++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

20 ถ้อยคำกำลังใจในชีวิต



ในชีวิตคนแต่ละคนต่างเรียนรู้อะไรได้มากมายแตกต่างกัน พอ ๆ กับการได้ตระหนักรู้ถึงความจริงของชีวิตหลาย ๆ อย่างที่แตกต่างกันไปด้วย และด้วยเหตุนี้ "ความจริง" ของชีวิตหลาย ๆ อย่างที่แต่ละคนได้เรียนรู้ จึงถูกแบ่งปันและถ่ายทอดต่อ ๆ กันมามากมาย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่อาจทำให้คนอีกหลายคนฉุกคิดได้ และตระหนักถึงความจริงเหล่านั้นได้ ดังเช่นข้อความดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เรียกว่าเป็นข้อความที่จะจุดประกายความคิดและเป็นแรงบันดาลใจในชีวิตให้หลาย ๆ คนได้เลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. บางครั้ง.. ความสุขของเราก็เป็นที่มาของรอยยิ้ม แต่ในบางครั้ง.. รอยยิ้มของเราก็เป็นที่มาของความสุข
2. ถ้าคุณไม่แน่ใจตัวเอง คุณก็จะไม่แน่ใจกับทุกสิ่งที่คุณพบเจอ ถ้าคุณตัดสินตัวเอง คุณก็จะพบเจอคำตัดสินไปทุก ๆ ที่ แต่ถ้าคุณฟังเสียงของตัวเอง คุณจะสามารถเอาชนะความไม่แน่ใจและคำตัดสินเหล่านั้นได้ และคุณจะมองเห็นมันตลอดไป
3. เหตุผลของกาลเวลาที่หมุนไปมีอย่างเดียว ก็คือทุก ๆ อย่างไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว
4. มี "เวลา" สำหรับการออกเดินทางเสมอ แม้ว่าจะไม่มี "จุดหมาย" ที่แน่นอนเลยก็ตาม
5. โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มใหญ่ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยออกเดินทาง คงไม่ต่างอะไรกับคนที่อ่านหนังสือไปแค่หน้าเดียว
6. จงให้ความสำคัญที่การออกเดินทาง ไม่ใช่จุดหมาย เพราะความสนุกไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เราถึงที่หมาย แต่มันเกิดขึ้นระหว่างที่เราเดินทางต่างหาก


7. โชคดีแค่ไหนที่ใครหลายคนได้มองเห็นความงดงามซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ธรรมดา ๆ ซึ่งเป็นความงดงาม.. ที่คนอื่นมองไม่เห็น
8. ในการมีชีวิตที่สร้างสรรค์ คุณต้องกำจัดความกลัวออกไปให้หมด
9. ทุกครั้งที่คุณตัดสินใจ จักรวาลได้ตอบสนองให้สิ่งนั้นให้เกิดขึ้นกับคุณแล้ว
10. ยอมรับสิ่งที่ท้าทายคุณ แล้วคุณจะได้สัมผัสความสุขแห่งชัยชนะ
11. บางทีคนเรามักจะได้ทำในสิ่งที่หวาดกลัวที่จะทำเสมอ
12. ถ้าคนเรานั่งอยู่นอกบ้าน และมองดาวบนฟ้าในแต่ละคืน ฉันเดาได้เลยว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างแตกต่างกว่านี้มาก
13. อย่าคิดว่าคุณจะสอนตัวเองได้ด้วยตัวคุณเอง
14. คนที่เสี่ยงที่จะเดินทางไปไกลที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถหาคำตอบได้ว่าคนเราไปได้ไกลแค่ไหน
15. ความฝันที่งดงามที่สุดเกิดขึ้นได้เมื่อคุณตื่น
16. ฉันมักจะคิดว่า กลางคืนมีชีวิตชีวาและมีสีสันมากกว่ากลางวัน
17. การทำดีกับทุกคนที่เราพบเจอให้ได้ คือการต่อสู้ที่แสนยากในชีวิต
18. ถ้าเราได้ยินเสียงในหัวใจตัวเองบอกว่า "คุณวาดรูปไม่ได้หรอก" จงบอกตัวเองว่า "คุณทำมันได้" แล้วเสียงนั้นมันก็จะเงียบไป
19. คนเราจะสามารถเดินทางผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดได้ ด้วยการก้าวเดินช้า ๆ ทีละก้าว แต่อย่าหยุดเดิน
20. ผมไม่เชื่อว่าคนเราจะค้นหาความหมายของชีวิต มากกว่าค้นหาประสบการณ์ของการมีชีวิต

วิธีล้างเมือกและดับกลิ่นคาวปลา


วิธีล้างเมือกและดับกลิ่นคาวปลา เพียงนำต้นตะไคร้พร้อมใบ ล้างและทุบพอแตก ใส่ในน้ำที่เตรียมไว้แล้วนำปลาลงล้างและใช้ใบตะไคร้ถูปลาเบาๆ
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 12 พค 2556 - 15.14 น.

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 ข้อคิดดีๆ รักษาจิตใจ -------------






1. เพื่อนที่ดีที่สุด คือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ
แต่ สามารถเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด

2.ใคร หลายคนไม่กล้าเข้าไปปลอบโยนให้คำปรึกษากับเพื่อนเพราะคิดว่าเราไม่รู้จะบอก
เคา ยังไงเพราะเราเป็นแค่เพื่อน....แต่ความจริงแล้วคุณเป็นตั้งเพื่อนต่างหาก

3. ผู้ชายที่ร้องไห้ และยอมรับว่าตัวเองร้องไห้เขาคือสุภาพบุรุษที่สุด
อย่าง น้อยการซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง... คือความกล้าหาญสุดยอด

4. ก่อนที่วันนี้ คุณจะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ
อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อน ว่า
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา... ทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า

5. เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น

6. มีสติ สตางค์อยู่ ก็ปลีกเวลาไปใช้เสียบ้าง
อีกหน่อยไม่มีสติแต่มีสตางค์...ก็ สายไปเสียแล้ว

7. เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเ หลือเกิน...เวลาใครรักเรา
เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน...แต่ถ้าเราเจอคน ที่เรารักเขาและเขาก็รักเรา
เราจะผลัดกันตัวเล็กตัวใหญ่

8. วันที่คุณเข้มแข็งและแข็งแรงพอ
อย่าลืมเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนที่มี ปัญหาด้วย "เอาไหล่ให้เขาพิง
เอามือให้เขาจับ".....100 คำพูดดี ดี ไม่เท่ากับ 1 สัมผัสที่มีค่าหรอกนะ

9. คุณรู้ไหมว่า อายุคนเราเฉลี่ย 76 ปีนั่นคือแค่ 3,952
อาทิตย์เท่านั้นคุณหมดเวลาไปกับ การนอนถึง 1317 อาทิตย์
ซึ่งเท่ากับว่าคุณเหลือเวลาที่ใช้ดำเนินชีวิตแค่ 2,635 อาทิตย์เท่านั้นเอง

10. ลองฉลองวันเกิดกับครอบครัวสักปี แล้วคุณจะได้รู้ว่า
เมื่อตอนที่คุณร้องไห้จ้าในวันเกิดวันแรก
คนใน ครอบครัวคุณมีความสุขกันขนาดไหน.......

ปุ๋ยหมักปลาดุกบำรุงพืชให้เจริญงอกงาม


ปุ๋ยหมักปลาดุกบำรุงพืชให้เจริญงอกงาม ใช้ปลาดุก7กก.+กากน้ำตาล10กก.+พด.7(ละลายน้ำ) 1ซองหมัก90 วัน คน2ครั้งต่อสัปดาห์ ใช้ 1 ลิตร/น้ำ 50 ลิตร รด

พืช
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 14 พค 2556 - 15.14 น.

เทคนิคการเพิ่มขนาดไข่ไก่


เทคนิคการเพิ่มขนาดไข่ไก่ เพียงนำหญ้าขนสดสับชิ้นเล็กๆผสมกับหัวอาหารที่มีโปรตีนสูง อย่างละเท่าๆกัน ให้ไก่กิน 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 15 พค 2556 - 15.14 น.

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ข้อคิดในการดำเนินชีวิต


ข้อคิดในการดำเนินชีวิต
๑. ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกจานอย่างจริงใจ
๒. อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก "ปัญญา" และ "ความกล้าหาญ"
๓. "เพื่อนใหม่" คือ ของขวัญที่ให้กับตัวเอง ส่วน "เพื่อนเก่า หรือ มิตร" คือ อัญมณีที่นับวันจะเพิ่มคุณค่า
๔. อ่านหนังสือธรรมปีละเล่ม
๕. ปฏิบัติต่อคนอื่นเช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา
๖. พูดคำว่า "ขอบคุณ" ให้มาก ๆ
๗. รักษา "ความลับ" ให้เป็น
๘. ประเมินคุณค่าของการให้ "อภัย" ให้สูง
๙. ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี
๑๐. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิและรู้แก่ใจว่าเป็นจริง
๑๑. หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่
๑๒. เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนัก คิดเสมอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว
๑๓. อย่าถกเถียงธุรกิจภายในลิฟต์
๑๔. ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อการก่อหนี้สิน
๑๕. อย่าหยิ่ง หากจะกล่าวคำว่า "ขอโทษ"
๑๖. อย่าอาย หากจะบอกใครว่า "ไม่รู้"
๑๗. ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง
๑๘. เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นอย่างไป
๑๙. การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นต้นทางแห่งความไม่ประมาท
๒๐. คนไม่รักเงิน คือ คนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต
๒๑. ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อน คือ ผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี
๒๒. ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำงานเลยสักวัน ทุกวันเป็นวันสนุกหมด
๒๓. จงใช้จุดแข็ง อย่าเอาชนะจุดอ่อน
๒๔. เป็นหน้าที่ของเราจะที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เราพูด
๒๕. เหรียญเดียวมี ๒ หน้า คือ ความสำเร็จ กับ ความล้มเหลว
๒๖. อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้นล้วนตามใจตัวเองทั้งสิ้น
๒๗. ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน
๒๘. อย่าดึงต้นกล้าให้โตไว ๆ (อย่าใจร้อน)
๒๙. ระลึกถึงความตายวันละ ๓ ครั้ง ชีวิตจะมีสุข มีอภัย มีให้
๓๐. ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อ ๆ ไป ก็ผิดหมด
๓๑. ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนดวันแล้วเสร็จ
๓๒. จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้ เพิ่มเติมได้ตลอด
๓๓. ดาวและเดือนที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีน "บันไดสูง"
๓๔. มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิต จงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ
๓๕. หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม
๓๖. ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

แก้ปัญหาดินปลูกผัก ไม่อุดมสมบูรณ์


แก้ปัญหาดินปลูกผัก ไม่อุดมสมบูรณ์ด้วยปุ๋ยหมัก 3 วัน สูตรมูลสัตว์ 1 ปี๊บ + รำละเอียด + แกลบดิบอย่างละ 1 กก. +EM 100 cc + น้ำ หมักแบบคลุมกองใช้ 2

กำมือ / ตรม.
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 21 พค 2556 - 15.14 น.

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

15 แนวคิดของผู้ประสบความสำเร็จ (จอห์น ซี แมกซ์เวล, How Successful People Think )




“บุคคลที่ประสบความสำเร็จต่างๆของโลกนั้น ล้วนแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน –พวกเขาคิดต่างจากคนทั่วไป”
1. คิดให้เป็นกิจวัตร การจะเป็นนักคิดที่เก่งจำเป็นต้องมีการฝึกฝนเป็นประจำ
แดน แคธี ซีอีโอของ Chick-fil-A แฟรนไชส์ฟาสต์ฟูดชื่อดังของสหรัฐ จัดเวลาให้ตนเองครึ่งวันทุกๆ 2 สัปดาห์ 1 วันทุกๆ เดือน และ 2-3 วัน ทุกๆ ปี เพื่อคิดตริตรองและวางแผนในเรื่องต่างๆ
2. ใช้กฏ 80/20 นั่นคือ อุทิศ 80% ของพลังงานทั้งหมดในตัวคุณให้กับ 20% ของกิจกรรมที่สำคัญที่สุด

จำไว้เสมอว่าคุณไม่สามารถอยู่ได้ทุกหนทุกแห่ง รู้จักคนทุกคน ทำอะไรได้ทุกสิ่ง หลีกเลี่ยงการทำหลายๆ กิจกรรมพร้อมกันหากมันทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลง
3. เปิดกว้างตนเองแก่ความเห็นที่แตกต่างและเปิดใจแก่ผู้คนหลากหลายประเภท
4.ไอเดียเป็นสิ่งสำคัญ แต่การต่อยอดไอเดียนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน
เตือนตัวเองไว้เสมอว่าไอเดียนั้นไม่มีสารกันบูด จงรีบทำอะไรกับไอเดียดีๆ ที่เราคิดขึ้นมาได้ก่อนที่มันจะหมดอายุไปเสีย
5. ความคิดที่ดีนั้นใช้เวลาในการสร้าง
อย่าเพิ่งลงหลักปักฐานกับสิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของคุณ ความคิดที่ดีมักจะต้องมีการปรับแต่งให้มีรูปร่างและผ่านกระบวนการทดสอบมาแล้ว
6. คนฉลาดมักจะชอบทำงานร่วมกับคนฉลาด
การคิดร่วมกันมักให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าคล้ายกับเป็นทางลัดให้กันและกัน การระดมความคิดจึงเป็นวิธีการที่เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วให้กับงานต่างๆ
7. ความคิดกระแสนิยมอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดเสมอไป
อย่าเพียงทำตามผู้อื่นเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ใครๆ ได้ไตร่ตรองมาแล้วจึงย่อมจะดีเสมอ ผู้ที่ประสบความสำเร็จมากกว่ากว่าใครๆ นั้นมักคิดอะไรด้วยตนเอง เขาจึงโดดเด่นจากฝูงชน
8. วางแผนหรือกลยุทธ์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลดความผิดพลาด
ให้แตกประเด็นใหญ่เป็นส่วนย่อยๆ เพื่อแยกแยะปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นอย่าลืมตรวจสอบทรัพยากรและเครื่องมือต่างๆ ที่คุณมีและจัดวางมันให้เหมาะสมในการแก้ปัญหา
9. หาเวลาคิดและทำในสิ่งที่แตกต่างอยู่เสมอๆ
ลองทำอะไรในกิจวัตรประจำวันที่คุณยังไม่เคยทำมาก่อนเพื่อการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตและหามุมมองกับไอเดียความคิดที่สดใหม่
10. ความคิดคุณไม่มีทางที่จะถูกต้องเสมอไป
ให้โอกาสกับความคิดผู้อื่นบ้าง
11. มีกำหนดการอยู่เสมอ อย่าวางแผนเพียงวันต่อวัน
ควรวางแผนล่วงหน้าระยะยาวให้เป็นนิสัย คิดก่อนว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรจากใคร คนฉลาดจะไม่เข้าสู่การประชุม งานสังสรรค์ หรือการจิบกาแฟพูดคุยอย่างไร้จุดหมาย (ใช้เวลาไปสร้างสรรงานอื่นๆ ดีกว่าเสียเวลาประชุมอะไรที่ไม่มีผลผลิตที่มีค่าพอ)
12. ฝึกฝนการคิดสะท้อน (Reflective Thinking) หรือการคิดหลายแง่มุม
นี่เป็นการคิดเป็นระบบเหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ การคิดที่มาจากการไตร่ตรองแล้วจะทำให้คุณมีความมั่นใจในการตัดสินใจ
13. หลีกเลี่ยงการพูดแง่ลบกับตนเอง จงคิดว่าคุณสามารถทำได้ และคุณจะทำ
คนฉลาดจะไม่เห็นข้อจำกัดต่างๆ แต่ในทางกลับกันเขาจะเห็นโอกาสที่ถูกหยิบยื่นมา
14. มีความคิดสร้างสรร
อุทิศเวลาให้กับการค้นหาไอเดียใหม่ๆ อย่าไปกลัวความคลุมเครือและความล้มเหลวในเรื่องต่างๆ
15. อย่ามองโลกในแง่บวกไปเสียทุกเรื่อง
ต้องคิดให้สมเหตุสมผล และยอมรับความเป็นจริง คิดวิเคราะห์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ จำลองสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้ และไม่ลืมที่จะวางแผนบนพื้นฐานของทรัพยากรที่ตนเองมีอยู่
ท้ายที่สุดนั้น อย่าลืมว่าคุณสามารถเปลี่ยนแนวคิดของคุณได้ การเรียนรู้กระบวนการคิดที่ถูกต้องจะทำให้คุณเป็นคนที่คิดอย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณสามารถสร้างวินัยในการการคิด มันจะเป็นนิสัยที่ติดตัวคุณไปตลอด และจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิต

เทคนิคเพิ่มสีสันให้ปลาสวยงาม


เทคนิคเพิ่มสีสันให้ปลาสวยงาม เพียงทาสีน้ำเงินหรือสีชมพูที่ภาชนะเลี้ยง เมื่อปลาเห็นสีก็จะพยายามขับสีของตนเองออกมา ทำให้ปลาสีสวยขึ้น
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 24 พค 2556 - 15.14 น.

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ระหว่างคนที่มีความคิด กับคนที่มีปัญญานั้น


ระหว่างคนที่มีความคิด กับคนที่มีปัญญานั้น อย่าได้เอาไปปะปนกัน มันจะแก้ปัญหาในการดับทุกข์ไม่ได้ หรือแม้จะใช้แก้ปัญหาเล็กน้อย ในชีวิตประจำวันก็ยังยาก

คนมีความคิด คิดอะไรเก่ง ทำอะไรเก่ง แต่ขาดปัญญานั้น ยิ่งคิดอะไรมาก ทำอะไรมากขึ้นเท่าไร ? ก็ยิ่งก็จะเพิ่มปัญหา ก่อความทุกข์ให้เพิ่มมากขึ้นเพียงนั้น !

ดังนั้น ความคิดกับปัญญาจึงไม่เหมือนกัน แต่ว่าความคิดนั้นอาจเป็นบ่อเกิดของปัญญาได้ แต่ปัญญาฝ่ายธรรมเท่านั้น ใช้ดับทุกข์ได้

เมื่อเรามีปัญญาแล้ว ก็เสมือนว่ามีดวงตา หรือมีแสงสว่างที่จะใช้ส่องนำทาง ให้ชีวิตเกิดความปลอดภัย และบรรลุถึงจุดหมายปลายทาง คือความดับทุกข์ตามลำดับขั้น อันเป็นจุดหมายปลายทางของทุกชีวิต.


===========================+
@ทำอย่างไรจึงจะพบความสุข Web.dhammajak


สูตรอาหารผสมสำหรับลูกปลาดุก


สูตรอาหารผสมสำหรับลูกปลาดุก เร่งการเจริญเติบโต นำปลาป่น 100 กรัม รำข้าว 10 กก. อาหารสำเร็จรูปแบบผง 10 กก. ผสมให้ปลากินเช้า+เย็น
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 10 พ.ค.2556

เทคนิคแสนง่ายที่ทำให้มะพร้าวน้ำหอมติดลูกดก


การใช้เกลือแกง 1กก. โรยรอบทรงพุ่มปีละ 3 ครั้ง ใน 3ฤดู เป็นเทคนิคแสนง่ายที่ทำให้มะพร้าวน้ำหอมติดลูกดก/มีลูกต่อทะลายมากขึ้นและติดลูกตลอดปี
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 20 พค 2556 - 15.14 น.

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

18 ข้อคิด เพื่อชีวิตคนทํางาน




1.จงพิจารณาความเป็นไปได้ที่ว่าการชอบทำงานเกินเวลาจนเป็นนิสัยของคุณนั้นแสดงถึงว่าคุณต้องการสำนักงานมากกว่าที่สำนักงานต้องการคุณ

2. อย่าทำงานเกินเวลาจนติดเป็นนิสัยเมื่อมันกลายเป็นนิสัยจะทำให้มันหมดคุณค่า

3. ปล่อยตัวตามสบายได้ แต่อย่าให้ถึงกับดูโทรมนัก

4. จงทำตัวให้ร่าเริง คอยช่วยเหลือและทำหน้าที่ให้ดีในการทำงานของคุณคุณจะพบว่าไม่มีใครมาแข่งขันกับคุณ

5. อย่าได้ไว้เนื้อเชื่อใจว่าความสามารถ ความมีเสน่ห์และจินตนาการจะนำพาคุณขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดได้คุณควรจะมีผมสี เทาและพุงป่องกลางอีกหน่อยด้วย

6.อย่าได้เป็นกังวลในเรื่องการปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ในสำนักงานแต่เป็นกังวลกับการปล่อยให้ชีวิตของคุณ เปล่าประโยชน์จะดีกว่า

7. อย่าโทษคอมพิวเตอร์สำหรับความผิดพลาดที่คุณทำขึ้นเอง

8. ลองคิดถึงเวลาที่คุณไม่มีเงินเดือนดูบ้าง

9. จงถือว่าสุขภาพคือทรัพย์สมบัติประการแรก

10. อย่าได้ก้มหน้าก้มตาทำงานจนไม่เคยสังเกตเห็นนก ต้นไม้ ดอกไม้และปุยเมฆ

11. ในเวลาอาหารกลางวัน จงเลือกรับประทานอย่างฉลาดแต่ในบางครั้งจงรับประทานให้เต็มที่

12.เมื่อใดที่สำนักงานทำให้คุณรู้สึกเศร้าสร้อยจงนึกเสียว่านี่เป็นเกมกีฬาสำหรับคนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่และอย่าได้นำมันกลับไปบ้านด้วย

13. จำไว้ว่ายังมีอะไรๆอีกมากในการทำงานและในชีวิตมากกว่าทำงานเพื่อให้มีชีวิตอยู่หรือมีชีวิตอยู่เพื่อจะทำงาน

14. อย่าทำเป็นคนตรงต่อเวลา ไปถึงก่อนเวลาจะดีกว่า

15.อย่าได้หลอกตัวเองว่าการมีสิ่งของรกอยู่บนโต๊ะหมายถึงการมีงานมากมันเพียงแต่หมายความว่าคุณยังไม่ได้ทำมันนั่นเอง

16.จัดเก็บโต็ะของคุณให้เรียบร้อยบุคคลส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จจะมีโต๊ะทำงานที่ว่างโล่ง

17.อย่าเป็นกังวลมากจนเกินไปว่าเพื่อนร่วมงานคิดอย่างไรกับคุณเพราะส่วนใหญ่ในชีวิตของพวกเขาไม่ได้คิดถึงคุณเลย

18. จงร่ำรวยเงินสด

วิธีทำน้ำแปะดำปึงดื่มเพื่อลดเบาหวาน


วิธีทำน้ำแปะดำปึงดื่มเพื่อลดเบาหวาน ลดความดัน หอบหืดและมะเร็ง ใช้ใบ30 ใบล้างผึ่งให้แห้งคั้นกับน้ำ 3 ลิตร กรองน้ำต้ม ดื่มได้บ่อยตามต้องการ
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 4 พ.ค.2556

วิธีสังเกตน้ำผึ้ง


วิธีสังเกตน้ำผึ้ง เพียงหยดบนทิชชู่หนา 3 ชั้น ทิ้งไว้ 4 นาที ของแท้จับตัวเป็นก้อน ไม่ละลาย ไหลผ่านกระดาษยาก ของปลอมซึม ไหลผ่านกระดาษเร็ว
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 24 พค 2556 - 15.14 น.

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ช่วงรอยต่อฤดูกาล


ช่วงรอยต่อฤดูกาล อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน เป็นโรคได้ง่าย
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 17 พค 2556 - 15.14 น.

ทำไมต้องห่อตัวเด็กเวลาทำฟัน


ทำไมต้องห่อตัวเด็กเวลาทำฟัน

"หมอฟันใจร้ายมาก มัดตัวลูกตอนทำฟันซะแน่นเลย สงสารลูกใจจะขาด"
"ไม่รู้ว่าเป็นหมอฟันหรือแม่มด มัดลูกทำฟัน ลูกร้องกรี๊ดๆ เหงื่อท่วมตัวไปหมด"
"ทำไมต้องมัดเด็กด้วยก็ไม่รู้ ถ้าเด็กดิ้นมากก็แค่ให้คนมาช่วยจับ ทำอย่างนี้เด็กก็กลัวน่ะสิ"

เคยได้ยินคำพูดเหล่านี้มั้ยคะ ไม่ว่าจะเป็นจากเพื่อนบ้าน ญาติ พี่น้อง ทำเอาคุณพ่อคุณแม่โกรธเกลียดหมอฟันกันไปเลย มาทำความเข้าใจกับการห่อตัวเด็กกันค่ะ

หมอฟันจะห่อตัวเด็กเมื่อเด็กไม่ร่วมมือในการทำฟันมากๆ และมีฟันที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนต้องรีบทำทันที จุดประสงค์หลักในการห่อตัวก็เพื่อความปลอดภัยของเด็กค่ะ

ลองนึกดูนะคะถ้าทำฟันขณะที่เด็กกรี๊ด ดิ้นมาก สะบัดหน้า ถีบขาไปมาจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่ตกเตียงทำฟันไปซะก่อนก็อาจสะบัดหน้าโดนเครื่องมือทำฟันของหมอจนเป็นแผลหมดสวยหมดหล่อกันพอดี และถ้าไม่ห่อตัวแต่ให้คนจับขณะเด็กดิ้น เด็กจะยิ่งเจ็บค่ะ เพราะเวลาเด็กดิ้นพยายามถีบขาหรือเหวี่ยงแขน คนจับก็ต้องออกแรงกดขาหรือแขนเพื่อสู้กับแรงเด็ก (เด็กตัวเล็กๆ แต่แรงเยอะเหลือเชื่อนะคะ)

เครื่องมือห่อตัวเด็กมีลักษณะตามรูปค่ะ เป็นไม้กระดานและมีผ้าพันตัวและศีรษะไว้ไม่ให้เค้าดิ้นมากจนตกเตียงหรือสะบัดหน้า สะบัดแขน ขามาถูกเครื่องมือหมอจนเป็นแผลขณะทำฟัน (หลายคนใช้คำว่ามัดเด็ก ฟังแล้วเหมือนกับใช้เชือกมัดตัวเป็นข้าวต้มมัดเลย ไม่ได้โหดร้ายอย่างนั้นหรอกค่ะ) เมื่อช่วยให้เด็กอยู่นิ่งได้แล้วหมอจะทำฟันได้มีคุณภาพและเสร็จเร็วขึ้น เด็กจะได้ไม่อึดอัดนาน

ถ้าไม่อยากให้ลูกห่อตัวทำฟัน คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลช่องปากและฟันของลูกรักให้ดีนะคะ ถ้าฟันไม่ผุ หมอฟันก็จะทำแค่แปรงฟัน เคลือบฟลูออไรด์ เคลือบหลุมร่องฟัน งานง่ายๆ ไม่ต้องห่อตัวเลยค่ะ
ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=253807158097763&set=a.253807154764430.1073741828.235991326546013&type=1&theater

ชาวสวนควรเก็บกวาดผลไม้ที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัด


ทุกภูมิภาคฝนตกเพิ่มขึ้น ชาวสวนควรเก็บกวาดผลไม้ที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัด ไม่ควรกองไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
จาก SMS Farmer Info  by DTAC - 15 พค 2556 - 15.14 น.

แก้ปัญหามะนาวไม่มีน้ำตามภูมิปัญญาชาวบ้าน


แก้ปัญหามะนาวไม่มีน้ำตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยการนำมะนาวที่มีลักษณะน้ำน้อยแช่ในน้ำอุ่น 1 นาที ก่อนคั้นน้ำ วิธีนี้จะทำให้ได้น้ำมากขึ้น
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 1 พ.ค.2556

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

------------- 10 ข้อคิดดีๆ รักษาจิตใจ -------------






1. เพื่อนที่ดีที่สุด คือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ
แต่ สามารถเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด

2.ใคร หลายคนไม่กล้าเข้าไปปลอบโยนให้คำปรึกษากับเพื่อนเพราะคิดว่าเราไม่รู้จะบอก
เคา ยังไงเพราะเราเป็นแค่เพื่อน....แต่ความจริงแล้วคุณเป็นตั้งเพื่อนต่างหาก

3. ผู้ชายที่ร้องไห้ และยอมรับว่าตัวเองร้องไห้เขาคือสุภาพบุรุษที่สุด
อย่าง น้อยการซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง... คือความกล้าหาญสุดยอด

4. ก่อนที่วันนี้ คุณจะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ
อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อน ว่า
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา... ทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า

5. เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น

6. มีสติ สตางค์อยู่ ก็ปลีกเวลาไปใช้เสียบ้าง
อีกหน่อยไม่มีสติแต่มีสตางค์...ก็ สายไปเสียแล้ว

7. เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเ หลือเกิน...เวลาใครรักเรา
เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน...แต่ถ้าเราเจอคน ที่เรารักเขาและเขาก็รักเรา
เราจะผลัดกันตัวเล็กตัวใหญ่

8. วันที่คุณเข้มแข็งและแข็งแรงพอ
อย่าลืมเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนที่มี ปัญหาด้วย "เอาไหล่ให้เขาพิง
เอามือให้เขาจับ".....100 คำพูดดี ดี ไม่เท่ากับ 1 สัมผัสที่มีค่าหรอกนะ

9. คุณรู้ไหมว่า อายุคนเราเฉลี่ย 76 ปีนั่นคือแค่ 3,952
อาทิตย์เท่านั้นคุณหมดเวลาไปกับ การนอนถึง 1317 อาทิตย์
ซึ่งเท่ากับว่าคุณเหลือเวลาที่ใช้ดำเนินชีวิตแค่ 2,635 อาทิตย์เท่านั้นเอง

10. ลองฉลองวันเกิดกับครอบครัวสักปี แล้วคุณจะได้รู้ว่า
เมื่อตอนที่คุณร้องไห้จ้าในวันเกิดวันแรก
คนใน ครอบครัวคุณมีความสุขกันขนาดไหน.......

วิธีทำความสะอาดไข่เป็ดให้ขาวใส


วิธีทำความสะอาดไข่เป็ดให้ขาวใส ไม่เหม็น ละลายผงซักฟอกกับน้ำ แช่ไข่ไว้ 15 นาที ขัดล้างด้วยฟองน้ำล้างน้ำอีกครั้งแล้วผึ่งในที่ร่มจนแห้ง
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 4 พ.ค.2556

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

20 ถ้อยคำกำลังใจในชีวิต


20 ถ้อยคำกำลังใจในชีวิต
ในชีวิตคนแต่ละคนต่างเรียนรู้อะไรได้มากมายแตกต่างกัน พอ ๆ กับการได้ตระหนักรู้ถึงความจริงของชีวิตหลาย ๆ อย่างที่แตกต่างกันไปด้วย และด้วยเหตุนี้ "ความจริง" ของชีวิตหลาย ๆ อย่างที่แต่ละคนได้เรียนรู้ จึงถูกแบ่งปันและถ่ายทอดต่อ ๆ กันมามากมาย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่อาจทำให้คนอีกหลายคนฉุกคิดได้ และตระหนักถึงความจริงเหล่านั้นได้ ดังเช่นข้อความดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เรียกว่าเป็นข้อความที่จะจุดประกายความคิดและเป็นแรงบันดาลใจในชีวิตให้หลาย ๆ คนได้เลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. บางครั้ง.. ความสุขของเราก็เป็นที่มาของรอยยิ้ม แต่ในบางครั้ง.. รอยยิ้มของเราก็เป็นที่มาของความสุข
2. ถ้าคุณไม่แน่ใจตัวเอง คุณก็จะไม่แน่ใจกับทุกสิ่งที่คุณพบเจอ ถ้าคุณตัดสินตัวเอง คุณก็จะพบเจอคำตัดสินไปทุก ๆ ที่ แต่ถ้าคุณฟังเสียงของตัวเอง คุณจะสามารถเอาชนะความไม่แน่ใจและคำตัดสินเหล่านั้นได้ และคุณจะมองเห็นมันตลอดไป
3. เหตุผลของกาลเวลาที่หมุนไปมีอย่างเดียว ก็คือทุก ๆ อย่างไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว
4. มี "เวลา" สำหรับการออกเดินทางเสมอ แม้ว่าจะไม่มี "จุดหมาย" ที่แน่นอนเลยก็ตาม
5. โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มใหญ่ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยออกเดินทาง คงไม่ต่างอะไรกับคนที่อ่านหนังสือไปแค่หน้าเดียว
6. จงให้ความสำคัญที่การออกเดินทาง ไม่ใช่จุดหมาย เพราะความสนุกไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เราถึงที่หมาย แต่มันเกิดขึ้นระหว่างที่เราเดินทางต่างหาก


7. โชคดีแค่ไหนที่ใครหลายคนได้มองเห็นความงดงามซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ธรรมดา ๆ ซึ่งเป็นความงดงาม.. ที่คนอื่นมองไม่เห็น
8. ในการมีชีวิตที่สร้างสรรค์ คุณต้องกำจัดความกลัวออกไปให้หมด
9. ทุกครั้งที่คุณตัดสินใจ จักรวาลได้ตอบสนองให้สิ่งนั้นให้เกิดขึ้นกับคุณแล้ว
10. ยอมรับสิ่งที่ท้าทายคุณ แล้วคุณจะได้สัมผัสความสุขแห่งชัยชนะ
11. บางทีคนเรามักจะได้ทำในสิ่งที่หวาดกลัวที่จะทำเสมอ
12. ถ้าคนเรานั่งอยู่นอกบ้าน และมองดาวบนฟ้าในแต่ละคืน ฉันเดาได้เลยว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างแตกต่างกว่านี้มาก
13. อย่าคิดว่าคุณจะสอนตัวเองได้ด้วยตัวคุณเอง
14. คนที่เสี่ยงที่จะเดินทางไปไกลที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถหาคำตอบได้ว่าคนเราไปได้ไกลแค่ไหน
15. ความฝันที่งดงามที่สุดเกิดขึ้นได้เมื่อคุณตื่น
16. ฉันมักจะคิดว่า กลางคืนมีชีวิตชีวาและมีสีสันมากกว่ากลางวัน
17. การทำดีกับทุกคนที่เราพบเจอให้ได้ คือการต่อสู้ที่แสนยากในชีวิต
18. ถ้าเราได้ยินเสียงในหัวใจตัวเองบอกว่า "คุณวาดรูปไม่ได้หรอก" จงบอกตัวเองว่า "คุณทำมันได้" แล้วเสียงนั้นมันก็จะเงียบไป
19. คนเราจะสามารถเดินทางผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดได้ ด้วยการก้าวเดินช้า ๆ ทีละก้าว แต่อย่าหยุดเดิน
20. ผมไม่เชื่อว่าคนเราจะค้นหาความหมายของชีวิต มากกว่าค้นหาประสบการณ์ของการมีชีวิต

อากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว หากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่ม


อากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว หากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ ห้ามสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยตรง ควรใช้ถุงมือ
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 3 พ.ค.2556

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

5 ข้อคิดดีๆ ในการทำงาน


5 ข้อคิดดีๆ ในการทำงาน
วันนี้มีเรื่องดีดี ที่อยากบอกทุกคน สำหรับใครที่กำลังเบื่องาน รู้สึกแย่ๆ กับการทำงาน ลองอ่าน 5 ทัศนคติดีๆ ที่ควรมีในที่ทำงาน เหล่านี้ แล้วจะรู้ว่า สวรรค์ในที่ทำงานเกิดขึ้นได้ครับ

1. ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ทำงานผิดพลาดแล้วยังจะมานั่งโทษตัวเองให้เหนื่อยทำไม ให้กำลังใจตัวเองเพื่อทำงานชิ้นต่อไปดีกว่า ยิ่งเรามัวจมกับความผิดพลาดเดิม ๆ เราก็จะทำงานอื่นต่อไม่ได้ สู้เอาความผิดพลาดมาทำให้ถูกต้องในงานชิ้นใหม่ดีกว่า สัจธรรมของชีวิตที่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีใครจำเรื่องของคนอื่นนานหรอก ถึงใครจะว่าเรามากมายแค่ไหน แต่พอเดินพ้นหน้าเราไปเขาก็ต้องคิดเรื่องอื่นแทน แล้วเราจะมาลงโทษตัวเองอยู่ทำไม
2. งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว
เวลางานล้นมือเราอาจท้อ แต่ท้อไปงานก็ไม่เสร็จ ลุกมาทุ่มเททำให้เสร็จ ๆ ไปดีกว่า เหนื่อยแค่ไหนเดี๋ยวก็ได้พัก และสิ่งที่เราต้องทำเมื่องานเยอะ คือ จัดระเบียบเส้นตายของงานแต่ละชิ้น เจรจาต่อรองถ้าคิดว่า จะไม่เสร็จตรงเวลา แล้วก็ค่อย ๆ ทำไปทีละงาน เดี๋ยวดีเอง
3. ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว
บ่อยครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก็คิดเสียว่า ไม่เป็นไร ทำให้เต็มที่ แต่ก่อนทำก็บอกคนที่มอบหมายหน่อยว่า ไม่ค่อยถนัดนะ แต่จะทำเต็มที่ ผิดพลาดอะไรก็บอกได้ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก แต่ถ้าทำออกมาแล้วดีก็ถือเป็นกำไร อย่าเสียใจที่ทำงานบางประเภทไม่เก่ง เพราะเราก็อาจจะเก่งในงานประเภทอื่นก็ได้ จำไว้ว่าปลาอาจจะว่ายน้ำเก่งกว่าลูกสุนัข แต่ปลาก็วิ่งไม่ได้เหมือนกัน ถ้าปลาตัวหนึ่งจะโดดขึ้นมาบนบกแล้วคืบคลานจนถลอกปอกเปิกก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะมันเป็นปลาจริงไหม
4. ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็พอแล้ว
เคยได้ยินคนพูดเรื่องการติดฉลากไหมการติดฉลากก็คือการประทับตราว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร เพื่อให้ง่ายต่อการจัดประเภท ซึ่งปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าติดฉลากถูกก็ดีไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ติดฉลากผิด สิ่งนั้นก็จะไม่ใช่สิ่งที่เป็นตามฉลากก็เท่านั้น ในหลักการเดียวกัน ถ้าใครมาว่า คุณสารพัดเรื่อง แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างเขาบอกก็ไม่เห็นจะต้องคิดมากกับฉลากที่เขาเอามาติดไว้ ถ้าคุณเป็นน้ำตาลแล้วเขาเอาฉลากน้ำปลามาติดให้ก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณ เขาเองต่างหากที่คิดผิด
5. ให้เกียรติงานที่ทำด้วยการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ อย่าบ่นว่าไม่ชอบงาน
นึกถึงกระเป๋ารถเมล์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสสิ แล้วเปรียบเทียบกับเราที่นั่งบ่นอยู่นั่นแล้วว่าเหนื่อย ไม่สนุก ถามว่างานหรือเปล่าที่ทำให้เราทุกข์ จริง ๆ แล้วเราต่างหากที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ เพราะนั่งพร่ำบ่นกับสิ่งที่ไม่ได้ดังใจ ถ้าใครได้ทำงานที่ชอบก็ดีไป แต่อย่าลืมว่างานที่ชอบก็มีด้านที่ทำให้เราเหนื่อยได้เหมือนกัน ใช่ว่าหนทางการทำงานจะปูด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป สิ่งที่เราควรคิดก็คืองานคือ สิ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า อย่าดูถูกงานของตัวเอง ไม่เช่นนั้นเราก็ดูถูกตัวเองด้วยที่เลือกทำงานนั้น อย่าลืมว่า เราต่างหากที่เป็นคนเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ ดังนั้นทำงานที่เราเลือกในเวลานั้น ๆ เพื่อพี่ๆน้องครับ เรามาสร้างสวรรค์ในที่ทำงานกัน

วิธีเร่งโตในยางพาราที่ปลูกปีแรก


วิธีเร่งโตในยางพาราที่ปลูกปีแรก ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 20-8-20 ระยะใบเพสลาด และโรยหน่อกล้วยน้ำว้าสับหยาบรอบโคนต้น หลังให้ปุ๋ยได้ 2 สัปดาห์
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 2 พ.ค.2556

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เกิดมาชาตินี้เราท่านใช้ ชีวิตทั้งชีวิตอย่างไร?


หากจะพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่า ?

เกิดมาชาตินี้เราท่านใช้ ชีวิตทั้งชีวิตอย่างไร?

ก็คงต้องมาเริ่มจากคำนวณอายุของคนเรา ปัญหาคือ ยากที่ จะตอบว่ามีอายุยาวนานกันสักเท่าไร
แต่เพื่อจะให้รู้ว่าคนเราจริงๆ แล้วเกิดมาใน โลกชาติหนึ่งใช้เวลาเพื่อทำประโยชน์จริงๆ
มากน้อยเท่าไร และเวลาที่เหลือนั้นเรา ใช้ทำอะไรกันบ้าง เราคงต้องเริ่มจากการสมมุติดังนี้

ถ้าท่านมีอายุอยู่ถึง 80 ปี เริ่มเรียนหนังสืออายุ 7 ปี................อายุรวม 7 ปี

เรียนถึงปริญญาตรีใช้เวลา 16 ปี........อายุรวม 23 ปี

ทำงานเสี้ยงชีวิตและครอบครัวอีก 37 ปี................อายุรวม 60 ปี

ท่องเที่ยว 10 ปี................อายุรวม 70 ปี

เสี้ยงหลาน เข้าวัด นอนป่วย 10 ปี................ อายุรวม 80 ปี

ดังนั้นผมเลยอยากจะตั้งสมมุติฐานเอาเวลา 60 ปีมาใช้ในการคำนวณ
เพราะเป็นช่วงที่เรามีกำลังวังชาสามารถทำประโยชน์ได้โดยถือว่าชายหรือหญิงมีระยะเวลา
เท่ากัน คือคิดเอาถึงเกษียณอายุราชการเป็นหลัก หากจะมีอายุยินยาวไปกว่า
นั้นเวลาที่เหลือคงหมดไปกับการพักผ่อน หาความสำราญในบ้านปลายของชีวิต เลยขอยก
ประโยชน์ให้โดยจะไม่นำมาคำนวณ เราลองมาดูกันว่า ในระยะเวลา 60 ปี นั้นเราใช้
เวลาในช่วงชีวิตหนึ่งของเราอย่างไร?

คิดเป็นเวลาในแต่ละอิริยาบถเต็มๆ ในช่วงอายุ 60 ปี ช่วงเวลาก่อนวัยเรียน 7 ปี
เริ่มเรียนหนังสืออายุ 7 ปี หักออกจาก 60 เหลือเวลา 53 ปี
นอน 18 ปี................สมมุติฐานใช้เวลานอน 8 ชม /วัน
ทานอาหาร 7 ปี..............สมมุติฐานใช้เวลาทานอาหาร 3 ชม /วัน
เดินทาง 4 ปี................สมมุติฐานใช้เวลาเดินทาง 2 ชม /วัน
เรียนหนังสือหรือทำงาน 18 ปี.............สมมุติฐานใช้เวลาเรียนหนังสือหรือทำงาน 2ชม /วัน
อาบน้ำแต่งตัว 2 ปี..........สมมุติฐานใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัว 2 ชม /วัน
ท่องเที่ยว ดูหนัง พักผ่อน 4 ปี............สมมุติฐาน ใช้เวลาท่องเที่ยว ดูหนัง พักผ่อน 2ชม / วัน

ทุกท่านจะพบว่า ในช่วงอายุ 60 ปี ของ แต่ละท่านเป็นระยะเวลาก่อนวัยเรียน เสีย 7 ปี
ส่วนที่เหลือ 53 ปี ท่านได้ใช้ เวลาเพื่อนอน 18 ปี เรียนหนังสือและทำงาน 18 ปี และอีก 17 ปี
เป็นเวลาที่หมดไป กับการทานอาหาร เดินทาง อาบน้ำแต่งคัว และพักผ่อนหาความสำราญต่างๆ
หรืออาจกล่าว ได้ว่าท่านทำตัวมีประโยชน์เพียง 1 ใน 3 ของชีวิตเท่า นั้น

หากมีใครถามว่า คน แต่ละ คน จะมีอายุยืนยาวสักเท่าไร?

ผมว่าคำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ มีอายุ ชั่วลมหายใจเท่านั้น
เพราะหากเราหายใจเข้าแล้วไม่หายใจออก หรือหายใจออกแล้วไม่
หายใจเข้าเราก็คงหมดลมเสียชีวิตกันทุกคน

ฉะนั้นขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่มีลมหายใจ จงเร่งทำแต่คุณ งามความดี
ไม่ตกอยู่ในความประมาทและที่สำคัญคือจงทำวันนี้ให้ดีที่สุดไม่ใช่
เฉพาะแต่ดีให้ตนเองแต่ต้องเป็นความดีแก่สังคมโดยรวม เพราะถ้าหาก
ในช่วงชีวิตที่ท่านมีลมหายใจอยู่ ท่านไม่ได้ทำประโยชน์อันใดให้กับสังคมเลย
โดยหายใจทิ้งไป วันๆก็ถือว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง

รักษาฝีหนองในโคกระบือ


รักษาฝีหนองในโคกระบือ นำใบส้มเขาคันสดมาอังไฟ ให้สลด ปิดจุดที่เป็นฝี ใบส้มเขาคันจะช่วยดูดหนอง ทำวันละครั้ง ต่อเนื่องจนแผลฝีหนองแห้ง
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 3 พ.ค.2556

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วม workshop และเวทีเสวนาหัวข้อ "การสื่อสารเรื่องความตายกับเด็ก"


เครือข่ายพุทธิกา โครงการเผชิญความตายอย่างสงบ
ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วม workshop และเวทีเสวนาหัวข้อ

"การสื่อสารเรื่องความตายกับเด็ก"

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2556
เวลา 10.00 - 16.00 น.
ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์ กรุงเทพฯ)

รายละเอียดกิจกรรม
10.00 – 12.00 น. Workshop ศิลปะเพื่อการใคร่ครวญความตาย
13.00 – 15.00 น. เวทีเสวนา “การสื่อสารเรื่องความตายกับเด็ก" โดย

ลงทะเบียนและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.budnet.org/peacefuldeath/node/185

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

เสาวรสลดไขมันในเส้นเลือด


เสาวรสลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงสายตา ช่วยให้นอนหลับได้ดี วิธีดื่มเพื่อสุขภาพ ใช้เสาวรส+น้ำ+เกลือ+น้ำตาลอย่างละ 1 ส่วน ปั่น/คั้นดื่มทุกวัน
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 6 พ.ค.2556

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

" สุขกับทุกข์ไปด้วยกัน "


" สุขกับทุกข์ไปด้วยกัน "

เคยมีการสนทนาโต้ตอบระหว่างพระพุทธเจ้ากับเทวดา

เทวดาบอกว่ามีลูกก็สุขเพราะลูก มีโคก็สุขเพราะโค พระพุทธเจ้ากล่าวไปอีกทางว่า มีลูกก็ทุกข์เพราะลูก มีโคก็ทุกข์เพราะโค คือพระองค์กำลังบอกว่า "สิ่งที่ให้ความสุขแก่เรา ก็ให้ความทุกข์แก่เราได้"

พระพุทธเจ้าเคยตรัสกับนางวิสาขา เมื่อพบว่านางวิสาขาเศร้าโศกเสียใจที่หลานตายว่า ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 100 สิ่ง ก็ทุกข์ 100 มีสิ่งที่รัก 90 ก็ทุกข์ 90 มีสิ่งที่รัก 1 สิ่งก็ทุกข์แค่ 1 นั่นก็คือ รักมากทุกข์มาก อันนี้หมายถึงความรักที่ยึดมั่นถือมั่น เมื่อรักใครก็อยากให้เขาอยู่กับเรานาน ๆ ปัญหาก็คือทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง และเปลี่ยนจากสุขเป็นทุกข์ได้ สุขกับทุกข์ไปด้วยกัน

พระไพศาล วิสาโล

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

เสริมประสิทธิภาพให้จุลินทรีย์กำจัดแมลง


เสริมประสิทธิภาพให้จุลินทรีย์กำจัดแมลง (Bt) ด้วยการผสมนมถั่วเหลือง 1 ขวด / หัวเชื้อทุกๆ 1 ช้อนชา หมัก 24-48 ชม. แล้วนำไปใช้กำจัดหนอนที่ดื้อยาได้ดี
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 9  พ.ค.2556

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คุณสมบัติของเพื่อนแท้นั้นควรมีดังนี้


คุณสมบัติของเพื่อนแท้นั้นควรมีดังนี้ คือ

๑. เป็นคนรักเพื่อน เวลาเห็นเพื่อนได้ดีก็ดีใจด้วย เวลาเห็นเพื่อนตกทุกข์ได้ยากหรือเจ็บไข้ได้ป่วยก็สงสาร และเป็นทุกข์แทน และพยายามหาทางช่วยเหลือทุกวิถีทาง ทั้งอาจยอมเสียสละให้กันได้เมื่อถึงคราวจำเป็น
๒. ไม่เอาเปรียบคน ไม่เห็นแก่ตัว แต่เป็นผู้ยอมเสียสละ และเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม
๓. มีใจเมตตากรุณา โอบอ้อมอารี
๔. มีวาจาอ่อนหวานนิ่มนวล และอ่อนน้อมกับคนทั่วไป
๕. พูดจามีศีลมีสัตย์ คือพูดแต่ความจริงเชื่อถือได้ ไม่เหลวใหลเหลาะแหละ และต้องรักษาคำพูด
๖. มีความขยันหมั่นเพียรและมานะอดทน
๗. เป็นคนรักเกียรติของตน และทั้งเคารพในเกียรติของคนอื่น คือรู้จักเคารพยกย่องคนที่ควรเคารพ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทับถมคนที่ทำผิดหรือคนชั่ว
๘. มีความหวังดีต่อเพื่อนมนุษย์
๙. คอยชักนำเพื่อนให้ทำและคิดแต่สิ่งที่ดี กับคอยตักเตือนและกีดกันเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนทำผิดคิดไม่ดี
๑๐. ไม่นินทาว่าร้ายคน
๑๑. ไม่อิจฉาริษยาและผูกพยาบาทคน
๑๒. มีความซื่อสัตย์สุจริต และกตัญญูรู้คุณคน
๑๓. ไม่ถือตัว ไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นโดยเห็นคนอื่นเลวไปเสียหมด
๑๔. เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย คือเคยอย่างไรก็อย่างนั้น
๑๕. มีความเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ มีกิริยาสุภาพเรียบร้อยไม่แข็งกระด้าง
๑๖. ไม่เสียในเรื่องการเงิน คือต้องไม่เป็นคนชอบหยิบยืมเงินคนอื่นใช้ (คือไม่เป็นหนี้สินใคร) และขณะเดียวกันต้องรู้จักค่าของเงิน ต้องรู้จักว่าอะไรควรใช้และอะไรไม่ควรใช้ คือไม่ใช่คนขี้เหนียว แต่ก็ไม่ใช่คนสุรุยสุร่าย
๑๗. ไม่เป็นที่รังเกียจของสังคมและของคนทั้งหลาย
๑๘. มีคนนิยมรักใคร่และเคารพนับถือ
๑๙. เป็นคนมีศีลธรรมดี
๒๐. ไม่เป็นคนเจ้าชู้ชนิดพร่าผู้หญิง
๒๑. ไม่เป็นนักการพนัน
๒๒. ไม่เป็นคนกินเหล้าเมาหยำเปครองสติไม่ได้ และกินจนติดเป็นนิสัย
๒๓. เป็นคนมีความสามัคคีธรรม
๒๔. เป็นคนยุติธรรมและซื่อตรง
๒๕. เป็นคนหนักแน่นและเยือกเย็น
๒๖. ไม่เป็นคนหูเบาเชื่อคนง่าย
๒๗. ไม่เป็นคนโอ้อวด (คือไม่อวดรู้ อวดฉลาด อวดมั่งอวดมี ฯลฯ)
๒๘. ไม่เป็นคนปากบอนชอบยุแหย่และส่อเสียด
๒๙. ไม่เป็นคนแกะกะเกเรมีนิสัยพาล
๓๐. เป็นคนกล้ารับผิดชอบ และกล้ารับผิดเมื่อตนผิด

ทั้ง ๓๐ ข้อนี้ เป็นคุณสมบัติของเพื่อนที่ดีที่ควรคบไว้เป็นเพื่อนแท้ได้ เพราะเพื่อนประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนตาย ย่อมหาได้ยาก

จากหนังสือ... พ่อสอนลูก

พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนว่า


พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนว่า

"ภิกษุทั้งหลาย ถ้าใครมาด่าว่าเธอ ด้วยประการใดก็ตาม เธอโกรธแค้น ต่อบุคคลนั้นแล้วไปด่าตอบเขา คนที่ด่าเขาทีหลังนั่นแหละเลวกว่าคนก่อน"

สมมติเป็นตัวบุคคลว่า นาย ก. มาด่านาย ข. อย่างโน้น อย่างนี้ นาย ข.โกรธ ด่าตอบนาย ก. ไปอีกเท่าหนึ่ง พระองค์บอกว่า นาย ข. นี่เลวกว่า นาย ก. ...

ก็เพราะนาย ก. นั้นมาสาธิตให้ดูอยู่แล้วว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร เสียงมันเป็นอย่างไร ท่าทางมันเป็นอย่างไร ถกเขมรเกนเก้ ท่าทางมันน่าดูกับเขาเมื่อไหร่ อาการที่กระทำอย่างนั้น ควรจะเอาสิ่งนั้นเป็นบทเรียน เป็นเครื่องเตือนใจ แล้วไม่ไปแสดงอาการอย่างนั้น ก็เรียกว่าเราชนะนาย ก.

แต่นาย ข. ไม่อย่างนั้น "โอ๊ย มันว่ากู ไม่ได้ เสียเหลี่ยม มันต้องว่าตอบไปบ้าง" นี่แหละนาย ข. เลวกว่านาย ก.

แล้วก็เพิ่มคนชั่วขึ้นอีกคนหนึ่ง เพิ่มความชั่วขึ้นอีกส่วนหนึ่งในโลก เราควรจะอยู่ด้วยการลด เลิก ละ ความชั่ว ละความชั่วไม่ให้เกิดขึ้นในใจของเรา จึงจะเป็นการถูกต้อง

ปัญญานันทภิกขุ
ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

ดับกลิ่นปาก แก้อาการร้อนใน


ดับกลิ่นปาก แก้อาการร้อนใน มีแผลในปากหรือมีอาการปวดฟันให้หายไปได้ เพียงทานแตงโมหลังอาหารทุกมื้อ หรือ คั้นน้ำดื่มตอนท้องว่างวันละ 1-2 ครั้ง
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 11 พ.ค.2556

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ความสุข ,


ความสุข ,
มีชาย 2 คน ทั้งคู่เป็นคนไข้ในโรงพยาบาลเดียวกัน อยู่ในห้องพักคนไข้รวม 2 เตียงในห้องเดียวกัน ทั้งคู่ต่างมีอาการเจ็บป่วยที่สาหัสพอๆกัน

คนหนึ่งเป็นโรคปอดบวมขั้นสุดท้าย หมอแนะนำให้เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียงวันละ 1 ชั่วโมงในช่วงบ่ายทุกวัน เพื่อช่วยให้การละลายเสมหะจากปอดไหลลื่นได้ดีขึ้น เตียงคนไข้ปอดบวมตั้งอยู่ริมหน้าต่าง

ส่วนเตียงของเพื่อนร่วมห้องตั้งอยู่อีกฟากของห้อง คนไข้ต้องนอนราบบนเตียง ไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้ ทั้งสองคนฆ่าเวลาไปวันๆ ด้วยการพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลานอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ้าน ครอบครัว การงานที่เคยทำก่อนล้มเจ็บ ชีวิตในระหว่างที่เป็นทหารในกองทัพบก ฯลฯ

ทุกๆ วันในช่วงบ่าย คนไข้โรคปอดจะลุกขึ้นนั่ง และมองไปนอกหน้าต่าง เพื่อระบายเสมหะตามคำแนะนำของแพทย์ เขาก็จะถือโอกาสบรรยายสิ่งที่มองเห็นข้างนอกหน้าต่างให้แก่เพื่อนร่วมห้องฟัง การได้รับฟังเรื่องราวจากภายนอกนี้ ได้กลายเป็นความสุขอย่างเดียวที่คนนอนเจ็บอีกฟากห้องจะมีโอกาสได้รับในแต่ละวัน เวลาหนึ่งชั่วโมงช่วงบ่าย จึงกลายเป็นเวลาแห่งการรอคอยของคนไข้ที่นอนเจ็บอยู่ เขาจะได้รับฟังข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นหรือได้สัมผัสโดยตรง

คนไข้โรคปอดที่อยู่ริมหน้าต่าง เล่าให้เพื่อนว่า สิ่งที่เขาเห็นนอกหน้าต่างเป็นสวนสาธารณะสวยงาม มีทะเลสาบกว้างขวางใหญ่โต มีเป็ดสีขาวระเริงเล่นในน้ำ มีสวนดอกไม้บานสะพรั่ง ปลูกเป็นหย่อมๆ ดูสวยงามทั่วไป ในทะเลสาบมีเรือพายล่องลอยไปมาดูผู้คนในเรือช่างมีความสุขยิ่งนัก หญิงสาวชายหนุ่มเดินคลอเคลียกันไปมาหลายคู่ ช่างดูมีความสุขสดชื่นกันเหลือเกิน ริมทะเลสาบมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป ทำให้ทั่วทั้งบริเวณร่มรื่น และถ้ามองออกไปไกลๆ จะแลเห็นตึกรามบ้านช่องสวยงามอยู่ไกลออกไป ทุกอย่างล้วนดูสวยงามเป็นยิ่งนัก

ในขณะบรรยายความงดงามของธรรมชาติจากภายนอกอยู่นั้น คนเจ็บอีกฟากก็หลับตานึกสร้างมโนภาพตามเรื่องที่ได้รับฟัง ทำให้เขามีความสุขสดชื่นยิ่งนัก เสมือนหนึ่งตนได้เข้าไปอยู่ในสวนสาธารณะด้วยตนเองทีเดียว ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง คนไข้ริมหน้าต่างได้บอกเพื่อนร่วมห้องอีกฟากว่า กำลังมีขบวนแห่สวยงามเดินผ่านไป แม้ว่าคนนอนเจ็บจะไม่ได้ยินเสียงดนตรี แต่เพราะเพื่อนได้บรรยายความสวยงามของขบวนแห่อย่างละเอียดลออ จนเขาสามารถเห็นภาพในใจได้อย่างชัดเจนราวกับเห็นด้วยตาตนเองทีเดียว เหตุการณ์ในทำนองนี้ได้เกิดขึ้นวันแล้ววันเล่า

เช้าวันหนึ่ง เมื่อนางพยาบาลเดินมาที่เตียงคนไข้ริมหน้าต่าง เพื่อเช็ดตัวให้ตามปกติ ปรากฏว่าคนไข้สิ้นลมเสียแล้ว เธอรู้สึกเสียใจ เพราะคนไข้ผู้นี้มีนิสัยที่ดี ไม่เคยทำตัวเป็นภาระแก่เธอโดยไม่จำเป็น เมื่อบุรุษพยาบาลนำร่างอันไร้วิญญาณออกไปแล้ว เตียงริมหน้าต่างก็ว่างลง คนไข้ที่นอนเจ็บอีกฟากจึงขออนุญาตนางพยาบาล ขอย้ายเตียงไปอยู่ริมหน้าต่าง เพื่อจะได้เห็นทิวทัศน์ภายนอก นางพยาบาลก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เธอย้ายเตียงคนไข้ไปอยู่ริมหน้าต่างแทนเตียงเก่า หลังจากแน่ใจว่าคนไข้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เธอก็หันไปทำกิจอย่างอื่นในห้อง

คนไข้ที่ย้ายมาริมหน้าต่างรู้สึกดีใจมาก เขาพยายามยันตัวในท่านั่ง เพื่อจะได้เห็นทิวทัศน์จากภายนอกหน้าต่าง ในใจคิดว่าต่อไปนี้เราจะได้เห็นทุกอย่างด้วยตัวเองซะที เมื่อได้มีโอกาสมองไปนอกหน้าต่าง เขากลับเห็นแต่ฝาหนังทึบกั้นอยู่ ไม่ปรากฏมีทิวทัศน์สวยงามอย่างที่เคยได้ยินจากเพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว

คนไข้จึงหันมาถามนางพยาบาลว่า เพื่อนเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไป ได้บรรยายความสวยงามทั้งหลายตลอดระยะเวลาอันยาวนานได้อย่างไร นางพยาบาลกล่าวแก่เขาว่า ความจริงแล้วเพื่อนของคุณที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น เป็นคนตาบอด เขาไม่มีทางเห็นแม้กระทั่งกำแพงที่กั้นอยู่ด้วยซ้ำไป

พยาบาลกล่าวยิ้มๆว่า "บางที เขาคงพยายามให้กำลังใจคุณมากกว่า"

บทสรุป การทำให้ผู้อื่นมีความสุข เป็นความสุขอย่างยิ่งสำหรับผู้ให้ ตัวเราจะเป็นอะไรไม่สำคัญ การร่วมทุกข์อาจทำให้ความทุกข์แบ่งเป็นสองส่วนได้ แต่การร่วมสุข ผลได้กลับเป็นสองเท่าเสมอ ถ้าอยากรู้สึกว่าตนเองรวย ก็ให้สำรวจสิ่งทั้งหลายที่คุณมีซึ่งไม่อาจซื้อได้ด้วยเงิน สิ่งที่คุณมีและเงินซื้อไม่ได้ก็คือ "การที่คุณมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะนี้ไง"

ฉะนั้นจงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันคือ "ของขวัญ" ที่คุณทุกคนล้วนได้มาและเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้

อานุภาพแห่งความดี




การทำความดี หมั่นสร้างบุญกุศล ไม่เพียงช่วยให้มีชีวิตที่ผาสุกเท่านั้น หากยังอำนวยให้มีความสุขในเวลาละโลกนี้ไป ดังพระพุทธองค์ตรัสว่า “บุญย่อมทำให้เกิดสุขในเวลาสิ้นชีวิต”

คนเป็นอันมากกลัวตายก็เพราะไม่แน่ใจว่าเมื่อตายแล้วจะไปไหน จะไปทุคติหรือไม่ แต่ความกลัวเช่นนี้จะไม่เกิดกับผู้ที่มั่นใจในความดีที่ทำมาทั้งชีวิต เพราะรู้ดีว่าบุญกุศลที่ได้ทำนั้นย่อมส่งผลให้ไปสู่สุคติ ในชาดกตอนหนึ่ง พระโพธิสัตว์ได้กล่าวอย่างองอาจว่า “ข้าพเจ้าไม่มีความชั่ว ซึ่งทำไว้ ณ ที่ไหน ๆ เลย ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่หวั่นเกรงความตายที่จะมาถึง”

อย่างไรก็ตามผู้ที่จะมั่นใจในความดีของตนถึงขนาดนั้น เห็นจะมีไม่มาก คนส่วนใหญ่ย่อมมีบ้างที่พลั้งเผลอทำความชั่ว หรือทำสิ่งที่ไม่สมควร และหากเป็นคนไกลวัด ใจไม่แนบแน่นกับธรรมะ ก็ย่อมหวั่นไหวเมื่อความตายใกล้เข้ามา ส่วนหนึ่งกลัวว่าจะไปอบาย แต่มีจำนวนไม่น้อยที่กลัวเพราะจะต้องพลัดพรากจากทุกอย่างที่รักและหวงแหน รวมทั้งชีวิตนี้

ความกลัวดังกล่าวทำให้ผู้คนเป็นอันมากไม่สามารถตายอย่างสงบได้ มิพักต้องเอ่ยถึงความเจ็บปวดทางกาย และความทุกข์ทางใจที่รุมเร้าในยามใกล้ตาย ทำให้จิตใจกระสับกระส่ายและทุรนทุรายจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ในยามนี้สิ่งหนึ่งที่จะช่วยน้อมใจให้สงบจนสิ้นลมก็คือ การระลึกถึงสิ่งดีงามอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ สำหรับชาวพุทธก็ได้แก่ พระรัตนตรัย หรือพระโพธิสัตว์ เป็นต้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งเหล่านี้ หากผู้ใดศรัทธานับถืออยู่ก่อนแล้ว เมื่อระลึกนึกถึงคราใดย่อมเกิดความอบอุ่นใจ และมั่นใจว่าจะได้รับการปกป้องคุ้มครองจนปลอดภัย ความอบอุ่นและมั่นใจดังกล่าวเป็นโอสถอย่างดีที่เยียวยาจิตใจให้หายทุกข์ บรรเทาความกระสับกระส่ายให้คลายไป

ส่วนผู้ไกลวัด ที่ไม่รู้สึกแนบแน่นกับพระรัตนตรัย ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสพบกับความสงบใจในวาระสุดท้าย เพราะอย่างน้อยยังมีสิ่งดีงามอีกอย่างหนึ่งที่ควรแก่การระลึกนึกถึง นั่นคือความดีที่ตนได้ทำ มนุษย์ทุกคนย่อมเคยกระทำความดีมาแล้วไม่มากก็น้อย ความดีเหล่านี้ไม่เคยสูญเปล่า ยังสามารถช่วยเหลือเราได้ในยามใกล้ตาย

พระไพศาล วิสาโล

http://www.visalo.org/article/secret255211.htm

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

หั่นมะเขือเตรียมแกงทีไร มีปัญหาเรื่องสีดำคล้ำทุกที


หั่นมะเขือเตรียมแกงทีไร มีปัญหาเรื่องสีดำคล้ำทุกที แก้ไขด้วยการแช่ชิ้นมะเขือที่หั่นแล้วในน้ำผสมเกลือแกง 1-2 ช้อนชา ก่อนนำไปประกอบอาหาร
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 6 พ.ค.2556

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ทำงานให้มีสุข 4 วิธี


ทำงานให้มีสุข 4 วิธี
1. มองให้เห็นคุณค่าของงาน การงานทุกอย่างถ้าไม่ใช่อาชีพทุจริต ล้วนแต่มีคุณค่าแฝงอยู่ในการงานทั้งนั้น ดังนั้นขอเพียงแต่คุณรู้จักมองให้เห็นคุณค่าของมัน แล้วสร้างความประทับใจในงานที่คุณทำอย่างสุดซึ้ง ความรักความประทับใจในการงานของคุณนี้เอง ที่จะเป็นพลังใจทำให้คุณสามารถต่อสู้งานที่ยากลำบาก หรือ น่าเบื่อหน่ายต่อไปได้

ย้ำอีกคร้งว่า ขอให้คุณสร้างความภูมิใจในสิ่งที่คุณทำ คือ มีความมั่นใจในงานที่คุณทำว่าเป็นงานที่มีคุณค่า ความรักความมั่นใจในสิ่งที่คุณทำนั่นแหละครับ ที่จะเป็นพลังใจสำคัญทำให้คุณทำงานของคุณอย่างมีความสุข

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย คุณก็ควรจะคิดว่าหน้าที่ของคุณนั้นสำคัญที่สุดในโลก คือ ถ้าบริษัทขาดคุณไป บริษัทก็จะไม่มั่นคงปลอดภัยทันที หรือ ถ้าหากคุณเป็นพนักงานบัญชี คุณก็ควรจะคิดว่า บริษัทต้องพึ่งพาอาศัยคุณ นี่ถ้าบริษัทไม่มีคุณมาช่วยงาน บริษัทจะต้องประสบปัญหาเรื่องบัญชีจนวุ่นวายแน่ ๆ หรือถ้าคุณเป็นแม่ค้าขายข้าวแกง คุณก็ควรจะคิดว่า การที่ลูกค้าทุก ๆ คนได้พ้นจากความหิวโหย รอดชีวิตไปได้ในวันนี้ ก็เพราะคุณได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้นั่นเอง (ขืนใครไม่กินข้าวก็ตายสิครับ)

สรุปอีกทีคือ มองให้เห็นคุณค่าในงานที่คุณทำอยู่ว่าได้ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อใคร ทำประโยชน์ให้แก่ใครได้บ้าง คิดให้ได้อย่างนี้แล้วสร้างความภูมิใจ ความมั่นใจในการงานของตนเอง ชีวิตการทำงานของคุณก็จะมีความสุขมากขึ้นเป็นกองเลยทีเดียวครับ

2. กระตือรือร้นอยู่เสมอ สร้างอริยาบถของคุณให้มีกระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวา ทำให้ติดจนเป็นนิสัย คุณก็จะพลอยมีความกระตือรือร้นในการทำงานไปด้วย ความรู้สึกกระตือรือร้นนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาได้ครับ เวลาที่คุณอยู่คนเดียวในห้อง ให้คุณลองทำดูเล่น ๆ ก็ได้ คือ คุณลองทำโน่นทำนี่อย่างเนือย ๆ เฉื่อยแฉะสัก 5 นาที จากนั้นให้เปลี่ยนบุคลิกใหม่คราวนี้ลองทำอะไรต่ออะไรด้วยท่าทีกระฉับเฉงว่องไวดูสัก 5 นาที ลองเปรียบเทียบดูสิครับ คุณจะพบว่าความรู้สึกมันต่างกันลิบลับเลยเดียว

คนที่มีความรู้สึกกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรมันก็ดูน่าสนุกไปหมด ดังนั้นในแต่ละวัน หากคุณลองทำตัวให้เป็นคนที่กระตือรือร้นขึ้นมาสักวันละครึ่งชั่วโมงกับการงานอะไรก็ได้ ให้คุณลองตั้งกติกากับตัวเอง ว่า คุณจะเป็นคนActive วันละครึ่งชั่วโมง ดูสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ในที่สุดคุณจะพบด้วยตัวของคุณเองว่า ทุก ๆ วันที่คุณฝึกทำงานอย่างว่องไวตื่นตัวอยู่เสมอ ความกระตือรือร้นของคุณมันจะค่อย ๆ ขยายตัวออกไป สู่กิจกรรมอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันก็จะกลายเป็นบุคลิกใหม่ของคุณอย่างถาวร คือเป็นคนทำงานอย่าง สนุกสนานมีชีวิตชีวาด้วยความกระตือรือร้นนั่นเอง

3.ฝึกสมาธิกับการงาน การงานบางอย่างมันก็ดูน่าเบื่อน่าเซ็ง จริงๆเสียด้วย มันจะไม่น่าเบื่อได้อย่างไร ก็ต้องทำซ้ำ ทำซาก หาความหมายอะไรไม่ได้เลย ทำไปเบื่อไปเมื่อใดจะเลิกงานเสียที ถ้าใครคิดอย่างนี้นาน ๆ จะพาลเป็น โรคประสาท เพราะจิตใจไม่มีความสุขกับการทำงาน ต้องฝืนใจทำไปวัน ๆ

ใครพบกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็ให้ใช้วิธีนี้สิครับ คือฉวยโอกาสฝึกสมาธิกับงานเสียเลยเป็นอย่างไร คือได้ทั้งความสงบใจ และได้ทั้งผลของงาน การทำสมาธิกับการทำงานอาจจะใช้วิธีง่าย ๆ ด้วยการกำหนดรู้อริยาบถ คือแต่ละขั้นตอนของการเคลื่อนไหวร่างกาย ให้มีสติติดตามทันไปในทุกอริยาบถ โดยก่อนที่เราจะเริ่มทำงาน ให้มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเราจะไม่คิดอะไรนอกเรื่องนอกราวในขณะทำงาน แต่จะใช้ความคิดมากำหนดการเคลื่อนไหวทุกอริยาบถ เพื่อให้จิตเกิดเป็นสมาธิ มันจะได้เกิดความปีติสุขในขณะทำงาน วิธีทำก็ไม่ยาก ลองดูสิครับ

ยกตัวอย่าง สมมุติว่าคุณต้องประทับตรายางซองจดหมายสองร้อยซอง ก็ให้คุณกำหนดจิตลงไปแต่ละขั้นตอนของอริยาบถ เช่น " หยิบจดหมาย - วางซองเข้าที่- จับตรายาง-กดผ้าหมึก-ปั๊มลงไป- เลื่อนซองออก-หยิบ ซองใหม่-วางซองเข้าที่-จับตรายาง-กดผ้าหมึก ฯลฯ " ใส่ใจจดจ่อการเคลื่อนไหวทุกๆอริยาบถ พร้อมกับ ใช้ความคิดของคุณกำหนดรู้ลงไป (พูดในใจตามอริยาบถที่เปลี่ยนไป) เพื่อไม่ปล่อยให้ความคิดลอยหนีไปเรื่องอื่น เชื่อไหมครับว่า กว่าคุณจะปั๊มซองเสร็จ บางทีจิตของคุณอาจจะเกิดตั้งมั่นเป็นสมาธิ ทำให้มีความปีติสุข ราวกับว่าอยู่บนสรวงสวรรค์เลยก็เป็นได้

สรุปง่าย ๆว่า ถ้าคุณรู้จักทำสมาธิในขณะทำงาน ก็เหมือนกับว่าคุณได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นในขณะทำงานเลยทีเดียวครับ

4.สนุกกับการทดลองปรับปรุงคุณภาพของงาน การงานทุกอย่างมีเรื่องท้าทายอยู่ในตัวของมันเองเสมอว่า คุณจะสามารถปรับปรุงให้มันมีคุณภาพดีขึ้นได้หรือไม่ ดังนั้นในแต่ละวันที่คุณมาทำงาน คุณอาจสนุกกับการเฟ้นหาปัญหาในที่ทำงานนำมาลองฝึกคิดแก้ไขดู คิดเสียว่าเป็นการท้าทายสติปัญญาของคุณว่าคุณสามารถจะทำได้หรือไม่ อาทิเช่น ทำอย่างไรถึงจะประหยัดทรัพยากร ประหยัดเวลา หรือ ทำอย่างไรผลผลิตจึงจะเพิ่มมากขึ้น หรือ ทำอย่างไรจึงจะวางแผนงานให้เป็นลำดับไม่ลัดขั้นตอน ฯลฯ ลองทำเรื่องเหล่านี้ให้มันดูน่าสนุก เหมือนกับเล่นเกมประเภทฝึกสมองลองปัญญาอะไรทำนองนั้น

สรุปอีกครั้ง คือให้หาเรื่องมาท้าทายสมอง มองหาปัญหาให้เจอแล้วคิดแก้ไขปรับปรุง ถ้าทำได้อย่างนี้ทุกวัน การงานมันก็จะไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอนครับ แถมยังฉลาดขึ้นทุกวันอีกต่างหาก

ยกตัวอย่าง สมมุติว่าคุณเป็นพนักงานOffice วันนี้คุณอาจจะคิดคำนวณดูเล่น ๆ ว่า วัน ๆ หนึ่งเราใช้กระดาษ แบบไม่ประหยัดไปเท่าใด จะหาวิธีปรับปรุงอย่างไรให้มันประหยัดมากขึ้น คิดให้มันเป็นตัวเลขออกมาเลยครับ คำนวณดูว่าวันๆหนึ่งใช้เปลืองไปเท่านี้ ถ้าคูณกับหนึ่งปี มันจะเปลืองไปอีกสักเท่าใด อะไรทำนองนั้น พอวันต่อๆ ไปก็หาเรื่องอื่น ๆ มาคิดท้าทายสมองเล่นอีก เช่น จัดโต๊ะอย่างไรถึงจะนั่งทำงานไม่เสียสุขภาพ , วางอุปกรณ์ สนง. อย่างไรถึงจะหยิบก็ง่ายหายก็รู้ , ฯลฯ ทีนี้พอหมดเรื่องรอบโต๊ะ คุณอาจจะไปมองหาปัญหาอื่น ๆ ในบริษัทมานั่งฝึกสมองเล่นก็ได้ ยิ่งเป็นการดีเสียอีก เพราะนั่นแสดงว่าคุณกำลังพัฒนาตนเองให้เป็นนักบริหารที่ดีในอนาคต ทำอย่างนี้ได้ทุกวันรับ รองว่าชีวิตการทำงานของคุณจะต้องพบกับความก้าวหน้าอย่างแน่นอน

โลกธรรม บททดสอบ การละ"ตัวกู-ของกู"


โลกธรรม บททดสอบ การละ"ตัวกู-ของกู"

โลกธรรมเป็นเรื่องนอกตัวทั้งนั้น ได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุขหรือทุกข์ ล้วนเป็นเรื่องที่คนอื่นทำกับเรา

ลาภคือสิ่งที่เราได้จากคนอื่น เสื่อมลาภเกิดขึ้นเมื่อคนอื่นเอาไป หรือแย่งชิงไป ได้ยศก็เพราะมีคนหามาให้ เสื่อมยศก็เพราะมีคนเอาไป มันเป็นเรื่องนอกตัวทั้งนั้น

ถ้าเรายังหวั่นไหว กับสิ่งนอกตัว เพราะยังมีความยึดติดแบบหยาบ ๆ ก็ยากที่จะรับมือกับกิเลสอวิชชา ซึ่งเป็นเรื่องที่ประณีตลึกซึ้งมากกว่า

จะมองโลกธรรมเป็นเสมือนแบบฝึกหัดขั้นต้นและขั้นกลางก็ได้ แต่ผู้ปฏิบัติธรรมจำนวนมากก็ยังหลุดไม่ได้ แม้จะไม่สนใจเรื่องทรัพย์ แต่กลับติดเรื่องสรรเสริญนินทา จึงเป็นเสมือนภูเขากั้นทางสู่พระนิพพาน โลกธรรม เช่น ยศ ตำแหน่ง คำสรรเสริญ คำนินทา เป็นเรื่องสมมติ เห็นได้ไม่ยากว่าเป็นของชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่เป็นของเราจริง ๆ เป็นของที่คนอื่นเขาให้มา ให้มาแล้วก็เอาไปได้ เวลาพอใจเขาก็ชมเรา แต่พอเขาไม่พอใจ เขาก็เปลี่ยนจากชมเป็นด่า ยศ ตำแหน่งก็เช่นเดียวกัน เขาให้มาแล้วก็ถอดถอนเอาไปได้ เห็นได้ง่ายเลยว่า มันไม่เที่ยง ไม่ใช่ของเรา...

ถ้าเทียบกับกาย-ใจซึ่งอยู่กับเรามาตลอด ความไม่จีรังของร่างกายและใจก็ยังพอเห็นอยู่ แต่การที่จะเห็นว่ามันเป็นทุกข์ล้วน ๆ และไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นเรื่องยากมาก ขนาดโลกธรรมซึ่งเป็นสิ่งนอกตัว ก็ยังหลงว่าเป็นเรา เป็นของเรา หรือเพลิดเพลินว่าเป็นความสุข ถ้ายังมองไม่เห็นว่า (กาย-ใจ) มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา และเจือไปด้วยทุกข์มาก เราจะเป็นอิสระเข้าถึงพระนิพพานได้อย่างไร

โลกธรรมจึงเป็นเสมือนบททดสอบสำคัญที่เราต้องผ่านให้ได้ ถ้าผ่านไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดถึงนิพพาน ไม่ต้องพูดถึงความเป็นอิสระหรือความสุขแท้

พระไพศาล วิสาโล
จาก หนังสือ เส้นผมบังความสุข

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

วิธีขอดเกล็ดปลาง่ายๆ


วิธีขอดเกล็ดปลาง่ายๆ ทาน้ำส้มสายชูให้ทั่วตัวปลาแล้วขอดเกล็ด เกล็ดปลาจะหลุดโดยง่าย เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำส้มสายชู ช่วยให้ไม่เหม็นคาว
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 6 พ.ค.2556

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ทัศนคติของคนต่างชาติมองการทำงานของคนไทย....


ทัศนคติของคนต่างชาติมองการทำงานของคนไทย....
เราคว้าตัวฝรั่งมาทั้งหมด 12 คน ซึ่งแต่ละคนโชกโชนกับการทำงานในแวดวงคนไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปี
เมื่อถามว่าพวกเค้ามีความเห็นอย่างไรกับการทำงานแบบไทยๆ เราก็ได้คำตอบว่า:

1. ทัศนคติต่อการเปลี่ยนแปลง คนไทยมักจะยึดติดกับความเคยชินแบบเดิมๆ เคยทำมาอย่างไรก็จะทำอยู่อย่างนั้น
ไม่ค่อยมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง และถ้าฝรั่งเอาวิธีใหม่ๆ เข้ามาทำให้พวกเขาต้องทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม
ก็จะถูกมองว่าเป็นการสร้างความรำคาญให้พวกเขา มักจะไม่ค่อยได้รับความร่วมืออย่างเต็มที่หรือไม่ก็ถึงกับถูกต่อต้านก็มี
- เจฟฟรีย์ บาร์น

2. การโต้แย้ง
เมื่อมีการเจรจา คนไทยจะไม่กล้าโต้แย้งทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังเสียเปรียบ ส่วนใหญ่มักจะปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนคุมเกม
บางคนบอกว่ามีนิสัยอย่างนี้เรียกว่า " ขี้เกรงใจ " แต่สำหรับฝรั่งแล้ว นิสัยนี้จะทำให้คนไทยไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร
- ทานากะ โรบิน (จูเนียร์) ฟูจฮาระ

3. ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด
เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของคนไทยคือ มักจะไม่ค่อยกล้าบอกความคิดของตัวเองออกมาทั้งๆ ที่คนไทยก็มีความคิดดีไม่ไม่แพ้ฝรั่งเลย
แต่มักจะเก็บความสามารถไว้ ไม่บอกออกมาให้เจ้านนายได้รู้ และจะไม่กล้าตั้งคำถาม
บางทีฝรั่งก็คิดว่าคนไทยรู้แล้วเลยไม่บอกเพราะเห็นว่าไม่ถามอะไร ทำให้ทำงานกันไปคนละเป้าหมาย หรือทำงานไม่สำเร็จ เพราะคนที่รับคำสั่งไม่รู้ว่าถูกสั่งให้ทำอะไร
- ไมเคิล วิดฟิล์ค

4. ความรับผิดชอบ
1. ฝรั่งมองว่าคนไทยเรามักทำไม่ค่อยกำหนดระยะเวลาในการทำงานไว้ล่วงหน้า
ทั้งๆทีงานบางชิ้นต้องทำให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดยิ่งงานไหนให้เวลาในการทำงานนาน
ก็จะยิ่งทิ้งไว้ทำตอนใกล้ๆ จะถึงกำหนดส่ง เลยทำงานออกมาแบบรีบๆ ไม่ได้ผลงานดีเท่าที่ควร
2. ไม่ค่อยยอมผูกพันและรับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าให้เซ็นชื่อรับผิดชอบงานที่ทำคนไทยจะกลัวขึ้นมาทันที
เหมือนกับกลัวจะทำไม่ได้ หรือกลัวจะถูกหลอก
- สเตฟานี จอห์นสัน

5. วิธีแก้ไขปัญหา
คนไทยไม่ค่อยมีแผนการรองรับเวลาเกิดปัญหา แต่จะรอให้เกิดก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ไปแบบเฉพาะหน้า
หลายคั้งที่ฝรั่งพบว่าคนไทยไม่รู้จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรต้องรอให้เจ้านายสั่ง
ลงมาก่อนแล้วค่อยทำตามถ้านายเจ้านายไม่อยู่ทุกคนก็จะประสาทเสียไปหมด
- ดร.มาเรีย โรเซนเบิร์ก

6. บอกแต่ข่าวดีคนไทยมีความเคยชินในการแจ้งข่าวที่แปลกมาก คือ
1. จะไม่กล้าบอกผู้บังคับบัญชาชาวต่างชาติเมื่อเกิดปัญหาขึ้น จนกระทั่งบานปลายไปเกินแก้ไขได้จึงค่อยเข้ามาปรึกษา
2. จะเลือกบอกแต่สิ่งที่คิดว่าเจ้านายจะชอบ เช่น บอกแต่ข่าวดีๆ แทนที่จะเล่าไปตามความจริงหรือถ้าหากเจ้านายถามว่า
จะทำงานเสร็จทันเวลาๆไหม ก็จะบอกว่าทัน (เพราะรู้ว่านายอยากได้ยินแบบนี้) แต่ก็ไม่เคยทำทันตามเวลาที่รับปากเลย
- โจนาธาน ธอมพ์สัน

7. คำว่า " ไม่เป็นไร "
เป็นคำพูดที่ติดปากคนไทยทุกคน ทำให้เวลามีปัญหาก็จะไม่มีใครรับผิดชอบ และจะไม่ค่อยหาตัวคนทำผิดด้วยเพราะเกรงใจกัน
แต่จะใช้คำว่า " ไม่เป็นไร " มาแก้ปัญญหาแทน
- เจนิส อิกนาโรห์

8. ทักษะในการทำงาน
1. ไม่สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ ถ้าทำงานเป็นทีมมักมีปัญหาเรื่องการกินแรงกันบางคนขยันแต่บางคนไม่ทำอะไรเลย
บางทีก็มีการขัดแย้งกันเองในทีม หรือเกี่ยงงานกันจนผลงานไม่คืบหน้า
2. ไม่ค่อยมีทักษะในการทำงาน แม้จะผ่านการศึกษาในระดับสูงมาแล้ว และไม่ค่อยใช้ความพยายามอย่างเต็มทีเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด
3. พนักงานชาวไทยที่รู้จัก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้สึกกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เรื่องร าวความเคลื่อนไหวของโลกเท่าไรนัก
แล้ไม่ค่อยชอบหาความรู้เพิ่มเติมแม้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานก็ตาม
- เดวิด กิลเบิร์ก

9. ความซื่อสัตย์
พนักงานคนไทยควรจะมีความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมามากกว่านี้ หลายครั้งที่ชอบโกหกในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น มาสาย
ขาดงานโดยอ้างว่าป่วย ออกไปข้างนอกในเวลางาน
- เฮเบิร์ก โอ ลิสส์

10. ระบบพวกพ้อง
คนไทยมักจะนำเพื่อนฝูงมาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเสมอ ผมไม่เคยชอบวิธีนี้เลย ตัวอย่างเช่น การจัดซื้อข้าวของภายในสำนักงาน
พวกเขามักจะแนะนำเพื่อนๆ มาก่อนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่บริษัทควรจะได้รับ นี่เป็นประสบการณ์จริงที่ประสบมา
การให้ความช่วยเหลือเพื่อนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเลยเป็นอะไรที่แย่มาก
และเมื่อพบว่าเพื่อนพนักงานด้วยกันทุจริต คนไทยก็จะช่วยกันปกป้อง และทำให้ไม่รู้ไม่เห็นจนกว่าผู้บริหารจะตรวจสอบได้เอง
- มาร์ค โอเนล ฮิวจ์

11. แยกไม่ออกระหว่างเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว
คนไทยมักจะไม่รู้ว่าอะไรว่าอะไรคือเรื่องงาน และอะไรที่เรียกว่าเรื่องส่วนตัว
พวกเขาชอบเอาทั้งสองอย่างนี้มาปนกันจนทำให้ระบบการทำงานเสียไปหมด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งขององค์กร
1. ชอบสอดรู้สอดเห็น โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน
2. มักจะคุยกันเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับงานมากเกินไป บางครั้งทำให้บานปลายและนำไปสู่ข่าวลือ และการนินทากันภายในสำนักงาน
3. มักจะลาออกจากบริษัทโดยไม่ยอมแจ้งล่วงหน้าตามข้อตกลง แต่กลับคาดหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์เต็มที
4. ไม่ยอมรับความผิดชอบที่มีมากขึ้นในช่วงวิกฤติ
5. ต้องการเงินมากขึ้นแต่กลับไม่ค่อยสร้างคุณค่างานอะไรเพิ่มขึ้นเลย
- วิลเลี่ยม แมคคินสัน

12. นับถือระบบอาวุโส
คนไทยให้เกียรติคนที่อายุมากกว่ามากเกินไป จนไม่กล้าทำอะไรที่เรียกว่าเป็นการข้ามหน้าข้ามตา
บางครั้งคนที่อายุน้อยกว่าอาจจะมีความคิดความสามารถมากกว่า แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกเพราะเกรงใจคนที่อายุมาก
เป็นการทำลายโอกาสของตัวเอง และโอกาสของบริษัท
- เนลสัน ฟอร์ด

ปรับปรุงกันนะ แต่ว่าก็ให้ผู้บริหารบางคนต้องปรับปรุงตามด้วยนะ เพราะว่าพอมีพนักงานโต้แย้ง แต่ก็ไม่รับฟังเหตุผลก็มี
ก็เลยไม่ค่อยมีใครอยากจะโต้แย้งซักเท่าไร อยู่ไม่ได้ก็ลาออกไป

เงินแค่เช่าความสุขเท่านั้น ไม่ใช่ซื้อความสุข


เงินแค่เช่าความสุขเท่านั้น ไม่ใช่ซื้อความสุข
เช่าความสุขหมายความว่า
มันให้ความสุขเพียงชั่วคราว ...

ถ้าใช้เงินเพื่อเสพ ก็แค่เช่าความสุข
แต่ถ้ามีแล้วให้หรือแบ่งปัน
ความสุขก็จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน
เป็นสุขที่ประณีตกว่าการเสพวัตถุที่ซื้อด้วยเงิน

พระไพศาล วิสาโล

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

การทำปลาแดดเดียว


 การทำปลาแดดเดียว เนื้อปลา 1 กก. เกลือ 1.5 ช้อนโต๊ะ ผงชูรส 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา คลุกให้เข้ากัน หมัก 1 คืน ล้างน้ำแล้วตากแดด
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 5 พ.ค.2556

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คุณเป็นหัวหน้างานแบบไหนใน 50 ประเภท




โรคที่ 1 : โรคทำงานไร้เป้าหมาย
โรคที่ 2 : โรคสั่งงานแบบไร้สติ
โรคที่ 3 : โรคทองไม่รู้ร้อน
โรคที่ 4 : โรคชอบให้ทุกคนมีนิสัย (ประหลาด) เหมือนตัวเอง
โรคที่ 5 : โรคชอบพูดว่า ประตูห้องของผมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นเสมอ (แต่.. ผมไม่เคยเปิดประตูเลย)
โรคที่ 6 : โรคชีวิตนี้ (ตู) มีแต่งาน งาน งาน
โรคที่ 7 : โรคเพื่อนเราชอบเผาเรือน
โรคที่ 8 : โรคชอบใช้ศัพท์หรูๆ
โรคที่ 9 : โรคทำตัวไร้ตัวตน
โรคที่ 10 : โรคผู้บังคับบัญชานาซี
โรคที่ 11 : โรคไม่มีปัญหาครับท่าน
โรคที่ 12 : โรคเสมือนจริงใจ
โรคที่ 13 : โรครู้ไปหมดซะทุกเรื่อง
โรคที่ 14 : โรคทำงาน (ลึก) ลับอะไรไม่รู้
โรคที่ 15 : โรค "เลื่อนขั้นเหรอ" ชาติหน้าบ่ายๆ
โรคที่ 16 : โรคตัดสินใจ ทำไมยากจัง!
โรคที่ 17 : โรคแค้นฝังหุ่น
โรคที่ 18 : โรคหวงก้างไว้ทำเกลือหรือไง?
โรคที่ 19 : โรคคลั่งไคล้การประชุม (บ้าหรือปล่าว?)
โรคที่ 20 : โรคมีลูกน้องเหมือนจะฉลาด
โรคที่ 21 : โรคชอบชมลูกน้องจัง! (แต่ลับหลังคนอื่นฮ่ะ!)
โรคที่ 22 : โรคดีเป็นของตัว ชั่วเป็นของคนอื่น (ลูกน้อง!)
โรคที่ 23 : โรคชอบแทงข้างหลังคนอื่น (น่ากลัวจังเลยฮ่ะ!)
โรคที่ 24 : โรคจุ้นจ้านไปหมดทุกเรื่อง (คุณเป็นแม่หรือเป็นเจ้านายกันแน่?)
โรคที่ 25 : โรคชอบเล่าเรื่องโจ๊ก (แต่มันไม่ค่อยตลกเลย..เจ้านาย!)
โรคที่ 26 : โรคเดี่ยวไมโครโฟน (บ้าน้ำลายจริงๆ จ๊ะ!)
โรคที่ 27 : โรคฉันชอบประชุมตอนเช้า ใครจะทำไม?
โรคที่ 28 : โรคไม่ชอบประชุมเอาซะเลยกับเจ้านาย)
โรคที่ 29 : โรคเก่งคนเดียว คิดคนเดียว (แต่ตอนลงมือทำ ลูกน้องเพียบ!)
โรคที่ 30 : โรคลูกน้องทะเลาะกันเหรอ? ฉันไม่สนใจหรอกย่ะ
โรคที่ 31 : โรคมีลูกน้องที่คิดว่า ตัวเองเป็น Superman
โรคที่ 32 : โรคข้าพเจ้าถูกแต่เพียงผู้เดียว
โรคที่ 33 : โรคชอบมีไอเดียใหม่ หลังลูกน้องทำงานเสร็จ
โรคที่ 34 : โรคสะกดไม่เป็นหรอก คำว่า โอ.ที. น่ะ
โรคที่ 35 : โรคลดขนาดองค์การเหรอ? อืม ตัวใครตัวมัน
โรคที่ 36 : โรคพนักงานชั่วคราวเหรอ เมินซะเถอะ!
โรคที่ 37 : โรคไม่เคยติดตามการทำงานของลูกน้อง
โรคที่ 38 : โรคเตรียมพร้อมแปลว่าอะไร (ไม่รู้จักจริงๆ น่ะ!)
โรคที่ 39 : โรคจมกองเอกสารแต่งานไม่คืบหน้าไปไหน
โรคที่ 40 : โรค "เงิน" เท่านั้นคือการตอบแทน (ชอบกะตังส์ ฮิฮิ)
โรคที่ 41 : โรค "คุณภาพ" เหรอ? อืม! แปลว่าอะไรล่ะ
โรคที่ 42 : โรคจำลูกน้องคนโปรดได้คนเดียว!
โรคที่ 43 : โรคประเมินผลงานด้วยวิธีที่ฉลาดน้อยที่สุด
โรคที่ 44 : โรคชอบสะสม "ระเบิดเวลา"
โรคที่ 45 : โรคไว้ใจลูกน้องไม่เคยสำเร็จ
โรคที่ 46 : โรคปฏิเสธใครไม่เป็น (คนดีจริงๆ ฮ่ะ!)
โรคที่ 47 : โรคปกครองระบบทาส
โรคที่ 48 : โรคยิ่งเครียดยิ่งผิดพลาด----->ยิ่งพาล
โรคที่ 49 : โรคมนุษย์ผู้สมบูรณ์แบบ (ตลอดกาล!)
โรคที่ 50 : โรคมนุษย์เจ้าปัญหา agree สะมะจึ๋ย

ช่วงเข้าพรรษา กิจของพระสงฆ์มีอะไรบ้าง


Keerati Sarakorn - กราบนมัสการ ในช่วงเข้าพรรษา กิจของพระสงฆ์มีอะไรบ้างหรือคะ กำลังนำไปอธิบายเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนถึงเรื่องนี้ค่ะ อยากให้แนะนำ พระธรรมวินัยที่เกี่ยวข้อง ให้ไปศึกษาต่อก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

พระไพศาล วิสาโล - ช่วงเข้าพรรษา พระสงฆ์ไม่ได้มีกิจพิเศษอันใดที่แตกต่างจากตอนก่อน/ออกพรรษา มีอย่างเดียวคือเมื่อมีกิจจำเป็นไปจำวัดที่ไหนได้ไม่เกิน ๖ คืน หรือ ๗ วัน

สำหรับกิจวัตรของพระสงฆ์นั้น ได้แก่ ทำวัตรสวดมนต์ (เช้า-เย็น) บิณฑบาต กวาดลานวัด ปลงอาบัติ สวดปาฏิโมกข์ (ทุกวันที่ ๑๔ หรือ ๑๕ค่ำของเดือน คือทุกปักษ์) ศึกษาพระธรรมวินัย และทำกรรมฐาน นอกนั้นอาจมีกิจส่วนรวม เช่น ซ่อมแซมกุฏิวิหาร ถ้าสนใจรายละเอียด หาอ่านได้จาก “บวช ๓ เดือน” ของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ หรือ “สอนนาค-สอนฑิต ชีวิตพระ ชีวิตชาวพุทธ” ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

สูตรปราบไรไข่ปลาเห็ด


สูตรปราบไรไข่ปลาเห็ด ใบน้อยหน่า, ข่า, ตะไคร้หอม อย่างละ 3 กก.+ กากน้ำตาล1กก. + หัวเชื้อหน่อกล้วย 0.5 ลิตร+น้ำ 10 ลิตร หมัก 15วัน ใช้ 100cc /น้ำ 20 ลิตร
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 7 พ.ค.2556

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

18 นิยามความรักและชีวิต


18 นิยามความรักและชีวิต
1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง
2. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว
3. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป
4. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน จนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูแห่งความสุขบานอื่น ที่เปิดไว้รอ
5. เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด
6. เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป... แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งผลของสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา
7. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคน ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเราเอง
8. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ
9. อย่าบอกลา ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณยังไม่สามารถ "ทำใจ"
10. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดและมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
11. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียวสามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส
12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นอาจใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครอาจใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครอาจใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
13. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข
14. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน
15. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่าเราต้องการเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฎในตัวเขา
16. คนที่มีความสุขที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก
17. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่ถูกลืม คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางจากความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ
18. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ...

คนเราทุกข์เพราะจิตแส่ส่าย


คนเราทุกข์เพราะจิตแส่ส่าย
เนื่องจากต้องการความสุข
แล้วคิดว่าความสุขอยู่ข้างนอก

แต่จริง ๆ แล้วความสุขอยู่ข้างใน
พบได้เมื่อใจสงบ
สงบจากความอยาก
ความว้าวุ่น ขุ่นเคืองรำคาญใจ
ก็ช่วยให้เกิดความสงบที่ลุ่มลึกขึ้น
แม้ยังไม่ได้ทำสมาธิภาวนาแบบเข้าถึงฌานสุขเลยก็ตาม

พระไพศาล วิสาโล

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

การให้ปลากินกล้วยสุก


การให้ปลากินกล้วยสุก โดยปลาตัวเล็กกินอาหารสำเร็จสลับกล้วยฝานชิ้นเล็ก เมื่อโตขึ้นกินพร้อมเปลือกทั้งลูก ปลาจะโตเร็ว เนื้อแน่น รสหวาน
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 8 พ.ค.2556

ช่วงที่อากาศร้อน ปลาจะเครียด


ช่วงที่อากาศร้อน ปลาจะเครียด กินอาหารได้น้อยลง ควรลดปริมาณอาหารและกางสแลนดำคลุมกระชังปลา หรือบ่อเลี้ยงเพื่อควบคุมอุณหภูมิ
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 11 พ.ค.2556

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อย่าหนีปัญหา...


อย่าหนีปัญหา...
ไม่ว่าเรื่องราวนั้นจะหนักหนาสาหัสเพียงใหน
เพราะถึงแม้ว่าจะหนีไปไกลสักเท่าไหร่...
ปัญหาก็เหมือนเงื่อนปมที่รอคอยให้กลับไปคลี่คลาย...
ปัญหาไม่ใช่วัชพืช ที่ย่อยสลายไปกับผืนดินเมื่อถึงเวลา...
แต่เปรียบดังก้อนหิน วางอยู่อย่างนั้น...ตั้งอยู่อย่างนั้น...
รอคอยให้เรารวบรวมความกล้า ยกก้อนหินนั้นขึ้นมา...แล้วผลักออกไปจากเส้นทางชีวิต...

หลายคนเข้าใจผิด...
คิดว่าความกลัวเป็นเกราะคุ้มกัน ไม่ให้โดนทำร้าย...ไม่ให้ทำสิ่งที่ผิดพลาด...
แท้จริงแล้วไม่ใช่สติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ต่างหาก
ที่เป็นเครื่องนำทางให้กับความคิด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามจำไว้เถิดว่า...ความกลัว...ไม่ได้ทำให้เข้มแข็งขึ้น...

Do not be afraid of going slowly, be afraid only of standing still.
"อย่ากลัวที่จะก้าวไปช้า ๆ จงกลัวที่จะอยู่นิ่งเฉย"

ปัญหาเพื่อนบ้าน


ปุจฉา - กราบนมัสการพระอาจารย์ไพศาล กระผมมีเรื่องอยากขอคำชี้แนะครับ เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นกรรมหรืออย่างไรมีบ้านอยู่หลายหลังแต่ต้องเจอเพื่อนบ้านที่ไม่มีความเกรงใจ บ้างก็ชอบจอดรถกีดขวางทำให้เข้าออกลำบาก บ้างก็ชอบดื่มกินเปิดเพลงทำให้ก่อความน่ารำคาญ ทั้งที่ผมกับแฟนอยู่ด้วยความเกรงใจเพื่อนบ้านมากชอบอยู่อย่างเงียบๆ บางทีก็ทำให้เป็นทุกข์อย่างมากจะเข้าบ้านทีไรก็กลัวว่าวันนี้จะเจออะไรบ้าง(แต่ผมกับเพื่อนบ้านยังไม่เคยทะเลาะกันครับต่างคนต่างอยู่)หรืออาจจะเป็นเพราะผมกับแฟนชอบปฏิบัติธรรม ละเว้นสิ่งที่ไม่ดี จึงไม่ชอบความวุ่นวาย กะว่าจะซื้อบ้านอีกหลังก็กลัวเหลือเกินว่าจะเจอเข้าอีกและจะทุกข์หนักกว่าเดิมอีก ทุกวันนี้พยายามเข้าใจว่าทุกสิ่งอย่างจะให้เป็นไปอย่างใจเราทุกอย่างไม่ได้ แต่ก็อดน้อยใจไปไม่ได้ว่า ทำไมกระผมเป็นคนมีน้ำใจ ชอบทำบุญ เข้าวัดไม่เบียดเบียนใคร ทำไมต้องเจอแต่คนมาเบียดเบียน

พระไพศาล วิสาโล - การทำบุญนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรคาดหวังว่าทำบุญแล้วชีวิตจะมีแต่ความราบรื่น ถึงจะทำบุญมากมายเพียงใด ก็หนีความเจ็บป่วย ความพลัดพราก ความไม่สมหวัง และความตายไม่พ้น

ถ้าคุณตั้งความหวังว่าทำบุญแล้วชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญ ไม่เจอปัญหาเลย คุณก็ตั้งจิตไว้ผิดแล้ว เพราะปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมาล้วนเป็นธรรมดาโลก ขนาดพระพุทธเจ้าทรงเปี่ยมด้วยเมตตากรุณา ไม่เคยเบียดเบียนใคร แต่ก็ยังมีคนทำร้ายถึงขั้นหมายปองชีวิต
จะว่าไปแล้วปัญหาที่คุณเล่ามานั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โต หากคุณทำใจกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เวลาเจอเกิดเหตุร้ายแรง อันเป็นธรรมดาโลก คุณจะทำอย่างไร

ไม่ลองคิดบ้างหรือว่า ปัญหาเพื่อนบ้านนั้นเป็นการบ้านที่ฝึกฝนใจให้คุณให้มีความอดทน รวมทั้งไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่มากระทบ จะว่าไปหากเพื่อนบ้านก่อปัญหาให้แก่คุณมากจริง ๆ ก็ควรไปคุยกับเขา ขอความร่วมมือจากเขา คุยกับเขาด้วยปิยวาจา และมีเมตตาต่อเขา ที่จริงหากคุณสานสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบ้าน ด้วยการช่วยเหลือเจือจาน มีอะไรก็แบ่งปันกัน เวลาไปขอความร่วมมือจากเขา ก็จะได้การตอบสนองด้วยดี ทำบุญกับคนอื่นแล้ว อย่าลืมทำบุญกับเพื่อนบ้านด้วย

admin - ปัญหาลักษณะนี้เป็นปัญหาที่ถามกันบ่อย สามารถดูคำถามคล้าย ๆ กันได้จาก www.visalo.org

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

ฝนที่ตกในระยะนี้


ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและไม้ผลที่อยู่ในระยะผลิดอกออกผล พร้อมช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 8 พ.ค.2556

รายการเล่าข่าวยามเช้า กับ ดีเจปลาพยูน 9.50-10.00 น. 12 พ.ค.2556


รายการเล่าข่าวยามเช้า กับ ดีเจปลาพยูน 9.50-10.00 น. 12 พ.ค.2556
ฟังออนไลน์คลื่้นแห่งมิตรภาพ FM 87.75 MHZ นนทบุึรี
-  เม้าข่าวเผ็ดๆ มันส์ๆ เรื่องลดค่าเงินบาท ยุคชวลิต
-  การที่นายกหัวเราะแอ่นหน้าแอ่นหลัง หงายเงิบ คือ ....
-  เมื่อนักแถถล่มศาล อ้างว่า ไม่ใช่ผู้พิพากษา...




วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ทำไม... ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ “นิ้วนาง”


ทำไม... ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ “นิ้วนาง”

ไม่ใช่แค่เพราะเราเรียกมันว่า ring fingerแน่ๆ
มันต้องมีความหมายมากกว่านั้น

ทดลองพิสูจน์ ความมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง
ลองแบมือ 2 ข้าง ประกบเข้าหากัน (พนมมือ)
แล้วงอนิ้วกลางลงข้างใน
เอาหลังนิ้วกลาง ทั้ง 2 ข้างมาชนกัน
ทีนี้... นิ้วที่เหลือ ก็คือ โป้ง ชี้/ นาง ก้อย
ให้เอาปลายนิ้วมาชนกัน
ลองปล่อยนิ้วที่เอาปลายชนกัน
ให้ออกจากกัน ทีละนิ้ว
โดยที่ “นิ้วกลาง” ยังคงงอแตะกันอยู่
จะพบว่า... นิ้วชี้ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วโป้ง ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วก้อยก็ปล่อยจากกันได้ อย่างสบายๆ

แต่... “นิ้วนาง”
กลับปล่อยออกจากกันไม่ได้

นิ้วกลาง แทน ตัวเราเอง
นิ้วโป้ง แทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
นิ้วชี้ แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
นิ้วก้อย แทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของ
ตัวเอง มีสังคม, ครอบครัว ของตัวเอง
นิ้วนาง แทน "คู่ชีวิต"
ทีนี้ก็เหลือแค่ "คู่ชีวิต" แล้วล่ะ ที่จะอยู่กับเราไปจนแก่

" สะพานแห่งการปรุงแต่ง "




สะพานแห่งการปรุงแต่งนั้น
เปิดโอกาสให้ความทุกข์
สามารถบุกเข้ามาถึงกลางใจเราได้
ถ้าเรามีสติ ไม่ปรุงแต่ง ก็เหมือนเราชักสะพานขึ้น
ความทุกข์แม้มาจ่อตรงหน้า แต่ว่าเข้ามาถึงใจเราไม่ได้
เพราะไม่มีสะพานให้ข้าม ดังนั้นจึงทุกข์แต่กาย

เสียงดังระคายโสตประสาท
แต่ไม่ทำให้ทุกข์ใจ เพราะว่าสะพานถูกชักออกแล้ว
คือ การปรุงแต่งไม่เกิดขึ้น
ความทุกข์ไม่สามารถทะลุทะลวงมาทำร้ายจิตใจเราได้

การปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะการเจริญสติ
มีความสำคัญมาก เปรียบเสมือนการชักสะพาน
ไม่ให้ความทุกข์เข้ามาถึงกลางใจ
มันจะหยุดแค่กายหรือผัสสะเท่านั้น

พระไพศาล วิสาโล

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปาล์มน้ำมันผลดกขึ้นด้วย


ปาล์มน้ำมันผลดกขึ้นด้วยปุ๋ยหน่อไม้, หน่อกล้วย3กก.+รำ 2กก.+พด.2 1ซอง +กากน้ำตาล20ลิตร หมัก 1 เดือนคนทุกอาทิตย์, ใช้ 1:50 ลิตร ราดโคนต้นทุกเดือน
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 30 เม.ย.2556 - 14.25 น.

7 ข้อคิดในการทำงาน



1. จงอย่ากังวล
การที่เรามีความกังวลใจในการทำงานนั้นย่อมเป็นการลดคุณภาพของการทำงานและการคิดค้นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างแน่นอน
2. อย่างปล่อยให้ความกลัวครอบครองชีวิตคุณ
อย่าปล่อยให้ความกลัว มาทำให้ความกล้าที่จะคิดและแสดงออกในการทำงาน ปิดกั้นความคิดดี ๆ ของคุณ
3. อย่าปล่อยให้ความโกรธเปลี่ยนตัวตนของคุณ
ขณะที่คุณกำลังโกรธ เสมือนคุณกำลังปิดตาตัวเองแล้วเดินไปข้างหน้า คุณอาจจะไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร แต่คนรอบข้างคุณทุกคนก็เห็นมัน
4. อย่าเก็บปัญหาไว้ที่บ้านของคุณ
แม้คุณจะทำงานหนัก และมุ่งมั่นเท่าไร แต่การเอาความเครียจจากงานกลับมาคิดที่บ้าน ย่อมทำร้ายตัวคุณ และ คุณภาพงานที่ได้ก็จะแย่ลง
5. ปัญหาที่เจอ คือ ข้อสอบของชีวิต
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรปัญหาและอุปสักย่อมมีด้วยกันทั้งนั้น วันและเวลาที่ผ่านไปจะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนเก่งและเข้มแข็งขึ้น
6. อย่าแบกชีวิตของคนอื่นไว้บนบ่าของตัวเอง
คุณสามารถช่วยใครก็ได้เพราะนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่จงอย่าเอาปัญหาและความทุกข์ของเขามาไว้บนบ่าของตัวเอง ไม่มีใครช่วยใครแก้ปัญหาได้นอกจากตัวเขาเอง
7. เริ่มต้นเป็นผู้รับ และ ผู้ให้ที่ดี
ในการทำงานนั้นเราไม่ใช่แค่ไปทำงานแต่เพียงอย่างเดียว แต่เรายังต้องไปทำความรู้จักกับสังคม การเป็นผู้ให้ และ ผู้รับที่ดีจะทำให้ใคร ๆ รักและเคารพเราเสมอ

มุมมองของชีวิต


มุมมองของชีวิต
คนฉลาดย่อมไม่เคยคิดว่าคน อื่นโง่
และคนโง่มักคิดว่าตนเองฉลาด

คนที่ดูถูกคนอื่นว่าโง่
บาง ทีตัวเองอาจโง่ยิ่งกว่า
และมีแต่ละบุคคลประเภทนี้เท่านั้น
ที่มักถูกผู้ อื่นหลอกลวงอยู่เสมอ

สิ่งที่เราไม่ชอบ
บางครั้ง ... เราก็จำเป็น ต้องรู้
อย่าปิดกั้นตัวเองให้ห่างไกลจากสิ่งที่ไม่ชมชอบเลย
เพราะในโลก นี้สิ่งที่ทำร้ายเราได้ง่ายที่สุด ก็คือ สิ่งที่เราไม่ยอมรู้และไม่เคยเข้า ใจ

ชีวิตเป็นของเธอ
ทางเดินชีวิตย่อมเป็นของเธอ
สองขาของเธอ จง ก้าวไปตามทางนั้น
ทำในสิ่งที่เธอถนัดและเข้าใจ
เธอจะไปได้ดีเท่าที่เธอ ควรจะไป

หากอยากจะถามหาความจริงใจจากใครต่อใคร
ต้องเริ่มถามหาที่ ตัวเธอเองก่อนว่ามีความจริงใจเพียงพอหรือไม่

ชีวิต..ไม่เคยมีคำว่า สาย
หากก้าวหลงเดินทางผิด
ย่อมกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้
อาจจะช้ากว่า ที่ควรจะเป็นไป
แต่ก้อยังดีกว่าดิ่งลึก
จมลงในความเลวร้ายทุกที ทุกที

อย่าพยายามยัดเยียดความสุข
หรือสิ่งที่เราคิดว่าดีให้กับใคร ต่อใคร
เพราะมันอาจจะกลับกลายเป็นความทุกข์
ทุกข์ทั้งผู้ให้ ทุกข์ทั้ง ผู้รับ

เคยถามตัวเองบ้างไหม
ว่าชีวิตต้องการอะไร ?
ถาม ... และ หาคำตอบให้แน่ใจ
และเข้าใจให้ถ่องแท้
เมื่อนั้น
เราจะก้าวต่อไปข้าว หน้าอย่างเชื่อมั่น และถูกทิศทางกว่าเดิม

โลกเรายังคงหมุนไปทุกวัน
หากวันนี้เราหยุดนิ่ง
พรุ่งนี้ .........
เราก็แทบวิ่งตามไม่ ทัน

ชีวิตที่มีคุณค่า
คือการใช้เวลาที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า
อย่า ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย
มาเริ่มต้นสรรค์สร้างสิ่งดีดี ให้กับชีวิตของเราเถิด

อย่าไปคิดว่า
คนที่นั่งอยู่ในร่มไม้กลัวแสง แดด
อย่าไปคิดว่า
คนที่ฟุบหลับอยู่นั้นเป็นคนเกียจคร้าน
อย่าไปคิด ว่า
คนที่หกล้มเป็นคนอ่อนแอ
จงอย่าใช้เหตุผลของเธอ
ตัดสินความหมาย ในสิ่งที่เธอเห็น
โดยที่ไม่รับฟังเหตุผลจากอีกฝ่ายหนึ่งให้ดีเสีย ก่อน

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หนอนเจาะต้นมะพร้าวตายด้วยภูมิปัญญาคนกำแพงเพชร


หนอนเจาะต้นมะพร้าวตายด้วยภูมิปัญญาคนกำแพงเพชร ใช้ค้อนเคาะต้นฟังเสียง หากส่วนไหนของต้นมีเสียงดังกลวง จะมองหารูหนอนแล้วอุดด้วยปูนแดง
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 25 เม.ย.2556 - 14.25 น.

การทำกุ้งแห้งสูตรจันทบุรี


การทำกุ้งแห้งสูตรจันทบุรี นำกุ้งทะเล 13กก. ล้างให้สะอาด คลุกเกลือเม็ด  1กก. เติมน้ำแช่ไว้ 15 นาที นึ่ง 1 ชม. ตากแดด 2 วันครึ่ง กระเทาะเปลือกออก
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 27 เม.ย.2556 - 14.25 น.

***ผมรักแม่ครับ แต่ผมทำได้แค่นี้***




มีครอบครัวหนึ่งอยู่กันมาอย่างรักใคร่กันเป็นที่สุด ซึ่งเพื่อนบ้านต่างอิจฉากับความรักใคร่กันของครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 4 คน มีแม่ และลูก ๆ อีก 3 คน วันหนึ่ง แม่ก็เกิดเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมานั่นก็คือ เป็นโรคหัวใจร้ายแรง จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจโดยด่วน ลูกชายทั้ง 3 รักแม่มาก และรู้ว่าตนเองนั้นต้องทำอะไรซักอย่างให้กับแม่บังเกิดเกล้าของเขา

คนโตเป็นนักธุรกิจพันล้านมีธุรกิจใหญ่โต ได้รับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่ายในทุก ๆ ด้าน โดยยอมสละเวลาในการเซ็นสัญญาเพื่อมาคอยเฝ้าไข้คุณแม่ทุกวัน

คนรองเป็นนายแพทย์ชั้นนำของโลก รับผิดชอบในการรักษาคุณแม่ และทำการเรียกประชุมสมาคมแพทย์ทั่วโลกเพื่อหาวิธีรักษาุคุณแม่ของเขา

คนเล็กนั้นยังไม่มีงานทำ เนื่องจากตนนั้นมิได้มีความเฉลียวฉลาดเหมือนกับพวกพี่ ๆ เขา และก็สำนึกตัวเองอยู่ตลอดว่าตนเองนั้นคงไม่มีกำลังพอที่จะช่วยแม่ที่เขาเทิดทูนได้อย่างที่พี่ ๆ ทั้งสองทำได้ แต่เขารู้ว่าตนเองต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อแม่ของเขา

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา การผ่าตัดหัวใจเป็นไปได้ด้วยดี และคุณแม่ก็ฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปนานถึง 4 วันทีเดียว คุณแม่ได้พบหน้าลูก ทั้งสองคน คือคนโตและคนรอง แต่กลับไม่ได้พบหน้าลูกคนเล็ก คุณแม่จึงถามลูก ๆ ทั้งสองว่า

“น้องไปไหน”

แต่คนโตกลับบ่ายเบี่ยงไปว่าคุณแม่พึ่งฟื้น ให้ทานอาหารก่อน แล้วเขาก็ออกไปนำอาหารมาให้คุณแม่ คุณแม่ถามคนรอง แต่คนรองก็บอกกับคุณแม่ว่า ผมต้องไปนำยามาให้แม่ทานหลังอาหาร และก็จากไป คุณแม่สงสัย เพราะอาการของลูกทั้งสองนั้นไม่ธรรมดาเลย เมื่อทุกคนอยู่พร้อมกันคุณแม่จึงถามขึ้นมาอีกครั้ง

“น้องอยู่ไหน” ทั้งสองอ้ำอึ้ง และไม่มีใครที่อยากจะตอบคำถามแม่ของเขาเลย

คุณแม่ย้ำ “บอกมานะ น้องอยู่ที่ไหนกัน”
คนโตตอบคุณแม่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า

“น้องอยู่ในหัวใจคุณแม่ครับ”

คุณแม่ยังงุนงงกับคำตอบของลูกชายคนโตมาก จึงหันหน้าไปถามคนรองซึ่งกำลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน

“หมายความว่าไงลูก”

คนรองตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาเอ่อล้นด้วยหยดน้ำที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน

“พวกเราสามคน พอรู้เรื่องว่าแม่ไม่สบาย ก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง ผมและพี่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองทำได้และควรกระทำแล้ว
และน้องก็ได้ทำสิ่งที่พวกผมไม่มีความกล้าพอที่จะทำได้ให้กับแม่”

“แม่ไม่เข้าใจ ลูก” แม่เอ่ยปากแบบสงสัย

“วันนั้นเป็นเวรของน้องที่จะมาเฝ้าไข้แม่ โดยที่พวกผมจะมาเปลี่ยนเวรกันในตอน 6 โมงเช้า เมื่อผมเข้ามาถึงกลับไม่เห็นน้องอยู่ในห้องของแม่ แต่มีโน๊ตเขียนไว้ตรงเตียงแม่ว่า

"พี่รอง ผมอยู่ในห้องน้ำ และไม่ต้องตกใจสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น"

ผมก็เดินไปที่ห้องน้ำ ปรากฏว่า........

น้องได้ทำการฆ่าตัวตาย โดยใช้มีดที่นำมาปลอกผลไม้ กรีดที่ข้อมือตัวเองในอ่างน้ำ โดยให้เลือดไหลช้า ๆ เพื่อที่หัวใจจะยังสามารถทำงานและยังจะสามารถนำมาช่วยแม่ได้ น้องเขียนจดหมายไว้ในห้องน้ำว่า

"นำหัวใจผมไปช่วยแม่ ผมรักแม่ แต่ผมทำได้แค่นี้"

"น้องเสียแล้วเพราะเลือดไหลมากเกินไป และผมก็ได้นำหัวใจของน้องมา ช่วยแม่ครับ"

"ไม่จริงใช่ไหมลูก น้องออกไปหางานทำเท่านั้นใช่ไหม อย่ามาหลอกแม่เลย" แม่พูดพร้อมน้ำตาคลอเบ้า

ลูกคนโตปลอบโยนคุณแม่ที่ทำท่าปฏิเสธทั้งน้ำตาว่า

“แม่ครับ พวกผมสองคน ให้แม่ยังไม่ได้ครึ่งของน้องเลยครับ เราสามคนรักแม่มาก และผมก็เข้าใจน้องดีครับ แม่ทำใจนะครับ”

“พวกเรา จะยังคงอยู่ด้วยกัน 4 คนเหมือนเดิม ไม่มีวันใดที่พวกเราจะแยกจากกันหรอกครับ…”

แม่สะอื้น แต่เริ่มทำใจได้แล้ว

“แม่รักลูก รักลูกทุกคน และลูกทุกคนจะอยู่กับแม่เสมอ และตลอดไป”

ทั้ง 3 คน ร้องไห้ และพร่ำเรียกหาน้องคนเล็ก แม้เขาจะไม่มีโอกาสได้ยินเสียงของแม่และพี่ชายทั้งสองคนอีกครั้งก็ตาม.....

เอาสองมือประนมกร
ลาจากจรมารดาแก้ว
ชีวิตแทนให้แล้ว
ขอแม่แคล้วจากโรคภัย
สำนึกในบุญคุณ
ที่อบอุ่นแม่คอยให้
ชาตินี้มีอะไร
ตอบแทนได้ให้สมดี
มองซ้ายเหลียวแลขวา
ไม่เห็นค่าคู่ควรศรี
เหลือแต่เพียงชีวี
ของลูกนี้จักทดแทน....

******************************
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านนั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด
******************************

ที่มา : dhammathai.org/by สาระแห่งสุขภาพ

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การทำแป้งท้าวยายม่อม


การทำแป้งท้าวยายม่อม - นำไปปั่น+น้ำจนแหลกใส่ภาชนะตั้งไว้จนตกตะกอนแล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ + คนทุกครั้ง (ทำซ้ำๆจนน้ำใส) แล้วกรองแป้งไปตากแดดให้แห้ง
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 23 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วิธีกำจัดไรไก่


วิธีกำจัดไรไก่ นำตะไคร้หอมผสมฟางแห้ง ใช้เป็นที่นอนไก่หรือนำไปไว้ตามจุดต่างๆ ในเล้าไก่ เมื่อไรไก่ได้กลิ่นฉุนๆ ของตะไคร้หอมจะหลีกหนีไปเอง
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 24 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

าสวดมนต์ แผ่เมตตาอยู่ที่บ้าน เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้รับบ้างหรือเปล่า


กราบนมัสการพระคุณเจ้า ถ้าสวดมนต์ แผ่เมตตาอยู่ที่บ้าน เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้รับบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ (-/\-)

พระไพศาล วิสาโล - การแผ่เมตตา (รวมทั้งการแผ่ส่วนบุญ) นั้น เจ้ากรรมนายเวรจะได้รับหรือไม่ขึ้นอยู่ว่าเจ้ากรรมนายเวรอยู่ภพภูมิใดด้วย หรือมีญาณหยั่งรู้เพียงใด ด้วยเหตุนี้ในบทกรวดน้ำตอนเช้าจึงมีข้อความตอนหนึ่งว่า “สัตว์เหล่าใดรู้ส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว สัตว์เหล่านั้นจงอนุโมทนาเองเถิด ส่วนสัตว์เหล่าใด ยังไม่รู้ส่วนบุญนี้ ขอเทวดาจงบอกสัตว์เหล่านั้นให้รู้”

กราบนมัสการพระคุณเจ้า เจ้าค่ะ หนูอยากทราบว่า การนั่งสมาธิ อย่างไรถึงเรียกว่า "จิตสงบนิ่ง" ช่วงเวลาที่จิตนิ่งนั้น รู้สึกอย่างไร

พระไพศาล วิสาโล - จิตสงบนิ่ง คือจิตไม่ฟุ้งซ่านแส่ส่าย รับรู้อยู่แต่อารมณ์เดียว คือ ลมหายใจ หรือ สิ่งที่จิตกำหนดในระหว่างทำสมาธิ แต่คนส่วนใหญ่แม้ขณะทำสมาธิจิตก็ไม่ได้นิ่งต่อเนื่องนาน ๆ มีฟุ้งบ้าง แต่ไม่บ่อยและไม่นาน

ที่มา http://www.facebook.com/visalo?fref=ts

ยืดอายุพริกไทย


ยืดอายุพริกไทยด้วยการนำกระดาษหนังสือพิมพ์ 2 แผ่น มาวางซ้อนกันแล้วห่อพริกไทยสดพร้อมรัดยางให้แน่น ก่อนใส่ในถุงพลาสติกมัดปากเก็บเข้าตู้เย็น
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 27 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อาหารเสริมเป็ดไข่


อาหารเสริมเป็ดไข่ หอยเชอรี่บด 1 กก รำหยาบ1กก. ข้าวเปลือก 1 กก. ผสม+ให้กินวันละ 2 มื้อ  ทำให้ไข่เป็ดเปลือกแข็งฟองใหญ่ ไข่แดงสีสด
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 26 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10เคล็ดลับ จากคนประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก


Mr.Chalerm Nutirong



น่าสนใจ concept เหล่านี้
เคล็ดลับ
จากคนประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
1.คิดการใหญ(ไมเคิล แองเจลโล)
2.หาสิ่งที่คุณรักที่จะทำและทำมัน
(สตีฟจ็อบส์)
3.เรียนรู้ความสมดุลของชีวิต(ไทเกอร์ วูด)
4.อย่ากลัวความล้มเหลว(เฮนรี่ ฟอร์ด)
5.อย่ากลัวการแนะนำความคิดใหม่ๆ(มาร์ก เทวน)
6.เชื่อในความสามารถของคุณ ว่าคุณจะประสบความสำเร็จ(วอลเตอร์ ดิสนีย์)
7.จงมีทัศนคติบวกเสมอ(ไมเคิล จอร์แดน)
8.จงหัดเป็นคนขี้สงสัย และตั้งคำถามแล้วหาคำตอบ(อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)
9.จงต้องการและตั้งใจอย่างที่สุด(โอปราห์ วินฟรีย์)
10.จงมีฝัน(โรสเวลต์ เอเลนอร์

เปลี่ยนผมแห้งแตกปลายให้นุ่มสลวยสุขภาพดี


เปลี่ยนผมแห้งแตกปลายให้นุ่มสลวยสุขภาพดี ด้วยการชโลมน้ำมันมะกอกให้ทั่วศรีษะ แล้วมวยผมหลวมๆทิ้งไว้ 1 คืน ตอนเช้าล้างออก ทำ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 28 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เรื่องของกบตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง


เรื่องของกบตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง

ครั้งหนึ่ง มีกลุ่มของลูกกบตัวเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ได้มาร่วมกันจัดการแข่งขัน
เพื่อจะปีนขึ้นไปยอดเสาไฟฟ้าแรงสูง มีกลุ่มชนชาวกบมากมายมารอชม
และเชียร์การแข่งขันครั้งนี้

การแข่งขันเริ่มขึ้น...

พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีชนชาวกบตัวใด จะเชื่อว่า
เจ้ากบตัวเล็กๆ เหล่านั้นจะปีนขึ้นไปจนถึงยอดได้

มีเสียงพูดลอยมาให้ได้ยิน เป็นต้นว่า
“เขาไม่มีทางจะขึ้นไปถึงยอดหรอก มันยากลำบากขนาดนั้น”

หรือ

“เขาไม่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จหรอก เสามันสูงขนาดนั้น”

เจ้ากบตัวน้อยๆเหล่านี้ก็เริ่มที่จะร่วงหล่นลงไปทีละตัว ทีละตัว ...
ยกเว้นเจ้าตัวหนึ่งซึ่งยังปีนอย่างมุ่งมั่น สูงขึ้น และ สูงขึ้น ....

ฝูงกบก็เริ่มส่งเสียงร้องตะโกน

"มันยากเกินไป ไม่มีใครทำได้หรอก!"

กบส่วนใหญ่เริ่มเหนื่อย และยอมแพ้...

...แต่มีกบตัวหนึ่ง ที่ยังตั้งหน้าตั้งตาปีนสูงขึ้น สูงขึ้น ...

เจ้าตัวนี้ไม่ยอมแพ้!

เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน

กบตัวอื่นๆ ต่างยอมแพ้ที่จะปีนสู่ยอดเสาจนหมดสิ้น
ยกเว้นกบตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ด้วยความพยายามอย่างสุดกำลังมันก็สามารถปีนขึ้นสู่ยอดเสาได้!

กบทุกๆตัวอยากรู้ว่า เจ้ากบตัวเล็กๆตัวนี้ทำได้อย่างไร?

กบคู่แข่งขันต่างอยากรู้ว่า

เจ้ากบเล็กๆตัวนี้ มีพลังในการปีนขึ้นสู่ยอดเสา
อันเป็นเป้าหมาย จนประสบความสำเร็จได้อย่างไร?

เรื่องกลับกลายเป็นว่า...
กบผู้ชนะตัวนั้นหูหนวก!!!!

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก..เวปบอร์ดเชียงรายยูไนเต็ด..

วิธีทำกุ้งจ่อมเสริมรายได้



วิธีทำกุ้งจ่อมเสริมรายได้ ใช้กุ้งฝอยสด 1กก. เกลือเม็ดโขลก 3ขีด ข้าวคั่ว 1/2 กก. กระเทียมบด1ขีด คลุกเคล้าแล้วหมักในโอ่งหรือไห 3-5 คืน
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 28 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ห่างออกมาหนึ่งก้าว รักเราเท่าเดิม


ห่างออกมาหนึ่งก้าว รักเราเท่าเดิม

ในความเป็นไปของชีวิต
คนหลายคนยอมที่จะอยู่เป็นโสด
เพียงเพื่อจะได้ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงในกรอบของตัวเองอย่างที่ไม่มีใครมาทัดทานได้
เขาเหล่านั้นมักคิดว่า เมื่อความรักเริ่มต้น ชีวิตผจญภัยก็พังทลาย
เมื่อรับใครอีกคนเข้ามาในชีวิต โลกส่วนตัวของพวกเขาก็จะล่มสลาย
ความรักกลืนกินโลกใบเดิมของเราไปจริงหรือเปล่า?
ความใกล้ชิดจะทำให้เราสูญเสียจุดยืนที่แท้จริงอย่างนั้นใช่ไหม?

แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น... คนเราทุกคนมีโลกกลมๆ คนละใบ
กว้างบ้าง เล็กบ้างตามความพอใจ
ในโลกกลมๆ ใบนั้นเราต่างบรรจุวิถีชีวิต ความรัก ความคิด
ความเป็นตัวเองไว้อย่างเต็มเปี่ยม และเมื่อความรักปรากฏตัว
โลกกลมๆ ของคนอีกคนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
แต่ใช่ว่าเราจะต้องกระโดดออกจากโลกของเราไปอยู่ในโลกของเขาเสียเมื่อไหร่
แล้วไม่มีความจำเป็นใดที่เขาจะต้องกระโดดออกจากโลกของเขามาอยู่ในโลกของเราด้วย

วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คนสองคนมีโลกใบเดียวกัน
โดยไม่ละทิ้งโลกส่วนตัวใบเดิมก็คือ "การยูเนี่ยน" (UNION) โลกสองใบเข้าไว้ด้วยกัน
มันเป็นวิธีง่ายๆ ตามหลักคณิตศาสตร์ที่เราเคยเรียนรู้กัน เมื่อวงกลมสองวงคล้องเกี่ยวกันไว้
ส่วนที่อยู่ในเนื้อที่ของกันและกันนั้น เราเรียกว่า"อินเตอร์เซ็คชั่น" (INTERSECTION)
ซึ่งข้อดีของมันก็คือ ช่วยให้วงกลมสองวงที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ได้แชร์ชีวิตร่วมกัน และมีโลกใบเดียวกัน ในขณะที่ส่วนอื่นๆ
ที่ไม่ได้ถูกอินเตอร์เซคชั่นนั้น ก็ยังมีชีวิตของมันต่อไป
และมันก็ยังเป็นโลกใบเดิมที่บรรจุความเป็นตัวของตัวเองไว้อย่างครบถ้วน

เหมือนความรัก.... โลกที่คนสองคนเกี่ยวคล้องกันไว้นั่นแหละ
คือโลกที่ความรักสร้างขึ้น คือโลกที่คนสองคนจะโอบกอดกันได้ทุกเวลา
และแชร์ทุกอย่างร่วมกัน ตั้งแต่กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน
ฟังเพลงด้วยกัน ห่มผ้าผืนเดียวกัน.. มันเป็นโลกที่แสนอบอุ่นสำหรับคนเหงา
แต่ถ้ารู้สึกว่าอยากกลับไปเยี่ยมเยือนโลกใบเดิมของตัวเองสักหน่อย
ก็แค่กระโดดออกจากส่วนที่อินเตอร์เซคชั่นไว้
ห่างออกมาสักหนึ่งก้าว...วิถีชีวิตอิสระของนักผจญภัยก็จะเดินหน้า
ในขณะที่โลกสองใบก็ไม่ได้แยกจากกันไปไหน
เพราะมันเกี่ยวคล้องกันไว้อย่างแน่นหนา

เพราะฉะนั้นฉันจึงเชื่อว่าความรักกลืนกินโลกของใครไม่ได้หรอก
นอกเสียจากว่าคนสองคนเต็มใจที่จะเคลื่อนวงกลมเข้าใกล้กันเองจนซ้อนกันมากขึ้นๆ
และกลายเป็นวงกลมเดียวกันในที่สุดที่ใช้ชีวิตในวงกลมเดียวกันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกว่าความรัก
จะลดน้อยลงไปได้เลย..

วิธีกำจัดแมงมุมแดงที่ทำลายใบมะละกอ


วิธีกำจัดแมงมุมแดงที่ทำลายใบมะละกอแบบประหยัดต้นทุนสุดๆ คือ ฉีดน้ำบริเวณใต้ใบเพื่อล้างหยากไย่หรือฉีดให้ถึงยอดทุกครั้งที่ให้น้ำ
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 29 เม.ย.2556 - 14.25 น.

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ช่วงกลางวันมีอากาศร้อนจัด



ช่วงกลางวันมีอากาศร้อนจัด เกษตรกรควรฉีดน้ำบนหลังคาโรงเรือนเป็นระยะๆ เพื่อลดอุณหภูมิและป้องกันสัตว์เครียด-เจ็บป่วยได้ง่าย
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 26 เม.ย.2556 - 14.25 น.

เมื่อถึงเส้นชัย....ใครชนะ?


เมื่อถึงเส้นชัย....ใครชนะ?

- ลู่วิ่งที่ 7 เขาเป็นแชมป์มาหลายสนามแล้ว ครั้งนี้เขาตั้งใจว่าเขาจะทำลายสถิติของสนามแห่งนี้ให้ได้ แต่เขาทำได้เพียงผู้ชนะอำดับที่ 1 เท่านั้น เป็นความผิดหวังอีกครั้งในรอบหลายปี แม้ปีนี้จะเป็นปีที่เขามีสถาพร่างกายที่สมบูรณ์ที่สุดก็ตาม
เขาพูดว่า "ผมจะพยายามต่อไป วันที่ผมทำลายสถิติได้คือวันที่ผมจะมีความสุขที่สุด"

- ลู่วิ่งที่ 5 เขาเป็นทีมเดียวกันกับลู่วิ่งที่ 7 เขารู้ดีว่าเขาคงไม่อาจจะชนะที่ 1 ได้ ซึ่งเขาตั้งเป้าหมายในการแข่งขันครั้งนี้ไว้ว่า เขาจะสร้างสถิติที่ดีที่สุดของเขาให้ได้ในการแข่งขันครั้งนี้ ผลก็คือ เขาสามารถวิ่งได้เร็วกว่าสถิติเดิมที่เขาเคยทำไว้สำเร็จ แถมด้วยการเป็นผู้ชนะอันดับที่ 2
เขาพูดว่า "มันเป็นชัยชนะที่เกินกว่าที่ผมคาดหมายไว้ ผมชนะผู้แข่งขันซึ่งเป็นนักวิ่งระดับสุดยอดจากทั่วโลกนับร้อยคน และผมแพ้เพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือ แชมป์ที่ไม่ได้รับชัยชนะในสนามของเขาเอง"

กระดานดำของ "ครูต๊ะ"

การรักษาโรคตาอักเสบ ตาแดง หรือ ตาเป็นฝ้าขาว ในโค-กระบือ


การรักษาโรคตาอักเสบ ตาแดง หรือ ตาเป็นฝ้าขาว ในโค-กระบือ นำเปลือกหอยกับปูนแดงมาเผาไฟรวมกัน บดละเอียดแล้วนำใส่หลอดกาแฟ เป่าใส่ตา
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 29 เม.ย.2556 - 14.25 น.

เชิญร่วมงานมหกรรมปศุสัตว์แห่งชาติ 1-5 พ.ค.255


เชิญร่วมงานมหกรรมปศุสัตว์แห่งชาติ 1-5 พ.ค.2556 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพค เมืองทองธานี พบนิทรรศการ งานวิชาการและสินค้าปศุสัตว์มากมาย
จาก SMS Farmer Info by DTAC - 29 เม.ย.2556 - 14.25 น.