมควร
ทำให้หลายจังหวะ
เมื่อเธออยู่กับเขา คบกับเขา
บางเวลา เธอกลับระบายความเจ็บช้ำในอดีต ส่งผ่านความรู้สึกมาถึงตัวเขา

หรือเธอหวาดระแวงว่า ผู้ชายทุกคนในโลก จะทำให้ผู้หญิงทุกคนเจ็บปวดไปหมด

อย่างน้องแจง เค้ามีความรักของเค้าอยู่ดีๆ
อยู่ๆ.. ฝ่ายชายก็เป็นคนเอ่ยปากขอเลิกรา
น้องแจง ไม่เคยคิดที่จะเอ่ยปากเลยสักนิด

ความเจ็บปวด หัวใจที่บอบช้ำ
เป็นแผลใจที่ยากจะลบเลือน
แม้วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน
แต่ร่องรอยของบาดแผล ยังคงอยู่
เพียงแค่สะกิด นิดเดียว
ความรู้สึกเจ็บช้ำในอดีต จะย้อนกลับมาอีกครั้ง

ผู้หญิงที่มีความเข้มแข้ง เป็นตัวของตัวเอง
มีความมั่นใจอย่าง เธอ และน้องแจงนั้น เป็นคนที่มีความจริงใจเต็มเปี่ยม
คิดแรง พูดแรงๆ..
.. เวลาเจ็บ ก็เจ็บแรง....

หลายครั้งชายคนหนึ่ง จึงไม่เข้าใจเธอเช่นกันว่า
อยู่ๆ ทำไมถึง เกิดความรู้สึกบางอย่าง ในแบบที่ว่า "หาเรื่อง" ในการบั่นทอนความรักที่กำลังเติบโต...
บั่นทอนให้สะดุดลงอยู่บ่อยๆ

แม้ว่า ความรักที่สะดุดอยู่บ่อยๆครั้ง เขาจะพยายามเติมรักให้เต็มหัวใจของเธออยู่บ่อยๆ
แต่ดูเหมือนว่า ในหลายครั้ง หลังจากที่พึ่งจะเติมรักให้เต็มหัวใจในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
เธอก็หงุดหงิด และ "หาเรื่อง" ให้รัก สะดุดลงอีกแล้วสิ....

ผู้หญิงที่มีความเข็มแข้ง เวลาพูดอะไรดูเหมือนพูดง้าย..ง่าย
แต่ลึกๆ กลับคิดอะไรหลากหลาย
โดยเฉพาะเรื่องของความรักนั้น
สาวๆหลายคน รวมทั้งน้องแจง และเธอ...
มักจะนึกถึงความเจ็บปวด ประสบการณ์ที่ผ่านมา นำมาเป็นบทเรียนเตือนใจเมื่อพบรักใหม่
บางครั้งก็ปฏิบัติต่อรักใหม่ โดยนึกถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา
ซึ่งคนรักใหม่ ใช่ว่าจะเป็นเหมือนกับคนรักคนก่อน
แต่สาวๆมักจะเหมารวมไปหมดว่า ผู้ชาย เหมือนกันไปทั้งหมด

นั่งนึกดูแล้ว หากเข้าใจถึงความเจ็บปวดในอดีตของเธอ
แล้วพยายามเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำ เต็มรักให้เต็มหัวใจ
เติมเข้าไปในหัวใจที่เคยบอบช้ำมาอย่างหนัก
หัวใจที่มีรอยรั่วของความรักมาพอสมควร
อาจจะเหนื่อยใจในการเพียรพยายามเติมเต็มรักให้เต็มหัวใจอยู่บ่อยๆ

แล้ววันหนึ่งจะมีใครสักคนที่อดทนพอ ที่จะหมั่นเติมรักให้เต็มหัวใจของน้องแจงบ้างมั้ยเนี่ย


ความคิดเห็น



ความคิดเห็นที่ 1





;)


โดย kooyik เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 17:44




ความคิดเห็นที่ 2





ต อนนี้เธอกำลังเป็นเหมือนปูนิ่มอย่างที่คุณกระทิกล่าวไว้ เธอกำลังพยายามที่จะเอาตัวให้รอดพร้อม ๆ กับความอ่อนแอ ขอเพียงเธออย่าไปเจอกับคนที่ชอบกินปูนิ่มในช่วงนี้ก็แล้วกันนะคะ


โดย leelawadee2u เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 18:17




ความคิดเห็นที่ 3





อ่ะนะ


โดย natale เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 18:18




ความคิดเห็นที่ 4





** ..ผู้หญิงที่มีความเข็มแข้ง เวลาพูดอะไรดูเหมือนพูดง้าย..ง่าย ** น่านละค่ะ.. คนแบบนี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนใจแข็ง แต่ข้างในอาจร้องไห้อยู่ก็ได้นะ


โดย khachorn เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 19:07




ความคิดเห็นที่ 5





หวัดดีคะ


โดย shika เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 19:23




ความคิดเห็นที่ 6





ต ้องใช้เวลาค่ะ .. ตัวศศิเองยังใช่เวลาสี่ห้าปี กว่าจะกล้าที่จะยอมรับใครอีกซํกคนในฐานะคนรัก เหตุผลสาระพันค่ะ กลัวจะเหมือนเดิม ระแวงว่าเขาจะคิดยังไง แล้วไหนจะยังความที่เราเคยเหมารวมว่าต้องเหมือนกันหมดนั่นก็อีก ..


โดย sazzie เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 20:30




ความคิดเห็นที่ 7





ค นเคยถูกสุนัขกัด ...มันก็ต้องกลัวเขี้ยวสุนัขเป็นธรรมดา...ยิ่งหากวันใด สุนัขที่เธอเล่นด้วย แยกเขี้ยวขึ้นมา อาจจะแหย่เล่นแรง ๆ มีหรือที่เธอจะไม่รู้เจ็บรอยแผลตรงเขี้ยวนั้น ฉันใดฉันนั้นแหล่ะค่ะ ^^


โดย nabhasan เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 22:15




ความคิดเห็นที่ 8





ส ุภาษิตจีนว่าไว้ ถูกงูกัดครั้งเดียว กลัวเชือกเปียกน้ำไปเจ็ดปี ......... ของมันต้องระแวง เพราะเคยเจ็บมาก่อน ต้องใช้เวลา และที่สำคัญ ไม่อยากให้ผู้หญิงเปรียบเทียบชายปัจจุบัน กับชายคนก่อนค่ะ...มันอาจจะเลว---- แต่เชื่อเหอะ เลวไม่เหมือนกันหรอก ----- ดีก็ไม่เหมือนกัน เลือกตรงจุดที่อยู่ร่วมกันได้ มีความสุข ก็พอค่ะ....


โดย pijika เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 3:33




ความคิดเห็นที่ 9





เหมือนคนเป็นภูมิแพ้ค่ะ รู้ว่าแพ้...แต่ก็ยังอยาก...อยู่ดี


โดย conqueror เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 9:50

จับเข่าเม้า pijika & ดร.ปุ้ย ออนแอร์ 29 ส.ค.2550

วันพุธที่ 29 ส.ค.50 เปิดดูช่อง ASTV3 เจอ ดร.ปุ้ย ออก 2 รายการ
รายการห้องพ่อแม่ parent room ย้ายเวลามาอยู่ตอน 2 ทุ่มครึ่งทุกวันพุธ
เลยเห็น ดร.ปุ้ย จัดรายการ parent room ตอนช่วง 2 ทุ่มกับคุณอ้อน รัชนี คำนึงการ
แหม ดร. ปุ้ย ดูดีกว่ารอบดึกนะครับ









มาถึง 5 ทุ่ม ดร.ปุ้ย ก็มานั่งจัดรายการกับพี่ฮอลล์ pijika

อ๊ะ เปลี่ยนเสื้อทันที แหม น่าจะใส่เสื้อตอนที่ใส่สองทุ่มมาจัดรายการต่อนะครับ



ว่าแต่ ทำไมวันนี้ ไม่ใส่เสื้อสีเดียวกันหนอ หรือว่า ดร.ปุ้ย ลืมหยิบเสื้อสีเดียวกับพี่ฮอลล์มา



ตอนต้นรายการ ดร.ปุ้ย ก็พูดแซวนายบอน อีกล่ะ ตอนเข้าช่วง จับเข่าเม้าข่าว บอกว่า ตอนนี้ จับเข่าแล้วนะ เดี๋ยวคุณบอนจะว่าอีก
แต่วันนี้ กลับสังเกตที่สีเสื้อแทน :))



สังเกตจาก 2 รายการ ถ้า ดร.ปุ้ย นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับพี่ฮอลล์ เหมือนที่นั่งกับ คุณอ้อน ดูท่าจะเกิดเรื่อง

มีคนตั้งข้อสังเกตกับนายบอนว่า เพราะการออกแบบฉากหลังของรายการ only the lonely รึเปล่า ที่ทำให้พี่ฮอลกะ ดร.ปุ้ย ต้องนั่งเก้าอี้คนละตัว

ถ้าติดตามรายการ Only the lonely ถ้านั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน พี่ฮอล์จะออกลีลาไม่เต็มที่

เวลาพี่ฮอล์เม้าท์หลายเรื่อง พี่ท่านจะออกลีลา กรี๊ดกร๊าด ออกลีลาท่าทางสุดๆ อย่างรายการเมื่อคืน พี่ฮอลพูดโปรยเข้าประเด็นเรื่อง "อ่อนเยาว์กระชับรัก กับสาวหน้าเด้ง" พี่ฮออล์ พูดโปรย ออกลีลากรี๊ด เห็นแล้ว อมยิ้มยามดึกได้เลย



ช่วง Lonely talk วันนี้ เชิญพี่ใหญ่ จุฑาลักษณ์ จันทร์สุวรรณ มาออกรายการ อายุ 50 ยังแจ๋ว แต่ใบหน้าไม่ทารองพื้น ไม่ทาแป้ง แถมยังหน้าเด้งอีกด้วย พี่ใหญ่มากับทีมงาน อายุ 60 กว่าๆ แต่ยังหน้าเด้ง ฃ ไม่ทารองพื้น กะทาแป้งเหมือนกัน



ต่างกับพี่ฮอล์ ทารองพื้นซะหนาเชียว

ในรายการก็พูดถึงแผ่นกัวซา ที่ทำมาจากเขาควาย ที่เปรียบเป็นพลังหยิน , ร่างกายของคนเป็นหยาง ถ้ามาเจอกัน ความสมดุลจะเกิดขึ้น



แผ่นกัวซาที่ว่า เอามาใช้ได้ 4 แนวทาง คือ

- เอามาขูดทั้งตัว เหมือนนวด เพื่อเพิ่ม ออกซิเจนให้ผิว
- เช็คร่างกาย อย่างในรูป ที่คอ ดร.ปุ้ย เห็นทีแรกนึกว่า มีใครเอาไม้หน้าสามมาแอบทำร้ายเสียอีก ที่แท้ เป็นการเอาแผ่นกัวซาที่ว่า เช็คร่างกาย พบว่า มีการไหลเวียนโลหิตไม่ดี ร่างกาย ดร.ปุ้ยเป็นด่าง เพาะทานผักเยอะ วิธีนี้ ใช้ขูดเช็คสารพิษในร่างกายได้


- บำบัด ดีทอกซ์
- ทำให้หน้าเด้ง

พี่ฮอลล์ ได้โอกาส พรีเซนต์ใบหน้าที่พึ่งถูกัวซามา พี่ฮอล์บอกว่า เนี่ย วันนี้พี่ฮอล์ดูหน้าเล็กลงนะ ลองไปดูในเทปก่อนๆ เทียบดูได้เลย

เอ้า ลองมาดูกัน รูปนี้ ภาพวันนี้ที่ว่า หน้าเล็กลง



นี่คือรูปพี่ฮอลล์เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ส.ค.



เวอร์ชั่นหน้าใหญ่ เมื่อ 23 ส.ค.



แหม เอารูปมาเทียบให้เห็นและแซวขนาดนี้ พี่ฮอล์ไม่กรี๊ดในรายการในคืนวันนี้อีกเหรอเนี่ย!!!!!



นายบอนนอนดูถึงตอนการสาธิตการซากัวใบหน้า กวาด มา ถู ให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น









ดูไปซักพักก็หลับไปเลย..
แหม รายการนี้ น่าจะมี คลิปวิดีโอให้คลิกดูรายการย้อนหลังได้นะครับ ไม่รู้มีหรือยัง

นอนดูแล้วนึกถึงหลายๆคน ทั้งแฟนสาว เพื่อนสาว น้องสาว พี่สาว อยากให้เค้าดูมั่ง






ความคิดเห็น



ความคิดเห็นที่ 1





อุอุ อิอิ


โดย milo2005 เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 11:00




ความคิดเห็นที่ 2





ป่าเหมียว ขำอะไรอ่ะ :P


โดย บอน sata1msu เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 11:05




ความคิดเห็นที่ 3





มาดูแฟนพันธ์แท้ค่ะ อุอุ อิอิ


โดย leelawadee2u เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 11:49




ความคิดเห็นที่ 4





แซว..พันธ์แท้ครับ


โดย บอน sata1msu เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 11:51




ความคิดเห็นที่ 5





ไม่ต้องมีจาน astv ก็เหมือนได้ดูเองแล้วค่ะ คุณบอนเอามาอัพทุกวันเลย ;)))


โดย sazzie เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 11:59




ความคิดเห็นที่ 6





อยากให้เค้าทำเป็น clip video เอามาใส่ในเวบมากกว่านะครับ คุณ ศศิจะได้หน้าเด้ง สวยขึ้น :)))))


โดย บอน sata1msu เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 12:01




ความคิดเห็นที่ 7





นอนดึกเหมือนกันนะคะคุณบอน


โดย xanax เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 12:34




ความคิดเห็นที่ 8





;)


โดย kooyik เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:15




ความคิดเห็นที่ 9





โ อ๊ะโหยว...คุณบอนไม่นอนอีกแย้ว....เลยโดนเทียบหน้าจะๆ เลย // เวลาทำรายการต้องแต่งหน้าหนาโบ๊ะ เพราะในจอทีวี สีมันจะดร็อปลงไปค่ะ และเราจะบอกกับผู้ชมตรงๆ ว่าเรารองพื้นหนาเตอะ...ที่จริงช่วงหลังๆ ช่างแต่งหน้ารองพื้นให้บางๆ เองนะ...(แน่ะ...โอ้อวดสรรพคุณซะ...) // ส่วนแก๊งพี่ใหญ่ แขกรับเชิญ เขาอยากโชว์ผิวหน้า (ที่น่าโชว์จริงๆ) เลยไม่รองพื้น ไม่ทาแป้งซักนิด...ผิวงี้ตึง เด้งดึ๋งๆ เลย ตอนเอาหลังมือไปแตะ สุดยอดจริงๆ ไม่ได้สมรัก (โม้) // ดร.เอ๋ย ที่มาเป็นแบบน่ะ หน้ายกขึ้นทันที ทันตา ฮ่า...หน้าพี่ฮอลล์ก็ยกขึ้นค่ะ...เห็นชัด (ว่าจะไปหาพี่ใหญ่บ่อยๆ กัวซาให้หน้าเด็กลงๆๆๆๆ ไปซัก 20 ปี...อิอิ...) // อ้อ...ไฟสตูดิโอ รายการ พาเร้นท์ รูม ดีกว่าไฟของสตูดิโอ รายการ only ค่ะ....(โทษไฟแม่ง!! เลย...) ขยันเชียร์บ่อยๆ นะ นายบอน...เก๋ Good !!!...


โดย pijika เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:49




ความคิดเห็นที่ 10





ลืมบอก ที่จริงแล้วพี่ฮอลล์ใส่เสื้อผิดสีค่ะ พี่ปุ้ย ใส่ถูกแล้ว (งานเยอะ เลยมึน)


โดย pijika เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:50




ความคิดเห็นที่ 11





อ้อ...มาอีกที คนที่จัดรายการกับ ดร.ปุ้ย อีกคน นายบอนเขียนผิดนะ เธอชื่อ อ้น รัชนี คำนึงควร ค่า....


โดย pijika เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:54




ความคิดเห็นที่ 12





:) ขำคนขยันไง อิอิ


โดย milo2005 เมื่อ 30 สิงหาคม 2550 เวลา : 20:13




ความคิดเห็นที่ 13





ข อบคุณมาก ๆ สำหรับการติดตามชมรายการของคุณบอน กาฬสินธุ์ คุณเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งของพวกเรา ทุก ๆ วันเราต้องเต็มที่กับงานประจำแล้วภาคดึกต้องมาจัดรายการต่อ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานีน้อย-น้อยมาก เราเตรียมสคริปท์ หาแขก หาเสื้อผ้าเอง ในขณะที่เมื่อก่อนหรือรายการอื่นเพียงทำหน้าที่ตรงหน้าจอให้ดีที่สุดเท่านั้ น ตรงนี้อาจมีผลให้เมื่องานออกมาแล้ว หน้าตา การแต่งเนื้อแต่งตัวอาจดูโทรมไปบ้าง ต้องขออภัยคุณผู้ชม แต่เราก็หวังว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ และคุณผู้ชม คือกำลังใจให้เราหยัดยืนได้ ยิ้ม หัวเราะได้ ...ทุกคืนค่ะจากพี่ปุ้ยเอง


โดย พี่ปุ้ย kuntida.tha@kmutt.ac.th เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 15:22




ความคิดเห็นที่ 14





เฮ้อ ติดนิสัยนอนดึกครับ คุณ เมย์ xanax เลยได้เม้าท์ 2 พิธีกรใน blog อยู่บ่อยๆ


โดย บอน sata1msu เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 15:57




ความคิดเห็นที่ 15





บ างคืนพี่ฮอลล์ก็มาดึก มา late เพราะใช้เวลาแต่งหน้าหนาๆ อยู่เหรอครับ อิอิอิ เอ้า ไฟของ parent room wไม่ใช่ไฟดวงเดียวกับไฟของ only หรือครับ ไปจัดคนละห้องคนละที่หรือนี่


โดย บอน sata1msu เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:00




ความคิดเห็นที่ 16





พ ี่ฮอลล์มึนบ่อยๆจัง เมื่อคืนวันพฤหัส ยังมึนๆมองกล้องเกือบผิดตัว ทำงานนอนดึกก็ยังนี้แหละ ใส่เสื้อไม่เหมือนกันแต่สีเดียวกันตั้งหลายวันแน่ะ :)))


โดย บอน sata1msu เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:02




ความคิดเห็นที่ 17





ส วัสดีครับ พี่ปุ้ย มีเวลานอนเต็มอิ่มบ้างหรือเปล่า โดยเฉพาะวันพุธ ออก 2 รายการสด ทำงานหนัก เผลอบ่อยๆ นายบอนก็เอามาแซวบ๊อยบ่อย ...ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคืนในเวลาที่ยังไม่หลับให้อยู่เสมอแหละครับ วันดีคืนดีอาจจะส่งเสียงโทรเข้าไปให้ตกใจเล่นๆ :))


โดย บอน sata1msu เมื่อ 31 สิงหาคม 2550 เวลา : 16:05