++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หากอยากมีความสุขอย่างแท้จริง

คนที่มีความทุกข์ส่วนใหญ่ เมื่อเห็นคนที่มีความสุข มักมีคำถามในใจว่า...
“ทำไมเขามีความสุขจัง ทั้งๆที่บ้านก็ไม่ได้รวย”
“ทำไมเขามีความสุขจัง ทั้งๆที่หน้าตาก็ไม่สวย”
“ทำไมเขามีความสุขจัง ทั้งๆที่เป็นแค่พนักงานรักษาความปลอดภัย”
“ทำไมเขามีความสุขจัง ทั้งๆที่ไม่มีของดีๆกิน”
ฯลฯ

คำตอบก็คือ...
ความสุขไม่ได้เกิดจากความร่ำรวย รูปร่างหน้าตาดี หน้าที่การงานสูง การกินดีอยู่ดี ฯลฯ แต่ความสุขเกิดจากสิ่งที่อยู่ภายในตัวเรา เกิดจากความคิดจิตใจที่ดีงาม เกิดจากร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์

คนที่มีความสุขจึงมักจะทำอะไรแตกต่างจากผู้อื่น ดังนั้น หากอยากมีความสุขอย่างแท้จริง ก็ต้องหันมาปรับเปลี่ยนตัวเอง และเรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่คนมีความสุขทำอย่างสม่ำเสมอ

1. ให้อภัยและลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจ

คนมีความสุขรู้ว่า การให้อภัยและลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีความสุข เพราะหากยังเก็บความรู้สึกแย่ๆไว้ นั่นหมายถึงตัวเรายังรู้สึกไม่พอใจ โกรธ เสียใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นอารมณ์ไม่ดีที่ขัดขวางหนทางแห่งความสุข

2. มีความรักความเมตตา

คนมีความสุขมักเป็นคนที่มีความรักความเมตตา เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ด้วยการทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นกับตัวเองเสมอ และเผื่อแผ่ความรักความเมตตาไปยังคนรอบข้าง ซึ่งไม่เพียงทำให้ผู้อื่นมีความสุข แต่ยังทำให้ตัวเองมีความสุขไปด้วย เพราะเมื่อแสดงความรักความเมตตาต่อผู้อื่น สมองจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา

3. เข้าใจผู้อื่น

คนมีความสุขเข้าใจดีว่า คนเราล้วนมีทั้งสิ่งดีและไม่ดีในตัวเอง เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ดังนั้น จึงพยายามเข้าอกเข้าใจผู้อื่นให้มากขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายถึงความสุขที่เพิ่มขึ้นด้วย

4. มองปัญหาเป็นสิ่งท้าทาย

คนมีความสุขรู้จักปรับเปลี่ยนทัศนคติ ว่าเมื่อใดก็ตามที่เจอปัญหา ก็จะขจัดปัญหานั้นๆออกจากใจจนหมดสิ้น และมองว่าปัญหาไม่ได้เป็นปัญหา แต่เป็นเรื่องท้าทาย หรือเป็นโอกาสใหม่ๆที่อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

5. พอใจในสิ่งที่มี

คนมีความสุขจะพึงพอใจสิ่งที่มีในชีวิต ทำให้มีอารมณ์ดี สามารถจัดการความเครียด และไปถึงเป้าหมาย ได้ดีกว่าคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่มี ซึ่งต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง จนทำให้เกิดความทุกข์

6. พูดถึงผู้อื่นในแง่ดี

คนมีความสุขไม่ชอบนินทาผู้อื่น เพราะเห็นว่าการนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และคนที่ชอบนินทาผู้อื่น มักไม่มีใครคบ ดังนั้น จึงมักจะพูดถึงคนอื่นในแง่ดีเสมอ

7. อยู่ท่ามกลางคนคิดบวก

คนมีความสุขจะพาตัวเองเข้าไปคลุกคลีกับกลุ่มคนที่มองโลกในแง่ดีและมีความสุข เพราะการอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ จะได้รับพลังด้านดีจากพวกเขามาโดยไม่รู้ตัว

8. ไม่เสียเวลากับเรื่องเล็กๆน้อยๆ

คนที่มีความสุขไม่มัวหมกมุ่นเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แม้ว่าเรื่องนั้นจะผ่านมาเป็นปี เป็นเดือน หรือแม้แต่แค่วันเดียว เพราะรู้จักปล่อยวางเรื่องกวนใจเล็กๆน้อยในแต่ละวันไว้ข้างหลัง การปล่อยวางมันได้ จะทำให้หลุดพ้นจากอารมณ์ด้านลบ และเปิดทางให้ความสุขเข้ามาแทนที่

9. ไม่โทษใคร

คนมีความสุขเต็มใจยอมรับเมื่อทำผิดพลาด และถือเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ เพื่อทำให้ดียิ่งขึ้นในครั้งหน้า ดีกว่าการกล่าวโทษผู้อื่นว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ล้มเหลว เนื่องจากการทำเช่นนั้น เท่ากับว่ายังจมปลักกับมันอยู่

10. ไม่เปรียบเทียบ

คนมีความสุขรู้ว่า ชีวิตของใครก็ของมัน แต่ละคนล้วนมีวิถีทางของตัวเอง ดังนั้น จึงไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แม้จะมองว่าตัวเองดีกว่าก็ตาม เพราะการกระทำเช่นนั้น ไม่ได้ทำให้มีความสุข แต่กลับเป็นการบ่มเพาะนิสัยไม่ดีที่ชอบตัดสินผู้อื่นและคิดว่าตนเองเหนือกว่า

10. อยู่กับปัจจุบัน

คนมีความสุขมีใจจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ขณะนั้น โดยหยุดคิดวนเวียนถึงเรื่องราวในอดีต หรือกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เพราะการรับรู้และกระทำในสิ่งที่เป็นไปในปัจจุบันขณะ มีความสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด

12. ทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

คนมีความสุขบ่อยครั้งมักทำตามฝันและเสียงเรียกร้องของหัวใจ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ใจปรารถนาอย่างแท้จริง การได้ลงมือทำสิ่งนั้นๆ ย่อมนำความสุขมาให้อย่างมิต้องสงสัย

13. รับฟังความคิดเห็น

คนมีความสุขรู้ว่า การรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมีข้อดีเช่นกัน เพราะนอกจากจะช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นแล้ว บางครั้งมันยังทำให้ได้ไอเดียใหม่ๆ หลายอย่างที่แตกต่างออกไป ซึ่งจะช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกไปไม่รู้จบ

14. ถนอมความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

คนมีความสุขมักหาเวลาไปเยี่ยมเยียนหรือใช้เครื่องมือสื่อสารกับคนในครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีทางสังคมนั้น เป็นกุญแจไขไปสู่ความสุข

15. ซื่อสัตย์สุจริต

คนมีความสุขตระหนักดีว่า ทุกครั้งที่โกหกหลอกลวงจะทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้น ซ้ำร้ายเมื่อมีคนจับได้ ย่อมส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทั้งด้านส่วนตัวและสังคม ในทางตรงข้าม ความซื่อสัตย์สุจริตจะช่วยให้จิตใจสบาย ไม่หวาดผวา และได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้อื่น

16. ตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า

คนมีความสุขจะตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า เพราะจะช่วยควบคุมนาฬิกาชีวิตให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ข้อสำคัญ คนมีความสุขรู้ว่า การตื่นนอนแต่เช้าเป็นหนึ่งในนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน เพราะจะทำให้มีเวลาและสมาธิมากขึ้นในการทำงาน

17. กินถูกหลักโภชนาการ

คนมีความสุขเลือกกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายและสมองให้อยู่ในภาวะที่พร้อมจะทำงาน และเข้าใจดีว่า อาหารที่กินแต่ละมื้อนั้น มีผลกระทบโดยตรงต่อระดับอารมณ์และพลังงานทั้งในระยะสั้นและยาว รวมถึงงดกินพวก Junk food หรืออาหารขยะ ที่ไม่มีประโยชน์และมีแนวโน้มก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง

18. ออกกำลังกาย

คนมีความสุขไม่เคยมองว่า การออกกำลังกายมีไว้เพื่อลดน้ำหนัก ป้องกันโรค และทำให้ชีวิตยืนยาวเท่านั้น หากยังช่วยในเรื่องจิตใจ ทำให้มีความสุขมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายช่วยเพิ่มระดับสารเคมีในสมองที่มีผลต่อสุขภาพที่ดี เพราะมันช่วยลดความเครียดและคลายอาการซึมเศร้าได้

19. ทำสมาธิ

คนมีความสุขหาเวลาทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบสุขภายใน มีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า การทำสมาธิสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองที่ช่วยทำให้คนเรามีความสุขมากขึ้น

20. ยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้

คนมีความสุขรู้สัจธรรมว่า ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ทั้งหมด การเรียนรู้และยอมรับความจริงที่ตนเองมิอาจไปเปลี่ยนแปลงได้นั้น ย่อมนำความทุกข์มาให้น้อยกว่า

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 151 กรกฎาคม 2556 โดย ประกายรุ้ง

ข้อคิดสำหรับเพื่อน

ข้อคิดสำหรับเพื่อน (crystal heart)(flower bunch)(cursive love)

ถ้าเพื่อนทุกคนมีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ นั่นเพราะว่าคุณรู้จักอะลุ้มอล่วยผ่อนหนักผ่อนเบาเป็น (bouquet)

ถ้าคุณมีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อนทุกคน นั่นเพราะว่าคุณรู้จักมองข้ามข้อผิดพลาดของผู้อื่นเป็น (roses)

การเป็นเพื่อนกับใครสักคน มันไม่ง่าย เพราะต้องใช้เวลากับความผูกพัน คัดกรองกันยาวนาน กว่าจะรู้จักใจจริงแท้ นิสัยและอัธยาศัยของแต่ละคน (violet)

บางครั้งขัดใจกันบ้าง คิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง ก็ต้องรู้จักปล่อยผ่านไปให้เป็น มิใช่หุนหันพลันแล่นตัดความสัมพันธ์จนไม่เหลือเพื่อนดีๆ ไว้เลย (daffodil)

การตัดขาดกับเพื่อนนั้นมันง่าย แต่การผสานไมตรีมันยาก (lotus)

กว่าเราจะได้เพื่อนสักคน ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
เราก็ยังรู้สึกสนิทสนมคุยได้เหมือนเดิม ไม่ว่าฐานะทางสังคมจะต่างกันแค่ไหน ... มันไม่ง่ายเลย (rose)

รักษาเพื่อนดีๆ ไว้ให้ดีกันนะ (flower)(hibiscus)(tulip)

ขำขัน : ดูไม่ได้เลย

ขำวันละนิด คงไม่ต้องคิดมากนะ A: เอ็งดูสาวคนนั้นซิ
B: ทำไมว่ะ
A: เห็นสวยๆแบบนั้นนะ เวลาเข้าห้องน้ำ ดูไม่ได้เลยว่ะ
B: ทำไมวะ

A: มันล็อคประตู

การเว้นลูกส้มโอตามอายุ

พืช)การเว้นลูกส้มโอตามอายุปีของต้นจะได้ผลผลิตคุณภาพดี โดยอายุ4-9ปี เว้น20ลูก อายุ10ปีขึ้นไป เว้น60-70ลูก(หากปลูกห่างๆ จะเว้นได้100-200ลูก)

การตัดสินใจ

ในระหว่างการตัดสินใจ หลายครั้งที่ การกล้าตัดสินใจด้วยความรวดเร็ว ทำให้เห็นผลงานเร็วขึ้นด้วย ...

"ตอนที่เห็นผลงานนี่ละ เกิดเรื่องทุกที เพราะจะมีคนมองว่า มันคุ้มค่ามั้ย"
"เดี๋ยวนี้ ทุกอย่างต้องใช้เงิน ถ้าจ่ายไปเท่านั้น แต่เห็นอีกที่ จ่ายน้อยกว่า ก็ต้องโดนเปรียบเทียบล่ะ"

"แค่ไปซื้อของ ในตลาด, กับที่บิ๊กซี, ที่เซเว่น อยู่ห่างกันไม่กี่เมตร ถ้ารู้ก่อนว่า ที่ไหนขายกี่บาท ก็จะเลือกจ่ายน้อย ได้ของถูก"

นาทซูดาน : ชีวิตนี้จะเครียดอะไรนัดหนา

" ชีวิตนี้จะเครียดอะไรนักหนา อยู่ไม่ถึงร้อยปีก็ตายแล้ว" พี่นาท ซูดานพูดขึ้นมาระหว่างกำลังขับรถออกจากโรงงานน้ำตาลพิมาย ช่วงตี 1 และนั่งลุ้นว่า น้ำมันรถที่ใกล้จะหมด จะวิ่งไปถึงปั้มน้ำมันมั้ย พอดีมองเห็นตู้เติมน้ำมันหยอดเงินข้างทาง เลยรอดจาก รถน้ำมันหมดกลางป่าตอนดึกๆ...

"อ้ายบ่เคียดให้ไผ ผูกใจเจ็บกะไผ ชีวิตนี้สิเคียดเฮ็ดหยัง สนุกกับชีวิตบ้าง โลกนี้ ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมายนะ"

"งานเล่นดนตรี งานที่ร้านจันผาในอำเภอชุมพวง อ้ายขึ้นเวทีคนเดียวก็ได้ แต่อ้ายจะเอามือกีตาร์ กะมือคีบอร์ดไปด้วย เพราะอ้ายมีเพื่อน อยากให้เพื่อนได้งาน ได้ตังค์ด้วย"

ในสายตาของหลายคน มองชีวิตนักเดินทางของนาท ซูดาน เหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงของชีวิต ค้นพบสัจธรรมหลายอย่าง และค้นพบเส้นทางแห่งมิตรภาพมากมาย..

ทุกขลาภ ก่อนจะได้ลาภใหญ่

ทุกขลาภ ก่อนจะได้ลาภก้อนใหญ่

"อาทิตย์ก่อน เค้าบอกว่า จะได้เงินก้อนโตจากการขายที่ ว่าจะขอยืมจั๊กกะหน่อย แต่มีคนเคยบอกว่า จะได้ทุกขลาภก่อน ได้ลาภก้อนใหญ่" พี่น้อย จาตุรงค์ พูดขึ้นมา

"ไม่แน่เสมอไปหรอก"
"เมื่อเช้า เปิดโทรศัพท์ เห็นเบอร์ก็ว่าจะกดโทรหา สังหรณ์ใจตะหงิดๆ ตอนบ่าย เห็นเค้าโทรมา นึกว่า กำลังเดินทางมาหา เอ้าโดนจับ ตรงด่านตรวจแอลกอฮอล์ซะแล้ว"

"วันนี้วันอาทิตย์ หาคนช่วยยากนะ"
"เดี๋ยวพี่น้อยก็หาคนมาช่วยจนได้ล่ะ..."

ถ่ายพยาธิโค

สัตว์)ถ่ายพยาธิโค นำชุมเห็ดเทศ100กรัม+ใบขี้เหล็ก100กรัม+เกลือ50กรัม ตำผสมกัน เติมน้ำ1แก้ว คั้นเอาน้ำ(ใช้กับโค3ตัว) กรอกปากให้กิน1ครั้ง/เดือน

จาก sms farmerInfo

ชีวิตก็ต้องการเท่านี้ล่ะ : นาท ซูดาน

ชีวิตก็ต้องการเท่านี้ล่ะ...(เว้าสำเนียงอีสานกลาง)

ยามค่ำ พี่นาท ซูดาน โทรมาถามว่า ถึงบ้านรึยัง ตอบว่า รอรถเข้าบ้าน
"แล้วอ้ายไปบัวใหญ่บ่ล่ะ"
"บ่ไปดอก คืนนี้อยู่สีดา มื้ออื่นจังสิไปพิมาย ไปเบิ่งน้องโอ้ค เข้าค่ายพักแรม"
"คึดว่าอ้ายสิไปหาแม่ คืนนี้"
"อ๋อ แม่ของอ้าย มาฮอดบ้านแล้ว หลานๆออกมาถ่าฮับอยู่ท่ารถ เพิ่นดีใจล้าย หลาย ได้มาเจอหลานๆ ชีวิตกะต้องการท่อนี้ล่ะ"
"แม่ของอ้าย เมือยามใด๋"
"มื้ออื่น ตอนเที่ยง แม่กะขึ้นรถเมือแล้ว เพิ่นมาหลายมื้อแล้ว"
"เอ๋า กะหัวแต่มาฮอด มาหลายมื้อจังได๋"
" แม่อ้ายมาชัยภูมิ หลายมื้อแล้ว มื้ออื่นสิเมือชัยนาท เพิ่นห่วงไฮ่นา ถิ่มมาหลายมื้อแล้ว"
"มาพ้อหลานแป๊บเดียวเนาะ "
"ท่อนี้ เพิ่นกะดีใจแฮงแล้ว ชีวิตกะต้องการท่อนี้ล่ะ .. "

26 พ.ย.2557

ดินสอไม้ กับ มนุษย์

"ดินสอไม้ กับ มนุษย์"

หาก ดินสอไม้ จะต้องถูกเหลา ด้วยใบมีด เพื่อไม่ให้ "ทู่"
มนุษย์ ก็จะต้องหมั่นหาความรู้ เพื่อลับความ "แหลมคม" แห่งสติปัญญา

หาก ดินสอไม้ จะมีลวดลายภายนอกที่แตกต่างกัน แต่เป็น "ไส้คาร์บอน" ในนั้น
ที่ทำให้ "เจ้าดินสอไม้" แตกต่างจาก "ขี้เลื่อย"
มนุษย์ สูง คล้ำ ดำ เตี้ย ร่ำรวย ยากจน มาก น้อย ความแตกต่างล้วนมี
แต่เป็น "ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี" ที่ทำให้ "เรา" แตกต่างจาก "สัตว์" ร่วมโลกอื่นๆ

หาก ดินสอไม้ จะไร้ซึ่งประโยชน์ ถ้าไม่ได้ถูกนำไปใช้ "ขีดเขียน"
มนุษย์ ก็ควรจะถูก "ติเตียน ถ้าไม่คิดจะ "ทำ" อะไรเพื่อสังคมและประเทศชาติ

คุณได้ "ฉุกคิด" อะไรบ้างจาก แปดบรรทัดครึ่ง นี้?

Cr. Khun Arweekarn, Dale Carnegie Training

ที่มา : 8 บรรทัดครึ่ง facebook

เคล็ดลับถั่วลิสงเมล็ดสวยเนื้อนิ่ม

พืช)รู้หรือไม่ ถั่วลิสงต้มจะมีเมล็ดสวย เนื้อนิ่มและใช้เวลาต้มไม่นาน หากทุบกะลามะพร้าวที่เพิ่งขูดเนื้อออก 4-5 ซีกลงไปต้มพร้อมกับถั่ว 1 กระสอบ

จาก sms farmerInfo

บันทึกระยะเวลาเดินทางด้วยรถโดยสารสายโคราช-ประทาย 502

การเดินทางด้วยรถโดยสารร้อน รถโดยสารธรรมดาจากตัวเมืองนครราชสีมา ถึงตัวอำเภอประทาย ในวันที่ 29 พ.ย.2557 ค่าโดยสาร 60บาท กับระยะทาง 97 กม.

รถโคราช - ประทาย
11.45 - ออกจาก บขส เก่า
12.02 - หน้าราชภัฏโคราช
12.11 - จอหอ
12.31 - แยกโนนสูง
12.52 - ตลาดแค
13.02 - บ้านวัด
13.22 - อ.โนนแดง
13.51 - อ.ประทาย

ยังไม่โดนค่ะ : ยิ้มๆ

มีครูสาวเพิ่งจบจาก มหาวิทยาลัยและสอบ บรรจุเป็นครูได้ใน ชนบท ภาคอีสาน วันหนึ่งหลังเลิกเรียน
ตอนเย็น ครูสาวได้ไป เที่ยวทักทายคนใน หมู่บ้าน มียายคนหนึ่ง เห็นเป็นครูมาบรรจุใหม่ สวยน่ารัก จึงเข้าไป จับมือถามด้วย ความเอ็นดู

ยาย : ครูงามหลาย มาอยู่ที่นี่โดนหรือยัง
(โดนภาษาอีสาน แปลว่า"นาน")
ครูสาวอายหน้าแดงจะ โกรธก็โกรธไม่ลงเพราะ
เห็นว่าคนเฒ่าคนแก่ถาม
ด้วยความเอ็นดู จึงตอบว่า

ครูสาว : มาอยู่ที่นี่ ยังไม่โดนค่ะ แต่
ตอนเรียนก็โดนมาบ้าง ค่ะ
*555555*

เคล็ดลับ ไก่แข็งแรง ทนทานโรค

สัตว์)ให้ไก่กินผงฟ้าทะลาย 1 ช้อนโต๊ะ+น้ำเปล่า 1 ลิตรหรือนำผงฟ้าทะลายโจร 1 ช้อนโต๊ะ+อาหารไก่ 1 กก. ให้กินเช้า-เย็น ไก่จะแข็งแรง ทนทานต่อโรค

จาก sms farmerInfo

กร ปุถุชน กับงานสังสรรค์ประจำปี 57 ที่โรงงานน้ำตาลพิมาย

ศิลปิน กร ปุถุชน กับคอนเสิร์ตงานสังสรรค์ประจำปี 2557 โรงงานน้ำตาลพิมาย

กร ปุถุชน หรือ วัชรากร ศิลปินใต้ดิน ที่สร้างผลงานเพลงในนาม วงปุถุชน ร่วมกับ คุณสำรวย จีนจะโป๊ะ หรือ จีน ปุถุชน หากติดตามกระแสในอินเตอร์เนต และในสังคมโซเชียลมีเดีย จะเห็นคลิปผลงานของ จีน ปุถุชน ออกมาบ่อยๆ

แต่กร ปุถุชน ยังมีงานเล่นดนตรีอยู่สม่ำเสมอ โดยการรับงานร้องเพลงตามร้านอาหารในเมืองโคราช โดยร้องเพลงได้หลายแนว เอาใจคนฟัง มอบความสุขให้ผู้ฟัง

ล่าสุดกับเวทีในงานสังสรรค์ประจำปี 2557 ที่โรงงานน้ำตาลพิมาย กร ปุถุชน หนุ่มบ้านดอนหวาย ขึ้นเวที พร้อมทีมนักดนตรีแบ็คอัพ เริ่มร้องบรรเลงตั้งแต่ 18.30- 23.20น

มีคนอื่นมาสลับ สับเปลี่ยนร้องเพลงบนเวที แต่หลักๆ กร ปุถุชน จะเป็นคนร้อง เอาตั้งแต่เพลงของมาลีฮวนนา, คาราบาว, ป้าง นครินทร์, อัสนี, เพลงสากลแบบคันทรีก็ได้ ลูกทุ่งก็ดี..

เรียกได้ว่า ร้องได้หมด เอาใจคนดูที่เป็นชาวพี่น้องโรงงาน ได้มัน ม่วนกันเต็มที่ ร้องเพลงได้ถูกใจคนฟัง ถึงขนาดมีหนุ่มคนหนึ่ง ถอดพระเครื่องให้กร ปุถุชน ด้วยความชื่นชมศรัทธา....

เป็นศิลปิน นักดนตรีตัวจริงเลยนะ

วิธีคิดบวกในโลก

󾌬󾌬󾍛(Positive Thinking)
วิธีคิดบวก ในโลก

+ ♡ + เวลาเจองานหนัก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ โอกาส ในการ เตรียมพร้อม สู่ความ เป็น มืออาชีพ

+ ♡ + เวลาเจอปัญหาซับซ้อน
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ บทเรียนที่จะสร้าง ปัญญา ได้อย่างวิเศษ

+ ♡ + เวลาเจอความทุกข์หนัก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ แบบฝึกหัด ที่จะช่วยให้เกิด ทักษะ ในการ ดำเนินชีวิต

+ ♡ + เวลาเจอนายจอมละเมียด
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การฝึกตน ให้เป็น คนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)

+ ♡ + เวลาเจอคำตำหนิ
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การชี้ขุมทรัพย์ มหาสมบัติ

+ ♡ + เวลาเจอคำนินทา
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การสะท้อนว่า เรายังคงเป็น คน ที่มีความหมาย

+ ♡ + เวลาเจอความผิดหวัง
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ วิธีที่ธรรมชาติ กำลังสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้กับชีวิต

+ ♡ + เวลาเจอความป่วยไข้
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ การเตือน ให้เห็นคุณค่า ของการ รักษาสุขภาพ ให้ดี

+ ♡ + เวลาเจอความพลัดพราก
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ บทเรียนของ การรู้จักยืนหยัด ด้วยตัวเอง

+ ♡ + เวลาเจอลูกหัวดื้อ
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ โอกาสทอง ของการพิสูจน์ ความเป็นพ่อแม่ ที่แท้จริง

+ ♡ + เวลาเจอแฟนทิ้ง
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ความเป็นอนิจจัง ที่ทุกชีวิต มีโอกาสพานพบ

+ ♡ + เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ประจักษ์พยานว่า ไม่มีใคร ได้ทุกอย่าง ดั่งใจหวัง

+ ♡ + เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ความอนัตตา ของชีวิต และสรรพสิ่ง

+ ♡ + เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ อุทาหรณ์ของชีวิต ที่ไม่น่าเจริญรอยตาม

+ ♡ + เวลาเจอคนเลว
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ ตัวอย่างของชีวิต ที่ไม่พึงประสงค์

+ ♡+ เวลาเจออุบัติเหตุ
ให้บอกตัวเอง นี่คือ คำเตือนว่า จงอย่าประมาทซ้ำอีก เป็นอันขาด

+ ♡ + เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ บททดสอบ ที่ว่า 'มารไม่มี บารมีไม่เกิด'

+ ♡ + เวลาเจอวิกฤต
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ บทพิสูจน์สัจธรรม 'ในวิกฤต ย่อมมีโอกาส'

+ ♡ + เวลาเจอความจน
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติ เปิดโอกาส ให้เรา ได้ต่อสู้ชีวิต

+ ♡ + เวลาเจอความตาย
ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้าย ที่จะทำให้ ชีวิต มีความสมบูรณ์
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +(scissors)

การถนอมผลมะกอกป่าไว้กินตลอดปี

พืช)ถนอมผลมะกอกป่าไว้ให้มีกินตลอดปี ใส่ถุงพลาสติกแล้วรัดยาง เก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น สามารถนำออกมาใช้ได้ตามต้องการ รสชาติไม่เปลี่ยน

จาก sms farmerInfo

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เข้าใจวิถีแห่งเต๋า

เข้าใจวิถีแห่งเต๋า
วิถีแห่งเต๋า คือ วิถีการดำเนินชีวิตแบบง่ายๆ สงบเย็น และมีความสุขเป็นฐาน
ถ้าถามว่า “ชีวิตคืออะไร” เต๋าจะตอบว่า “ชีวิตคือการเต้นรำ” ถ้าเราเข้าใจการดำเนินชีวิตแบบเต๋า เราจะเต้นรำไปตามจังหวะอย่างสนุกสนาน
เต๋าจะแบ่งชีวิตเป็นช่วงๆ อย่างเช่น ช่วงเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่น เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนแก่ชรา ในแต่ละช่วงเราต้องรู้ว่า เราควรจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร จึงจะเหมาะสมกับชีวิตช่วงนั้นๆ
จังหวะในความหมายของเต๋าคือ “เวลา” ในความหมายปัจจุบันนั่นเอง จึงกล่าวได้ว่า เต๋าจะให้ค่าเรื่อง “เวลา” มาก ไม่ต่างจากความเชื่อของผู้คนในโลกตะวันตก แต่การมองค่าเวลา ของเต๋าจะแตกต่างตรงข้ามกับโลกตะวันตก
ชาวเต๋าจึงให้ค่าเวลาที่ช่วงนอน ช่วงตื่น ช่วงดื่มชา ช่วงคุยกันกับเพื่อนๆ และช่วงออกกำลังกายอย่างมากๆ เพราะนี่คือช่วงเวลาแห่งความสุข
จะเล่น จะนอน จะกิน จะดื่ม จะคุย จะออกกำลังกายกันอย่างไรให้มีความสุข และที่สำคัญ จะนอน อย่างไรจึงจะหลับได้สนิท หรือถ้าฝันก็ฝันแต่เรื่องดีๆ งามๆ
How to ของคนตะวันตกกับ How to ของคนที่คิดแบบเต๋าแตกต่างตรงข้ามกัน
How to ตะวันตกเน้นเรื่องจะรวย จะเป็นมหาเศรษฐี จะมีอำนาจ และจะรักษาอำนาจได้อย่างไร ส่วน How to แบบเต๋าๆ จะเน้นเรื่อง “สุขภาวะ” ทั้งกายและใจ และจะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ได้อย่างไร
คิดแบบตะวันตกมีความ “ไม่หยุด ไม่พอ มีความโลภ และโลกของสงครามเป็นฐานชีวิต มีความเครียด รวมทั้งความทุกข์เป็นอาภรณ์แห่งชีวิต”
คิดแบบเต๋ามีคำว่า “หยุด” มีคำว่า “พอ” ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกแห่งสันติ ไม่แสวงหามากจนเกินกำลัง และมีความสุขเป็นอาภรณ์แห่งชีวิต
คนคิดแบบตะวันตกจะไม่สนใจเรื่อง “ใจ” เลย ใจจึงโลภ โกรธง่าย ใจจึงหยาบ ชอบการใช้อำนาจและความรุนแรง เพราะใจหลงอยู่ในโลกของสงคราม โดยมีกิเลสตัณหา (โลภ โกรธ หลง) ครอบงำ
คิดแบบเต๋า “ใจ” สำคัญอย่างยิ่ง เราต้องทำใจให้ “งาม” ตลอดเวลา เพราะใจงามเท่านั้น จึงจะเข้าถึงความสุขได้
คน “ใจงาม” เพราะได้ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกธรรมชาติ และสังคมที่งาม คนตะวันออกจะมีเวลาหรือให้เวลาต่อการเดินชื่นชมธรรมชาติ ดูศิลปะวัฒนธรรมเก่า และชอบฟังเสียงเพลง
คนที่คิดแบบตะวันตก แม้ในเวลา “พักผ่อน” ก็พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ เพราะอดไม่ได้ ต้องเอาปัญหาหรือธุรกิจติดไปด้วย ต้องติดเอาคอมพ์เอามือถือไป จะเล่นกีฬาก็ต้องเป็นกีฬาที่มีการ “แข่งขัน” เอาชนะ และมีเดิมพัน
ออกกำลังกายแบบตะวันตก ก็ต้องออกกันแบบ“สุดๆ” เรียกว่า ต้องใช้แรงจนเกือบหมด ต่างจากคนตะวันออกที่จะเล่นกีฬาเพื่อความสุขหรือสนุก และจะออกกำลังกายเพื่อสร้าง “แรง” หรือ “กระตุ้น” ให้เกิดกำลัง และรักษากำลังไว้ ไม่ใช้กำลังจนหมด
คนตะวันตกจะเข้าใจ “กาย” เป็นเพียงกลไกไร้ชีวิต และจะสนใจเรื่อง “กาย” เฉพาะตอนที่ล้มป่วยเท่านั้น เวลาทำงานของคนที่คิดแบบตะวันตก เรื่องงานต้องมาก่อนเสมอ
ดังนั้น บางครั้ง ต้องทำงานติดๆ กัน โดยไม่นอน หรือทำงานจนลืมกินข้าว
กายจึงมีฐานะเป็น “ทาส” เท่านั้น
ชาวเต๋าจะเน้นเรื่องดุลยภาพของกาย และใจ ตลอดเวลา “กายคือฐานแห่งชีวิต” ดังนั้นเราต้องสร้าง “ฐานชีวิต” ที่มั่นคงและยั่งยืน นี่คือหน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติ
นอกจากนี้ ชาวเต๋าสนใจคลื่นของเวลาอีกแบบหนึ่ง ที่มีค่าอย่างยิ่งคือ “เวลาของการตาย” หรือการจากไปสู่การมีชีวิตใหม่
ชาวเต๋าเชื่อว่า ทุกช่วง 10 ปี ต้องจากไป ลาจากสิ่งเก่าไปสู่สิ่งใหม่ ทิ้งชีวิตเก่า และสร้างชีวิตใหม่ หรือพูดแบบพุทธคือ เราต้องรู้จัก “ค่าแห่งความตาย และค่าแห่งการได้เริ่มต้นใหม่”
หมายความว่า เราต้องไม่หลงทำงานอะไรที่จำเจอยู่แบบนั้นเช่นนั้นทุกวัน ทุกปี พอเราทำงานอย่างหนึ่งจนเราเรียนรู้และเข้าใจแล้ว เราต้องกล้าเปลี่ยนงาน เปลี่ยนชีวิต กล้าเริ่มต้นใหม่ และค้นพบผู้คนที่เรายังไม่เคยรู้จัก
คนที่คิดอย่างตะวันตก มักจะทำงานจนเกษียน ไม่ไล่ ไม่เลิก
คนตะวันตก จึงถือว่า “การจากไปคือ ความทุกข์ ความโศกเศร้า” แต่คนตะวันออกจะถือว่า "การจากไปคือ ความสุข”
เต๋าจะสอนให้เรารู้ค่าแห่งความเป็นอิสระ การจากไปคือ การพบอิสระ แต่คนที่คิดแบบตะวันตก ชีวิตคือ การสะสมและการได้มา และการติดยึดอยู่กับ “อะไร” จะทำให้เราตกเป็น “ทาส” สิ่งนั้น โดยไม่รู้ตัว
ยิ่งมีเงินทองทรัพย์สินมาก เราก็ต้องเป็น“ทาส” ทรัพย์สินมากมายที่เราครอบครองอยู่ ยิ่งมีสามี หรือมีเมียมาก มีลูกมากก็ยิ่งเป็น “ทาส” สามี ทาสเมีย ทาสลูก ยิ่งมีอำนาจมากก็ยิ่งเป็น “ทาส” อำนาจ ยิ่งมีชื่อเสียงมากก็ตกเป็น “ทาส” ชื่อเสียง
การตรัสรู้ ก็คือ การรู้ถึงวิถีที่จะสลัดโซ่ตรวนที่รัดร้อยชีวิตเรา ช่วยให้เราสลัดหลุดจากตัวตน จากมงกุฎจอมปลอมที่สวมหัวอยู่ สลัดหลุดจากเงินทอง และอำนาจที่ติดหลง
ที่มา คิดแบบเต๋าๆ thaitangdan-news

กระดุมเม็ดแรก

 @ กระดุมเม็ดแรก
" เคยไหม ที่คุณตื่นนอนยามเช้า ครึ่งหลับครึ่งตื่น สวมเสื้อราวกับคนไร้วิญญาณ เมื่อกลัดกระดุมเสร็จแล้วก็พบว่าชายเสื้อทั้งสองข้างไม่เท่ากัน คุณกลัดกระดุมผิดทั้งแถว!
มันเริ่มจากการที่คุณไม่รู้ว่าคุณกลัดเม็ดแรกผิด แล้วกลัดต่อไปทีละเม็ดอย่างถูกต้อง เมื่อกลัดกระดุมเสร็จสิ้น ก็ผิดทั้งหมด
ในตัวอย่างนี้ ความไม่รู้ทำให้คุณ 'กลัดกระดุม' ผิดทั้งแถว!
เคยไหมที่คุณเก็บเนื้อในตู้เย็นนานข้ามปีจนเนื้อหมดอายุ แต่ไม่ยอมทิ้ง เพราะเป็นเนื้อจากต่างประเทศ ราคาแพง คุณปรุงอาหารจนเสร็จ เมื่อกินแล้วไม่อร่อยหรืออาหารเป็นพิษ
ในตัวอย่างนี้ ความเสียดายทำให้คุณ 'กลัดกระดุม' ต่อไป ทั้งที่รู้ว่าเม็ดแรกผิดรู!
เคยไหมที่คุณสมัครเรียนสายวิชาที่คุณไม่ชอบ ไม่ว่าเพราะพ่อแม่บังคับ หรือไม่รู้จะเรียนอะไรนอกเหนือจากสายนั้น คุณสอบได้ ลงทะเบียน เรียนผ่านไปทีละเทอม ทีละปี จนจบ คุณได้รับปริญญาบัตร หางานที่เกี่ยวข้องกับสายวิชาที่ร่ำเรียนมา แล้วทำงานไปทีละวันๆ ทีละเดือนๆ ทีละปีๆ จนวันหนึ่งคุณก็หมดแรง และยอมรับว่าคุณ 'กลัดกระดุม' ผิดมาตั้งแต่เม็ดแรก
ในตัวอย่างนี้ ความละเลยทำให้คุณดันทุรัง 'กลัดกระดุม' เม็ดต่อไปทั้งที่รู้ดีว่ากลัดเม็ดแรกผิด
กระดุมเม็ดแรกสำคัญอย่างยิ่ง มันเป็นรากฐานของกระดุมเม็ดที่สอง สาม สี่... กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็ผิดหมดทั้งแถว ผิดทั้งยวง และอาจจะผิดทั้งชีวิต!...."
...............................................................................................................
การที่เราจะติดกระดุมเม็ดแรกได้ถูกนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่จะกำกับการติดกระดุมเม็ดแรกได้ถูกเสมอๆ นั้น คือ สติ ครับ

" ความรู้ไม่ใช่ผลไม้ที่มีอยู่แล้วในป่ารอเราไปเก็บ

" ความรู้ไม่ใช่ผลไม้ที่มีอยู่แล้วในป่ารอเราไปเก็บ มันไม่พอที่จะสร้างสังคมที่สมบูรณ์ขึ้น เราต้องการผลไม้ใหม่ๆ ที่เราต้องค้นหาหรือสร้างขึ้นมาเอง และหนทางไปสู่ความรู้ใหม่ๆ ก็คือการทดลองเรื่องประเภท ‘ทำไปทำไม?’ เช่นที่ ไมเคิล ฟาราเดย์ ทำ"
“แล้วมันใช้ประโยชน์อะไรได้?” เป็นประโยคที่หล่นจากปากของนายกรัฐมนตรีแห่งอังกฤษหลังจากดูสาธิตกลไกการทำงานของไฟฟ้ากับแม่เหล็กโดยนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง
นักวิทยาศาสตร์คนนั้นชื่อ ไมเคิล ฟาราเดย์ เป็นผู้ค้นพบความลับเกี่ยวกับไฟฟ้ามากมายหลายเรื่อง งานของเขาล้ำยุค แต่ดูไม่มีประโยชน์อะไร
ฟาราเดย์ผู้นี้มีชาติกำเนิดต่ำต้อย ฐานะยากจนมาก เขาเรียนไม่จบชั้นประถมเพราะครูเห็นว่าเขาเป็นเด็กทึ่ม เขาอาจไม่ได้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์หากมิใช่เพระเขาทำงานในร้านทำปกหนังสือ มีโอกาสผ่านตาหนังสือจำนวนมากมาย เขาอ่านหนังสือทุกเล่มที่ผ่านมืออย่างกระหาย และพบว่าตัวเองรักวิทยาศาสตร์ เขาเรียนเองทุกอย่าง ค้นคว้าทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้าแทบทุกอย่างที่จินตนาการของเขาโลดแล่นไปถึง .....
....เมื่อนายกรัฐมนตรีอังกฤษถามเขาว่า “แล้วมันใช้ประโยชน์อะไรได้?” ฟาราเดย์ตอบว่า “แล้วทารกแรกเกิดใช้ประโยชน์อะไรได้?”
บุคคลสำคัญและผู้สร้างสรรค์สิ่งสำคัญของโลกทุกคนล้วนเป็นทารกไร้ประโยชน์มาก่อนทั้งสิ้น! งานนวัตกรรมทุกชิ้นเป็นทารกแรกเกิด มันอาจโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่สมบูรณ์ หรืออาจตายเสียก่อน เราไม่มีทางรู้จนกว่าจะลองเลี้ยงทารกคนนั้น
‘ทารกแรกเกิด’ ที่ดูไร้ประโยชน์ของฟาราเดย์กลายเป็นรากฐานให้ เจมส์ คลาร์ก แมกซเวลล์ สานต่อ แล้วต่อมาเป็นรากฐานให้ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พัฒนาความคิดของเขา ต่อยอดกลายเป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่แห่งสหัสวรรษ!

ระนาบที่สี่ของชีวิต

@ ระนาบที่สี่ของชีวิต

ข้อเขียนของวินทร์ เลียววาริณมีความลึกซึ้งและให้ข้อคิดแก่เราได้มาก หลายคนคงชอบอ่านนะครับ ผมคนหนึ่งละที่เป็นแฟนคลับแบบเงียบๆ ชอบอ่านในwww.winbookclub.comครับ วันนี้ขอนำข้อเขียนดีๆเรื่องหนึ่งมาฝากเพื่อนๆ...ขอบคุณภาพประกอบจากhttp://khrufonlpmp.blogspot.com ครับ
@ ระนาบที่สี่ของชีวิต
วิชาเรขาคณิตเป็นองค์ความรู้ของชาวกรีกโบราณเมื่อสามร้อยปีก่อนคริสต์กาล ตัวการใหญ่ที่ทำให้เราต้องท่อง “เส้นตรงเส้นหนึ่งตั้งอยู่บนเส้นตรงอีกเส้นหนึ่ง มุมประชิดรวมกันเท่ากับสองมุมฉาก” ฯลฯ ก็คือ ยูคลิดแห่งอเล็กซานเดรีย บิดาแห่งวิชาเรขาคณิต
เรขาคณิตมาจากคำกรีก geometry
geo แปลว่า โลก, metry หรือ metron แปลว่า การวัด
วิชาเรขาคณิตชี้ว่าโลกและจักรวาลมีระนาบสามด้านคือ กว้าง ยาว ลึก สามระนาบนี้ก่อให้เกิดสามมิติของสรรพสิ่ง
แต่ผ่านไปสองพันกว่าปี ก็มีนักฟิสิกส์คนหนึ่งชื่อไอน์สไตน์คิดพิเรนทร์อะไรก็ไม่รู้ บอกว่าเรขาคณิตแห่งโลกและจักรวาลมีมากกว่าสามมิติ
มิติที่ 4 คือเวลา สอดแทรกเกี่ยวร้อยสามระนาบแรกนั้นเป็นเนื้อหนึ่งเดียวกัน เรียกว่า space-time เปรียบเสมือนสายใยผืนผ้าที่บิดไขว้ไปมา มีรูปทรงไม่แน่นอน บางคนจึงเรียกมันเท่ๆ ว่า fabric of cosmos ไอน์สไตน์รอดตัวไปเพราะเราสามารถพิสูจน์การดำรงอยู่ของ space-time ได้
ในแนวคิดของตะวันออก สามมิติเป็นจำนวนระนาบน้อยที่สุดที่ยังรักษาความสมดุลได้ เราไม่อาจสร้างโต๊ะหรือเก้าอี้ที่มีขาน้อยกว่าจำนวน 3 จีนโบราณนิยมสร้างโต๊ะสามขา เก้าอี้สามขา กระถางสามขา จอกเหล้าสามขา เป็นการออกแบบสไตล์ Minimalism จริงๆ
ชีวิตมนุษย์ก็เช่นกัน ชีวิตที่สมดุลต้องมีอย่างน้อยสามระนาบ : ยาว กว้าง และลึก
‘ยาว’ คือเส้นทางเดินของชีวิตจากวันเกิดจนวันตาย จากจุด ก. ไปยังจุด ข. ค. ง. จนไปถึงจุดที่สิ้นสุดลมหายใจในโลกนี้
‘ยาว’ เริ่มที่การเกิด การเรียนหนังสือ การทำงาน การสร้างครอบครัว และความตาย
นี่คือชีวิตเป็นเส้นตรง
‘กว้าง’ คือระยะของทัศนคติของเรา คือการเรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้มีแค่การเดินไปถึงจุดหมาย หรือเดินทางจากวันเกิดไปถึงวันตาย ชีวิตยังมีด้านของการแสวงหาความรู้อื่นๆ งานอดิเรก การช่วยเหลือคนอื่น กิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้เราขยายโลกทรรศน์ของเรา
เราอาจมีวิชาความรู้อย่างเดียว ก็ใช้หากินอย่างเดียวไปจนวันตายได้ แต่เพียงเท่านี้ไม่อาจทำให้เป็นชีวิตที่กว้างพอ
นี่คือชีวิตเป็นเส้นโค้ง
‘ลึก’ คือการค้นหาคุณค่าบางอย่างที่เสริมจิตวิญญาณเรา บางอย่างที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย มีคุณค่า มันอาจนำพาเราไปสู่โลกแห่งสันติสุขทางใจ หรือความสงบ ความพอดี ความงาม สมาธิ ปัญญาเชิงลึก
นี่คือชีวิตทางดิ่ง
สามระนาบก่อให้เกิดสามมิติของชีวิต เรียกว่าชีวิตที่สมดุล มันรวมความต้องการตามธรรมชาติ, จุดหมายของปัจเจก และสันติแห่งชีวิต
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการมองโลกและชีวิตแบบสามมิติหรือสามระนาบ
แต่หากใช้แว่นขยายส่องลึกเข้าไปอีก อาจพบอีกมิติหนึ่งซ่อนอยู่ มิตินี้เชื่อมทั้งสามมิติแห่งชีวิตเข้าเป็นเนื้อหนึ่งเดียวกัน
หากเวลาเป็นตัวเชื่อมสามมิติเป็นเนื้อเดียวกันตามโมเดลเรขาคณิตของโลกและจักรวาล มิติที่ 4 ที่ประสานสามระนาบของชีวิตเข้าด้วยกันก็คือความเมตตาและความรักสากล เป็นสายใยที่เชื่อมสรรพชีวิตเข้าด้วยกันเป็นเนื้อเดียวกัน
เราอาจเรียกมันเท่ๆ ว่า fabric of life - สายใยแห่งชีวิต
คำถามคือ เพียงสามมิติหรือสามระนาบ เราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบายๆ แล้ว ทำไมต้องมีระนาบที่สี่ด้วย?
คำตอบคือเพราะเราไม่ใช่สายพันธุ์เดียวในโลกและจักรวาล
และเพราะเรามาทีหลังเขาตั้งนาน!
ในระยะเวลาเพียงไม่กี่พันปีของอารยธรรมมนุษย์ ด้วยวิธีคิดที่มองว่ามนุษย์สำคัญที่สุดและมนุษย์ต้องมาก่อน เราทำลายชีิวิตอื่นๆ รอบตัวเราไปนับไม่ถ้วน เราเปลี่ยนทิศโลกไปในทางที่สร้างความเดือดร้อนต่อชีวิตสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งพืช สัตว์ และแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเอง เราเป็นผู้สร้างระบบทาสขึ้นมาใช้ต่อทั้งคนและสัตว์ ทุกอย่างทำบนข้ออ้างว่าสร้าง ‘สิ่งที่ดีกว่า’ เพื่อชีวิตมนุษย์ และในตอนจบวัน เราก็บอกอย่างภาคภูมิใจว่า เราใช้ชีวิตคุ้ม
เราสอนเด็กๆ ในโรงเรียนว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ” เด็กๆ ก็ท่องจำมาตลอดว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ” แต่มันก็อาจเป็นมิจฉาทิฐิที่ใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ
เมื่อยึดเอาผลประโยชน์ของเราเป็นหลัก กรอบความคิดของเราก็อยู่แค่ในสามระนาบนี้เท่านั้น
หลายคนอาจมองว่า ไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องปลูกต้นไม้ หรือสนใจความเป็นตายร้ายดีของป่า สัตว์ป่า แม่น้ำ ลำธาร ภูเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา การสูญเสียป่าสร้างเพื่อเขื่อนหรือทำไร่ก็เป็นแค่ 'ค่าใช้จ่าย' ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ระบบของโลกและจักรวาลไม่ได้ทำงานโดยที่แต่ละจุดเป็นเอกเทศของมัน ระบบของโลกและจักรวาลทำงานแบบทุกจุดเชื่อมต่อกัน จุดใดจุดหนึ่งพัง ก็กระทบต่อจุดอื่น เป็น Butterfly Effect
การสิ้นสุดของพืชสัตว์บางสายพันธุ์ การทำลายลำคลองสักสายสองสายหรือป่าสักผืน อาจดูห่างไกลตัว แต่ช้าหรือเร็ว ตรงหรืออ้อม มันจะส่งผลกระทบถึงเราจนได้
ปราศจากสายใยแห่งความเมตตา เราก็เป็นเพียงเครื่องจักรชิ้นหนึ่งที่เกิดมา กิน อยู่ สืบพันธุ์ ป่วย แล้วตายไป ไม่มีความหมายใดต่อโลก และว่าก็ว่าเถอะ หากพระแม่ธรณีมีชีวิตและความรู้สึก ก็คงอยากบอกว่า “ลูกคนนี้ไม่เกิดมาดีกว่า”
ทุกๆ สายพันธุ์ในโลกเกิดมามีหน้าที่เฉพาะตัวของมัน แมลงผสมเกสร ต้นไม้ให้อาหารแก่สัตว์ ขี้สัตว์เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ ซากศพสัตว์เป็นอาหารให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้แต่แบคทีเรียก็มีหน้าที่ของมัน ไม่มีอะไรสูญเปล่าหรือไร้ประโยชน์ ส่วน ‘สัตว์ประเสริฐ’ อยู่เหนือห่วงโซ่อาหาร อยู่เหนือระบบ และทำลายระบบ
ดังนั้นการบอกว่าเรารักโลกจึงอาจเป็นแค่คำพูดสวยหรู หากเรายังใช้ชีวิตเราเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่แยแสชีวิตสายพันธุ์อื่นๆ ตั้งแต่ต้นไม้ พืชพรรณ สัตว์ แบคทีเรีย
เมื่อปราศจากความเข้าใจระบบของโลกและจักรวาล เราก็ขาดความเมตตาต่อกัน และเมื่อปราศจากความเมตตาและความรักต่อสรรพสิ่ง เราก็เป็นเพียงความผิดพลาดของการรวมกันของเส้นชีวิตไม่สมบูรณ์สามเส้น
วินทร์ เลียววาริณ

การทำงานคือการปฏิบัติธรรม...

การทำงานคือการปฏิบัติธรรม...
วันนี้ได้เวลาทำดีอีกแล้ว เช้าอยู่บุญตรวจคนไข้โอพีดี บ่ายๆไปเป็นกรรมการสอบงานค้นคว้าอิสระให้นศ. ป. โท อาชีวอนามัยอีก 2 เรื่อง2 คน (อ่านเอกสารจบตอนตี 2 เมื่อคืน อิอิ) _ชีวิตที่เกิดมาของมนุษย์แต่ละคนต่างเกิดมาเป็นแรงค้ำจุนให้คนรอบข้างด้วยเสมอ เพราะแต่ละคนไม่สามารถจะมีชีวิตอยู่ตามลำพังได้
ขอบคุณแม่บ้านที่ตื่นแต่เช้าเตรียมอาหารให้ทาน ขอบคุณคนผลิตรถยนต์และรถยนต์ที่ไม่ยอมสึกหรอง่ายๆ ให้เราใช้ขับขี่เดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวก ขอบคุณคนสร้างถนนหนทางและเพื่อนร่วมทางที่ให้เราขับขี่รถได้อย่างปลอดภัยและอีกมากมาย...
ใครสะสมอัตตาตัวตนมาก คิดว่าตนเองเหนือคนอื่น ไม่พึ่งใครนั้นไม่จริง และเมื่อคิดได้ก็โน้มตัวลงมาช่วยเหลือจุนเจือกันตามโอกาสที่ควรกระทำ นั่นคือเราได้ทำภารกิจที่คู่ควรแก่การเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้แล้ว ใช่ไหมครับ!

ฟังรายการวิทยุรักพ่อ ตอนที่ 193 แควน้อยบำรุงแดน โดย กลุ่มรักพ่อภาคปฏิบัติ









http://youtu.be/ODd7zxmRvkg

รายการรักพ่อ193 แควน้อยบำรุงแดน


ฟังรายการทั้งหมด http://www.youtube.com/playlist?list=PL381074716754C1A0


พบกับสารคดีเทิดพระเกียรติ "แควน้อยบำรุงแดน",  ช่วงในหลวงในดวงใจ, บทกวีจากณุ บูรพา  , ทำไมเรารักพระเจ้าอยู่หัว, กลเม็ดเคล็ดลับกับการพึ่งตนเอง,
ฟังเพลงเดินทีละก้าว,รักพ่อ, พระภูมิพล, ออกอากาศทาง FM87.75 MHz คลื่นแห่งมิตรภาพ จ.นนทบุรี เมื่อ 19 พ.ค.2556




มาแล้วครับรายการรักพ่อ ช่วยสายต่อ ให้ระบือ ส่งสื่อสาร
เหมือนคนที่มีจิตร่วมกัน ร่วมปกป้องสถาบัน ให้มั่นคง
ช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ขอนำท่านผู้ฟังเข้าสู่รายการรักพ่อ

รายการวิทยุดีๆที่ตั้งใจทำในแนวจิตอาสา
ผู้ดำเนินรายการ : สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
ทีมงาน ห้องบันทึกเสียง สิงหา ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี
- กลุ่มรักพ่อภาคปฏิบัติ

๗ ข้อคิดรับอรุณ 29 พ.ย.2557

๗ ข้อคิดรับอรุณ  29 พ.ย.2557
- เรายกผู้อื่นขึ้น เพื่อปล่อยวางตัวเองลง - via Achara Klinsuwan
- รักเริ่มจากน้อย, ดีกว่าเริ่มจากร้อย, แล้วน้อยลง - fb
- ชีวิตที่เบียดเบียนตนเอง คือชีวิตทีเห็นคุณค่าของเงิน สำคัญกว่าสุขภาพของตน - พระไพศาล วิสาโล
- ไม่มีใคร ให้โอกาสกับชีวิตเรา ได้เท่าตัวเราเอง - หลวงพ่อปราโมทย์
- ข้อพึงระวัง ของการเป็นคนดี คือ เราจะเห็นคนรอบข้างว่า เขาเป็นคนไม่ดี..
- จงมี ให้มากกว่าที่อวด. จงพูด ให้น้อยกว่าที่รู้ - fb
- การทำในสิ่งที่รัก คือการได้มาซึ่งอิสรภาพ  ส่วนการรักในสิ่งที่ทำ คือการค้นพบความสุขของชีวิต - แฟรงค์ไทเกอร์..นักวาดการ์ตูน

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กฏของศูนย์ 30 ข้อ

กฎของศูนย์ 30 ข้อ

1. มีแผนการแต่ไม่ได้ทำ
= ศูนย์
2. มีโอกาสแต่ไม่รักษา
= ศูนย์
3. มีลงมือทำแต่ไม่สำเร็จ
= ศูนย์
4. มีคุณค่าแต่ไม่แสดง
= ศูนย์
5. มีก้าวหน้าแต่ไม่มีความอดทน
= ศูนย์
6. มีหน้าที่แต่ไม่สื่อสาร
= ศูนย์
7. มีศักยภาพแต่ไม่สำแดง
= ศูนย์
8. มีสร้างสรรค์แต่ไม่ผลักดัน
= ศูนย์
9. มีความรู้แต่ไม่รู้จักใช้
= ศูนย์
10. มีเป้าหมายแต่
ไม่กล้า
= ศูนย์
11. มีเวทีแต่ไม่ทำอย่างเต็มที่
= ศูนย์
12. มีอุทิศให้แต่ไร้ประโยชน์
= ศูนย์
13. มีหลักการแต่ไม่ยืนหยัด
= ศูนย์
14. มีอุดมการณ์แต่ไม่ยาวนาน
= ศูนย์
15. มีความกระตือรือร้น
แต่ไร้จุดหมาย
= ศูนย์
16. มีความเด็ดขาดแต่
ไม่มีความแน่วแน่
= ศูนย์
17. มีไอเดียแต่ไม่มีการกระทำ
= ศูนย์
18. มีน้ำใจแต่ไร้ความอ่อนน้อม
= ศูนย์
19. มีแต่ออกคำสั่งแต่ไม่ร่วมทำ
= ศูนย์
20. มีวิธีแต่ไม่กระทำ
= ศูนย์
21. มีกระทำแต่ไม่มีประสิทธิภาพ
= ศูนย์
22. มีตลาดแต่ไม่ปรับกลยุทธ์
= ศูนย์
23. มีงานทำแต่ขาดคุณภาพ
= ศูนย์
24. มีมาตรฐานแต่ขาด
การตรวจสอบ
= ศูนย์
25. มีผลงานแต่ขาดกำลังใจ
= ศูนย์
26. มีระบบแต่ไม่ใช้
= ศูนย์
27. มีแผนงานแต่ขาดการประเมิน
= ศูนย์
28. มีทีมแต่ไม่ให้ความร่วมมือ
= ศูนย์
29. มีสายตาแหลมคม
แต่มองไม่เห็น
= ศูนย์
30. มีปัญหาแต่ไม่แก้ไข
= ศูนย์

รักษาโรคกลากเกลื้อนแบบพื้นบ้านไทย

พืช)วิธีรักษาโรคกลากเกลื้อนแบบพื้นบ้านไทย แนะนำให้ใช้ดอกตูมผักบุ้งไทย 10 ดอก ตำให้แหลก แล้วนำไปทาผิวหนังที่เป็นโรควันละ 2 ครั้ง(เช้า-เย็น)

จาก sms farmerInfo

สูตรการทำ ยำลูกเดือยปลาอินทรีย์

สูตรการทำ ยำลูกเดือยปลาอินทรีย์

1.ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟจนร้อน ทอดตะไคร้ที่ยีเตรียมไว้จนกรอบ ตักขึ้นพักไว้

2.ทอดปลาอินทรีย์จนสุกเหลือง ตักใส่จานที่รองด้วยตะไคร้ทอดกรอบ

3. ผสมพริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทรายและข่าเข้าด้วยกัน ใส่ลูกเดือย หอมแดง ตะไคร้ และใบมะกรูด เคล้าให้เข้ากัน ตักราดบนชิ้นปลา พร้อมเสิร์ฟ

ที่มา หมอชาวบ้าน

อาการแสดงออกของภาระพร่องใต

อาการแสดงออกของภาวะพร่องไต
1.ปวดเมื่อยเอว โดยเฉพาะเวลาเหนื่อยล้า หรือ ทำงานหนัก เวลาอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน หรือท้องฟ้ามืด ไม่มีแสงแดดหรือหลังมีเพศสัมพันธ์

2.ปัสสาวะบ่อย ปริมาณมากและใส หรือ ปัสสาวะไม่สุด ไม่มีแรงเบ่ง

3.ท้องผูก อาจมีอุจจาระแข็ง ไม่มีแรงเบ่ง บางรายท้องเสียตอนย่ำรุ่ง

4.สมองไม่แจ่มใส อ่อนเพลีย ไม่มีพลังในการต่อสู้กับการงาน

5.นอนไม่หลับ ขี้ลืม หลับๆตื่นๆ

6.กลัวหนาว แขนขาเย็น

7.เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่มีความต้องการทางเพศ ตอนเช้าตื่นนอน อวัยวะเพศไม่แข็งตัว

8.มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคไตอักเสบ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ ความจำเสื่อม

9.ภูมิคุ้มกันต่ำ

10. ผมบนศรีษะหลุดง่าย

ทั้งหมดเป็นผลจากพลังใตเสื่อม ทำให้หน้าที่หรือการทำงานของระบบต่างๆถดถอย

ที่มา : หมอชาวบ้าน

เพิ่มขนาด เร่งลอกคราบปูดำ

สัตว์)เพิ่มขนาด-เร่งการลอกคราบปูดำอายุ30-60วัน ปลากระเบนเล็ก10กก.(หั่นชิ้นละ2นิ้ว)+ปลาป่น10กก. ให้กินวันละครั้ง วันเว้นวัน(เลี้ยงปูดำ200ตัว)

จาก sms farmerInfo

จำได้ไหม คุณทำอะไรครั้งแรก และครั้งสุดท้าย...

ไม่มีใครปั่นจักรยานเป็นมาตั้งแต่เกิดจริงไหมครับ
แต่คุณจำได้ไหมครับว่าคุณปั่นจักรยานได้อย่างไร…
.
1.คุณรู้สึกกลัวล้มและกลัวเจ็บมากแค่ไหนตอนหัดปั่นจักรยาน?
2.คุณล้มไปแล้วกี่ครั้งกว่าจะเริ่มทรงตัวได้?
3.คุณรู้สึกดีใจและมีความสุขมากแค่ไหนที่ปั่นจักรยานได้ในครั้งแรก?
.
- คุณรู้สึกดีใจมากที่ตัวเองสามารถทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
- คุณรู้สึกสุดแสนวิเศษจากสายลมที่ปะทะใบหน้าในขณะที่คุณปั่นเร็วๆ
- คุณลืมความเจ็บปวดและบาดแผลมากมายที่ล้มจนนับครั้งไม่ถ้วน
.
แต่พอโตขึ้นเรากลับลืมความกล้าในการลองผิดลองถูกในวัยเด็ก
ลืมความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากความสำเร็จในการทำสิ่งใหม่ๆครั้งแรกไปแล้ว
.
พวกเราส่วนใหญ่ในตอนนี้…
1.ปฏิเสธงานใหม่ๆที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะกลัวทำไม่ได้
2.ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของตัวเองเพราะกลัวไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
3.ไม่กล้าลองผิดลองถูกกับชีวิตเพราะกลัวผิดหวังและล้มเหลว
จนยอมติดอยู่ใน Comfortzone แคบๆของตัวเอง
.
“คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีทั้งความรู้สึกกลัว กังวลและสงสัยในตัวเอง
แต่พวกเขาไม่ยอมให้ความรู้สึกเหล่านั้นมาเหนี่ยวรั้งชีวิตเขาไว้จากสิ่งที่ต้องการ”
.
ผมมีเคล็ดลับในการเอาชนะความกลัวในการทำสิ่งใหม่มาฝาก
.
ทุกครั้งที่ผมกลัว กังวลและสงสัยในตัวเองเมื่อเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ผมจะนึกถึง…
- ครั้งแรกที่ผมปั่นจักรยาน ว่าผมกลัวแค่ไหน
- ครั้งแรกในการเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว ว่าผมกังวลแค่ไหน
- ครั้งแรก ในการพูดต่อหน้าฝูงชน ว่าผมรู้สึกสั่นไปทั้งตัวอย่างไร
และผมรู้สึกสุดยอดแค่ไหนเมื่อทำสิ่งเหล่านี้ได้ในครั้งแรก …
.
มันไม่ได้ทำให้ผมเลิกกลัวในการทำสิ่งใหม่หรอกครับ
แต่มันช่วยให้ผมมุ่งมั่นที่อยากได้ความรู้สึก “สำเร็จครั้งแรก” อีกครั้งมากกว่า
.
แล้วคุณละครับ ทำอะไรครั้งแรก เป็นครั้งสุดท้ายไปเมื่อไหร่?
.
ที่มา SucceedLifestyle Facebook

การฉีดน้ำและฟอร์มาลีนในตัวปลา..

เรื่องคลิปปลา ถามผู้รู้คือคนขายปลามาแล้ว. เพราะทีแรกดูคลิปแล้วไม่เข้าใจ

เขาฉีดน้ำและฟอร์มาลีนเพื่อประโยขน์
1. ได้น้ำหนักของตาชั่ง
2. ฟอร์มาลีนทำให้ปลาสดตลอดกาล ไม่เน่าเหม็น เนื้อสวย
3. ทำให้ปลาสวยท้องไม่เเฟบ เต่งตึงๆๆๆ
4. เอายางอุดปากปลาเพื่อให้ลิ้นจุกปากปลา น้ำที่ฉีด ไม่ทะลักออกปาก

เฮ้อๆๆๆๆ. ต่อไปนี้จะกินอะไรได้อ่ะ

สูตรปุ๋ยเสริมการติดผลของปาบ์มน้ำมัน

พืช)สูตรปุ๋ยเสริมการติดผลและเร่งสุกผลปาล์มน้ำมัน ปลาสด30กก.+กากน้ำตาล10กก.+พด.2 1ซอง หมัก3เดือน ใช้ฉีดพ่น อัตรา1ลิตร/น้ำ20ลิตร (ทุก3เดือน)

จาก sms farmerInfo

เทคนิคแยกเพศเมล็ดสละอินโด

พืช)การนำเมล็ดสละอินโดจากช่อเดียวกันมาล้างแล้วผึ่งลมไว้จนแห้ง ช่วยแยกเพศได้โดยไม่ต้องรอต้นโต โดยเมล็ดที่หดสั้นคือตัวเมีย เมล็ดไม่หดคือตัวผู้

จาก sms farmerInfo

ฟังเพลง "ปลายฝนต้นหนาว" งานใหม่จากนาท ซูดาน

"ปลายฝนต้นหนาว
เรื่องราวของฤดูกาล
ดอกไม้เบ่งบาน สายลมโชยผ่านยามเช้าสดใส

หมอกขาวเคลื่อนลอย
แมงปอตัวน้อยโบยบินแกว่งไกว
หมู่มวลพฤกษไพร ผลัดไปตามฤดูกาล "

เพลงใหม่จากขุนเขา ที่นาท ซูดาน เขียนออกมาได้อย่างพิถีพิถันมากขึ้น...

เพลงปลายฝนต้นหนาว (demo) นาท ซูดาน ,พย2557: http://youtu.be/3NTLBPnviyQ

คำเตือนสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ช่วงอากาศเย็น 28พย57

สัตว์)อากาศเย็นกับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน

บันทึกผู้หญิงทำนา .. การเรียนรู้เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น

ดูแล้วชอบ กับลูกชาวนา ที่ทำนาไม่เป็น กลับมาเรียนรู้และใช้โซเชียลมีเดียมาเพิ่มมูลค่า ทำนาให้ดีขึ้น ...

Social Biz : บันทึกผู้หญิงทำนา (26 พ.ย. 57) [HD]: http://youtu.be/Ytk4hi1-aYM

3 ข้อคิดสะกิดใจ 28พ.ย.2557

1.หมั่นเอารอยยิ้มมาล้างหน้า เอามธุรสวาจามาล้างใจ - พระอาจารย์เผด็จ ติสโร

2. ชีวิตคนที่เราเกลียด มีผลต่อชีวิตเรา แต่ชีวิตเรา ไม่มีผลต่อชีวิตเขาเลย

3. อย่า "ตั้งเป้า" ว่า ต้อง "ดีที่สุด" แต่จง "ตั้งใจ" ว่าจะทำให้ "ดีกว่าเดิม" - หนุ่มเมืองจันทร์

ปุ๋ยน้ำออนซอนบำรุงพืชผัก

พืช)ปุ๋ยน้ำออนซอนบำรุงพืชผักได้ผลดี ใช้มูลค้างคาว+มูลสุกร+มูลเป็ดอย่างละ1กก.+น้ำส้มควันไม้500มล.+EM30มล.+กากน้ำตาล1ลิตร+น้ำ200ลิตร หมัก1คืน

จาก sms farmerInfo

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

"สิ่งที่ไม่ดีอย่าไปจดจำ จดจำแต่สิ่งที่ดีที่มีต่อกัน เพราะชีวิตนี้มันสั้นนัก"

"สิ่งที่ไม่ดีอย่าไปจดจำ จดจำแต่สิ่งที่ดีที่มีต่อกัน เพราะชีวิตนี้มันสั้นนัก"
ชอบอันนี้.....แชร์โดย Dao
2 คนเป็นเพื่อนซี้กัน.. ร่วมเดินทางไปในทะเลทราย…
ระหว่างทาง… เกิดทะเลาะกัน เพื่อนคนหนึ่ง..ระงับอารมณ์ไม่อยู่…ตบหน้าอีกฝ่าย เพื่อนที่ถูกทำ ร้าย….เจ็บปวด…แต่ไม่เอ่ยวาจา… กลับเขียนลงบนผืนทรายว่า “วันนี้…ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า”
พวกเขายังคงเดินทางต่อ…กระทั่งถึงแหล่งน้ำ พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำ…แต่เกิดอุบัติเหตุคนที่ถูกตบหน้ากลับจมน้ำ เพื่อนอีกคนไม่รั้งรอ รีบลงไปช่วยทันที
คนรอดตาย…ยังคงไม่เอ่ยวาจา…กลับสลักลงไปบนหินใหญ่…“วันนี้…เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้”
อีกคนไม่เข้าใจ…เลยถามว่า “เมื่อถูกฉันตบหน้า เธอเขียนเรื่องราวลงพื้นทราย แล้วเรื่องที่ได้ช่วยจมน้ำ ทำไมจึงต้องสลักบนหิน”
อีกคนยิ้มพราย…กล่าวตอบ
เมื่อถูกคนที่รักทำร้าย…เราควรเขียนมันไว้บนพื้นทราย ซึ่ง “สายลมแห่งการให้อภัย” จะทำหน้าที่พัดผ่าน ลบล้างไม่เหลือ”
แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมาย เกิดขึ้นเราควรสลักไว้บน “ก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ” ซึ่งต่อให้มีสายลมแรงเพียงใด ก็ไม่อาจ ลบล้าง ทำลาย
"สิ่งที่ไม่ดีอย่าไปจดจำ จดจำแต่สิ่งที่ดีที่มีต่อกัน เพราะชีวิตนี้มันสั้นนัก"

ทำนายนิสัยจากเวลาเกิด

ตรงไม่ตรง...ลองพิจารณาค่ะ
ทำนายนิสัยจากเวลาเกิด

เวลา 05.00-06.59 น.

เป็นคนที่มีมารยาท ทำอะไรระมัดระวัง ค่อนข้างละเอียดถี่ถ้วน ทำงานอะไรแล้วไม่ยอมให้ตกหล่นง่ายๆ เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อารมณ์เสียง่าย แต่ไม่นานก็กลับมายิ้มอย่างเดิมแล้ว ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร แต่ไม่ใช่คนแอนตี้สังคม เพีงแต่ไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายเท่านั้นเอง

เวลา 07.00-08.59 น.

เป็นคนที่มีบุคคลิกของความเป็นผู้นำ ทำให้ผู้อื่นเชื่อถือได้ง่าย เป็นคนไม่กลัวใคร ชอบทำอะไร เสี่ยงๆ ชอบความท้าทาย เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความ สามารถในการทำงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี

เวลา 09.00-10.59 น.

เป็นคนที่ค่อนข้างเนี้ยบ ชอบความสะอาดสะอ้าน รสนิยมดี เป็นคนที่สุภาพอ่อนโยน มีมารยาท เข้ากับคนได้ง่าย จัดว่าเป็นคนมีเสน่ห์ทีเดียว เป็นคนที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน มีเป้าหมายในชีวิต

เวลา 11.00-12.59 น.

เป็นคนร่าเริง มีอารมณ์ขัน อยู่ที่ไหนก็ได้เฮที่นั่น เป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบเดินทาง ชอบการผจญภัย การได้พบเห็นอะไรใหม่ๆ ทำให้มีความสุข เป็นคนมีชีวิตชีวา กระตือรือร้น ไม่จู้จี้ จุกจิก

เวลา 13.00-14.59 น.

เป็นคนที่รักสงบ ไม่ชอบอะไรที่สับสนวุ่นวาย ทำอะไรค่อนข้างระมัดระวังจนบางทีทำให้ชีวิตหมดสนุก เป็นคนที่ซื่อสัตย์ จิตใจดี เป็นคนที่อ่อนน้อม สุภาพ ไม่ชอบทะเลาะกับใคร มีความประนีประนอมสูง ถ้ารักใครขึ้นมาละก็รักจริง ทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรัก

เวลา 15.00-16.59 น.

เป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เสมอ ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร มักจะทำก่อนที่จะคิด จึงต้องมีเรื่องปวดหัวอยู่เรื่อย เป็นคนที่ฉลาดไหวพริบดี เอาตัวรอดเก่ง กล้าพูด กล้าทำ มีจิตใจที่กล้าแกร่ง เป็นคนที่ดูแล้วค่อนข้างคล่องไปสักนิด แต่เป็นคนที่จิตใจดีทีเดียว ไม่กะล่อนอย่างที่เห็นภาพนอก

เวลา 17.00-18.59 น.

เป็นคนที่ไว้ตัว มีความคิดที่ค่อนข้างก้าวร้าว เชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบทำอะไรตามระเบียบ ค่อนข้าง จู้จี้ ขี้บ่น ทำอะไรละเอียดถี่ถ้วน ไม่ชอบทำอะไรออกนอกลู่ นอกทาง ทำงานอย่างจริงจัง มีมาตรฐานในการทำงานที่สูงมาก ไม่ชอบทำอะไรชุ่ยๆ

เวลา 19.00- 20.59 น.

เป็นคนขยันขันแข็ง สู้งานหนักไม่ท้อถอย ทำอะไรตรงไปตรงมา กล้าพูด กล้าทำ เป็นคน กระตือรือร้นในทุกๆ เรื่อง ไม่ชอบฝันกลางวัน ชอบทำความฝันให้เป็นจริงมากกว่า ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใจกว้าง เป็นคนที่น่าคบ มีความจริงใจให้กับทุกคน

เวลา 21.00-22.59 น.

เป็นคนไม่ช่างพูด แต่โรแมนติก ชอบทำอะไรให้ประหลาดใจ ใจดี พูดจาสุภาพ มีเสน่ห์ ไม่ชอบทำอะไรเร่งร้อน จัดว่าเป็นคนเฉื่อย มีความนุ่มนวลอ่อนโยน

เวลา 23.00-00.59 น.

เป็นคนมีชีวิตชีวา ไม่อยู่นิ่ง ชอบท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนรักอิสระมาก ไม่ยอมผูกพันกับใครง่ายๆ

เวลา 01.00-02.59 น.

เป็นคนใจเย็น แต่ถ้าโกรธจะรุนแรง ทำอะไรเชื่องช้า ทำไปเรื่อยๆ แต่เป็นคนที่ร่าเริงเข้ากับคนง่าย

เวลา 03.00-04.59 น.

เป็นคนชอบทำอะไรท้าทาย เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมแพ้ใคร เป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดี กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ค่อนข้างดื้อ แต่รักใครรักจริง แต่เป็นคนตกหลุมรักได้ง่าย

คบมิตรที่ดี ชีวิตดีขึ้น /~*

คบมิตรที่ดี ชีวิตดีขึ้น /~*

ชีวิตของคนจำนวนไม่น้อยเลย ที่เปลี่ยนไปเพราะบุคคล ที่คบหากันเป็นมิตรสหาย บางคนเดินลงเหวเพราะ..เพื่อน ในขณะที่บางคน สามารถขึ้นจากเหวได้ เพราะ..มิตรที่ดี บางคนคบ..มิตรไม่ดี เพราะไม่พิจารณาดูกันให้ดีเสียก่อน แต่ไปสนิทคลุกคลีกับเขา เพียงเพราะต้องการได้รับการยอมรับจากคนอื่น เมื่อมีคนยอมรับ จึงคบหากับเขาไปทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นคนไม่ดี..

บางคนก็อ้างว่าคบกันมานานแล้ว เขาจะเป็นคนไม่ดีอย่างไร ก็ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อน จึงคบหากับเขา ไปโดยไม่ช่วยดึงเขาออกมาจาก หนทางแห่งความเสื่อม พอคบกันนานๆ ไปตัวเอง จึงเดินอยู่ในทางเสื่อมนั้นด้วย มิตรที่ดี.. คือ.. ผู้ที่อยากให้เราได้ดี ไม่ดึงเราไปในทางที่ผิด ทำนองคลองธรรม..

มิตรที่ดี..นั้น มีแต่คิดจะส่งเสริม และแนะนำสิ่งดีๆให้ กล้าที่จะตำหนิ เมื่อเราเห็นผิดเป็นชอบ : มิตรที่ดี.. ไม่กล่าวร้ายเราลับหลัง ไม่โป้ปด ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม : มิตรที่ดี.. ไม่จำเป็นต้องอยู่เฮฮา กับเราตลอดเวลา แต่จะมาอยู่เคียงข้างเสมอ เมื่อเรามีทุกข์

การเลือกคบมิตรที่ดี เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ โดยละเอียด .. การคบ..คนดี ก็เป็น..ศรีแก่ตัวเอง มิตรที่เป็นศรี แก่ชีวิตเราเองนั้น ไม่ใช่คนเก่ง หรือคนรวย แต่ต้องเป็น..คนดี

? ? ?

ต้องเข้าใจเกมการตลาดของเดอะวอยซ์

"ถ้าเราเข้าไปประกวดรายการเดอะวอยซ์ หรือ ไทยแลนด์ก๊อตทาเล้นท์ หรือ รายการประกวดร้องเพลงต่างๆ ศิลปินที่ทำเพลงเอง สร้างผลงานเอง พอไปอยู่ตรงนั้น เหมือนไปลดค่าของตัวเองลง คำตัดสิน คำวิจารณ์ ให้เข้ารอบ ตกรอบ อยู่ที่กรรมการตัดสิน"

"เออ ถ้าเอาเพลงของตัวเองไปร้อง หากกรรมการไม่ชอบ มันก็ติว่า ไม่ดี แต่มันไม่เคยเข้าใจ ตัวตนของศิลปินผู้สร้างงาน"

"เดินอยู่บนแนวทางของตัวเองดีกว่า"

"ถ้าอยากได้คะแนนโหวต เสียงกรี๊ดจากรายการเยอะๆ มึงก็ต้องร้องเพลงของค่าย เพลงฮิตๆดังๆที่คนรู้จัก พอเพลงดัง ยอดวิวในยูทูป ก็พุ่งขึ้น ยอดขายซีดี หรือ ริงโทน ดาวโหลด ก็ขยับ รับเงินล้วนๆ"

"มันก็อยู่ในแผนการตลาดของพวกเค้าทั้งนั้นล่ะ ถ้ามึงเอาเพลงที่ทำเอง แต่งเอง เอาไปร้องดูสิ ไม่ได้เกิดหรอก"

ป้องกันกล้วยน้ำว้า ต้นโค่น + ลดภาระช่วงติดผล

พืช)เมื่อกล้วยน้ำว้าเริ่มโต-เก็บเกี่ยว ควรตัดแต่งใบแก่+ใบที่เป็นโรคออก ให้เหลือติดต้น 7-12 ใบ เพื่อป้องกันต้นโค่นและลดภาระของต้นช่วงติดผล

จาก sms farmerInfo

?•?::การแสวงหาความรู้อย่างโลก::?•???

?•?::การแสวงหาความรู้อย่างโลก::?•???

ก็เป็นเพียงบทบาท หรือเป็นอุปกรณ์ที่จะหาวัตถุปัจจัย หรือสถานะในสังคมเท่านั้น ส่วนหน้าที่ที่แท้จริงของมนุษย์ จะต้องมุ่งเข้าไปสู่ชัยชนะเหนือชีวิต ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ ถ้าสมมติว่าท่านทั้งหลาย มีความรู้มากขึ้นทุกวัน ๆ แต่ค่อย ๆ พ่ายแพ้ต่ออารมณ์ขึ้นทุกวัน ค่อย ๆ ทนเพื่อนมนุษย์ไม่ได้ ค่อย ๆ อภัยให้ใครไม่ได้ ถ้าเช่นนี้ท่านพ่ายแพ้แล้ว แม้โดยรูปแบบเราอาจจะเรียกว่าเป็นผู้กำลังชนะ แต่ผู้ชนะที่แท้จริงก็คือผู้ที่พิชิตชีวิตของเขาได้ ไม่ตกเป็นทาสของสุขและทุกข์ นอกจากไม่ตกเป็นทาสของสุขและทุกข์แล้ว ยังมีอิสระ หรือเป็นนายเหนือสุขและทุกข์ และบุคคลเช่นนั้นแหละ จึงอาจเสวยสุขได้อย่างอิสระและพอดี นี่ก็หมายความว่า มนุษย์กำหนดบทบาทและหน้าที่ของตัว เพื่อที่จะเสวยคุณค่าของชีวิตตามเงื่อนไขของธรรมชาติ คือความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ใช่เสวยคุณค่าของชีวิตโดยความไม่รู้ ถ้าเป็นเช่นนั้น แทนที่จะได้เสวยรสของชีวิต ชีวิตมันจะเสวยเอา คือมันจะทำให้ย่อยยับไปทั้งชีวิต ไม่ใช่กินชีวิต แต่ถูกชีวิตมันเคี้ยวกินเอา ถ้าเราจะพบคนที่มีความรู้สูงสุดในสังคม ที่มีชื่อเสียง เป็นวีรบุรุษทางวิชาการ และหากว่าไม่ช้าไม่นานเข้า ก็คว้าปืนมาจ่อยิงขมับของตัวเอง ด้วยเรื่องใดก็ตาม ถ้าเช่นนั้นความรู้นั้น พิสูจน์แล้วว่า ไม่อาจที่จะช่วยชีวิต ไม่อาจที่จะช่วยยกชีวิตของเขาให้พ้นจากสัญชาตญาณแห่งการประทุษร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น

การศึกษาของมนุษย์จำเป็นต้องให้คำนิยามใหม่ จำเป็นเหลือเกินที่เราจะให้คำนิยามให้ชัดเจน เพื่อการปลุกเร้ามนุษย์ให้แสวงหาคุณเพื่อพิชิตชีวิต และพร้อมกันนั้น เพื่อที่กระจายความรู้นั้น ๆ ไปสู่สังคม ไม่ใช่แสวงหาเพื่อตัวเอง ด้วยความเห็นแก่ตัว การศึกษาต้องเป็นการปลุกเร้าให้แสวงหา คุณ อันสูงสุด คือความดับทุกข์สิ้นเชิง แต่นักวิชาการทั้งหลายคงจะไม่ในใจในคำกล่าวเช่นนี้ เขาไปให้คำนิยามของการศึกษาว่า เป็นการงอกงามอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ยังไม่ได้มีเป้าหมายว่างอกงามไปข้างไหนกันแน่ การศึกษาจึงทำให้เยาวชนของเราทั้งรุนแรงและเฉื่อยชา เด็กหนุ่มสาวของเรา รู้สึกเบื่อหน่ายสังคม และเหนื่อยหน่ายต่อชีวิต เพราะการศึกษาไม่ได้ให้คำตอบแก่เขาว่าเกิดมาทั้งทีนี้ มันมีความหมายและคุณค่ากันตรงไหน

การศึกษาหรือผู้ที่จะให้การศึกษานั้น จะต้งอคัดบุคคลหรือสั่งสอนในระบบที่จะให้เกิดการปลุกเร้า ไม่ให้หยุดในการแสวงหาคุณธรรม ไม่ใช่แสวงหาแต่ความรู้ คำว่า คุณธรรม นั้นไม่ได้หมายถึงความรู้ และความรู้นั้นเป็นของนิดเดียวของคุณธรรม และค่อนข้างจะนิดเดียวเสียเหลือเกิน ความรู้อย่างเดียวไม่อาจที่จะบำเพ็ญประโยชน์ให้ใครได้ หากเขาปราศจากความรักเมตตาปราณีต่อเพื่อมนุษย์

ความรู้จำเป็นที่ต้องผนวกกับความรัก คือ เมตตา กรุณา เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้นั้นจะได้อำนาจที่แท้จริง อำนาจกับความรู้ ถ้าพบกันโดยปราศจากความรัก จะนำไปสู่วิกฤติการณ์อย่างง่ายดายที่สุด ความรู้และอำนาจบวกกับตัณหา จะทำให้โลกล้ม เดือดร้อน พังพินาศอย่างเร็ววัน แต่ความรู้ถ้าได้พบกับความรัก แม้ปราศจากอำนาจก็ยังปลอดภัย ถ้าความรักพบอำนาจ แม้จะเกิดผลดีบ้าง แต่เป็นสิ่งที่อ่อนไหวเกินไป ก็อาจจะช่วยผู้อื่นได้ แต่หากการช่วยนั้นผิดแม้ด้วยอำนาจแห่งความรัก แต่ปราศจากความรู้ ก็อาจเกิดอันตราย เพราะความที่ปราศจากความรู้ต่อเป้าหมาย หรือคุณค่าของชีวิตนั่นเอง ต้องความรู้ความรัก และอำนาจ เกิดคุณค่าขึ้นในสังคมทั้งส่วนตนและส่วนรวม

......ฯลฯ

?

#ความหมายของชีวิต
ธรรมบรรยายโดย เขมานันทภิกขุ
แสดงแก่คณาจารย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางเขน
๑๔ สิงหาคม ๒๕๑๘

เพลงรุ่งอรุณ (เดโม) ผลงานเพลงใหม่ของนาท ซูดาน

"...รุ่งอรุณเช้าวันใหม่อีกแล้ว
นกกาเจื้อยแจ้วขับขานบทเพลง
สายลมพัดโชยใบหญ้าไหวครื้นเครง
สรรพสิ่งบรรเลงบทเพลงรุ่งอรุณ

ตะวันสาดแสงคือแสงแห่งความหวัง
ตราบเมื่อยังมีลมหายใจ
จะเดินให้ถึงฝั่งฝันอันแสนไกล
เมฆหมอกลื่นไหลยาวไกลไปตามเวลา.."

ถือได้ว่า เป็นผลงานเพลงที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์ และมุมมองชีวิตที่ผ่านมา งานเพลงชิ้นนี้ของนาท ซูดาน ลงตัวในเนื้อหา และเติบโตทางความคิดมากกว่าผลงานชุดที่ผ่านมาจริงๆ

เพลงรุ่งอรุณ (demo) - นาท ซูดาน: http://youtu.be/x_rRHaM22DE

ฉันไม่เคยรู้สิ่งนี้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นเลย

ฉันไม่เคยรู้สิ่งนี้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นเลย
หลายอย่างดีมากและน่าสนใจ..โปรดอ่านจนจบ
1. คุณเคยทราบไหมว่าเด็กนักเรียนญี่ปุ่นทำความสะอาดห้องเรียนร่วมกันกับคุณครู 15 นาทีทุกวัน ซึ่งสร้างจิตสำนึกรักความสะอาดอย่างแยบคายในคนยุคใหม่
2. คุณเคยทราบไหมว่าคนญี่ปุ่นที่เลี้ยงสุนัขจะต้องพกถุงเฉพาะที่คอยเก็บเศษอุจจาระของสัตว์เลี้ยงของตนเอง เรื่องสุขอนามัยและความทุ่มเทในสิ่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น
3. คุณเคยทราบไหมว่าคนงานทำความสะอาดในญี่ปุ่น ถูกเรียกว่า "วิศวกรสุขภาพ" และพวกเค้าสามารถต่อรองเงินเดือนได้ 5000-8000 ดอลล่าสหรัฐฯ และต้องสอบผ่านทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์เข้าก่อนทำงาน
4. คุณเคยทราบไหมว่าประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยมีแหล่งพลังงานธรรมชาติและต้องเผชิญกับภัยแผ่นดินไหวนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังสามารถยืนอยู่ใน 4 อันดับแรกของประเทศที่มีความสำเร็จทางเศรษฐกิจโลก
5. คุณเคยทราบไหมว่า เมืองฮิโรชิม่า ที่ถูกระเบิดปรมณู ได้ถูกฟื้นฟูคืนมาดั่งเดิมในเวลา เพียง10 ปี
6. คุณเคยทราบไหมว่ามีการงดใช้โทรศัพท์มือถือในร้านอาหารและบนรถไฟในญี่ปุ่น
8. คุณเคยทราบไหมว่าแม้ว่าเศรษฐานะคนญี่ปุ่นนั้นถูกจัดเป็นคนที่รวยที่สุดคนหนึ่งในโลก แต่พวกเค้าไม่จ้างคนรับใช้ พ่อแม่ยังคงมีหน้าที่เลี้ยงดูลูกและดูแลบ้านเป็นหลัก
9. คุณเคยทราบไหมว่าไม่เน้นการสอบในชั้นเรียนในระดับปีการศึกษาที่ 1-3 เนื่องด้วยเป้าหมายคือการวาง concept ชีวิตและบุคลิกนิสัยเป็นสำคัญ
10. คุณเคยทราบไหมว่าหากคุณไปร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ในญี่ปุ่นคุณจะพบว่าไม่มีคนญี่ปุ่นทานอาหารเหลือทิ้งเลยแม้ว่าเค้าจะทานปริมาณมากสักเท่าไร
11. คุณเคยทราบไหมว่าระยะเวลาเฉลี่ยของการที่รถไฟมาผิดเวลาในแต่ละปีประมาณ 7 วินาที!!! เค้าให้ความสำคัญของเวลามากในระดับนาที..วินาทีเลย
12. คุณเคยทราบไหมว่าเด็กนักเรียนจะแปลงฟันหลังเสร็จอาหารกลางวันที่โรงเรียนเพื่อรักษาสุขภาพฟันตั้งแต่เนิ่นๆ
13. คุณเคยทราบไหมว่าเด็กนักเรียนญี่ปุ่นทานอาหารกลางวันเสร็จในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงเพื่อระบบการย่อยที่ดี เมื่อถามถึงพฤติกรรมสุขภาพเหล่านี้..เค้าบอกว่า "เด็กคืออนาคตของชาติ"

ฟัง รายการ ในหลวงในดวงใจ Radio ตอน 34 ล้นเกล้าชาวไทย - โดย Thida Weangsamoot & Maliwan Pukka Keewiriyakul

ฟัง รายการ ในหลวงในดวงใจ Radio ตอน 34 ล้นเกล้าชาวไทย  -  โดย Thida Weangsamoot & Maliwan Pukka Keewiriyakul  
ในหลวงในดวงใจ 34 ล้นเกล้าชาวไทย
ช่วง"ในหลวงในดวงใจ" ตอน 34 (ล้นเกล้าชาวไทย..... ในหลวงของเรา) ในรายการวิทยุรักพ่อ โดย ธิดา เวียงสมุทร (Thida Weangsamoot) และ มะลิวัลย์ กี้วิริยะกุล (Maliwan Pukka Keewiriyakul)
ฟังเพลง when - ไกลกังวล, ทรงพระเจริญ, เรื่องเล่าในหลวง - ล้นเกล้าชาวไทย..... ในหลวงของเรา ,สารคดี ๙ คำพ่อสอน , พระราชดำรัสปิดท้ายรายการ
http://www.youtube.com/watch?v=5lPJreTrNGg



สันโดษ : ความหมาย และการฝึกฝน

สันโดษ

ความหมายของสันโดษ
เป็นมงคลข้อที่ 24 มงคลเป็นเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเข้าได้แสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนนำไปปฏิบัติเราเพียงแต่เปิดใจให้กว้างยอมรับความจริงตามกฎธรรมชาติ ด้วยจิตใจที่เป็นธรรมแล้วยินดีพอใจในสิ่งที่มี ที่เป็นที่หามาได้ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตรู้จักคิดดี คิดถูก เท่านั้นแหละ

ประเภทของสันโดษ
1. ยถาลาภสันโดษ ยินดีตามที่ได้ คือได้สิ่งใดมาก็พอใจอย่างนั้น ไม่เสียใจถ้าได้ไม่เท่าที่ต้องการ
2. ยถาพลสันโดษ ยินดีสิ่งที่ควารแก่สมรรถภาพคือคนเรามีความสามารถไม่เท่ากัน ทั้งกำลังกาย กำลังความคิด กำลังใจ กำลังความดี ก็ต้องรู้ว่า กำลังของตนเองมีแค่ไหน
3. ยถาสารุปปสันโดษ ยินดีสิ่งที่สมควรแก่ฐานะ คือให้พิจารณาว่าเรามีฐานะเป็นอะไร นักบวช ชาวบ้าน ครู นักเรียน อธิบดี เสมียน

วิธีฝึกให้มีสันโดษ
1. ให้หมั่นพิจารณาถึงความแก่ ความเจ็บ ความตาย อยู่ตลอดเวลา
2. ให้รู้จักปริมาณในการบริโภคอาหารกินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
3. ให้หมั่นให้ทานอยู่เสมอ ๆ เป็นการฆ่าความตระหนี่ ความโลภในตัวไปทีละน้อย ๆ
4. ให้หมั่นรักษาศีล
5. ให้หมั่นทำสมาธิเป็นประจำ

การเลี้ยงชีพด้วยสันโดษ
ในการดำรงชีพ พระพุทธศาสนามุ่งให้ทุกคนมุ่งหาปัจจัย 4 หล่อเลี้ยงร่างกาย พอเพียงเพื่อให้สังขารนี้สามารถดำรงอยู่ได้ตามอัตภาพ จากนั้นก็ใช้ร่างกายนี้สร้างความดีต่าง ๆ ให้เต็มที่ทุกรูปแบบทุกโอกาส มิได้มุ่งหมายให้คนเราดิ้นรนไขว่คว้าทะเยอทะยานจนเกิดเหตุเพื่อให้มีวัตถุต่าง ๆ พรั่งพร้อมบริบูรณ์ไว้บำรุงบำเรอตน

อานิสงค์ของการฝึกสันโดษ
1. ทำให้ตัดกังวลต่าง ๆ เสียได้
2. ทำให้ออกห่างจากอกุศลกรรม
3. ทำให้มีความสบายกายสบายใจ
4. ทำให้พ้นจากความผิด พบแต่สิ่งถูกต้อง
5. ทำศีลธรรมเกิดขึ้นในใจได้ง่าย
6. ทำให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวง
7. ทำให้มีกำลังใจสูง เมื่อรู้ว่าสิ่งใดไม่ดีก็มาฝ่าฝืนทำ
8. นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตน
9. ทำให้มีโอกาสกระทำแต่สิ่งดี ๆ ยิ่ง ๆขึ้น
10. ได้ชื่อว่านำพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง

นาท ซูดาน ร้องเพลง ขีดเส้นใต้ ของกบ ทรงสิทธิ์ ในแบบของตัวเอง

แม้ไม่ได้ไปแข่งขันร้องเพลงในรายการ เดอะวอยซ์ แต่นาท ซูดาน ก็หยิบเพลงนี้มาร้องในแบบของตัวเอง...

"ไม่ต้องรอโอกาสแบบนั้น แต่ขอสร้างแนวทางของตัวเองดีกว่า"

เพลงขีดเส้นใต้ cover by นาท ซูดาน
http://www.youtube.com/watch?v=0Cg7jL2mtdc

กฎแห่งกรรม ลูกทำกับแม่ยังไง ก็ได้อย่างนั้น..

คุณทำอะไรกับแม่ไว้ ลูกคุณก็จะทำอย่างนั้น...

คุณทำให้แม่เสียใจ ลูกคุณก็จะทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น

คุณหลงผู้ชาย เอาเงินไปเลี้ยงผู้ชาย ไม่สนใจแม่ ลูกของคุณก็ทำกับคุณแบบนั้น...

กฏแห่งกรรม มีจริง ให้ผลในชาตินี้..ม

เทคนิคทำให้ต้นยางพารา มีน้ำยางมากขึ้น

พืช)หากต้นยางพารามีความสูงเกิน 7 เมตร ปริมาณน้ำยางที่กรีดได้จะลดลง ดังนั้นการตัดยอดให้ต้นแตกพุ่มจึงเป็นการลดภาระต้น ช่วยให้ได้น้ำยางมากขึ้น

จาก sms farmerInfo

พอแล้วรวย ความจริงอีกด้านของเศรษฐกิจพอเพียง : 108 วันมหัศจรรย์พอเพียง ตอนที่ 105

พอแล้วรวย ความจริงอีกด้านของเศรษฐกิจพอเพียง : 108 วันมหัศจรรย์พอเพียง ตอนที่ 105
ตอนที่ 105 : พอแล้วรวย ความจริงอีกด้านของเศรษฐกิจพอเพียง
พอแล้วรวย อีกหนึ่งความเป็นจริงของ วิถีชีวิตบุคคลที่ปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิ?จพอเพียง ซึ่งพิสูจน์แล้วด้วยเวลากว่า 10 ปี ของชายคนนี้ ธงไชย คงคาลัย จากต้นทุนเพียง 7,000 บาทกับที่ดินอีก 1 ไร่ เมื่อนำมาปฏิบัติตามทฤษฎีไฟร์อินวันของธงไ?ชย คงคาลัย ก็งอกเงยกลายเป็นผลกำไร ความมหัศจรรย์ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เน้นการพึ่งพาตนเอง และเป็นแนวทางแห่งความมหัศจรรย์ ที่ธงไชย คงคาลัย เชื่อมั่นว่าแนวทางนี้สามารถที่จะ ชนะทุนนิยม ชนะฝรั่ง ชนะทั้งโลก
http://www.youtube.com/watch?v=EXcS2FCybHI


วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ป้องกันอัลไซเมอร์ ด้วยการยืนกระต่ายขาเดียว

ป้องกันอัลไซเมอร์
ด้วยการยืนกระต่ายขาเดียว
ลองทำดูนะ ไม่ยาก แต่เคล็ดลับอยู่ที่ "ต้องหลับตา" จะยืนท่าไหนก็ได้ ขอให้เป็นขาเดียว ลองขาซ้ายกับขาขวาคนละที จะรู้สึกไม่เหมือนกัน หากยืนได้ไม่ถึง 10 วินาที แสดงว่าประสาทควบคุมของคุณถดถอยไปถึงอายุ 60-70 ปีแล้ว
ฝึกบ่อยๆ จะฟื้นฟูความสมดุล ผู้รู้แนะว่า หากทำให้ได้วันละ 1 นาที จะมีประโยชน์ต่อการรักษาระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด โรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และจะห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์
เมื่อร่างกายเกิดการเจ็บป่วย ทางแพทย์จีนถือว่าอวัยวะในร่างกายมีสภาพการทำงานที่ไม่สัมพันธ์กัน ร่างกายจะเกิดสภาพไม่สมดุล ฉะนั้น การ"ยืนกระต่ายขาเดียว" จะทำการปรับปรุงไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์เหล่านั้น
ที่เท้ามีเส้นประสาทที่สำคัญวิ่งผ่านถึง 6 เส้น การยืนขาเดียวทำให้เส้นประสาทที่อ่อนแอเกิดอาการปวดเมื่อย ถือเป็นการฝึกฝนไปในตัว และพลอยทำให้อวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกับเส้นประสาทเหล่านั้นได้รับการปรับแต่ง
การยืนด้วยขาข้างเดียวทำให้มีสมาธิ จะชักนำให้ลมปราณและโลหิตในร่างกายวิ่งลงสู่ฝ่าเท้า ทำให้เกิดผลดีต่อการรักษาโรคความดันโลหิตสุง โรคเบาหวาน และโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และยังสามารถปรับปรุงอาการสมองฝ่อ ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสมองได้อีกด้วย ที่สำคัญจะเพิ่มพุนระบบอิมมูนของร่างกายอย่างรวดเร็ว ใครที่เป็นโรคเท้าเย็นได้ผลทันตาเลย
ผู้รู้บอกอีกว่า คนอายุช่วงไหนก็ทำได้ หากทำตั้งแต่ยังหนุ่มสาวจะดียิ่ง แต่คนอายุ 70 ขึ้นไป หรือคนแก่ที่ไม่สามารถแม้แต่จะยืนมั่นคงได้ด้วยสองขาของตัวเอง ก็อาจสายเกินไปซะแล้ว

สี่แยกไฟแดงในเมืองโคราช ที่ติดไฟแดงนาน 5 นาที

สี่แยกตรงโรงแรมพีกาซัส - สำนักงานการไฟฟ้าภูมิภาค ของ โคราช และทางเข้าโรงแรมวีวัน อีกด้าน ตรงไปชุมชนประโดก สี่แยกนี้ ไฟแดง นานจริงๆ..

นั่งรถโดยสาร รถทัวร์ มาจากขอนแก่น ผ่านจอหอมาแล้ว พอมาถึงสี่แยกนี้ ไฟแดงนานมากๆ..

เคยสังเกตดู ตอนเปลี่ยนจากไฟเขียว เป็นไฟแดง ตรงป้ายไฟ มันขึ้นเลข 300

ไฟแดงตั้ง 300 วินาที..

แต่พอไฟเขียว เห็นตัวเลข 58 คือ แค่ 58 วินาที ถ้าเป็นช่วงที่รถติดยาวเหยียด กว่าจะวิ่งผ่านไฟแดง ก็คงมาติดอีกรอบ...

สมแล้วที่เป็นเมืองใหญ่ ติดไฟแดง โคตรนานจริงๆ...

อย่ารอรี ว่า เดี๋ยวทำ...

เดี๋ยวก็วัน...เดี๋ยวก็คืน
เดี๋ยวก็ตื่น...เดี๋ยวก็ตาย
เดี๋ยวลำบาก...เดี๋ยวสบาย
เดี๋ยวก็ร้าย...เดี๋ยวก็ดี
เดี๋ยวต้องไป...สู่โลกหน้า
เดี๋ยวต้องลา...จากโลกนี้
รีบเร่งทำ...แต่ความดี
อย่ารอรี...ว่า "เดี๋ยวทำ"!

เมื่อสองศิลปินเพื่อชีวิตใต้ดิน เกิดอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน

แวะไปเยี่ยมพี่นาท ซูดาน และพี่แฮ้ง คอคำ ศิลปินเพื่อชีวิต ที่ร้านวุฒิภาพโภชนา .. จุดจอดพักรถ บขส.ที่ อ.สีดา โคราช, ทั้งสองศิลปิน เกิดมีอาการ "น้ำในหูไม่เท่ากัน" เนื่องจากพักผ่อนน้อย ทำงานหนัก พี่แฮ้ง คอคำ นอนวันละไม่ถึง 3 ชั่วโมง ..นอนตี 3 ตื่น 6 โมงเช้า จนเกิดอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน เวลาจะหันหน้า หันคอ ต้องค่อยๆหัน ค่อยๆก้ม ไม่งั้นจะเวียนหัว ... มีคนไทยเชื้อสายจีน ที่มาซื้อของที่ร้าน เห็นอาการพี่แฮ้ง ก็แนะนำว่า ให้งดกินเค็ม แล้วดื่มน้ำเต้าหู้เป็นเวลา 1 ปี ก็จะหายจากอาการ น้ำในหูไม่เท่ากัน....
... พี่นาท ก็เคยมีอาการคล้ายๆกัน เมื่อขึ้นภูทับเบิก มีอาการวูบ วิงเวียน พักผ่อนก็น้อย ร่างกายปรับตัวไม่ค่อยทัน ...

อาหารหมักสำหรับแพะ

สัตว์)อาหารหมักสำหรับแพะ นำต้นข้าวโพด 30 กก.+ต้นกระถินสับ 3 กก.+กากสาคูบด 2 กก. ใส่ถุงดำมัดถุงไม่ให้อากาศเข้า หมัก1สัปดาห์ ให้แพะกินได้เลย

จาก sms farmerInfo

นกเป็ดน้ำ กับ การทำงานเป็นทีม

ไม่มีคำว่า “I” ในคำว่า TEAMWORK มีแต่คำว่า “WE”.

นำเสนอเรื่องดีๆเกี่ยวกับ TEAMWORK
ขอนำเรื่องราวของนกเป็ดน้ำ เปรียบเทียบกับการทำงานเป็นทีม ว่าเหตุใดเราต้องทำงานเป็นทีม

1. ปกติทุกๆ ฤดูในยุโรป เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง นกเป็ดน้ำจะบินลงไปทางทิศใต้ ถ้าเราสังเกตดีๆ จะเห็นว่านกเป็ดน้ำบินเป็นรูปตัววีหัวกลับ

ทำไมนกเป็ดน้ำต้องบินในลักษณะดังกล่าว ถ้าในทางวิทยาศาสตร์ พวกเราจะเคยได้ยินคำว่า aerodynamic การบินแบบนี้ จะทำให้นกเป็ดน้ำ 4 ตัวหลังไม่ต้องใช้แรงบินมากมาย เหมือนการบินเดี่ยวๆ เพราะจะมีแรงดึงของตัวแรก และ 2 ตัวในแถวที่สอง

ดังนั้นให้เราลองไปสังเกตให้ดีๆ ส่วนใหญ่ เมื่อนกเป็ดน้ำผู้นำเริ่มบิน นกเป็ดน้ำอีก 4 ตัว จะแปรขบวนเป็นรูปตัววีหัวกลับ ซึ่งทางวิทยาศาสตร์พบว่าการบินแบบนี้ จะช่วยให้นกเป็ดน้ำบินได้ความเร็วเพิ่มถึงกว่า 70% เมื่อเทียบกับนกเป็นน้ำที่บินตัวเดียว

ข้อคิด : การทำงานเป็นทีม เราจะต้องมีจุดหมายร่วมกัน และทำในทิศทางเดียวกัน จะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น

2. ในกรณีที่มีนกเป็ดน้ำตัวใดตัวหนึ่ง บินไถลออกจากกลุ่มไป นกเป็ดน้ำตัวนั้นจะเกิดอาการหมดเรี่ยวแรง เหนื่อยขึ้น มีแรงต้านและแรงถ่วงเพิ่มมากขึ้น และจะบินได้ช้ามาก ดังนั้นมันจะรีบบินกลับไป เพื่อเข้าสู่ขบวนรูปตัววีหัวกลับ แต่ถ้านกเป็ดน้ำตัวนั้นไม่บินกลับไป มันก็จะหมดเรี่ยวแรงและตายในที่สุด

ข้อคิด : เมื่อการทำงานเป็นทีม อาจมีคนที่เกิดอาการท้อ เราจึงควรให้กำลังใจและดึงเค้ากลับเข้ากลุ่ม เพื่อให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นำมาซึ่งความสำเร็จ

3. เมื่อบินไปซักพัก นกเป็ดน้ำตัวผู้นำ จะเกิดความเหนื่อย ดังนั้นมันจึงบินไปต่อท้ายกลุ่ม และนกเป็ดน้ำในลำดับถัดมา จะบินขึ้นมาเพื่อนำกลุ่มนกเป็ดน้ำไปสู่จุดหมาย

ข้อคิด : การทำงานเป็นทีม มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนผู้นำกลุ่มบ้าง ไม่ใช่ยึดติดกับผู้ใดฝ่ายเดียว เพราะความคิดของคนๆ เดียวจะทำให้การทำงานเกิดทางตัน ซึ่งความคิดเรื่องข้าทำคนเดียวได้ มันหมดสมัยไปนานแล้ว

4. ขณะบิน นกเป็ดน้ำที่เป็นผู้ตาม จะส่งเสียงร้องเชียร์นกเป็ดน้ำผู้นำ เพื่อเป็นการให้กำลังใจ ทำให้นกเป็ดน้ำผู้นำ มีความเชื่อมั่น และบินนำกลุ่มของมันไปจนถึงจุดหมายได้

ข้อคิด : การทำงานนั้น จะต้องมีการให้กำลังใจผู้นำบ้าง ให้ความคิดเห็นกับผู้นำบ้าง จะเกิดการสื่อสารภายในทีม ส่งเสริมเรื่องทีมเวิร์คมากขึ้น การทำงานจึงจะมีประสิทธิภาพ

5. ขณะบินสู่จุดหมาย อาจมีนกเป็ดน้ำบางตัวหมดแรง หรือมีนกเป็ดน้ำบางตัวป่วย นกเป็ดน้ำที่อยู่ข้างๆ กัน จะคอยช่วยนกเป็ดน้ำอีกตัวหนึ่ง จนทำให้นกเป็ดน้ำตัวนั้นหายดี และกลับมาบินรูปตัววีหัวกลับอีกครั้งหนึ่ง และถ้าร้ายแรงถึงขั้นตาย นกเป็ดน้ำจะช่วยกันหาเพื่อนใหม่ เพื่อให้การบินกลับเข้าสู่รูปตัววีหัวกลับอีกครั้งหนึ่ง

ข้อคิด : ชีวิตการทำ งานแบบกลุ่ม เราจะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันไปตลอด หากมีคนในกลุ่มเกิดปัญหา ทุกคนในกลุ่มจะหยุดเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราจะไม่ทิ้งกัน แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย เราก็จะคอยเป็นกำลังใจ และคอยช่วยเหลือกัน ตราบจนวันสุดท้าย

ที่มา Aksorn Learnspace Facebook

สร้างวัฒนธรรมองค์กร

How Google Works ตอนที่ 3: "สร้างวัฒนธรรมองค์กร"

วัฒนธรรม "องค์กร"
คือผลรวมพฤติกรรม "พนักงาน" แต่ละคน

อย่าเชื่อฟัง HIPPO "Highest Paid Person's Opinion"
เชื่อ "ข้อมูล"

"คุณเป็นใคร (WHO)" ไม่สำคัญ
สำคัญที่ "คุณทำอะไร (WHAT)"

อยากได้ "วัฒนธรรม" แบบไหน ไม่ต้องทำ แผ่นพับ ใบปลิว
ใช้ความจริงใจในการสื่อสาร ทางคำพูด "บ่อยๆ" พอแล้ว

คนเก่งชอบองค์กรที่ "แบน (Flat)"
ไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้ "ผู้บริหารระดับสูง"
แต่อยากอยู่ใกล้ "คนตัดสินใจ" งานจะได้เสร็จ

"ตำแหน่ง (title)" อาจทำให้คุณเป็น "ผู้จัดการ (Manager)"
แต่ "คน (People)" จะทำให้คุณเป็น "ผู้นำ (Leader)"

Cr. "How Google Works" by Eric Schmidt and Jonathan Rosenberg

ที่มา 8 บรรทัดครึ่ง Facebook

ยึดติดคำว่ารัฐประหาร มากเกินไปรึเปล่า?

สินจัย เปล่งพานิช เขียนได้ดี เขียนได้แรง ! ลองอ่านดู "ยึดติดกับคำว่า "รัฐประหาร" มากเกินไปหรือเปล่า? คำก็ไม่ดี สองคำก็ประเทศชาติล้าหลัง สามคำก็อายต่างชาติ (?!) แล้วอะไรที่ดีในความคิดคุณ (?!) - รัฐบาลโคตรคอร์รัปชั่น - ดี (?!) - รัฐบาลทุจริตโครงการจำนำข้าวกว่า 7 แสนล้าน - ดี (?!) - รัฐบาลที่อยู่เบื้องหลังการ "ลอบฆ่า" ประชาชน - ดี (?!) - รัฐบาลที่ "ซ่องสุม" อาวุธสงคราม ระเบิดและ M79 - ดี (?!) - รัฐบาลที่ออก พรบ. ลักหลับ - ดี (?!) - รัฐบาลที่เสียบบัตรแทนกันหน้าด้านๆ - ดี (?!) - รัฐบาลที่ออก พรบ. นิรโทษโคตรเหง้าโจร - ดี (?!) - รัฐบาล ที่ยุยงให้พวก "เดรัจ ฉานแดง" ออกไปเผาเมือง เผาห้าง เผาศาลากลาง ยิงวัดพระแก้ว - ดี (?!) - รัฐบาลที่วันๆไม่ทำ "ส้นตีน" อะไรเลย ถ้าไม่หาแดกกับโครงการปล้นคนไทย ก็คิดแต่จะ "ฟอกผิด" พานักโทษหนีคดี กลับบ้านแบบเท่ๆ - ดี (?!) - รัฐบาลที่อยู่เบื้องหลังขบวน การ "ล้มในหลวง" - ดี (?!) ฯลฯ .. พอได้แล้ว..! เลิกดัดจริตกันได้แล้ว ! และไอ้พวกที่ "ชู3นิ้ว" "ถอดเสื้อแดง" มาห่มขาวจุดเทียน หรือเอาสก็อตเทปดำ - ปิดปาก รับจ้างมา "ประท้วงต่อต้านทหาร" เลิกเถอะ หัดทำมาหาแดกที่ใช้สมองและสำนึกบ้าง พวกคุณมันไม่มีราคาแล้ว เปิดตาเปิดใจดู "ความจริง" กันบ้าง ทหารเขาออกมาช่วยปกป้องรักษาชีวิตประชาชน แถมยังมีความคิดจะหาเงินคืนชาวนา ตั้งแต่ทหารออกมา ยังไม่มีข่าวประชาชนบาดเจ็บล้มตาย เพราะถูก "สัตว์นรก" ที่ไหน ลอบฆ่าเลย - สักคนเดียว? ใช่หรือไม่ ?! แล้วจะบอกว่า การ "รัฐประหาร" ครั้งนี้ ไม่ดีต่อพี่น้องประชาชน - ได้อย่างไร ?! ไม่มีใครเขาอยากให้มีการ "รัฐประหาร" หรอก แต่จะดูอะไร มันต้องดู มันต้องตัดสินกันที่ "เจตนา" ไม่ใช่มึนเมา ไปหลง "ยึดติด" แต่คำว่า "รัฐประหาร" อย่างเดียว ?! ใครที่แคร์ต่างประเทศ แคร์อเมริกา มากกว่าแคร์ "ชีวิตเพื่อนมนุษย์" คนไทยด้วยกัน ก็ง่ายนิดเดียว พวกคุณก็อพยพไปอยู่ที่อื่นซะ ! นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน ก็ไป "ดูไบ" ไปขออยู่เป็น "ขี้ข้าขี้ตีนทักษิณ" ก็ได้ ?! อย่าอยู่แม่งเลย - ประเทศไทย ที่นี่มันเป็นแผ่นดินของคนที่ "รักในหลวง" เป็นแผ่นดินของ "คนไทยในรัชกาลที่ ๙" ที่อยากเห็นความสงบสุข คนไทยที่เขา "สติดีดี" เขารังเกียจ และเบื่อหน่ายไอ้พวก "เดรัจฉานแดง" หนักแผ่นดิน กันจนทนไม่ไหว - แล้วโว้ย (?!) "

ปุ๋ยตัวพ่อสูตรเข้มข้น

พืช)ปุ๋ยตัวพ่อสูตรเข้มข้นช่วยเพิ่มผลผลิต ทำจากกล้วย+มะละกอ+ฟักทองที่สุกอย่างละ1กก. คลุกน้ำตาลทรายแดง1กก.หมัก15วัน กรองน้ำไปใช้20cc/น้ำ20ลิตร

จาก sms farmerInfo

ตารางเวลาเดินรถ ป.2 สายนครราชสีมา-ขอนแก่น-อุดรธานี

ตารางเวลาเดินรถ ป.2 สาย 210-211-262 โคราช- อุดร

1. 04.50น ออกโคราช, 7.40น. เข้าขอนแก่น 9.50น เข้าอุดร

2. 05.30น. ออกโคราช, 8.20น เข้าขอนแก่น, 10.20น เข้าอุดร

3. 06.00น ออกโคราช , 8.50น เข้าขอนแก่น, 10.50น เข้าอุดร

4. 06.25น ออกโคราช, 9.15น เข้าขอนแก่น, 11.15น เข้าอุดร

5. 06.50น ออกโคราช ,9.40น เข้าขอนแก่น, 11.40น เข้าอุดร

6. 7.15น ออกโคราช,10.05น เข้าขอนแก่น, 12.05น เข้าอุดร

7. 07.40น ออกโคราช, 10.30น เข้าขอนแก่น, 12.30น เข้าอุดร

8. 08.05น ออกโคราช, 10.55น เข้าขอนแก่น, 12.55น. เข้าอุดร

9. 08.30น. ออกโคราช, 11.20น เข้าขอนแก่น, 13.20น เข้าอุดร

10. 09.00น. ออกโคราช, 11.50น เข้าขอนแก่น,13.50น เข้าอุดร

เที่ยวต่อๆไป ออกโคราช 9.30, 10.00, 10.30, 11.00, 11.30, 12.00, 12.30, 13.00, 13.30, 14.00, 14.30, 15.00, 15.35, 16.10, 16.50, 17.30, 18.20, 19.30, 21.00

เที่ยวสุดท้าย
23.30น ออกโคราช, 03.00น เข้าขอนแก่น, 05.00น เข้าอุดร

ขุดหลุมพราง : สุภาษิต

"บุคคลที่ขุดหลุมพราง เขาจะตกลงไปเอง
ผู้ใดให้ก้อนหินกลิ้งมา มันจะกลับทับเขาเอง" (สุภาษิต 26:27) (Smiley)

14ข้อ หลักปฏิบัติจากพระราชดำรัสในหลวง

พระราชดำรัส ของในหลวงของเรา

1.เรื่องด่วน พูดให้ช้า ๆ
2.เรื่องใหญ่ พูดให้ชัด ๆ
3.เรื่องเล็กพูดให้มีอารมณ์ขัน
4.เรื่องไม่มั่นใจทบทวนให้ดีค่อยพูด
5.เรื่องยังไม่เกิดอย่าพูดส่งเดช
6.เรื่องที่ทำไม่ได้อย่าพูดอย่างมักง่าย
7.เรื่องให้ร้ายอย่าได้พูด
8.เรื่องลำบากใจมุ่งที่เรื่อง ไม่มุ่งคน
9.เรื่องสนุกต้องดูกาละเทศะ
10.เรื่องเศร้า อย่าได้ เจอใครก็พูด
11.เรื่องคนอื่นพูดอย่างระมัดระวัง
12.เรื่องตนเองตั้งใจฟังใจเราพูดอย่างไร
13.เรื่องปัจจุบันทำแล้วค่อยพูด
14.เรื่องอนาคตไว้พูดในอนาคต

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

รักษาโรคปอดบวมในแพะ-แกะ

สัตว์)รักษาโรคปอดปวม บำรุงร่างกายแพะ-แกะ นำใบมะรุม ใบกะเพรา โหรพา ตะไคร้และใบฟ้าทะลายโจร อย่างละ1ส่วน สับรวมกัน โรยบนอาหารสัตว์ ให้กิน10วัน

จาก sms farmerInfo

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เด็กดี : จากสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ

เด็กดี

สมบูรณ์ คุณพ่อลูกสี่ กลับจากที่ทำงานมาถึงบ้านพร้อมกับลูกอมและขนมหวานถุงเบ้อเริ่ม เพื่อมาฝากลูกสุดที่รักทั้ง 4 คน ที่ยังอยู่ในวัยประถม

"มาเร้ว..ลูกๆ ทุกคนมาล้อมวงกันหน่อย"
สมบูรณ์หยิบลูกอมและขนมหวานมาวางไว้ที่หน้าตักแล้วเอ่ยถามบรรดาลูกๆอย่างเอ็นดู ...

"ไหนบอกมาสิว่า.. ใครเอ่ย อยู่บ้านพูดจาไพเราะไม่เคยเถียงคุณแม่... เชื่อฟังคำสั่ง และทำตัวเป็นเด็กดีกับคุณแม่ตลอดเวลา เอ้า... ยกมือขึ้น ... เชิญมารับรางวัลได้เดี๋ยวนี้..."

"..................." เงียบสนิท ไม่ปรากฎเสียงตอบใดๆ

ท่ามกลางความเงียบสักอึดใจ ...ลูกน้อยทั้งสี่ต่างประสานกันเป็นเสียงเดียว...

"เชิญเลย... เชิญคุณพ่อรับรางวัลไปได้เลย"

ที่มา สมบูรณ์ ทั้งกายและใจ
ISBN 974-87876-4-8

ข้อคิดดีๆ...คนหนีเงา

ข้อคิดดีๆ...คนหนีเงา
จวงจื๊อ ปราชญ์จีนเมื่อ ๒,๓๐๐ ปีที่แล้ว เล่าว่ามีชายคนหนึ่งรำคาญเงาของตัวเองมาก อีกทั้งยังทนรอยเท้าของตัวไม่ได้ เขาจึงพยายามวิ่งหนีจากทั้งสองสิ่งนี้ แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปไหน เงาและรอยเท้าก็ยังติดตามเขาไป เขาคิดว่าเขาวิ่งเร็วไม่พอ จึงเร่งฝีเท้า ไม่ยอมหยุด วิ่งแล้ววิ่งเล่า ในที่สุดก็หมดแรง ล้มลงและถึงแก่ความตาย แล้วจวงจื๊อก็ตบท้ายว่า “เขาหารู้ไม่ว่า ถ้าเพียงแต่เขาเข้าร่ม เงาก็จะหายไป และถ้าเขานั่งนิ่ง ๆ ก็จะไม่มีรอยเท้าเลย”
คนทุกวันนี้ไม่ต่างจากคนหนีเงา พยายามทำทุกอย่างเพื่อหนีทุกข์ โดยคิดว่าเป็นความสุข แต่ทุกข์ก็ยังตามมาไม่หยุด เขาหารู้ไม่ว่า ความทุกข์จะหมดไปเมื่อเขาหันเข้าหาร่มแห่งธรรมและทำใจให้นิ่งสงบ
ถึงที่สุดแล้ว ใครจะมีความสุขหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาออกไปตักตวงแสวงหาทรัพย์สมบัติและชื่อเสียงเกียรติยศได้สำเร็จหรือไม่ แต่อยู่ที่เขามีความสงบนิ่งได้มากน้อยเพียงใดต่างหาก
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

อุปนิสัย 7 ประการสำหรับผู้มีประสิทธิภาพในการทำงาน

อุปนิสัย 7 ประการสำหรับผู้มีประสิทธิภาพในการทำงาน

(อ้างอิงจากหนังสือ “7 Habits for Highly Effective People” เขียนโดย สตีเฟน อาร์. โคว์วีย์)

1. ต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำก่อน (Be Proactive)
คนที่อยู่ในประเภทที่เป็นผู้กระทำ จะเป็นผู้เลือกที่จะทำหรือจะไม่ทำสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุด้วยผลของเขาเอง คือคิดว่าตัวเองเป็นผู้กำหนดชีวิตของตน ทั้งนี้ด้วยการพิจารณาไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าถึงเวลาแล้วค่อยคิดจะทำ เพราะสุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นผู้ถูกกระทำและตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมเหมือน เดิม

2.เริ่มต้นโดยมีเป้าหมายชัดเจน (Begin with the end in mind)
คือ การวางแผนการทำงาน หรือแม้แต่ชีวิตของคนเราไว้ตั้งแต่แรกเริ่มที่จะทำการอะไรใด ๆ เพราะหากเราได้ตั้งใจไว้แล้วว่าในที่สุดแล้ว การงานหนึ่ง ๆ หรือชีวิตของเราจะมีลักษณะสุดท้ายเป็นอย่างไร เราก็จะทำตัวให้สอดคล้องกับจุดหมายนั้นโดยไม่ไขว้เขวไป

3.ทำสิ่งสำคัญกว่าก่อน (Put first things first)
ข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะในชีวิตประจำวันเรานั้น อาจจะต้องมีกิจกรรมหลายอย่างที่จะต้องทำ บางอย่างนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ บางอย่างเป็นเรื่องไม่สำคัญ บางอย่างไม่เร่งด่วน บางอย่างเร่งด่วน ดังนั้นแล้ว สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตอาจจะผสมกันออกมาเป็นได้หลายแบบคือ:
ก) สำคัญและเร่งด่วน - ต้องทำโดยเร็วที่สุด และต้องทำให้ดีด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดหากวางแผนไว้ดี
ข) สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน - เป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ดีที่สุด รีบทำเสียเนิ่น ๆ จะได้ทำได้ดี และไม่กลายเป็นข้อ ก) ในที่สุด
ค) ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน - อันนี้แปลก ต้องรีบทำนะ แต่จริง ๆ น่ะไม่ทำก็ได้ เช่นดูละครทีวีที่กำลังฉาย เป็นต้น
ง) ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน - ไม่ทำก็ได้ แต่หลาย ๆ คนก็ให้เวลากับตรงนี้อยู่มาก

4.ชอบคิดแบบชนะ-ชนะ (Think Win-Win)
การคิดและทำแบบ win-win นี้ จะต้องเกิดอยู่บนพื้นฐานของทัศนคติที่ดีและต้องการให้ได้ประโยชน์เท่าเทียม กันทั้งสองฝ่ายในระยะยาว ในบางครั้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจจะต้องเสียเปรียบก่อน แต่ในที่สุดแล้ว เมื่อดำเนินการตามแผนทั้งหมดแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต้องได้ประโยชน์ทั้งคู่เท่าเทียมกัน

5.การพยายามเข้าใจคนอื่นก่อน (Seek first to understand then to be understood)
นิสัยนี้เป็นการที่เราพยายามเข้าใจคนอื่นก่อน เพราะการพยายามเข้าใจคนอื่นนั้น ง่ายกว่าการที่จะทำให้คนอื่นเขามาเข้าใจเรา หลักการที่จะทำให้เราเข้าใจคนอื่นได้ง่ายนั้นจะต้องเริ่มต้นด้วยการฟัง คือฟังอย่างพยายามทำความเข้าใจ เมื่อเราเข้าใจเขา เราก็จะรู้ว่าเขาคิดอย่างไร มีพื้นฐานอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ต่อมาเราจะพูดเพื่อให้เขาเข้าใจในส่วนของเราก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น

6.ชอบประสานงานเพื่อเพิ่มพลัง (Synergize)
เมื่อใดก็ตามที่คนเราที่ร่วมงานกัน มีโอกาสได้ทำงานด้วยกัน ก็จะต้องยอมรับในความแตกต่างของคนอื่น และพยายามมองว่าความแตกต่างนั้นน่าจะมีประโยชน์มากกว่าโทษ และนำข้อดีของความแตกต่างนั้นมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้ด้วยกันเพื่อทำให้เกิดการพัฒนาการทำงาน

7.ฝึกฝนตนเองให้พร้อมเสมอ (Sharpen the saw)
เมื่อคนเรามีความรู้ในระดับหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอ หากเมื่อใดที่หยุดคิดและพัฒนาตนเอง ก็เหมือนกับตายไปแล้วครึ่งหนึ่งนั่นเอง เรายังต้องพยายามฝึกฝนพัฒนาตัวเราเองเสมอ ด้วยวิธีการง่าย ๆ คือ
ก) ดูแลสุขภาพทางกายให้ดี - เมื่อแข็งแรง จะคิดอะไร ทำอะไรก็ง่ายไปหมด
ข) บำรุงความคิด - โดยการอ่านหนังสือ ฟังสัมมนา ดูรายการสารคดี เป็นต้น
ค) พัฒนาจิตวิญญาณ - ทำจิตใจให้ผ่องใส อาจจะนั่งสมาธิ ฟังเพลงที่สงบ ทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
ง) พัฒนาอารมณ์ - ให้เป็นคนดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวใกล้ตัว

ที่มา : สยามอินโฟบิส โดย Aimanun

ค่าปรับตาม พรบ.จราจร

ค่าปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจร มาแล้วนะครับ ฝากแจ้งเตือนกันด้วย

1.ไม่ติดแผ่นป้ยทะเบียน / วางไว้ที่กระจก = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.11,ม.60)

2.แผ่นป้ายทะเบียนตัดต่ออัดกรอบใหม่เป็นป้ายขาว = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

3.ติดป้ายเอียง มีวัสดุปิดทับ = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

4.แผ่นป้ายทะเบียนปลอม = ป.อาญา ฟ้องศาล

5.โหลดเตี้ย (วัดจากกึ่งกลางไฟหน้ากับระดับพื้นถนนต้องไม่ต่ำกว่า 40cm) = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

6.ยกสูง (วัดจากกึ่งกลางไฟหน้ากับระดับพื้นถนนต้องไม่สูงกว่า 135cm) = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

7.ล้อยางเกินออกมานอกบังโคนข้างละหลายนิ้ว = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

8.ใส่ล้อใหญ่จนแบะล้อเพื่อหลบซุ้ม = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

9.ตีโปร่งขยายซุ้มล้อติดสปอยเลอร์ต้องมีการยึดติดอย่างแน่นหนา = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

10.ฝาประโปรง หน้า-หลัง ดำ เกิน50%ของสีหลัก = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.13,ม.60)

11.เปลี่ยนท่อไอเสียใหญ่เสียงดัง = ปรับไม่เกิน 1,000 บาท (ม.5(2),ม.58)

12.ไฟหน้าหลายสี เช่น เขียว แดง ฟ้า เหลือง = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.12,ม.60)

13.ไฟหยุดต้องสีแดง(ไฟเบรค)เท่านั้น = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.12,ม.60)

14.ไฟเลี้ยวต้องเป้นสีเหลืองอำพัน = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.12,ม.60)

15.ไฟส่องป้ายต้องเป็นสีขาวเห็นไม่ต่ำกว่า 20 เมตร = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.12,ม.60)

16.ไฟสปอร์ตไลน์ และโคมไฟตัดหมอกแสงพุ่งไกล = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.12,ม.60)

17.เปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีเหตุ = ปรับไม่เกิน 500 บาท กฏกระทรวง ข้อนี้เจอบ่อย..สุดรำคาญมั่ยรุสอบใบขับขี่ได้งัย

18.ติดไฟนีออนใต้ท้องรถ ติดไว้กับป้ายทะเบียน = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.12,ม.60)

19.ดัดแปลงเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

20.เปลี่ยนดีสเบรคหลัง = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

21.ใส่หลังคาซันลูป = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

22.ถอดเบาะหลังออกแล้วติดโรลบาร์ = ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (ม.14,ม.60)

23.ดัดแปลงเครื่องยนต์ วัดควันดำ = ปรับไม่เกิน 1,000 บาท (พรบ.ขนส่ง)

เคล็ดลับ การกระตุ้นการกินอาหารของสุกร

สัตว์)นำกระเทียม ตะไคร้ พริกขี้หนูสวนอย่างละ 1 กำมือ ทุบให้ละเอียดแล้วผสมในอาหารสุกร ช่วยกระตุ้นการกินอาหารได้มากขึ้น ใช้ได้กับสุกรทุกรุ่น

จาก sms farmerInfo

..เรากำลังไล่งับอะไรไหม..

..เรากำลังไล่งับอะไรไหม..
@ มีเรื่องเล่าว่า…มีพระองค์หนึ่ง
ชอบทำอะไรแปลกๆ
วันหนึ่ง พวกคนกรุงเทพฯ เอากฐินไปทอดที่วัด
จัดงานกันใหญ่โต มีหนัง มีลิเก มีดนตรี ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน
ก่อนทอดกฐิน…ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา… บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง แล้วเอาเชือกมาด้วย
หลวงพ่อจัดการเอาเนื้อผูกติดกับหลังหมา ผูกเสร็จ…ก็ปล่อยหมา
หมาเห็นเนื้ออยู่บนหลังก็ไล่งับ
พอหัวโดดงับ…ตัวก็ขยับหนี เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง
ยิ่งโดดงับเร็ว ก้อนเนื้อก็หนีเร็ว กระโดดไม่หยุด เนื้อก็หนีไม่หยุด…น่าสงสารหมามาก
หมาโดดอยู่นาน งับเท่าไหร่ เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที
ผู้คนบนศาลา พากันหัวเราะชอบใจ หัวเราะเยาะหมาว่าทำไมมันถึงโง่ยังงี้
ไล่งับจะกินเนื้อที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทัน ตลอดชีวิต
หลวงพ่อมองดูด้วยความสนุกสนานจนหนำใจแล้ว… ก็แก้เชือกออกมากหลังหมาแล้วหันมาพูดกับญาติโยมว่า…
มนุษย์เรามีความรู้สึกว่าตัวเองพร่อง ตัวเองยังไม่เต็ม
ต้องเติมตลอดเวลา เติมไม่หยุด เพื่อให้ตัวเองเต็ม
อยากสวย…อยากทันสมัย ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่สวยที่สุด ทันสมัยที่สุดใส่
ดีใจได้เดือนเดียว…มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว
สวยกว่า ทันสมัยกว่า
อยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่
ซื้อเสร็จ ๓ เดือน…รุ่นใหม่ก็โผล่มาอีกแล้ว
ซื้อคอมพิวเตอร์ทันสมัยที่สุด
๒ เดือนต่อมา…มีรุ่นใหม่กว่าออกมา…ของเราตกรุ่น
ซื้อรถเบนซ์…ทันสมัยที่สุด…แพงมาก
ขับได้ ๖ เดือน…มีรุ่นใหม่ออกมาอีกแล้ว
ทันสมัยกว่า แพงกว่า ของเรากลายเป็นเชย
เราต้องก้มหน้าก้มตา…ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน…หาเงินมา เพื่อมาทำให้ตัวเองทันสมัย
ซื้อเสื้อผ้าใหม่…มือถือใหม่…คอมพิวเตอร์ใหม่…รถยนต์คันใหม่
เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส… เพื่อไม่ให้ตัวเองตกรุ่น…
ปัจจุบัน…
เรากำลังไล่งับความทันสมัย…เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน
ทั้งที่รู้ว่า…ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต…ก็ไม่มีทางตามทัน
น่าสงสารไหมโยม
คนเต็มศาลา…เมื่อกี้หัวเราะครึกครื้น
ด่าว่า…หมามันโง่
ตอนนี้เงียบสนิท…เหมือนไม่มีคนอยู่
ไม่รู้ว่า…กำลังสงสารหมา
หรือ…กำลังทบทวนความโง่…ตัวเอง

31 ประเทศเหล่านี้ ที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ

ข่าวดีมาแล้ว31 ประเทศ ที่คนไทยสามารถไปได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า

1. Cambodia 14 days
2. Brunei 14 days
3. Bahrain 14 days
4. Japan 15 days
5. Philippines 30 days (อ้างอิงความเห็นที่ 19)
6. Laos 30 days
7. Vietnam 30 days
8. Malaysia 30 days
9. Singapore 30 days
10. Hong Kong 30 days
11. Macau 30 days
12. Maldives 30 days
13. Seychelles 30 days
14. South Africa 30 days
15. Mongolia 30 days
16. Turkey 30 days
17. Russia 30 days (ทางรัสเซียเขามีกฏว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ต้องวีซ่าเข้ารัสเซ๊ย ถ้าพำนักอยู่ภายในเมืองเดิมเกิน 3 วัน จำเป็นต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์กงสุลของรัสเซียนะครับ มิฉะนั้นตอนขาออกประเทศจะโดนปรับเงิน !! แต่ส่วนมากถ้านอนตามโรงแรมเขาจะลงทะเบียนให้เลย แต่ถ้าไปบ้านเพื่อนหรืออย่างไร รบกวนศึกษาตรงนี้ด้วยนะครับ)
18. Vanuatu (ประเทศวานูอาตู เป็นประเทศเกาะเล็กแถบ Pacific ค่อนไปทาง Australia) 30 days
19. Indonesia 30 days
20. South Korea 90 days
21. Argentina 90 days
22. Brazil 90 days
23. Chile 90 days
24. Ecuador 90 days
25. Fiji 4 months อันนี้เขานับเป็นเดือนครับ ไม่ใช่แบบวัน
26. Panama 180 days
27. Peru 183 days หลายคนอาจจะเข้าใจว่าแค่ 90 วัน แต่จริงๆนานกว่านั้นเยอะครับ
28. Georgia 90 days ประเทศนี้เป็นหนึ่งในอดีตโซเวียตเก่าครับ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าคนไทยไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเช่นกัน (อ้างอิงความเห็นที่ 24)
29. Haiti 90 days (อ้างอิงความเห็นที่ 4)
30. Dominican Republic 3 Months
31. Cook Island 31 Days

รายชื่อประเทศที่คนไทยสามารถขอ Visa on arrival ได้

1. Sri Lanka ค่าวีซ่าประมาณ $20 อยู่ได้ 30 วัน
2. Oman
3. Jordan ค่าวีซ่า JOD20 หรือประมาณ 1,000 บาท อยู่ได้ 30 วัน
4. Papua New Guinea ค่าวีซ่าไม่เกิน 1,000 บาท อยู่ได้ 60 วัน
5. Iran ขอวีซ่าก่อนเดินทาง ค่าวีซ่าไม่แน่ใจแต่อยู่ได้ 15 วัน
6. Nepal
7. Ethiopia* ค่าวีซ่าประมาณ $20-30
8. Kenya
9. Tanzania*
10. Zimbabwe*
11. Mauritius
12. Madagascar
13. Timor Leste (ติมอร์ตะวันออก)
14. Armenia อดีตโซเวียตเก่าเช่นเดียวกัน ค่าวีซ่าประมาณ $40
15. Bolivia ค่าวีซ่า $52
16. Mali* อันนี้อยู่แถบ West Africa คนไทยคงไม่ค่อยอยากไปรึปล่าว
17. Mozambique ค่าวีซ่าไม่ทราบแต่อยู่ได้ 30 วัน
18. Uganda* ค่าวีซ่า US$50
19. Togo* ค่าวีซ่าไม่ทราบแต่อยู่ได้ 7 วัน

*สำหรับการเดินทางไปยัง 6 ประเทศที่ผมดาวเอาไว้ ทุกท่านจำเป็นต้องมีสมุดเล่มเหลืองยืนยันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดต่างๆในแถบแอฟริกา เช่น มาลาเรีย ไทฟอย ไข้เหลือง ฯลฯ ยังไงขอให้ศึกษาข้อมูลเรื่องโรคที่ต้องป้องกันก่อนการเดินทางไปยัง 4 ประเทศนี้ด้วยนะครับ

รายชื่อประเทศที่คนไทยสามารถไปได้โดยมีเงื่อนไขบางประการ

1. Taiwan ถ้ามีวีซ่าอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย หรือ เชงเก้น ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถเข้าไต้หวันโดยยกเว้นวีซ่าได้ 30 วัน และวีซ่าไต้หวัน สำหรับคนที่ถือวีซ่าถาวรหรือเรสซิเดนส์วีซ่าของประเทศนิวซีแลนด์สามารถเข้าประเทศไต้หวันได้ 30 วัน (อ้างอิงความเห็นที่ 69)
2. Mexico ถ้ามีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ สามารถพำนักได้โดยยกเว้นวีซ่า 180 วัน (โดยต้องเข้าเม็กซิโกโดยผ่านทางประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น อ้างอิงความเห็นที่ 23)
3. Puerto Rico เงื่อนไขเดียวกัน Mexico อันนี้ขอแก้ไขนะครับ ถ้าเดินทางมาจาก USA เพื่อเข้า Puerto Rico ยกเว้นวีซ่าและอยู่ได้ 30 วันครับ
4. Bulgaria ถ้ามีวีซ่าเชงเก้นหรือโรมาเนีย สามารถพำนักได้ 90 วัน
5. Kosovo ถ้ามีวีซ่าเชงเก้นที่ไม่หมดอายุ สามารถพำนักอยู่ได้ 15 วัน
6. Ireland ถ้าถือวีซ่า UK อยู่และยังไม่หมดอายุสามารถอยู่ได้ 90 วัน
7. Costa Rica ถ้ามีวีซ่าญี่ปุ่นที่มีอายุเกิน 6 เดือน หรือ วีซ่าจากประเทศ Liechtenstein, Norway, Switzerland สามารถพำนักได้สูงสุด 30 วัน

ที่มา :http://board.postjung.com/825218.html

นอนอย่างไรถึงหน้าเด็ก ?

@นอนอย่างไรถึงหน้าเด็ก ?
.... คือการนอนที่ซ่อมแซมร่างกาย จะทำให้หน้าเด็กขึ้น เนื่องจากการสร้าง Growth Hormones ออกมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
.... วิธีที่จะทำให้เราหน้าเด็กมากขึ้นจากการนอนปกติ การแบ่งการนอนออกเป็น สองช่วง โดยนอนครั้งแรกประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วตื่นมาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วนอนต่อ จะทำให้เกิดการ สร้าง Growth Hormones ในการนอนครั้งหลังด้วย (Takahashi et al., 1968) การนอนแบบนี้ จะเป็นเหมือนการนอนแบบสมัยโบราณ ซึ่งทำให้เรา นอนอิ่มมากขึ้น และจะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยระหว่างวันอีกด้วย
......นอกจากนี้ จากการศึกษาแสดงว่า การนั่งสมาธิระดับสูง (Deep Meditation) ก็สามารถปล่อย Growth Hormones ได้อีกด้วย
ที่มา http://pantip.com/topic/31673049
( โดย มี References:เช่น
Y. Takahashi, D. M. Kipnis, and W. H. Daughaday, (1968), Growth hormone secretion during sleep, Journal of Clinical Investigation: September; Vol 47, No. 9: pp. 2079–2090.
Freud, S., (1913), Interpretation of the Dream, McMillan
http://healthysleep.med.harvard.edu/glossary/n-p
Tony U-Thasoonthorn, (Unknown), Meditation and Brain Waves Patterns )
...........etc.

เรื่องของ "ของขวัญ" กับความสำคัญในชีวิต

♥ใกล้ปีใหม่เตรียมเลือกของขวัญ"ที่ต้องให้"เอาไวน๊ะครับ♥

ว่ากัน เรื่อง ของ "ของขวัญ"

ของขวัญ ที่ต้องให้.. ผู้ที่เป็นศัตรู คือ...การให้อภัย

ของขวัญ ที่ต้องให้.. ผู้ที่เห็นต่าง คือ...ความอดกลั้น

ของขวัญ ที่ต้องให้.. บุพการี
คือ...ความกตัญญู

ของขวัญ ที่ต้องให้.. บุตรหลาน
คือ...การเป็นแบบอย่างที่ดี

ของขวัญ ที่ต้องให้ มิตรสหาย
คือ...ความจริงใจ

ของขวัญ ที่ต้องให้.. ลูกค้า
คือ...ความซื่อสัตย์

ของขวัญ ที่ต้องให้.. ลูกหนี้
คือ...ความเมตตา

ของขวัญ ที่ต้องให้.. เจ้าหนี้
คือ...ความรับผิดชอบ

ของขวัญ ที่ต้องให้.. คนรอบข้าง คือ...ความจริงใจ

ของขวัญ ที่ต้องให้.. กับ...ตัวเอง
คือ...ใจที่ใสๆ บุญกุศลคุณงามความดี ที่จะติดตัวไปทุกภพทุกชาติ ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม.(steam locomotive)(flags)(monorail)

♥ ♥ ♥

วิธีป้องกันกบกระโดดหนีจากบ่อ

สัตว์)ป้องกันกบกระโดดหนีจากบ่อ ขึงตาข่ายบนบ่อซีเมนต์ นำมะนาวหรือส้มวางบนตาข่าย เมื่อกบเห็นวัถตุทรงกลมจะคิดว่าเป็นศัตรูและถอยห่างขอบบ่อ

จาก sms farmerInfo

รวบรวมผลงาน กับการมีเป้าหมายชีวิต

เพื่อนรักเพื่อนกัน ส่งรูปที่รวบรวมผลงานในการทำงานที่ผ่านมา มาให้ดู เค้ามีประสบการณ์ มีความสามารถทำอะไรได้บ้าง เป็นรูปที่ถ่ายมาจากเอกสารของเพื่อนที่พิมพ์รวบรวมไว้....
...ดูที่เพื่อนส่งมา ก็เห็นหลายสิบข้อ เช่น งานด้านสื่อสารมวลชน เรื่องทำข่าว ตัดต่อวิดีโอ จัดทำรายงานเอกสารต่างๆ เพื่อนทำได้หมด....
... ถ้าทุกคน รวบรวมผลงาน ประสบการณ์ที่ผ่านมา เขียนเป็นข้อๆ คงทำให้ชีวิตมีเป้าหมายมากขึ้น....
... ว่างๆลองนั่งรวบรวมผลงาน ประสบการณ์ที่ผ่านมาดูบ้างสิ ถ้ามีใครนึกไม่ออก ไม่มีผลงานอะไรเลย เพราะชีวิตไม่มีเป้าหมาย ไม่มีหลัก ก็ต้องเริ่มต้น มีเป้าหมายได้แล้ว....
... เพื่อนรักเพื่อนกัน เคยรวบรวมผลงานของเค้ามาให้ดู เมื่อ 8-9 ปีก่อน วันนี้เอามาให้ดูอีกรอบ.. ผลงานในชีวิต เพิ่มมาอีกเท่าไหร่หนอ .... คงต้องไปนับซะแล้ว

นาท ซูดาน กับการตัดสินใจ เมื่อ 24 พ.ย.2557

เดินทางไปหลายที่ เขียนเพลง ร้องเอง ขายเอง วันนี้ มีคนติดต่อให้ไปร้องเพลงเปิดงาน ที่ จ.ร้อยเอ็ด ก่อนที่ศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่ จะขึ้นเวที แต่ได้แค่ค่าน้ำมันรถไม่กี่ร้อย คิดคำนวณดูแล้ว ไม่คุ้ม ค่ำนี้ "พี่นาท ซูดาน" จึงตัดสินใจอยู่เปิดหมวกที่บัวใหญ่ - สีดา เดินบนเส้นทางของตัวเอง แน่นอนกว่า...
... พี่นาท ทำอัลบั้มชุดใหม่ พึ่งเสร็จสดๆร้อนๆ เดี๋ยวคงต้องช่วยเอางานมาช่วยเผยแพร่ ซะหน่อย...

พลังแห่งการนอนหลับ...พลังแห่งความจำ

พลังแห่งการนอนหลับ...พลังแห่งความจำ
Dr. James Maas จาก Cornell University ได้กล่าวอ้างไว้จากหนังสือ Sleep for success ว่าการ นอนหลับส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจำ
คนที่นอนน้อยจะทำให้ความสามารถ ในการเรียกข้อมูลต่ำลง 19 %
คนที่ไม่ได้นอนเลยจะมีความสามารถในการจดจำแค่ 50%
รวมถึง 2 ชั่วโมงสุดท้ายในการนอนถือว่าสำคัญที่สุดที่ข้อมูลต่างๆ จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังสมองส่วนที่จดจำที่ดีที่สุด นอกจากนั้นแล้ว การนอนยังมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการเคลียร์พื้นที่สมองให้มีที่ว่างสำหรับจดจำข้อมูลในวันต่อๆ ไป เปรียบได้กับการ format เครื่องคอมพิวเตอร์ในทุกวันนั่นเอง
คำถามคือ แท้จริงแล้วคนเราควรนอนหลับกี่ชั่วโมงต่อวัน แม้ว่าคำตอบจะเป็นเรื่องปัจเจกแต่ National Institutes of Health ของสหรัฐฯ ให้คำแนะนำว่า คนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ควรนอนหลับ 7.5-9 ชั่วโมง/วัน Dr.Matthew Walker แห่ง Beth Israel Deaconess Medical Center’s Sleep and Neuroimaging Laboratory กล่าวว่า การนอนน้อยกว่า 7.5-9 ชั่วโมงต่อวัน แล้วหวังจะให้สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานดีเลิศเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และเมื่อปลายปีที่แล้ว Dr.Michael Grander จาก University of Pennsylvania Center for Sleep and Circadian Neurobiology พบว่า คนที่กินอาหารดีมีประโยชน์และหลากหลาย จะมีรูปแบบการนอนที่ดีกว่า หรือกล่าวง่ายๆ ก็คือ การกินอาหารที่ดีจะเป็นตัวทำนายว่าเราจะนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอนั่นเอง
อ.ดร.ปรียาสิริ มานะสันต์ : อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
ที่มา http://www.motherandcare.in.th/the-new-science-of-learning-2/

ฟัง รายการ ในหลวงในดวงใจ Radio ตอน 33 ระยะทางที่เสด็จ - โดย Thida Weangsamoot & Maliwan Pukka Keewiriyakul

ฟัง รายการ ในหลวงในดวงใจ Radio ตอน 33 ระยะทางที่เสด็จ  -  โดย Thida Weangsamoot & Maliwan Pukka Keewiriyakul  
ในหลวงในดวงใจ 33 ระยะทางที่เสด็จ
ช่วง"ในหลวงในดวงใจ" ตอน33 (ระยะทางที่พ่อหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปทรง?เยี่ยมราษฎร) ในรายการวิทยุรักพ่อ โดย ธิดา เวียงสมุทร (Thida Weangsamoot) และ มะลิวัลย์ กี้วิริยะกุล (Maliwan Pukka Keewiriyakul) ฟังเพลง candle light blue, ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย, เรื่องเล่าในหลวง - ระยะทางที่พ่อหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเ?ยี่ยมราษฎร ,สารคดี ๙ คำพ่อสอน , พระราชดำรัสปิดท้ายรายการ
http://www.youtube.com/watch?v=DuWRBRKKjws



กระตุ้นให้กระชาย ขมิ้นงอกเร็วขึ้น - เกร็ดน่ารู้จาก SMS FArmerInfo

กระตุ้นให้กระชาย ขมิ้นงอกเร็วขึ้น - เกร็ดน่ารู้จาก SMS FArmerInfo

- วิธีกระตุ้นให้กระชาย ขมิ้นงอกเร็วขึ้น เพียงนำเหง้าที่ตัดแต่งแล้วใส่ในถุงผ้าชนิดอุ้มน้ำ มัดปากแล้วจุ่มน้ำนาน 5 นาที ก่อนนำไปแขวน ทำ 7 วัน
- การคุมทรงพุ่มมะขามให้สูง 1 เมตร + ใช้ผงชูรส (85กรัม)  1ห่อ + น้ำเปล่า 1.5 ลิตร ฉีดพ่น แล้วรดน้ำในวันถัดไป (ทำทุกครั้งหลังเก็บ) จะมียอดอ่อนขายทั้งปี
- นำหัวปลาสุก หัวกุ้งสุกอย่างละ 1 ส่วน ผสมกับสาคูบด 3 ส่วน คลุกเคล้า + บด แตกแดดจนแห้งสนิท เก็บไว้ให้เป็ดกินแทนอาหารสำเร็จรูป
- เพิ่มอัตราการงอก - เสริมการต้านทานโรคและแมลงในผัก เพียงแช่เมล็ดพันธุ์ในฮอร์โมนไข่ + จุลินทรีย์หน่อกล้วย อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ นาน 2-3 ชม ก่อนปลูก
-  ปัญหาเชื้อราที่ง่ามเท้า รักษาง่ายๆ เพียงใช้ข่าไม่อ่อน หรือแก่เกินไปตำให้ละเอียด 1 กำมือ พอหรือทา 3-4 ครั้ง/ วัน ติดต่อกันทุกวัน จนหายดี

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ชีวิตสอนเราว่า : 15 สัจธรรมชีวิต

ชีวิตสอนเราว่า
1. หลายปีนี้ เริ่มรู้สึกหวาดหวั่น เมื่ออายุมากขึ้น ญาติสนิทมิตรสหายเริ่มทยอยจากเราไป รู้สึกถึงชีวิตล้วนอนิจจัง
2. หลายปีนี้เริ่มรู้สึกปล่อยวาง เริ่มเรียนรู้ถึงสิ่งที่ไม่ว่าจะเสียดายหรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่จะต้องเป็นไปโดยวิถีแห่งธรรมชาติ
3. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า การตั้งตนอยู่ในความระแวดระวังผู้อื่นจะขาดเสียไม่ได้ และการที่จะคิดร้ายกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้โดยเด็ดขาด
4. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า ความสนิทชิดเชื้อระหว่างมนุษย์นอกเหนือจากความเกี่ยวพันทางสายเลือดแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือสัมพันธภาพทางจิตใจที่จริงใจต่อกัน
5. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า สิ่งที่เคยใฝ่ฝันอยากได้ในอดีต แม้วันนี้จะได้มา ก็หาใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับเราอีกต่อไป
6. หลายปีนี้ เริ่มตื่นรู้ นอกจากเราต้องทำดีกับผู้อื่นแล้ว เราจะต้องทำสิ่งที่ดีงามให้กับคนที่ดีกับเราให้มากเท่าทวีคูณ
7. หลายปีนี้ เริ่มเรียนรู้ว่า เวลาหาได้บ่มเพาะความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คน ตรงกันข้าม เวลากลับพิสูจน์ให้เห็นถึงธาตุแท้ของผู้คน
8. หลายปีนี้ เริ่มรู้ซึ้ง นอกจากพ่อแม่แล้ว ไม่มีใครในโลกที่จะคอยอนุเคราะห์ โอบอุ้มและให้อภัยเราเหมือนเช่นที่ท่านให้กับเรา
9. หลายปีนี้ เริ่มหวาดหวั่นถึงความประมาท ที่อาจจะนำมาซึ่งอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและความทุกข์ทรมานต่อร่างกายอย่างไม่คาดฝัน
10. หลายปีนี้ เราเปลี่ยนไป สามารถอดทนแบกรับความทุกข์ในหลากหลายรูปแบบ มีความแกร่งในชีวิต เหมือนต้นกระบองเพชร ที่สามารถจะอยู่รอดได้ในทุกสถานะ
11. หลายปีนี้ เริ่มสำนึก ไม่ดึงดันถือมั่นอย่างที่เคย หลายสิ่งที่เคยยึดมั่นเริ่มคลายความถือมั่นอย่างที่เคยเป็น
12. หลายปีนี้ หลายสิ่งที่ขัดหูขัดตา ก็สามารถที่จะทำใจให้เป็นเหมือน “ฟังแต่ไม่ได้ยิน มองแต่ไม่ได้เห็น“
13. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า ไม่ใช่คนทุกคนจะยินยอมเดินตามวิถีทางที่เราอยากให้เป็น
14. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า สิ่งที่เป็นของเรา ย่อมต้องเป็นของเรา สิ่งที่ไม่ใช่ของเรา จงอย่าได้ฝืนเอา
15. หลายปีนี้ ชีวิตสอนว่า อย่าได้อิจฉาชีวิตของผู้อื่น เพราะเราเองก็สามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการให้เป็น
เวลาดุจสายน้ำ ไหลไปไม่หวนกลับ เรียนรู้กับชีวิต รู้ซึ้งถึงชีวิต
หวงแหนทุกวันเวลาที่ผ่านไป ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เรียนรู้ชีวิตอย่างสงบต่อไป

3 ข้อคิดโดนใจ

1. ความพ่ายแพ้ส่วนใหญ่ในโลกใบนี้ เกิดขึ้นก่อน "ในหัวใจ" - วินทร์ เลียววาริณ

2. ล้มเพราะก้าวไปข้างหน้า ดีกว่ายืนเต๊ะท่าอยู่กับที่ - พระเทพโสภณ

3. ถ้ามีเงินคนละ 1บ. แล้วเอามาแลกกัน เราจะยังคงมีเงินคนละ 1บ. แต่ถ้าเรามีความคิดดีๆ แล้วเอามาแลกกัน เราจะมีความคิดดีๆคนละ 2 ความคิด (@kid_dd)

ทัศนคติที่ดี จะทำให้ชีวิตดีขึ้น.. : เรื่องน่าอ่าน

ทัศนคติที่ดี "คิดดี" ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้.
.กาลครั้งหนึ่ง มีกษัตริย์ครองนคร ทรงโปรดปรานการท่องป่า ล่าสัตว์เป็นอันมาก กษัตริย์ทรงมีมหาดเล็กคู่ใจ เป็นที่ปรึกษาอยู่คนหนึ่ง
.วันหนึ่ง ได้เกิดกบฏขึ้นภายในพระนคร มีคนลุกฮือขึ้น จะโค่นอำนาจกษัตริย์ ซึ่งก็มีแววจะชนะซะด้วย เมื่อกองทัพกบฏ ประชิดเมือง กษัตริย์ก็ได้ปรึกษา กับคนสนิทเป็นการใหญ่ ซึ่งรวมไปถึงมหาดเล็กคู่ใจ ของเขาด้วย กษัตริย์ถามว่า
.“เจ้าคิดยังไง กับเรื่องนี้” “ดีพะยะค่ะ”
.“ดียังไง”
.“สถานการณ์เวลานี้ แม้จะดูไม่สู้ดีนัก แต่อย่างน้อย เราก็จะได้รู้ว่า ใครบ้าง ที่จะจงรักภักดีกับเรา ใครที่คิดจะแปรพรรค ไปด้านโน้น ซึ่งหากเราปราบกบฏ ครานี้ลงได้ ท่านก็จะเหลือแต่ลูกน้อง ที่จงรักภักดีกับท่าน ทำให้ ไม่ต้องกังวลพระทัย อีกต่อไป พะยะค่ะ”
.“อืม นั่นสินะ”
.หลังจากนั้น กษัตริย์ก็มีกำลังใจเป็นอันมาก และปราบกบฏลงสำเร็จ
หลังจากนั้นไม่นาน พอย่างเข้าหน้าฝน ฝนก็ตกหนัก จนท่วมลามเข้าในพระนคร ทำให้การคมนาคม ติดขัด ไม่สามารถเดินทาง ออกนอกพระนครได้ กษัตริย์ที่ ปกติ จะออกป่าล่าสัตว์ ก็เกิดอาการหงุดหงิด กษัตริย์ก็ปรึกษา มหาดเล็กอีกครั้ง
.“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
.“ดีพะยะค่ะ”
.“ดียังไง”
.“ถึงแม้ตอนนี้ เราจะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ ก็ไม่เป็นไร พะยะค่ะ”
“เนื่องจากตอนนี้ เป็นหน้าฝน อย่างไรเสีย การเสด็จออกป่า ก็คงไม่สนุก เป็นแน่แท้ และเป็นการดีเสียอีก ที่พอน้ำลด เกษตรกรเราก็จะได้ มีน้ำ ทำการเพาะปลูก ได้ผลผลิตงอกงาม และสามารถ กักตุนเสบียงได้ ในยามจำเป็น พะยะค่ะ”
.“อืม นั่นสินะ”
.พอเสร็จสิ้นหน้าฝน และน้ำลดแล้ว กษัตริย์ก็ทรงออกป่า ล่าสัตว์ ตามที่พระองค์ชอบ เหมือนเดิม ซึ่งมหาดเล็กคนเดิม ก็ติดตามไปด้วย แต่แล้วขณะที่ พระองค์ทรงอยู่บนหลังม้า ปลอกพระขรรค์หรือมีดพกที่เหน็บเอว ได้รั่ว ทำให้มีดหล่น เฉือนนิ้วก้อย ของกษัตริย์ ขาดไป ต่อหน้าต่อตา กลายเป็นคนนิ้วด้วน กษัตริย์จึงถาม มหาดเล็กเช่นเดิม
.“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”
.“ดีพะยะค่ะ”
.“ดียังไง หา (ใส่อารมณ์ โกรธสุดๆ)”
"ยังไงก็ดี กว่าตายพะยะค่ะ”
.กษัตริย์โกรธ เลือดขึ้นหน้า สั่งทหาร นำมหาดเล็กคนนั้น ไปขังลืมในคุกขี้ไก่..และแล้ว 10 ปี ผ่านไป กษัตริย์ได้ออกล่าสัตว์เหมือนเดิม ขณะที่มหาดเล็ก ก็ยังถูกลืมอยู่ในคุกขี้ไก่เหมือนเดิม ครานี้เป็นโชคร้าย ของกษัตริย์ เมื่อเข้าป่า ไปเจอกับเผ่ากินคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า จำนวนทหาร ที่ติดตามไปด้วยมาก ทหารทั้งหมด จึงถูกจับและถูกต้มกิน เป็นๆหมดเกลี้ยงจน เหลือแต่กษัตริย์คนเดียว
.เมื่อเผ่ากินคน เตรียม จะเชือดกษัตริย์ลงหม้อ ได้สังเกตเห็นว่า กษัตริย์ไม่มีนิ้วก้อยเท้าไม่ครบ ซึ่งทางเผ่ากินคน ได้มีความเชื่อถือว่า เป็นตัวกาลกินี กินเข้าไปแล้ว จะเกิดภัยพิบัติ ใหญ่หลวง แก่เผ่าและผู้กิน จึงสั่งปล่อยตัวกษัตริย์ไป กษัตริย์ดีใจมาก
.เมื่อกษัตริย์ดีใจ ที่รอดตายกลับเมืองได้ จึงนึกถึงคำเมื่อ 10 ปีก่อน ของมหาดเล็กคู่ใจ จึงลงไปที่คุกขี้ไก่ และสั่งปล่อยตัวมหาดเล็กคู่ใจ ทันที และทรงเล่าเหตุการณ์ ที่เจอมาด้วยความดีใจ ที่รอดชีวิตมาได้
.“อืม คำเจ้าเมื่อ 10 ปีก่อน เป็นจริง ยังไง นิ้วก้อยด้วน ก็ยังดีกว่าตาย จริงๆ”. “พะยะค่ะ”
กษัตริย์จึงถามต่อ
“แล้วอยู่ในคุกขี้ไก่เป็นไงบ้างล่ะหือ”
“ดีพะยะค่ะ”
.กษัตริย์ทำหน้างง “ดียังไง”
.“ถ้ากระหม่อม ไม่อยู่ในคุก ก็คงตามเสด็จ ท่านไปในวันนั้นด้วย และคงจะโดนเผ่ากินคน กินไปแล้ว พะยะค่ะ”

.การมองโลกในแง่ดี เป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะทำให้ชีวิตของเรา มีความสุข การคิดบวก เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่าง ในชีวิตของเรา เป็นบวกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องชีวิตส่วนตัว เพื่อน คนรัก เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว และการทำงาน

วิธีทำสบู่น้ำผึ้ง

สัตว์)วิธีทำสบู่น้ำผึ้ง กลีเซอรีนชิ้นเล็กๆ1กก. ตั้งไฟอ่อนจนละลาย ผสมน้ำผึ้ง1ช้อนโต๊ะ+ขมิ้นผง2ช้อนชา+หัวน้ำหอม1ออนซ์ กวนจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์

วัดน้ำใจที่จะมีให้ รึเปล่า...

ผลแห่งความดี มาจาก ความคิดดีๆที่จะให้อยู่ตลอดเวลา .. เมื่อน้องสาวคนนึงของเธอ กำลังมองหาช่องทางในการทำมาหากิน ท่ามกลางอุปสรรคหลายอย่าง แต่เธอ ก็ช่วยคิด ช่วยมองหาหนทางอย่างเต็มที่ ....
... มีหลายช่องทางที่คิดออก ช่องทางที่เป็นไปได้ และพร้อมที่จะทำได้ทันที ทั้งสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ เพียงแต่จะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากคนที่เธอนึกถึงหรือไม่...
... ทุกคนต้องการความช่วยเหลือ ในยามทุกข์ และยังทำให้ได้เห็น ก้นบึ้งของจิตใจอันแท้จริงของคนที่เกี่ยวข้องด้วย...

สรรพคุณแก้โรค ของการฝึกลมปราณแบบบู๊ตึ้ง

มีผู้แนะนำด้วยความปรารถนาดี ให้ฝึกลมปราณแบบบู๊ตึ้ง จะช่วย
- รักษาโรคระบบทางเดินหายใจ
- แก้โรคปวดหลัง ไม่ต้องไปกินยา
- แก้โรคท้องผูก คนถ่าย 3 วันครั้ง ฝึกแล้วจะถ่ายง่ายขึ้น
- แก้โรคกะบังลมหย่อนในผู้หญิงสูงอายุ, แก้ไซนัส, หอบหืด, ภูมิแพ้, น้ำในหูไม่เท่ากัน, นอนกรน, อัมพฤก

ท่าฝึกลมปราณแบบบู๊ตึ้ง: http://youtu.be/Kdw4lyKTGVg

วิธีแก้ท้องอืดแน่น + ท้องผูก

พืช)แก้ท้องอืดแน่นหรือท้องผูก เห็นผลทันที ใช้มะละกอสุก200กรัม+โยเกิร์ต1ถ้วย+น้ำผึ้ง30cc+น้ำมะนาว1ลูก หมัก15นาที แล้วกินตอนเช้า ขณะท้องว่าง

จาก sms farmerInfo

หมาขี้เรื้อน กับการมองดูตัวเอง

หมาขี้เรื้อน
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่ง เพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอก
จึงบวชอย่างเสียไม่ได้ 
เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษา
อยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย 

เมื่อมาอยู่วัดป่า กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน
แต่ก็นั่นแหละ กว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูป
พลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน  ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอา
ก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับผิด และชอบอวดรู้ ยกหูชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ 

วันแรกที่มาอยู่วัดป่า ก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่า
ไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมา
ก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า
ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็น
ก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกิน
กว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา 

ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไป 
ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอก
ต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้  โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น  ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธา
กว่าพระรูปไหนทั้งหมด  มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้ว
ช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู  นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ 

อยู่มาได้พักใหญ่ พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่า ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนานๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง  วันๆ ไม่เห็นท่านทำอะไร เอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน  การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาส
เป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง

เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่า
ไม่เข้าท่าล้าสมัย  รวมทั้งเสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่ง เพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก 

อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาส
มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ 
สอนให้มากขึ้น เทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหาร
ไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเอง ด้วยตนเอง  ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า 

เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติ
กลางลานทรายด้วย ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่าน
ให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน  อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตา
พลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลาย
ดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ 

เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน  เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้  อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน 
แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหน
มันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ 

หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน  สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี  คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน  แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที  เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้น
แต่อย่างใดไม่  สาเหตุแห่งอาการคัน อยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก 

พูดจบแล้ว หลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณ
ให้รู้ว่าได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้ว 
ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ
ข้างนอกสงบ แต่ในวุ่นวาย
นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจาก
หมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู  ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง 

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน  จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง 
เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขา
เพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก 
"อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อน ขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคัน
กับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา" 

โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการ กราบลาพระลูกชาย แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถ
พลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่า คำว่า หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ 

ถ้าเรายังเป็นโรคอยู่ในใจ ไม่พอใจอะไรซักอย่าง เงินเดือนน้อย หน้าที่การงานไม่พัฒนา ตำแหน่งไม่ไปไหน 
ไม่ว่าเราย้ายงานไปที่ไหน เราก็ไม่พอใจ สถานที่เหล่านั้นไม่ดี คนไม่ได้เรื่อง
ทั้งๆ ที่เราไม่เคยได้ดูตัวเองเลยว่า เราพัฒนาการทำงานของเรามั้ย ขวนขวายหาความรู้หรือเปล่า ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้นเลย

วิธีถนอมตะไคร้ ระหว่างรอแปรรูป

พืช)วิธีถนอมตะไคร้ระหว่างรอแปรรูป คงความสดใหม่ไว้นานนับสัปดาห์ เพียงใช้ผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาด คลุมโคนต้นไว้ แล้วนำไปตั้งในภาชนะที่เก็บ

จาก sms farmerInfo

ปัญหาการเผาขยะในหมู่บ้านของไทย

การกำจัดขยะในหมู่บ้าน ตามชนบทของไทย คือการเผา เพราะไม่มีหน่วยงาน จัด เก็บขยะเหมือนในตัวเมือง.หรือ เทศบาลเมือง..

เผาขยะ ทุกวัน เพราะขยะเกิดขึ้นทุกวัน คนกิน ใช้ทุกวัน ...

เมื่อเผาขยะ จะเกิดควันจากการเผา ควันลอยไปตรงไหน ใครอยู่บริเวณนั้น ก็สูดดมกันเข้าไป เหม็น เวียนศรีษะ ทำลายระบบหายใจ สะสมไปเรื่อยๆ..

..แล้วจะมีวิธีกำจัดขยะ ที่ดีกว่านี้มั้ย ความจริงก็มี แต่ระบบการกำจัดขยะในชนบท ก็ต้องเผาแบบนี้ล่ะ บ้านนี้เผา บ้านโน้นก็เผา เกิดควัน ทุกวัน หลายๆมุมหลายๆที่ในหมู่บ้าน เมื่อควันลอยมา ก็ควรต้องหลบกันเอง

เรื่องเล็ก แต่ต้องแก้ไขเป็นระบบ ก็จนกว่า จะเกิดปัญหาใหญ่ มีคนเจ็บป่วย ให้เห็นชัดๆ หรือน่ากลัวจริงๆ จึงจะคิดแก้ไข

คุณภาพชีวิตคนชนบท ดูเหมือนราคาถูกกว่า คุณภาพชีวิตของมหาเศรษฐี มากมายหลายเท่าตัว ...

นี่ล่ะ เมืองไทยแลนด์

มหัศจรรย์วันคริสตมาส

มหัศจรรย์วันคริสตมาส

บริษัทแห่งหนึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่ง คือ คืนวันคริสมาสของทุกๆปีจะมีการจัดงานสังสรรค์ตอนกลางคืน และจะมีการจับรางวัลด้วย กฎของการจับรางวัลคือ : พนักงานแต่ละคนจะมอบเงินคนละ 10 USดอลลาร์เป็นกองทุน ทั้งบริษัทมีพนักงาน 300 คน ดังนั้น สามารถรวบรวมได้ 3000 USดอลลาร์ สำหรับผู้ที่โชคดีถูกจับฉลากได้ ก็จะสามารถนำเงินจำนวนนี้กลับบ้าน

ในวันจับฉลาก บรรยากาศในสำนักงานครึกครื้นมาก พนักงานแต่ละคนต่างก็เขียนชื่อของตนเองลงในใบฉลาก แล้วใส่ลงไปในกล่องจับฉลาก แต่ว่า มีพนักงานหนุ่มคนหนึ่งขณะกำลังจะเขียนชื่อก็เกิดลังเลขึ้นมา เพราะเขาคิดถึงเรื่องๆหนึ่ง คือ ลูกชายของแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัทที่อ่อนแอและป่วยบ่อยกำลังจะผ่าตัดในเร็วๆนี้ แต่หล่อนไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าผ่าตัด ทำให้หล่อนกลุ้มใจมาก ดังนั้น แม้ว่าโอกาสที่จะถูกฉลากได้จะเลือนลาง มีโอกาสเพียงหนึ่งในสามร้อย แต่พนักงานหนุ่มคนนั้นก็ยังคงเขียนชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นลงไปในใบฉลาก

ช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมาถึงแล้ว เถ้าแก่ได้ทำการพลิกและคนใบฉลากในกล่องจับฉลาก สุดท้ายจับใบฉลากขึ้นมาหนึ่งใบ พนักงานหนุ่มคนนั้นอธิษฐานในใจตลอดเวลาว่า : ขอให้แม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นได้รางวัลด้วยเถอะ เมื่อเถ้าแก่ได้ประกาศชื่อของผู้ถูกรางวัลอย่างช้าๆ ปาฏิหารย์เกิดขึ้นจริงๆ ผู้ที่ถูกรางวัลก็คือแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังทั่วสำนักงาน แม่บ้านทำความสะอาดจึงได้รีบขึ้นไปรับรางวัล หล่อนดีใจมากจนเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และพูดด้วยความซาบซึ้งว่า : ฉันโชคดีจริงๆ เมื่อมีเงินก้อนนี้ ลูกชายของฉันก็มีความหวังแล้ว

เมื่องานเลี้ยงสังสรรค์เริ่มขึ้น พนักงานหนุ่มคนนั้นที่ยังคิดถึงเรื่อง “ปาฏิหารย์ในวันคริสมาส” ได้เดินไปถึงข้างๆกล่องจับฉลาก เขาลองหยิบใบฉลากในกล่องจับฉลากขึ้นมาใบหนึ่ง เมื่อเหลือบมองอย่างไม่ตั้งใจ บนใบฉลากกลับเขียนชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น เขาตกใจมาก เลยหยิบขึ้นมาอีกหลายใบ บนใบฉลากเหล่านั้นถึงแม้จะลายมือไม่เหมือนกัน แต่ล้วนเขียนชื่อที่เหมือนกัน ก็คือชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น พนักงานหนุ่มคนนั้นถึงกับน้ำตาซึม เขาเข้าใจได้ทันทีว่า ในโลกนี้มีปาฏิหารย์ในวันคริสมาสจริงๆ เพียงแต่ว่าปาฏิหารย์ไม่ได้หล่นลงมาจากฟ้า แต่เป็นมนุษย์เราเป็นคนไปสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง

เคล็ดลับทำไข่เค็มเกลือ

สัตว์)เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับทำไข่เค็ม เกลือที่ใช้ควรเป็นเกลือแกงเม็ดใหญ่ๆ หรือเกลือทะเล ไม่ควรใช้เกลือฟอกขาวอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไข่เน่า

จาก sms farmerInfo