++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สมุนไพรป้องกันกำจัดเห็บไรในคอกสัตว์

สมุนไพรป้องกันกำจัดเห็บไรในคอกสัตว์ สาบเสือ, ใบยูคา, ใบยาสูบ, หนอนตายยาก

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 7 ธ.ค.2553 - 14.06 น.

ข้อคิดและข้อปฎิบัติสำหรับผู้ต้องการเพิ่ม EQ ของตัวเอง :

หัดคิดแต่ด้านบวก ***แล้วจะรู้ว่ามีแต่สิ่งที่เป็นไปได้***
หัดฝัน ***แล้วจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่***
หัดพูดแต่ด้านบวก ***แล้วจะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา***
หัดยิ้ม ***แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก***
หัดฟาดฟันกับอุปสรรค ***แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง***
ลองทน ***แล้วจะรู้ว่าเรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร***
ลองออกกำลังกายทุกวัน ***แล้วจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง***
ลองคิดเอาชนะ ***แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะ ตัวเองได้ไม่ยาก***
ลองคิดให้ใหญ่ ***แล้วจะรู้ว่าเรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ***

นักพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่ง ได้เริ่มหยุดการสัมนาของเขา โดยการหยิบแบงค์ 1,000 ขึ้นมาในห้องที่มีผู้เข้าร่วม 200 ท่าน แล้วเขาก็พูดว่า
"ใครอยากได้แบงค์ 1,000 นี้บ้าง?" มือได้ถูกยกขึ้นเป็นจำนวนมาก และเขาก็พูดต่อว่า
"ฉันจะให้เงินแบงค์1,000 นี้แก่หนึ่งในพวกท่านแต่ครั้งแรกนี้ฉันจะทำอย่างนี้" เขาเริ่มที่จะขยำๆเงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า
"ใครจะยังต้องการมันอีก" ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก
"ดี" เขาตอบ
"แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ" และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มที่เหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา
ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก
"ตอนนี้ใครยังต้องการมันอีก" ก็ยังคงมีคนยกมืออีก
"เพื่อนๆ คุณได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า
ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน คุณก็ยังต้องการมันอยู่ เพราะว่ามัน
ไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันก็ยังคงมีค่า1,000 บาทอยู่นั่นเอง"

"เหมือนกับหลาย ๆ ครั้งในชีวิตของเรา ที่ถูกทิ้ง ถูกเหยียบย่ำ
และถูกทำให้สกปรก โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมัน และสภาพแวดล้อม
ที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง แต่ไม่ว่าอะไร
ที่ได้เกิดขึ้น หรืออะไรที่จะเกิดขึ้น คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ
คุณเป็นคนพิเศษ -- อย่าลืมมันตลอดไป!"

266 บานพับ ลูกบิด รูกุญแจ เหล็กดัด หลังน้ำท่วมต้องทำอะไรบ้างดี

ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง เล่ม 3
บ้านหลังน้ำท่วม( น้ำท่วมบ้าน จะทำยังไง ซ่อมอะไรก่อน อะไรรอได้)

โดย ยอดเยี่ยม เทพธราน





คงเป็นคำถามที่ต่อเนื่องจากปัญหาที่แล้ว ซึ่งว่าด้วยเรื่องประตูหน้าต่างที่เกิดปัญหาขึ้นหลังน้ำท่วม บานพับ ลูกบิด กุญแจ เหล็กดัด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะก็เกิดปัญหาตามมา ขอตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

เช็ดน้ำและพยายามให้ความชื้นระเหยออกให้หมด หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หากเกิดสนิมตรงที่ใด ก็ขัดเอาสนิมเหล่านั้นออกเสียโดยเร็ว อย่าปล่อยทิ้งไว้
ใช้น้ำยาหล่อลื่นสารพัดประโยชน์ (ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "โซเล็กซ์") หยอดชะโลม ตามจุดต่อ ตามข้อต่อ ตามเฟือง และตามรูต่าง ๆ ให้ทั่ว (คงไม่ถึงขนาด เป็นมันเยิ้ม ๆ จะทำให้สิ่งของรอบข้างเลอะเทอะ และเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์)
อย่าเพิ่งใช้จารบี หรือสารจำพวกขี้ผึ้งอุดหรือทา เพราะความชื้นทั้งหลายอาจจะยังระเหยออกไม่หมด จะทำให้ระเหยออก ได้ยากขึ้น ความชื้นเลยเกิดอาการ "ฝังใน" จะมีปัญหาภายหลัง
หากยังเกิดปัญหาอีก กรุณาเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ข้อแรกจนถึงข้อนี้ รับรองว่ากว่า 90 % ปัญหาจะไม่หนี ไปนอกรอบ ที่กล่าวไว้

การเลือกชนิดพืชทำน้ำหมัก ลดกรดในดิน

           การเลือกชนิดพืชทำน้ำหมัก ลดกรดในดิน ควรเลือกพืชรสจืด เช่น ผักบุ้ง ถ้าทำน้ำฮอร์โมนควรเป็นพืชที่มีความหวานมัน , กำจัดแมลงต้องรสเผ็ดร้อน

SMS FarmerInfo by DTAC -22 ธ.ค.2553 - 13.38 น.

วิธีการเลือกปลาทูนึ่งที่สดและใหม่

         วิธีการเลือกปลาทูนึ่งที่สดและใหม่ มีกลิ่นหอมตัวอวบอ้วน ท้องต้องไม่ผุ เนื้อแน่นไม่เละยุ่ย ผิวหนังไม่ลอกหลุด ขอบตาไม่แดง ผิวหนังไม่เหลือง

SMS FarmerInfo by DTAC -21 ธ.ค.2553- 14.04 น.

การทำปลาแดดเดียวและดับกลิ่นคาวปลา

       การทำปลาแดดเดียวและดับกลิ่นคาวปลา 1 กก. เกลือป่นครึ่ง กก. ผสมใส่ถุง 1 ชม. เทน้ำจากการหมักปลา + ผงชูรส + น้ำ นำปลาลงล้างแล้วตากแดด ดับกลิ่นคาวปลาได้


SMS FarmerInfo by DTAC -20 ธ.ค.2553 - 14.05 น.

วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กระบองเพชร - ตามความเชื่ออันยาวนานของไทยกล่าวไว้ว่า

กระบองเพชร - ตามความเชื่ออันยาวนานของไทยกล่าวไว้ว่า ใครปลูกไว้ในรั้วบ้านจะเสริมโชคชะตา เงิน งาน ปัดเป่าเคราะห์ร้าย ยิ่งออกดอกยิ่งดี

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 6 ธ.ค.12.07 น.

10 วิธีทำให้คนอื่น ชื่นชอบคุณ

10 วิธีทำให้คนอื่น ชื่นชอบคุณ
1. จำชื่อเขาให้ได้
ถ้ายังจำชื่อใครต่อใครไม่ได้ หรือจำผิดจำถูก แสดงว่า
คุณไม่ใคร่สนใจไยดีหรือให้ความสำคัญในตัวเขานัก
คุณรู้ไหมว่า ชื่อคนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความรู้สึกของคน
อย่างมากมาย รีบจำชื่อเขาให้ได้ และเรียกให้ถูกนะคะ
2. รู้จักทักทาย
การทักทายใครต่อใครก่อน เป็นความน่ารักอย่างหนึ่ง
สะท้อนให้เห็นความมีมิตรจิตมิตรใจ ทำให้ผู้ถูกทักทาย
รู้สึกดีว่าได้รับความใส่ใจ มีคนให้ความสำคัญ เราจะจำ
ชื่อคนให้ได้ไปทำไมกันคะ ถ้าจำได้แล้วไม่รู้จักทักทายกัน?
3. วางตัวสบายๆ ได้หรือเปล่า
จงเป็นคนที่วางตัวสบายๆ เสมอ เพื่อผู้อื่นจะได้ไม่รู้สึกเครียด
เมื่ออยู่ใกล้ๆ คุณโปรดเป็นกันเอง อย่าถือเนื้อถือตัว อย่าเจ้ายศเจ้าอย่าง
เพราะมันจะน่ารำคาญ น่าเกลียดน่ากลัว มากกว่าน่าเข้าใกล้
4. มีนิสัยง่ายๆ
นิสัยง่ายๆ เป็นคนละเรื่องกับมักง่าย หากคุณเป็นคนง่ายๆ
มีความยืดหยุ่นสูง และรู้จักผ่อนปรนอารมณ์ของคุณก็มักจะคงที่
ไว้ใจได้ ทำนายได้ ไม่แปรปรวนจนยากแก่การควบคุมหรือไว้ใจ
คนง่ายๆ มักยอมรับและเข้าใจได้ แม้กับคนที่น่ารำคาญที่สุด
ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้กับคนที่อารมณ์คงที่ ยืดหยุ่น และถือสา
ใครต่อใครน้อยมาก เพราะอะไรคะ เพราะว่าบางครั้ง เราก็ไม่รู้หรอกว่า
ตัวเราเองมีอะไรที่น่ารำคาญบ้าง ง่ายๆ วางใจ ไม่ถือสากันนี่ละ ดีที่สุด
5. อย่าอวดตัวเอง
จงระวัง อย่าแสดงว่าคุณรู้อะไรๆ ไปหมดเสียทุกเรื่อง ไม่มีใคร
อยากจะชอบพอกับคนที่ฉลาดไปเสียทุกเรื่องหรอก บางเรื่อง
เขาก็อยากฉลาดบ้างเหมือนกัน ดังนั้นโปรดวางตัวตามธรรมชาติ
(คือมีทั้งเรื่องที่รู้และไม่รู้) ถ่อมตน และสุภาพตามกาลเทศะจะดีกว่า
6. จงมีนิสัยร่าเริง
เพื่อคนทั้งหลายจะได้ชอบอยู่ใกล้ และ "ติด"
ในความร่าเริงที่คุณมี แล้วคุณจะได้รับความรู้สึกดีๆ
ได้เรียนรู้ในสิ่งดีๆ จากคนเหล่านี้ เมื่อคบค้าสมาคมด้วย
7. จงพยายามแก้ไขความเข้าใจผิด
คุณอาจเคยมองใครในแง่ร้ายๆ ไปบ้าง คุณอาจเคยถือสา
การกระทำครั้งโน้นครั้งนี้ของเขา หากคุณมีเวลา
จงพยายามแก้ไขความเข้าใจผิดหรือความถือสาที่เคยมี
รวมทั้งที่กำลังมีอยู่ให้หมดไป มิตรภาพไม่อาจก่อเกิด
หรืองอกงามได้ ท่ามกลางความระแวงแคลงใจ
จงขจัดความขุ่นข้องหมองใจ ความไม่ชอบใจ และความเจ็บใจ
ให้หมด แล้วคุณจะเป็นคนน่ารักที่ไม่มีใครผูกใจเจ็บ
8. ทิ้งมันไป นิสัยเสียๆ
บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่า เรามีนิสัยอะไรที่เป็นข้อบกพร่อง
อยู่ในตัวบ้าง การเงี่ยหูฟังจากคนรอบข้าง จะช่วยให้เรารู้
เมื่อเรารู้แล้ว เรามีหน้าที่ต้องกำจัดนิสัยที่ทำให้คนอื่น
ตั้งเป็นข้อรังเกียจออกไป แม้ว่านิสัยบางอย่างนั้น
อาจมีอยู่หรือทำไปโดยที่เราไม่ได้รู้ตัวมาตลอดก็ตาม

9. จงหัดชอบคนอื่นบ้าง
น่าประหลาด คนบางคนเกลียดใครต่อใครได้ไวมาก
ลองหัดชอบคนอื่นจนกลายเป็นนิสัยดีไหมคะ
ชอบที่เขาเป็นอย่างนั้น ชอบที่เขาคิดอย่างนี้ ชอบในสิ่งที่เขาพูดจา
ฯลฯ พึงท่องคาถาประจำใจเอาไว้ให้ตลอดเภิดว่า
“ข้าพเจ้าไม่เคยพบกับบุคคลที่ข้าพเจ้าไม่รู้สึกชอบเลย”
10. ชมเชยให้เป็น
อย่าละทิ้งโอกาสที่จะกล่าวคำชมเชย เมื่อใครคนใดคนหนึ่ง
ใกล้ๆ ตัวคุณ ได้กระทำในสิ่งที่ดี เป็นแบบอยางต่อผู้อื่น
หรือทำอะไรได้สำเร็จสักอย่างหนึ่ง ในเวลาเดียวกัน
ก็ต้องรู้จักแสดงความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ
ในความทุกข์ร้อนและความผิดหวังของพวกเขาด้วย
พูดง่ายๆ ได้ว่า หัดเป็นคนมีหัวใจซะบ้าง

265 ประตูบ้านถูกน้ำท่วมบวมอลึ่งฉึ่ง ประตูเหล็กขึ้นสนิมหมดแล้วฮับ

ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง เล่ม 3
บ้านหลังน้ำท่วม( น้ำท่วมบ้าน จะทำยังไง ซ่อมอะไรก่อน อะไรรอได้)

โดย ยอดเยี่ยม เทพธราน



ขอให้คิดว่าประตูหน้าต่างเวลาถูกน้ำท่วม จะเหมือนกับผนังที่ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน การที่ประตูไม้บวมเป่งขึ้นมา ก็เหมือนกับ ผนังไม้ หรือผนังยิปซั่ม ที่ปูดโปนขึ้น ส่วนประตูเหล็กที่ขึ้นสนิมนั้น ก็เป็นเรื่องของโลหะ ที่แช่น้ำ เมื่อแห้งแล้ว ก็ต้องเป็นสนิมไป เป็นปกติธรรมดา แนวทางแก้ไขมีดังต่อไปนี้

1. ประตูไม้ หรือวัสดุที่เหมือนกับไม้ที่บวมขึ้นมาหรือผุพัง ก็เหมือนกับประตูห้องน้ำเรา ที่หลาย ๆ บ้านเป็น อันเกิดจาก ความชื้น ในห้องน้ำ แก้ไขโดยการทิ้งไว้ให้แห้ง ซ่อมแซมพื้นผิว เท่าที่ตนเองจะทำได้ หรือหาก หมดสภาพจริง ๆ และพอมีงบประมาณบ้าง ก็ซื้อใหม่ เปลี่ยนแปลงเสียเลย ก็ยังพอไหว
2. ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม คงจะไม่ถึงผุพังด้วยระยะเวลาน้ำท่วมเพียงเท่านี้ (ยกเว้นแต่ผุมาก่อน) ก็จัดการ ขัดสนิมออก เช็ดให้ สะอาด แห้ง แล้วทาสีใหม่ทับลงไป ก็ถือได้ว่าเป็นอันเสร็จพิธี แต่ความน่าสนใจ ก็คือ ขอให้มั่นใจว่า น้ำหรือความชื้น ได้ออกไป หมดแล้ว ทั้งในท่อโครงเหล็กหรือบริเวณรอยต่อต่างๆ
3. หากท่านโชคไม่ดี บางครั้งท่านอาจจะมีประตูที่เกิดเอียงหรืออาการที่ภาษาช่างเรียกว่า "ประตูดก" อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะ เมื่อประตูหน้าต่าง (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ทำ ด้วยไม้ หรือวัสดุที่อมน้ำ) แช่น้ำนาน ๆ ประตูจะอมน้ำ จึงทำให้ตัวบานนั้น น้ำหนักมากขึ้น บานพับรับน้ำหนักไม่ไหว ประกอบกับตัววงกบ (โครงกรอบช่วงเปิด) เปื่อยยุ่ย เนื่องจาก การแช่น้ำ น๊อต หรือตะปูยึดเกาะได้ไม่เต็มที่ บานเลยเกิดอาการ เอียงลง… แก้ไขโดยพยายาม ใช้ค้ำยัน หรือลิ่มเล็ก ๆ สอดช่วยรับแรง ถ่ายน้ำหนัก ของ บาน เอาไว้ก่อน ค่อย ๆ รอจนความชื้นระเหยออก น๊อตตะปูก็จะยึดติดดีขึ้น น้ำหนักบานก็จะน้อยลง อาการก็จะกลับมาเหมือน เกือบปกติ (อาจจะไม่ปกตินัก แต่ก็นับว่า ไม่เป็นไร)

สำนักฝนหลวงฯ สร้างอนุสาวรีย์"ม.ร.ว.เทพฤทธิ์"ผู้ทดลองฝนหลวงสำเร็จคนแรก

สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร สร้างอนุสาวรีย์ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ผู้รับสนองพระราชดำริ ในการทดลองทำและพัฒนากรรมวิธีฝนหลวง โดยมี นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในพิธีสักการะอนุสาวรีย์ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้ทดลองทำฝนหลวงสำเร็จเป็นคนแรกของไทย

ผู้สูงอายุบ้านบางแคร่วมกิจกรรมทำบุญปีใหม่

ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค เช้าวันนี้บรรดาผู้สูงอายุ พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชนร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ก่อนจะมีการสังสรรค์วันปีใหม่ร่วมกัน โดยมีชาวบ้านชุมชนใกล้เคียง และเด็กพิการทางสมองและปัญญา จากศูนย์ฟื้นฟูแบบบูรณาการเด็กพิการ มาร่วมกิจกรรมด้วย โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุมีโอกาสร่วมทำบุญในเทศกาลปี ใหม่ เป็นขวัญกำลังใจให้ผู้สูงอายุได้รับความรัก ความห่วงใยและความสุขเสมือนอยู่กับครอบครัว พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมให้ความสุขกับผู้สูงอายุที่บ้านบางแคในช่วง เทศกาลปีใหม่

ทส.สรุปคุณภาพอากาศปี 53 แม่น้ำเสื่อมโทรม-อุบัติภัยสารเคมีเพิ่ม

ผลการประเมินคุณภาพอากาศโดยรวมในปี 2553 โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน และก๊าซโอโซนจากการจราจรในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ รวมทั้งหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ยังเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศ
ขณะที่คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักเสื่อมโทรมลง จากร้อยละ 33 ในปี 2552 เป็นร้อยละ 39 ในปี 2553 เช่นเดียวกับคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำสายหลัก ทั้งเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และอ่าวไทยตอนบนที่มีแนวโน้มเสื่อมโทรมลงเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ขยะมูลฝอย มีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา แต่มีขยะถูกกำจัดอย่างถูกต้องเพียงร้อยละ 38 หรือ 5.8 ล้านตัน จาก 15 ล้านตันทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในปี 2553 มีการขนส่งสารเคมีจากต่างประเทศ และผลิตในประเทศสูงขึ้นถึงกว่า 40 ล้านตัน สอดคล้องกับการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้ป่วยจากสารเคมีถึง 580 ราย ส่วนมากจะเป็นภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จึงจำเป็นต้องให้ความรู้กับเกษตรกร เพื่อลดการใช้สารเคมีในภาคการเกษตร และลดปัญหาผลกระทบจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในภาคอุตสาหกรรม

วธ.จัดพิมพ์ปฏิทินพระราชกรณียกิจ"ในหลวง"มอบเป็นของขวัญปีใหม่

นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวันขึ้นปีใหม่ 2554 กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ชุด "ตามรอยพระยุคลบาท สืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 5 ธันวาคม 2554 แจกจ่ายให้แก่หน่วยงานภายในและภายนอก ทั้งภาครัฐ เอกชน องคมนตรี ทูตานุทูต เครือข่ายวัฒนธรรม จำนวน 5,000 ชุด จัดพิมพ์เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 3 รูปแบบ คือ ปฏิทิน บัตรอวยพรและสมุดภาพไดอารี่
สำหรับปฏิทิน จะเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่าน 12 พระราชกรณียกิจ ได้แก่ นวัตกรรมแห่งคุณค่าและความหมาย อักขระภาษาไทยใน ส.ค.ส. พระราชทาน เทิดไท้องค์อัครศิลปิน พระปรีชาสามารถด้านศิลปะที่ปรากฏทั้งในงานจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และการถ่ายภาพองค์อัครศิลปิน ตำราฝนหลวงพระราชทาน พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย
สำหรับบัตรอวยพร จัดพิมพ์เป็น 5 แบบ บอกเล่าถึงพระราชกรณียกิจที่โดดเด่น นำเสนอเป็นภาพลายเส้นแบบร่วมสมัย สีสันสดใส ด้านในมีคำอวยพรเป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนสมุดภาพไดอารี่ จะมีหลักธรรมตามรอยพระยุคลบาท 10 ประการ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในชีวิตให้กับหน่วยงาน และผู้ที่ได้รับของขวัญปีใหม่

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายารัฐ "รัฐบาลรอดฉุกเฉิน"

สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล มีการตั้งฉายารัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ประจำปี 2553 โดยฉายารัฐบาลคือ "รัฐบาลรอดฉุกเฉิน" ซึ่งตลอดปี 2553 รัฐบาลต้องเผชิญกับวิกฤตหลายด้าน ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตภัยธรรมชาติ วิกฤตการเมือง ทั้งในและนอกสภา เกิดความขัดแย้งและแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคม จนต้องประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในหลายพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ยังไม่รวมวิกฤตสังคมอื่นๆ จนทุกฝ่ายมองว่า รัฐบาลไม่น่าจะบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ แต่สุดท้ายรอดจากวิกฤตต่างๆ รวมทั้งรอดพ้นจากคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางข้อกังขาจากสังคม
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "ซีมาร์คโลชั่น" เนื่องจากประเทศไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก วิกฤตความขัดแย้งทางสังคม เปรียบเสมือนผู้ป่วยหนักที่ต้องการยารักษาโรคให้หายขาด บางปัญหาต้องทำการผ่าตัด-ปรับโครงสร้าง สังคมคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะเข้ามาแก้ไขปัญหาและรักษาอาการของประเทศได้ แต่ผลการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรียังทำได้ผลเพียงการบรรเทาโรค เปรียบเสมือนการใช้ "ซีม่าโลชั่น" ทาแก้คันเท่านั้น
"ทศกัณฐ์กรำศึก" เป็นฉายาของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในทุกเรื่อง เปรียบเหมือนทศกัณฑ์ที่มีหลายหน้า อาทิ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แม่บ้านพรรคประชาธิปัตย์ ผู้จัดการรัฐบาล บิดาของนายแทน เทือกสุบรรณ ที่ถูกโจมตีเรื่องการครอบครองที่ดินเขาแพง ทำให้ต้องเผชิญศึกหนักจากรอบด้าน แต่ด้วยความที่มีประสบการณ์การเมืองสูง จึงเอาตัวรอดมาได้
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ฉายา "ลิ้นชาละวัน" ผลงานในตำแหน่งไม่เป็นที่ประจักษ์นัก แต่บทบาทชัดคือการเดินสายเจรจาสร้างความปรองดองกับทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล และกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองทุกสี รวมทั้งการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ไม่สำเร็จ เปรียบเหมือนการใช้ลิ้นจระเข้ที่ไม่มีต่อมรับรส การเจรจาจึงไม่มีการตอบรับจากทุกฝ่าย
ฉายา "โย่งคาเฟ่" เป็นของ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะแสดงบทบาทไม่สมกับขุนคลัง ทั้งเปิดผับเชียร์บอลโลก สวมบท พ.ต.ประจักษ์ มหศักดิ์ ในละครวนิดา ภาคปลดหนี้ จนถูกวิจารณ์
"หัวเทียนบอด-แบน" เป็นฉายาของ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ที่คนไทยต้องผิดหวัง ทั้งเรื่องระบบ 3 จี บัตรประชาชนอเนกประสงค์ เหมือนรถที่หัวเทียนบอด แต่ผลงานมีเพียงไล่บี้ สั่งแบนเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฉายา "นางฟ้า สต๊อกลม" อดีตแอร์ผันตัวมาเล่นการเมือง ก่อนรับบทแม่ค้า และมักมีปัญหาส่อความไม่ชอบมาพากล จนถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกนและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งอนุกรรมการสอบสวน พบสินค้าบางรายการเป็นเพียงสต๊อกลม และมีที่มาไม่โปร่งใส ขณะเดียวกัน ยังเกิดปัญหาสินค้าราคาแพง ทำให้สบช่องจัดรายการธงฟ้าราคาประหยัด
ฉายา "เสืออิ่ม สิงห์โอด" นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกวิจารณ์ว่าเป็นยุคตกต่ำสุดของนักปกครอง ที่มีโลโก้เป็นสิงห์ มีข่าวไม่ชอบมาพากลสารพัด ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ทำลายสถิติมีว่าที่ปลัดกระทรวงมากที่สุด
นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ฉายา "หยากไย่" เป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ได้เข้ามาร่วมรัฐบาลชนิดที่หลายฝ่ายคาดไม่ถึง แม้ไม่มีผลงานชัดเจน แต่ยังชักใย-เกาะติดอยู่กับฝ่ายรัฐบาลได้ทุกยุค
ฉายา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี "กริ๊ง...สิงสื่อ" แม้จะพ้นจากการกำกับดูแลสื่อในช่วงครึ่งปีหลัง แต่บทบาทที่เด่นชัดคือ สั่งการสื่อต่างๆ ของรัฐ โดยเฉพาะช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง เพื่อชี้นำและกำหนดทิศทางการนำเสนอข่าว
ฉายา "ป้อมทะลุเป้า" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นพี่ใหญ่ของนายพลทุกเหล่าทัพ แม้คนภายนอกมองบทบาทของเขาไม่โดดเด่น แต่ในความเป็นจริงกลับสร้างผลงานได้ทะลุเป้าในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการกุมอำนาจฝ่ายความมั่นคง ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ชุมนุมย่านราชประสงค์ การขออนุมัติใช้งบกองทัพ ที่ถูกครหาว่าสูงเป็นประวัติการณ์
สำหรับวาทะแห่งปี 2553 ยกให้วาทะที่ว่า "ถ้าเลือกตั้งแล้วนองเลือด แล้วผมชนะ ผมไม่เอาหรอก"

BTS จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ พร้อมเปิดให้เด็กขึ้นรถไฟฟ้าฟรี!!

ดร.อาณัติ อาภาภิรม กรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2554 บริษัทฯ ได้เปิดให้เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ฟรี ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีประสบการณ์เรียนรู้การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน โดยเด็กจะต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครอง ขึ้นและลงสถานีเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้เด็กเข้า-ออกในระบบอย่าง ปลอดภัย โดยผ่านประตูพิเศษ
ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับคูปองการเดินทางฟรีได้ทั้ง 25 สถานี สำหรับสถานีที่จัดกิจกรรมวันเด็กในเส้นทางรถไฟฟ้า ได้แก่ สนามกีฬาเทพหัสดิน ให้ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และหากจะไปเที่ยวชมศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา หรือท้องฟ้าจำลอง นั่งรถไฟฟ้าลงที่สถานีเอกมัย ส่วนการเข้าชมอุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร ลงที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ฮอตไลน์ BTS โทรศัพท์หมายเลข 02-617-6000

แนะ ปชช.น้อมนำพระราชดำรัส"ในหลวง"ใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท ใช้ในช่วงปีใหม่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (29 ธ.ค.) เป็นวันแรกของช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายในปี 2553 เมื่อวานนี้ ให้ทุกกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการช่วยลดอุบัติเหตุให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต อาทิ กระทรวงคมนาคม อำนวยความสะดวกในการเดินทาง ปรับปรุงถนนและจุดเสี่ยง ทางตัดรถไฟ ให้มีความปลอดภัย กระทรวงสาธารณุข เตรียมทีมแพทย์พร้อมอุปกรณ์ เตรียมเคลื่อนที่ฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เรื่องการใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท ตระหนักถึงกฎจราจรและกฎเกณฑ์ของกฎหมาย ระวังตัวเองและสังคมรอบข้าง สำหรับอุบัติเหตุรถโดยสารที่เกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตครั้งละหลายราย ก็ขอให้ประชาชนนำมาเป็นอุทาหรณ์เตือนสติในการขับขี่

นครพนมหนาว!! 9 องศาฯ ต่ำสุดในรอบ 30 ปี

จังหวัดนครพนม จากการตรวจวัดของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม พบว่า มีอุณหภูมิต่ำสุด 9 องศาเซลเซียส ที่ อ.ท่าอุเทน และถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และผู้ประกอบอาชีพการประมง ซึ่งออกจับปลาในแม่น้ำโขงขายไม่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัดต้องงดออกจับปลา เพราะทนสภาพอากาศหนาวเย็นไม่ไหว โดยตลาดสดไม่มีปลาน้ำโขงขาย ทำให้ปลาราคาแพงขึ้น กิโลกรัมละ 50-100 บาท ประชาชนจึงหันไปซื้อปลากระชังบริโภคแทน

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

1.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักวิชาการพัฒนาคุณภาพ    จำนวนตำแหน่งว่าง : 1 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : มหาวิทยาลัยมหิดล
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634291280697690000

2.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักทรัพยากรบุคคล,นักเทคนิคการแพทย์,นักวิชาการพัสดุ (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี) จำนวนตำแหน่งว่าง : 4 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634291383337846250

3.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักทรัพยากรบุคคล,นิติกร,นักวิเคราะห์นโยบายและแผน,นักวิชาการเงินและบัญชี (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม) จำนวนตำแหน่งว่าง : 5 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634291262495346250

4.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักรังสีการแพทย์,นักกายภาพบำบัด,นักวิชาการสาธารณสุข (สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต) จำนวนตำแหน่งว่าง : 4 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634291485873627500

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

1.) ชื่อตำแหน่งงาน : พนักงานบริการ ,เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ,พนักงานพิมพ์ดีด ชั้น 2 ,เจ้าหน้าที่ขนส่งและสวัสดิการ ,นักสังคมสงเคราะห์ ,นักพัฒนาสังคม จำนวนตำแหน่งว่าง : 80 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634290671508627500

2.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักโภชนการ,นักวิชการสาธารณสุข,นักเทคนิคการแพทย์ (โรงพยาบาลเกาะสมุย  จ.สุราษฎร์ธานี) จำนวนตำแหน่งว่าง : 3 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634290627638158750

3.) ชื่อตำแหน่งงาน : เจ้าพนักงานธุรการ,เจ้าพนักงานสาธารณสุข,พยาบาลวิชาชีพ,พนักงานช่วยเหลือคน ไข้,นักวิชาการคอมพิวเตอร์ (โรงพยาบาลชัยภูมิ) จำนวนตำแหน่งว่าง : 8 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634290638494565000

ศูนย์สรรหาและเลือกสรร สำนักงาน ก.พ.

ศูนย์สรรหาและเลือกสรร สำนักงาน ก.พ.

ข้อคิดในแง่ของธรรมะ ๑๐๐ ข้อ รับปีใหม่....

ข้อคิดในแง่ของธรรมะ ๑๐๐ ข้อ รับปีใหม่....
๑. จงทำดี อย่าหวังค่าตอบแทน ถึงแม้จะเป็นเพียงคำสรรเสริญก็ตาม
๒. จงทำดี ให้มันดี ถึงแม้ผลงานออกมาไม่ดี ก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว
๓. จงทำดี แต่อย่าอวดดี เพราะทุกคนก็มีดีไม่เหมือนกัน
๔. อุปสรรคมักจะเกิดขึ้นในขณะที่กำลังทำความดี ดีเหลือเกินหนี้สินเก่าจะได้หมดไป
๕. อุปสรรคมักจะไม่เกิดขึ้นในขณะกำลังทำความชั่ว เพราะเป็นทางกู้หนี้สินใหม่เข้ามาแทน
๖. ทุก ๆ คนปรารถนาแต่สิ่งที่ดี ๆ แต่ไม่รู้จักการทำความดี
๗. ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อย่าพยายามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
๘. คนโง่ไม่มีความพยายามที่จะเข้าใจอะไรได้เลย ได้แต่เอะอะโวยวายว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม ? ถึงต้องเป็นเรา ทำไม ? ทำไม ?
๙. ผู้ฉลาดในธรรม ยอมรับว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ซึ่งไม่มีอะไรที่น่าตกใจเลย เพราะเป็นเรื่องธรรมดา
๑๐. ชีวิตที่ไม่ขาดทุน คือการไม่เคยทำความชั่วเลย
๑๑. เพราะฉะนั้นคนเราเจอทั้งสุขและทุกข์ เพราะว่าทำทั้งดี ทำทั้งชั่ว
๑๒. การตามใจตัวเองอยู่เสมอ เป็นทางตันในการดำเนินชีวิต
๑๓. การขัดใจตัวเอง ก็คือการขัดเกลาหนทางให้ราบเรียบ
๑๔. ถ้าหากเราอยากให้คนอื่นมาเข้าใจหรือเอาใจในตัวเรา เหมือนกับว่าเรายังเป็นเด็กไร้เดียงสาไม่รู้จักเติบโตเลย
๑๕. เราพยายามที่จะเข้าใจคนอื่น มากกว่าที่จะให้คนอื่นมาเข้าใจ ตอนนี้ เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว
๑๖. หลาย ๆ ชีวิต เดินสวนทางกันไปมาอยู่ในขณะนี้ มีทางดำเนินชีวิตไม่เหมือน และก็มีอุปสรรคที่ไม่เหมือนกัน
๑๗. เราอย่าเข้าใจว่า มีความทุกข์มากกว่าคนอื่น คนอื่นมีความทุกข์มากกว่าเราก็ยังมี
๑๘. การร้องไห้เป็นการแสแสร้งที่แบบเนียนเหลือเกินในวัน เพราะพรุ่งนี้เราจะร้องเพลงก็ได้
๑๙. เพราะฉะนั้น เวลาเรามีความทุกข์ ก็อย่าเข้าใจว่า เรามีความทุกข์ เวลาเรามีความสุข ก็อย่าเข้าใจว่า เรามีความสุข ไม่เช่นนั้นเราต้องเป็นคนบ้า ร้องไห้บ้างร้องเพลงบ้าง ตามประสาคนบ้า
๒๐. คนอื่นจะให้ได้ดังใจเรานั้น ทุกอย่างไม่มีเลย เพียงแต่เรายอมรับเขา อยู่ในฐานะใดฐานะหนึ่งเท่านั้น
๒๑. แม้แต่ตัวของเราเองก็ยังไม่ได้ดังใจเรา แล้วคนอื่นจะให้ได้ดังใจเรานั้น
เป็นอันไม่มี
๒๒. เราไม่ได้ดังใจเขา จะให้เขาได้ดังใจเราอย่างไร
๒๓. ปรารถนาสิ่งใด อย่าพึงดีใจไว้ล่วงหน้า พลาดหวังสิ่งใด อย่าพึงเสียใจตามหลัง
๒๔. ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นเช่นนั้นเอง
๒๕. หากยึดถือมาก ให้ความสำคัญมันมาก ทุกข์มาก
๒๖. หากยึดถือน้อย ให้ความสำคัญมันน้อย ทุกข์น้อย
๒๗. ยินดีไปตามความอยาก คือความมักมากไม่มีสิ้นสุด
๒๘. แท้จริง ผัว ไม่มี เมียไม่มี ลูกไม่มี ทรัพย์สมบัติก็ไม่มี แต่ความยึดมั่น
ด้วยความลุ่มหลงอย่างหนาแน่นว่าเรามี
๒๙. สักวันหนึ่ง เราคงจะไม่มีอะไรสักอย่างเลย ถึงวันนั้น เราทำใจได้ไหม ?
๓๐. การเกิดขึ้น เพื่อเริ่มต้นไปสู่ความดับลง ท่านจะยึดถือ หรือไม่ยึด นั้นมัน
เป็นเรื่องของท่าน
๓๑. อุปาทานคือความยึดมั่นถือมั่น กับความรับผิดชอบ มันคนละอย่างกัน
๓๒. วันนี้ต้องดีกว่าวานนี้ พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้
๓๓. ทำดีในวันนี้ พรุ่งนี้จะดีของมันเอง
๓๔. คนโง่จะเสียใจ ร้องไห้ตลอดวัน โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
๓๕. ส่วนคนฉลาด จะรีบแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้
๓๖. เรารักในสิ่งใด จะต้องจากในสิ่งนั้น ช้าหรือเร็วมันอีกเรื่องหนึ่ง
๓๗. ถ้าผัวตายก่อนเมีย เมียจะต้องเสียใจ ถ้าเมียตายก่อนผัว ผัวจะต้องเสียใจ ทำอย่างไร จึงจะไม่เสียใจ
๓๘. ถ้าไม่อยากเสียใจ เมื่อจากกันไป ก็อย่าดีใจเมื่อตอนได้มา
๓๙. ท่านแน่ใจหรือว่าท่านเป็นพระเอกหรือนางเอกตลอดนิรันดรกาล
๔๐. ใช่แน่นอน ! ท่านเป็นตัวเอกในเรื่องของท่าน แต่ท่านอาจจะเป็นตัวสำรองใน เรื่องของผู้อื่น

๔๑. เรายืนอยู่บนสนามชีวิต ต้องต่อสู้อุปสัคทุกรูปแบบ จนกว่าจะปิดฉากละครแห่งชีวิต ด้วยการตายลงไป
๔๒. บทเรียนในตำราเรียน กับบทเรียนในชีวิตจริง มันคงละอย่างกัน
๔๓. ไม่มีตำราเล่มไหน ที่จะสอนเราทุกอย่างก้าวว่าวันนี้เราจะต้องเจออะไรบ้างและจะต้องแก้อย่างไร ?
๔๔. เสียเงินทอง เสียสิ่งของ เสียเวลา และก็เสียใจ เป็นการจ่ายค่าเทอมชีวิต
๔๕. คนฉลาดจะจ่ายค่าเทอมที่ถูกที่สุด ส่วนคนโง่จะจ่ายค่าเทอมที่แพงกว่ากัน
๔๖. ที่จริงคนตาบอด พิกลพิการเขาน่าจะเป็นทุกข์มากกว่าเรา ทำไม ? เขายังยิ้ม
แย้มแจ่มใสได้
๔๗. ทำไมเราจึงทุกข์กว่าคนพิกลพิการเล่า ?
๔๘. กายพิการ แต่ใจไม่พิการ ใจพิการ แต่กายไม่พิการ อย่างไหนดีกว่ากัน ?
๔๙. เราสามารถตัดสินหนทางดำเนินชีวิตของเราเองได้ ดีหรือชั่ว อยู่ที่ตัวของเรา
๕๐. คนอื่นสามารถบังคับเราเป็นเพียงบางเวลา ส่วนใจของเรานั้น ไม่มีใครสามารถบังคับได้นอกจากตัวของเราเท่านั้น
๕๑. ถึงแม้งานจะสับสนยุ่งยากเหลือเกิน หากใจมีอิสระแล้ว ไม่เห็นจะยุ่งยากตรงไหน
๕๒. ทุกคนเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ ตายเพื่อทำหน้าที่ ดีกว่าตายเพราะไม่ทำหน้าที่
๕๓. รับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบเพื่อนที่ดี และรับผิดชอบสังคม
๕๔. วันนี้เราด่าเขา วันหน้าเขาต้องด่าเรา ชาตินี้เราฆ่าเขา ชาติหน้าเขาจะต้องฆ่าเราอย่างแน่นอน
๕๕. คนทำบาป เพราะเห็นแก่กิน ไม่ต่างอะไรกับกินอาหารผสมยาพิษอย่างเอร็ดอร่อย กินมากก็มีพิษมา กินน้อยก็มีพิษน้อย
๕๖. กฎหมายทางโลก คุ้มครองสัตว์บางจำพวกเท่านั้น ส่วนกฎแห่งกรรมทางธรรม คุ้มครองสัตว์ทุกจำพวก
๕๗. กฎระเบียบของทางโลก อนุโลมไปตามความอยาก ส่วนกฎทางธรรมอนุโลมไปตามความเป็นจริง
๕๘. กรรมคือการกระทำให้สัตว์หยาบ และละเอียดประณีตต่างกัน
๕๙. ไม่มีพระเจ้าองค์ใด ที่จะสร้างเรา ไม่มีพระเจ้าองค์ใด ที่จะทำให้เราร่ำรวยได้ ไม่มีพระเจ้าองค์ใด ที่จะทำให้เราเป็นผู้บริสุทธิ์ได้นอกจากตัวของเราเอง
๖๐. คำว่า “ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว” มากเหลือเกินที่คนได้ยิน น้อยเหลือเกินที่คนรู้จัก
๖๑. เหตุการณ์ความเป็นไปของทางโลก ไม่มีสิ้นสุด เราไม่สามารถจะติดตามได้ตลอดกาล เพราะอายุยังมีที่สิ้นสุด เราจะบ้ากับมันหรือไม่บ้า มันก็เป็นไปอยู่อย่างนั้น
๖๒. เพื่อมิให้เสียเวลา จงกลับมามองดูจิตใจของตนเอง ทำไมถึงซอกแซกสับส่ายถึงขนาดนั้น
๖๓. มันเคยตัว เพราะเราให้โอกาสมันมากเกินไป เพราะรักมันมาก จึงไม่กล้าขัดใจนาน ๆ ไปอาจกลายเป็นโรควิกลจริตทางด้านจิตใจ
๖๔. การเอาชนะใจตนเอง ไม่ให้ไหลสู่อำนาจฝ่ายต่ำ เป็นสิ่งประเสริฐแท้
๖๕. วันนี้ เราตามใจของตนเอง ด้วยอำนาจแห่งความอยาก วันพรุ่งนี้ เราต้องหมดโอกาสที่จะสบายใจ
๖๖. วันนี้ เราไม่ตามใจตนเอง พรุ่งนี้ เราจะอยู่อย่างสบาย
๖๗. ยิ่งแก่ ยิ่งงก เพราะเขางกมาตั้งแต่ยังไม่แก่ ยิ่งแก่ ยิ่งดี เพราะเขาดี ตั้งแต่ยังไม่แก่
๖๘. การวิ่งไปตามความอยาก คือการฆ่าตนเองด้วยความพอใจ
๖๙. ศัตรูมักมาในรูปรอยแห่งความเป็นมิตร ความทุกข์มักมาในรูปรอยแห่งความสุข
๗๐. น้ำหวานผสมยาพิษ คนโง่จะชอบดื่ม เพราะไม่รู้ ยาเสพติด ทำลายร่างกายตนเอง คนโง่ก็จะพากันเสพทั้งที่รู้


....๗๑. ความสบายกายและสบายจิต จะหาซื้อด้วยเงินแสนเงินล้านไม่มีเลย ไม่จำเป็นจะต้องซื้อด้วยเงินและทอง
๗๒. คนที่มีศรัทธา มีคุณค่ายิ่งกว่าเงินแสนเงินล้าน
๗๓. เมื่อมีศรัทธา ควรมีปัญญาประกอบด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นคนงมงาย ขาดเหตุผล
๗๔. คนนิยมสร้างพุทธ ที่เป็นรูป คือพุทธรูป แต่ไม่นิยมสร้างพุทธ ที่เป็นนาม คือสภาวธรรมที่รู้แจ้ง รู้จริง ทำให้รู้จักพุทธะ
๗๕. ความจริงต้องมีให้พิสูจน์ จึงจะถือว่าจริงแน่นอน คนโง่จะไม่เชื่อตั้งแต่เริ่มต้น จึงไม่พบกับความจริงในชีวิต มีแต่ความงม งายในชีวิต
๗๖. คนใดถือสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ ถือสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระคนนั้นมีทางดำเนินในทางที่ผิด เขาจะไม่พบแก่นสารชีวิตที่แท้จริงเลย
๗๗. ผู้ที่หลงเปลือกนอก ย่อมไม่เห็นแก่นใน ผู้ถึงแก่นใน ย่อมเข้าใจเปลือกนอก
๗๘. ความสนุกสนานมัวเมาประมาทในชีวิต ไม่ใช่หนทางดำเนินชีวิตที่แท้จริง มันเป็นหนทางที่ทำให้เสียเวลา
๗๙. หากคนให้ความสำคัญกับการ กิน เล่น เสพกาม และนอน มากกว่าคุณธรรม เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานจะไม่ดีกว่ากันหรือ ? เพราะว่าไม่มีกฎหมายห้าม
๘๐. หากจิตใจเต็มด้วยความโลภ โกรธ หลง ช่องว่างในหัวใจไม่มี มีแต่ความอึดอัด
๘๑. อาหารที่กินเข้าไปมาก แสนจะอึดอัด แต่มีทางระบายออก
๘๒. ยิ่งความโลภ โกรธ หลง ลดลงมากเท่าไร ความปลอดโปร่ง ยิ่งมีขึ้นมากเท่านั้น
๘๓. แสงสว่างในทางธรรม จุดประกายให้ชีวิต ให้พบแต่ความสดใส
๘๔. ความสุขทางโลก เหมือนกับการเกาขอบปากแผลที่คัน ยิ่งเกายิ่งมัน เวลาหยุดเกามันแสบมันคัน เพราะเป็นความสุขเกิดจากความเร่าร้อน
๘๕. เมื่อตอนที่อยากได้ ก็เป็นทุกข์ขณะที่แสวงหา ก็เป็นทุกข์ ได้มาแล้วกลัวฉิบหายไป ก็เป็นทุกข์
๘๖. เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็ต้องมี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ย่อมไม่มี
๘๗. หากมีแล้ว ทำให้มีความสุข ควรมี ถ้าหากมีแล้ว ทำให้มีความทุกข์ ไม่รู้จะมีไว้ทำไม ?
๘๘. ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยง เราไปยึดมั่นความไม่เที่ยงนั้นว่าความสุข
๘๙. แม้ความสุขนั้นมันก็ไม่เที่ยง จะไปหวังเอาอะไรอีกเล่า ?
๙๐. พบกันก็เพื่อจากกัน ได้มาก็เพื่อจากไป
๙๑. มองทุกข์ให้เห็นทุกข์ จึงจะมีความสุข
๙๒. ความเบาใจ คลายกังวล ย่อมมีได้ แก่บุคคลผู้เข้าใจธรรมะ
๙๓. ยิ่งเข้าถึงธรรมที่เป็นจริงมากเท่าใด ความเบาสบายใจยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
๙๔. เพราะความสุขทางโลก ไม่ให้อะไรมากไปกว่าความเพลิดเพลิน มัวเมา ประมาทในชีวิต จนลืมทางธรรม
๙๕. ทางเดิน ๒ ทาง ทางโลก และ ทางธรรม
๙๖. ทางโลก คือการปล่อยใจไปตามความอยากในโลกีย์ ทางธรรม คือการควบคุมใจตนเอง ให้มีธรรมเป็นเครื่องคุ้มครอง
๙๗. ผิดหวังทางโลก ยังมีทางธรรมคุ้มครอง หากคนนั้นรู้จักธรรม
๙๘. ผิดหวังทางโลก อยากทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งตนเอง คนนั้นแหละ ไม่รู้จักธรรม
๙๙. ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ควรยึดถือมั่น
๑๐๐. มันเป็นเช่นนั้นเอง.

จบ

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โครงการพระราชดำริ"ในหลวง"ช่วยสานสัมพันธ์ไทย-ลาว

นายวิทวัส ศรีวิหค เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า ไทยควรใช้โอกาสการฉลองครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว เรียนรู้และพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และมีผลประโยชน์ต่อกันในอนาคต ซึ่งไทย-ลาว ถือเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกันทั้งด้านภาษา และวัฒนธรรม อีกทั้งการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรมนุษย์ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวหลายโครงการ ยังดำเนินการผ่านโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อาทิ โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งดำเนินการมากว่า 15 ปี และโครงการแปลงสาธิตการเกษตรแบบผสมผสานที่ดำเนินการร่วมกันระหว่างมูลนิธิ ชัยพัฒนา และมหาวิทยาลัยจำปาศักดิ์ โดยทั้ง 2 โครงการ ช่วยพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเกษตร แหล่งน้ำ ที่ดิน ปศุสัตว์ การประมง และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้ชาวลาวอย่างมาก
เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทน์ กล่าวด้วยว่า โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว ได้รับความชื่นชมจากรัฐบาล และชาวลาว จึงเป็นเหตุผลให้มีการพระราชทานโครงการพระราชดำริเพิ่มเติม ที่แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งจะเริ่มดำเนินการโดยมูลนิธิชัยพัฒนา ถือเป็นการนำเอาพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาแบบยั่งยืนมาใช้ในพื้นที่ทดลอง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ควบคู่กับโครงการสร้างเขื่อนน้ำเทิน

เรื่องพระอุทายี กับนางวิสาขา มิคารมาตา

โดยสมัย นั้น พระผู้มีพระภาคพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ อานาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสารวัตถี ครั้งนั้น ท่านพระอุทายีดำริว่า พระผู้มีพระภาค ทรงห้ามการสำเร็จการนั่งในที่ลับ คือในอาสนะกำบัง พอจะการทำได้กับมาตุคาม หนึ่งต่อหนึ่ง จึงสำเร็จการนั่งในที่ลับ กับสาวน้อยคนนั้นแล หนึ่งต่อหนึ่ง เจรจากล่าวธรรมอยู่ ควรแก่เวลา

แม้ครั้ง ที่สองแล นางวิสาขา มิคารมาตา ก็ได้ถูกเชิญไปสู่สกุลนั้น นางได้เห็นท่าน พระอุทายีนั่งในที่ลับ กับสาวน้อยนั้นแล หนึ่งต่อหนึ่ง ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้กะท่านพระอุทายี ว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า การที่พระคุณเจ้านั่งในที่ลับ กับมาตุคาม หนึ่งต่อหนึ่งเช่นนี้ ไม่เหมาะ ไม่ควร พระคุณเจ้าแม้ไม่ต้องการ ด้วยธรรมนั้นก็จริง ถึงอย่างนั้น พวกชาวบ้านผู้ที่ไม่เลื่อมใส จะบอกให้เชื่อได้โดยยาก

ท่านพระอุทา ยี แม้ถูกนางวิสาขา มิคารมาตา ว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ ก็มิได้เชื่อฟัง

เมื่อนาง วิสาขา มิคารมาตากลับไปแล้ว ได้แจ้งนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย

บรรดา ภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย สันโดษ มีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้ใคร่ต่อสิกขา ต่างก็พากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนท่านพระอุทายี จึงได้ สำเร็จการนั่งในที่ลับ กับมาตุคาม หนึ่งต่อหนึ่งเล่า แล้วกราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระผู้มีพระภาค

ประชุม สงฆ์ทรงบัญญัติสิกขาบท

ลำดับ นั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ใน เพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามท่านพระอุทายีว่า ดูกรอุทายี ข่าวว่า เธอสำเร็จการนั่งใน ที่ลับกับมาตุคาม หนึ่งต่อหนึ่ง จริงหรือ?

ท่านพระอุทา ยีทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า

พระผู้มี พระภาคพระพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ดูกรโมฆบุรุษ ไฉน เธอจึงได้สำเร็จ การนั่งในที่ลับกับมาตุคามหนึ่งต่อหนึ่งเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใส ของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว โดยที่แท้ การ กระทำของเธอนั่น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อความเป็น อย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว

ครั้นพระ ผู้มีพระภาคทรงติเตียนท่านพระอุทายีโดยอเนก ปริยาย ดังนี้แล้ว ตรัสโทษแห่ง ความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนบำรุงยาก ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษ ความคลุกคลี ความเกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความเป็นคนบำรุงง่าย ความ มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภ ความเพียร โดยเอนกปริยาย แล้วทรงกระทำธรรมีกถา ที่สมควรแก่เรื่องนั้น ที่เหมาะแก่เรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบท แก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัย อำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๑ เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ๑ เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิด ในปัจจุบัน ๑ เพื่อกำจัดอวัยวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่ เลื่อมใส ๑ เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑ เพื่อความตั้งมั่นแห่งสัทธรรม ๑ เพื่อถือตามพระวินัย ๑

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระ บัญญัติ

อนึ่ง สถานหาเป็น อาสนะกำบังไม่เลยทีเดียว หาเป็นที่พอจะทำการ ได้ไม่ แต่เป็นที่พอจะพูดเคาะมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบได้อยู่ แลภิกษุใดรูปเดียว สำเร็จการนั่งในที่ลับกับด้วยมาตุคามผู้เดียว ในอาสนะมีรูปอย่างนั้น อุบาสิกามีวาจา ที่เชื่อได้เห็นภิกษุกับมาตุคาม นั้นนั่นแล้ว พูดขึ้นด้วยธรรม ๒ ประการ อย่างใดอย่าง หนึ่ง คือด้วยสังฆาทิเสสก็ดี ด้วยปาจิตตีย์ก็ดี ภิกษุปฏิญาณซึ่งการนั่ง พึงถูกปรับด้วย ธรรม ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือด้วยสังฆาทิเสสบ้าง ด้วยปาจิตตีย์บ้าง อีก อย่างหนึ่ง อุบาสิกามีวาจาที่เชื่อได้นั้นกล่า วด้วยธรรมใด ภิกษุนั้นพึงถูกปรับด้วยธรรม นั้น แม้ธรรมนี้ก็ชื่อ อนิยต.

264 เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จมน้ำหมดเลย ทำไงดี

ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง เล่ม 3
บ้านหลังน้ำท่วม( น้ำท่วมบ้าน จะทำยังไง ซ่อมอะไรก่อน อะไรรอได้)

โดย ยอดเยี่ยม เทพธราน





สิ่งที่ท่านถามมาทั้งหมดข้างต้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า มอเตอร์ หรือเครื่องกลต่าง ๆ (อาจจะรวมได้ ไปจนถึง รถยนต์ด้วยก็ได้) ล้วนแต่เป็น เครื่องจักรกล ที่อย่างเราอย่างท่าน ไม่น่าประมาท หรือรู้มาก เข้าไปแก้ไข ซ่อมแซมเอง ขอความกรุณาอย่าเพิ่งใช้ (หากไม่จำเป็นจริง ๆๆๆๆ) หากโดนน้ำท่วมแล้ว น้ำเจ้ากรรม ไหลเข้าไป ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว (แถมยังแช่ไว้ด้วย) ถอดออกไปให้ช่างผู้รู้ เขาตรวจสอบดูก่อน ดีกว่า กรุณาอย่าประมาท เอาไปตากแดด แล้วคิดว่าแห้งแล้ว เลยนำไปใช้ต่อ เพราะความชื้นบางส่วน อาจจะฝังอยู่ข้างใน พอเครื่องกลนั้น ทำงาน โดยใช้กระแสไฟฟ้า อาจทำให้เกิดปัญหา กับตัวบ้าน หรือเป็นอันตราย ถึงชีวิตได้

หากแม้นจำเป็นจริง ๆ (ซึ่งผมหวังว่าคงจะไม่มี) ยามจะใช้เครื่องกลเหล่านั้นน่ามีข้อคิด 3 ประการคือ

1.ตลอดเวลาที่ใช้ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ใกล้ ๆ เสมอ เกิดอะไรผิดปกติขึ้นมาต้องดับเครื่องปิดเครื่องทันที

2. ที่คัทเอ๊าท์ไฟฟ้าหลักของบ้าน จะต้องมีฟิวส์ที่มีคุณภาพติดตั้งอยู่เสมอ เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ต้องแน่ใจว่า วงจรไฟฟ้า จะถูกตัดออก

3. เมื่อไรไม่จำเป็นจริง ๆ แล้ว พอมีเวลาบ้าง และพอมีงบประมาณ กรุณานำไปให้ช่างผู้รู้ ตรวจสอบเสีย

ก้าวแรกแห่งการพัฒนาของกองทุนหลักประกันสุขภาพบางสีทอง กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลบางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

เรียบเรียงโดย วรุณวาร สว่างโสภากุล

            ทุกสิ่งทกุอย่างต้องมีการเริ่มต้น ทุกการก้าวเดินต้องมีก้าวแรก เด้กทารกกว่าจะลุกขึ้นยืนได้ต้องผ่านช่วงตั้งไข่ ลูกนกกว่าจะปีกกล้าขาแข็งก็ต้องหัดบิน การดำเนินการของกองทุนฯ บางสีทองในช่วงขวบปีแรก ก็เป็นย่างก้าวของการเรียนรู้และพัฒนาเช่นกัน
            ตำบลบางสีทอง ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแอ้งกระทะของ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อถึงฤดูน้ำเหนือไหลบ่า พื้นที่ส่วนใหญ่มักถูกน้ำท่วม ด้วยความที่อยู่ชานเมืองกรุง ตำบลแห่งนี้จึงมีหมู่บ้านจัดสรรปะปนกับสวนผลไม้และสวนไม้ดอกไม้ประดับ ประชากรกว่าเจ็ดพันคนใน 5 หมู่บ้าน ทำอาชีพหลากหลาย ทั้งทำสวน ทำไร่ รับจ้าง ค้าขาย รับราชการ เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจและเป็นพนักงานบริษัท หากถามถึงระบบสาธารณูปโภค  ที่นี่มีครบครัน ส่วนด้านสาธารณสุข มีสถานีอนามัยตำบล / หมู่บ้านอยู่ 1 แห่ง
            หลังจากรับเป็น อบต.นำร่องของโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ บางสีทองซึ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ของ สปสช. จัดประชุมวางแผนโครงการ โดยเชิญคนจากหลายภาคส่วนในตำบลมาร่วมแสดงความคิดเห็นและวางแผน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้าน สมาชิก อบต. ทุกหมู่บ้าน, อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ ประชาชนที่เป็นตัวแทนของกลุ่มชมรมต่างๆ ในชุมชน เช่น ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมแม่บ้านและชมรมผู้ดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ ในการประชุมครั้งนี้ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานและอนุกรรมการขึ้นเพื่อดำเนินงานโครงการต่างๆด้วย
            ตัว อบต.บางสีทอง เองไม่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทาง อบต.จึงต้องขอความร่วมมือจากสถานีอนามัยมาช่วยเขียนโครงการ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ พิจารณา
            โครงการที่ได้รับอนุมัติมี 5 โครงการ เป็นโครงการสำหรับเด็กเล็ก อายุแรกเกิดถึงต่ำกว่า 6 ปี 2 โครงการ โครงการสำหรับเด็กโตอายุ 6 ปี ถึงต่ำกว่า 25 ปี 1 โครงการ โครงการสำหรับผู้ใหญ่อายุ 25 ปีขึ้นไป 1 โครงการ และโครงการสำหรับผู้พิการ 1 โครงการ เรียกได้ว่า เกือบครบทุกกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขาดก็แต่กลุ่มหญิงมีครรภ์

            แต่ผลที่ออกมาในปีแรก ไม่เป็นดังเป้าที่ตั้งไว้ เพราะคณะทำงานยังไม่เข้าใจกรอบและแนวทางปฏิบัติของกองทุนฯ อย่างชัดเจน และแม้จะได้เงินงบประมาณจาก สปสช.ถึง 267,975 บาท บวกกับเงินสมทบจาก อบต.บางสีทอง อีก 26,797.50 บาท ทีมงานยังกล้าๆกลัวๆที่จะเบิกเงินจากกองทุนฯ ออกมาใช้ เพราะไม่แน่ใจในระเบียบการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ จึงแก้ปัญหาโดยนำงบประมาณด้านอื่นของ อบต.มาใช้ก่อน
            นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ อบต. มองว่า การขาดคนทำงานด้านสาธารณสุขเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้โครงการไม่ค่อยคืบหน้า
            "ทาง อบต.อยากได้บุคลากรด้านสาธารณสุขไว้ประจำ เพราะไม่มีใครที่มีความรู้ทางด้านสุขภาพที่ลึกซึ้ง ที่จะมาช่วยคิดกิจกรรมและดูแลทางด้านสุขภาพ เราต้องอาศัยสถานีอนามัย ซึ่งเขาเองก็มีงานประจำของเขามากอยู่แล้ว.. ทางนายกและปลัได้พยายามหา ณ ขณะนี้เราได้พยาบาลที่จะย้ายลงมาช่วยเราแล้ว แต่อยู่ระหว่างการโอนย้าย ซึ่งก้ไม่สามารถที่จะมาช่วยทำกิจกรรมโครงการต่างๆได้ทันในปีงบประมาณ 2550"
            โครงการที่ดำเนินงานแล้วเสร็จในปี 2550 จึงมีเพียง 1 โครงการคือ โครงการพัฒนาการสมวัยเด็กไทยสมองดี โครงการนี้ดำเนินการที่สถานีอนามัยบางสีทอง โดยจัดมุมพัฒนาการเด็กไว้ที่สถานีอนามัย ผู้ปกครองสามารถนำเด็กอายุ 0-5 ปี มาตรวจสุขภาพและตรวจพัฒนาการเด็กได้
            แม้จะเป็นโครงการเดียว แต่ก็เป็นโครงการที่คณะทำงานภาคภูมิใจ และถือว่า ประสบความสำเร็จโครงการหนึ่ง ผู้ปกครองเองก็พอใจกันถ้วนหน้า
            " ดีมากเลย เวลามาตรวจก็พาลูกมาได้ ปล่อยให้ลูกเล่นที่มุมเด็กเล่น เวลาเข้าพบหมอตรวจ ลูกไม่กวน และสบายใจเพราะไม่ต้องห่วงลูก หมอ (พยาบาล) ก็ตรวจพัฒนาการลูกให้ด้วย"
            ความสำเร็จของโครงการมาจากวิสัยทัศน์ของผู้นำที่เห็นความสำคัญของการร่วมกองทุนฯ และให้การสนับสนุนทุกอย่าง  แม้จะมีอุปสรรคต่างๆนานา ทั้งนายก อบต. และปลัด อบต. ก็มิได้ย่อท้อ กลับพยายามที่จะแก้ไขปัญหาและหาพันธมิตรเพื่อให้กองทุนเกิดประโยชน์กับประชาชนในตำบล

            "ในการทำกิจกรรม ผู้นำทีมจะเห็นความสำคัญ ให้การสนับสนุนทุกเรื่อง และช่วยแก้ปัญหาถ้ามีอะไรติดขัด จะคอยช่วยเหลือ ไม่มีอะไรก็จะช่วยหาให้ ร่วมทั้งให้ข้อแนะนำหรือติดต่อประสานงานให้ "ทีมงานคนหนึ่งเล่าให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจในตัวผู้นำ
            อีกปัจจัยของความสำเร็จมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งร่วมบอกเล่าปัญหาและความต้องการของชุมชนผ่าน อสม. ร่วมเป็นคณะกรรมการ ร่วมทำกิจกรรมและช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมโดยการบอกต่อๆกันไป

            หนึ่งปีผ่านไป คณะทำงานกองทุนฯ ได้เรียนรู้และเข้าใจงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพมากขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจและเต็มใจทำงานมากขึ้น พร้อมกับมีแนวคิดที่จะพัฒนากองทุนฯ ให้ดียิ่งขึ้น
            "ถ้าถามว่า ขณะนี้ภูมิใจเต็มที่แล้วหรือยัง ขอตอบว่ายังภูมิใจไม่เต็มที่ เพราะถ้าเปรียบเทียบ ก-ฮ เพิ่งทำได้ซัก 10 ตัวพยัญชนะ ยังมีให้ทำอีกมาก และขณะนี้เริ่มมองเห็นช่องทางปัจจัยที่จะทำให้งานประสบผลสำเร็จแล้ว"
            หนึ่งในช่องทางนั้น ก็คือ การเผยแพร่ผลงานและประชาสัมพันธ์กองทุนฯ ให้ชุมชนรู้จักมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้ามาร่วมสมทบทุน
            ในส่วนของการพัฒนาโครงการ คณะทำงานกองทุนฯ อยากพัฒนาโครงการที่ทำสำเร็จแล้วให้ทั่วถึงมากขึ้น เช่น ขยายมุมเด็กเล่นให้กว้างขึ้น เพิ่มอุปกรณ์การตรวจพัฒนาการเด็ก  กระจายโครงการนี้ไปยังหมู่บ้านอื่นๆ เพราะประชาชนมาใช้บริการมากขึ้น ส่วนอีก 4 โครงการที่ยังคั่งค้างอยู่นั้น คณะทำงานมั่นใจว่า จะทำสำเร็จลงได้ เพราะมีประสบการณ์แล้ว นอกจากนี้ ยังต้องการทำโครงการเพิ่มเติมอีก เพื่อตอบสนองปัญหาของประชาชน

            "ในปีงบประมาณ 2551 อบต. มีแผนที่จะทำโครงการช่วยผู้ป่วยโรคไตที่ต้องถ่ายเลือด"
            ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมงานกองทุนฯ บางสีทองมีข้อเสนอแนะให้กับ สปสช.ว่าในระดับนโยบาย สสอ. โรงพยาบาล และ สสจ. ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม และ สปสช.น่าจะมีทีมลงไปประเมินผลและให้คำแนะนำแก่กองทุนฯ ระดับท้องถิ่น เพื่อที่คณะทำงานกองทุนฯ จะได้รู้ข้อบกพร่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขและทำงานต่อไปด้วยความมั่นใจ
            เห็นอย่างนี้แล้ว ดูท่าว่าพัฒนาการในช่วงขวบปีที่สองของกองทุนฯ บางสีทอง คงได้วิ่งปร๋อเลยทีเดียวเชียว

ข้อมูลพื้นฐานประกอบการเขียนโดย
ดร.อุษณีย์ เทพวรชัย
ดร.นิชดา สารถวัลย์แพศย์
วัลภา เพิ่มอัจฉริยะวงศ์
ดร.ศรีวรรณ มีบุญ
วพบ.นนทบุรี


ที่มา ถอดบทเรียน การดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
(กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต. และเทศบาล) ในพื้นที่ต้นแบบทั่วประเทศ กรณีศึกษา ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง
เลข  ISBN : 978-974-379-047-8
ธันวาคม 2551

บทกวี "พ่อ-ผู้ยิ่งใหญ่" .... โดย เกศกมล เกตุภู่พงษ์ (กทม)



    ลูกก่อร่างเป็นคนบนโลกนี้
    ด้วยเลือดที่พ่อรักเป็นหนักหนา
    พ่อถนอมกล่อมเห่ทุกเวลา
    มิให้ภัยใดมาชายคาเรือน
        เหมือนพ่อนกคาบเหยื่อมาเผื่อป้อน
        ห่วงอาทรจริงใจหาใครเหมือน
        พ่ออดอยากท้องกิ่วโหยหิวเยือน
        สำนึกเตือนต้องให้ลูกได้กิน
            เมื่อแดดออกลูกอ่อน กลัวร้อนผิว
            ลมหนาวพลิ้วหวั่นไหวห่วงไปสิ้น
            เฝ้าพัดวีระวังทั้งยุงริ้น
            ลูกเดินดินเกรงหนามจะตำแทง
                ลูกเจ็บไข้ได้พ่อหาหมอช่วย
                พ่อแทบป่วยแทนลูกด้วยทุกข์แฝง
                จะดึกดื่นหนาวร้อนนอนระแวง
                จนเรี่ยวแรงพ่อล้าชราลง
                    พ่อเลี้ยงลูกอบรมบ่มนิสัย
                    ชี้ถูกผิดสิ่งใดไม่ลืมหลง
                    หวังให้ลูกเข้มแข็งแกร่งมั่นคง
                    รู้ดำรงชีพตนให้พ้นภัย
                        ลูกเติบใหญ่ได้ดีพ่อมีสุข
                        ลูกมีทุกข์พ่อทุกข์หมองหม่นไหม้
                        ทั้งเรือนร่างชีวิตและจิตใจ
                        พ่อคือพรหมผู้ให้ทุกสิ่งเรา

พฤษภาคม 2534
โดย เกศกมล เกตุภู่พงษ์ (กทม)

พระสังฆราชประทานพรปีใหม่"ใช้ชีวิตมีค่า ด้วยการทำความดี"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระพรปีใหม่ พุทธศักราช 2554 ให้แก่ประชาชนชาวไทย ความว่า ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ ธรรมที่ประพฤติดีแล้วนำสุขมาให้โดยทั่วไปย่อมถือกันว่า ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด เมื่อถึงคราวจำเป็นคนเราอาจสละทุกสิ่งทุกอย่างได้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิต หากพิจารณาตามแนวของพระพุทธศาสนาก็เป็นจริงเช่นนั้น พระพุทธศาสนาถือว่ารากฐานของชีวิตคือความดี หากมีความดีไม่ถึงขั้นจะไม่ได้ความเป็นมนุษย์ ดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า ความได้เป็นมนุษย์เป็นการยาก เมื่อชีวิตมีค่า จึงควรที่เราจะต้องใช้ชีวิตให้สมค่าของชีวิต คือการที่ได้มาเป็นมนุษย์ โดยการทำความดี คือการไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม การทำใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ และการประกอบประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ปล่อยชีวิตให้เป็นไปอย่างเปล่าประโยชน์ ประพฤติปฏิบัติแต่คุณงามความดี ทั้งที่เป็นส่วนตนและผู้อื่น จึงได้ชื่อว่าสุชีวิต คือ ชีวิตที่ดีงาม
ขออนุโมทนาสาธุการต่อคุณงามความดีที่ทุกท่านได้กระทำแล้วในปีเก่า และ ขออนุโมทนาสาธุการต่อคุณงามความดีที่ทุกท่านกำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน และในปีใหม่ พุทธศักราช 2554 ตลอดปี ขอธรรมคือคุณงามความดีที่ทุกท่านประพฤติแล้วจงนำสุขมาให้แก่ท่าน เทอญ ขออำนวยพร

นักวิชาการค้านนำงบหนุนประชาวิวัฒน์ หวั่นเกิดปัญหาภายหลัง

การเสวนาโครงการประชานิยมสู่รัฐสวัสดิการ ประชาชนได้หรือเสีย ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดขึ้น โดยมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแถลงผลงานรอบ 1 ปีของรัฐบาล
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการประชาวิวัฒน์ ซึ่งเป็นมาตรการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมที่จะนำมาใช้ในปีหน้าว่า จะนำร่องใน 3 กลุ่มคือ คนขยันทำงาน คนอดออม และคนด้อยโอกาส
ขณะที่ นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้ที่ควรได้รับสวัสดิการ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นควรเป็นกลุ่มคนยากจน เพราะหากทุ่มงบประมาณมากเกินไป จะมีปัญหาเหมือนกับโครงการเช็กช่วยชาติ
ส่วน รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการนำงบประมาณมาอุดหนุนในโครงการนี้ เพื่อป้องกันการล่มสลายของรัฐ เหมือนประเทศที่จัดรัฐสวัสดิการที่ดีแต่ว่าเกิดปัญหาภายหลัง
นอกจากนี้ เห็นว่าการใช้งบประมาณอาจส่งผลกระทบให้ประชาชนขาดการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตน เอง พร้อมเสนอให้ใช้วิธีสร้างวินัยให้ประชาชนขยันทำมาหากิน เพื่อเป็นการช่วยเหลืออย่างยั่งยืน

ศธ.ชู 3 ยุทธศาสตร์พัฒนาการอ่านเด็กไทย

นายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาการอ่านของสถานศึกษาว่า แนวทางการพัฒนาการอ่านของสถานศึกษาต้องเริ่มจากสร้างให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชน เห็นความสำคัญและประโยชน์จากการอ่าน เพราะการอ่านเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญในการพัฒนาในทุกด้าน นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องสนับสนุนการอ่าน รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อม โดยเริ่มจากครอบครัวเป็นอันดับแรก ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ต้องส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับครอบครัว ทำงานอย่างบูรณาการ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ประกาศให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติและประกาศให้ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน
รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการยุทธศาสตร์ส่งเสริมการอ่านจากการเสนอของคณะกรรมการบูรณาการส่ง เสริมการอ่าน ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การพัฒนาคนไทยให้มีความสามารถในการอ่าน มีนิสัยรักการอ่าน และการสร้างบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการอ่าน โดยมีเป้าหมายเป็นตัวชี้วัด 6 ประการ ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการสร้างนโยบายและการมีส่วนร่วม สร้างความถนัดรู้ในการอ่าน สร้างความเข้มแข็งเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการอ่าน สร้างบุคลากรเพื่อส่งเสริมการอ่าน ส่งเสริมด้านการจัดการทรัพยากรการอ่าน และการวิจัยและพัฒนา
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่าประชากรในวัยทำงานที่อ่านหนังสือเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มจากร้อยละ 97 เป็น 99 ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป อ่านออกเขียนได้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 92.64 เป็น 95 ค่าเฉลี่ยในการอ่านหนังสือของคนไทย เพิ่มจากปีละ 5 เป็น 10 เล่ม การพัฒนาแหล่งการอ่านอย่างมีคุณภาพ

ปชช.สุขใจข่าวแสดงความจงรักภักดี-ชื่นชม สุด"จ่าเพียร"

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่องที่สุดแห่งปี 2553 ด้านข่าว ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัด จำนวน 2,071 ตัวอย่าง พบว่า ข่าวที่ประชาชนสนใจติดตามมากที่สุดในปี 2553 อันดับแรก ร้อยละ 54.6 คือ ข่าวการเมือง อันดับที่สอง ข่าวน้ำท่วม ภัยธรรมชาติ อันดับที่สาม ข่าวยาเสพติดและอาชญากรรม
ข่าวที่ทำให้ประชาชนสุขใจมากที่สุดในปี 2553 อันดับแรก ร้อยละ 62.6 คือ ข่าวการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันดับที่สอง ข่าวดารา ทำกิจกรรมสาธารณะช่วยเหลือเด็ก ผู้ด้อยโอกาสและชาวบ้าน อันดับที่สาม ข่าวคนไทยช่วยเหลือกันและกันในช่วงเกิดอุทกภัย ส่วนข่าวที่ทำให้ประชาชนทุกข์ใจมากที่สุดในปี 2553 อันดับแรก ร้อยละ 40.1 คือ ข่าวความแตกแยกของคนในชาติ การก่อเหตุจลาจล อันดับที่สอง ข่าวอุทกภัย อันดับที่สาม ข่าวการทำแท้ง
ขณะที่บุคคลที่น่าชื่นชมมากที่สุดแห่งปี 2553 ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.2 ระบุว่าคือ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จังหวัดยะลา ในฐานะข้าราชการวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตเพื่อแผ่นดินไทย

อุบลฯ เปิดเทศกาลไหลโคมล่องโขง รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม

นางสาวยุพา ปานรอด ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อุบลราชธานี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี ร่วมกับอำเภอโขงเจียม เทศบาลตำบลบ้านด่าน องค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอโขงเจียม ผู้ประกอบการร้านอาหารและชุมชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านด่าน จัดเทศกาลไหลโคมล่องโขง รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ประจำปี 2554 ณ บริเวณสวนสาธารณดอนหินตั้ง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2554 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอโขงเจียมและเป็นกิจกรรมส่งเสริม เทศกาลท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาว รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับเทศกาลไหลโคมล่องโขง รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ประจำปี 2554 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี ได้นำโคมนักษัตร จากกรุงเทพมหานคร มาประดับตกแต่งร่วมประชันความสวยงามกับโคมในท้องถิ่น เพื่อสร้างสีสันภายในงาน นอกจากนี้มีการแสดงทางวัฒนธรรม การละเล่นดวงไฟ การออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นเมือง สินค้าชุมชน และในวันที่ 31 ธันวาคม 2553 จะนำนักท่องเที่ยวปล่อยโคมไฟให้ลอยขึ้นเหนือลำน้ำโขง เพื่อเป็นการส่งท้ายปี 2553 ต้อนรับปีใหม่ 2554 ที่จะเข้ามาแทน

เปิดพระตำหนัก 7 แห่งให้ ปชช.ลงนามถวายพระพร"ในหลวง"เนื่องในวันปีใหม่

นายรัตนาวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มกราคม 2554 ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ สำนักพระราชวัง ได้เปิดให้ประชาชนมาลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมแจกปฏิทินหลวงพระราชทาน ให้ผู้มาลงนามถวายพระพรด้วย
ในการนี้ ยังได้เปิดพระตำหนักอีก 7 แห่ง ให้ประชนทั่วประเทศ ร่วมลงนามถวายพระพร ด้วยเช่นกัน ประกอบด้วย พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ วังไกลกังวล พระราชวังบางปะอิน พระราชวังสนามจันทร์ และ พระตำหนักประทับแรมปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
นายรัตนาวุธ กล่าวอีกว่าว่า ในการนี้ ให้สำนักพระราชวัง ถือเป็นข้อปฏิบัติ รวมถึงวันที่ 5 ธันวาคม และวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปีด้วย

"หลวงตาบัว"ปอดอักเสบ ไอ-มีไข้ต่ำ

พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี นั่งรถกอล์ฟที่ลูกศิษย์ขับพาออกมาพักผ่อนด้านนอกกุฏิ ซึ่งมีคณะแพทย์คอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้หลวงตาได้ชมรอบบริเวณวัด ที่มีประชาชนเดินทางมาร่วมทำบุญ และติดตามอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว มาต้อนรับจำนวนมาก
สำหรับอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว แพทย์ระบุว่า ยังคงมีอาการไอ ไข้ต่ำ ตรวจพบปอดอักเสบและติดเชื้อ มีอาการอ่อนเพลียและงดฉันอาหาร คณะแพทย์ถวายการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ยาขยายหลอดลม เพื่อให้หายใจสะดวกมากขึ้น ขณะที่อาการเหนื่อยหอบลดลง

ทหารเข้มผามออีแดงดูแลนักท่องเที่ยว - สกัดธรรมยาตรา

นักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นไปชมความงดงามของทิวทัศน์ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ในช่วงวันหยุดกันอย่างคึกคัก นายธีรยุทธ วงศ์ไพเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมาผามออีแดง กว่า 300 คน ส่วนวันหยุดเทศกาลปีใหม่จะมีนักท่องเที่ยวหลายพันคนมาเที่ยว
ขณะที่ทหารพรานยังเข้มงวดกับการวางกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณผามออีแดง และป้องกันนักท่องเที่ยวออกนอกเส้นทาง
สำหรับกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มธรรมยาตราจะขึ้นบนอุทยานฯ เพื่อติดตามสถานการณ์หลังผามออีแดงนั้น ทำให้ทหารพรานต้องเตรียมกำลังรักษาความปลอดภัยไว้จำนวนหนึ่ง และจำกัดให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด รวมทั้งไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยว

พณ.รณรงค์คนไทยมอบสินค้าไทยเป็นของขวัญ-ยัน ตรึงราคาสินค้าถึง มี.ค.ปีหน้า

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางและมาตรการดูแลราคาสินค้าในช่วงสิ้นปี จนถึงเทศกาลปีใหม่ ว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายตรึงราคาสินค้า โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ซึ่ง 90 เปอร์เซ็นต์ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า ในหมวดสินค้าจำเป็นประจำวัน รวมทั้งเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามาขายโดยตรงกับผู้บริโภค เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนแนวทางในการดูแล ควบคุมคุณภาพและราคาสินค้าประเภทกระเช้าและของขวัญ ก็เป็นอีกเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแล กำหนดกฎเกณฑ์ว่าผู้ขายต้องติดป้ายแสดงราคาสินค้าชัดเจน สินค้ามีคุณภาพดี ไม่หมดอายุ และที่สำคัญต้องไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์รณรงค์ให้มอบสินค้าไทยเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และช่วยอุดหนุนสินค้าไทย
ขณะที่ราคาสินค้าในปีหน้า ในส่วนของสินค้าประจำวัน อาทิ สบู่ แชมพู ผงซักฟอก อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องแบบนักเรียน เครื่องเขียน อุปกรณ์ก่อสร้าง และอุปกรณ์การเกษตร ยืนยันว่ายังไม่ปรับขึ้นราคา

นักวิจัยชี้ฝันร้ายเป็นสัญญาณอันตรายของโรค พาร์คินสัน

นักวิจัยระบุฝันร้ายอาจเป็นสัญญาณแรกของโรคพาร์คินสัน โดยผู้ที่ละเมอตะโกน ร้องไห้ ปล่อยหมัดหรือเหวี่ยงแข้งมีแนวโน้มมากกว่าคนทั่วไปที่จะเป็นโรคนี้ภายใน 5 ปี

ผู้เชี่ยวชาญพบว่าผู้ที่มีอาการนอนหลับแปรปรวนในช่วงหลับฝัน ซึ่งรวมถึงการฝันร้ายและการกระตุก มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเป็นโรคพาร์คินสันและโรคสมองเสื่อมรูปแบบอื่นๆ

REM (Rapid eye movement) คือช่วงที่คนเรานอนหลับฝัน คนที่นอนหลับปกติมักนอนนิ่งๆ ในช่วงนี้เนื่องจากสมองหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเหมาะสม

แต่ผู้ที่มีความผิดปกติในช่วงนอนหลับฝัน มักมีปฏิกิริยาในทางตรงกันข้าม คือฝันถึงเหตุการณ์ร้ายๆ และตอบโต้ด้วยความรุนแรง

อุบลฯ กำหนด 5 มาตรการลดอุบัติเหตุปีใหม่ 5%

นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการ จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน เทศกาลปีใหม่ 2554 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553 - 4 มกราคม 2554 จ.อุบลราชธานี กำหนดใช้ 5 มาตรการหลัก คือ มาตรการบริหารจัดการ โดยตั้งจุดตรวจจุดบริการทั้ง 25 อำเภอ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ มาตรการบังคับใช้กฎหมาย เน้นควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย เช่น ความเร็ว เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย มาตรการวิศวกรรมจราจร ทำการซ่อมแซมปรับปรุงถนนที่ชำรุด ติดตั้งป้ายและสัญญาณไฟจราจรให้ชัดเจน มาตรการประชาสัมพันธ์รณรงค์สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ยานพาหนะ และมาตรการด้านการแพทย์ฉุกเฉินและกู้ชีพ โดยเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือกู้ชีพให้ทันต่อเหตุการณ์
การดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลปีใหม่ 2554 จ.อุบลราชธานี ตั้งเป้าจำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุต้องลดลงจากปีที่ผ่านมา 5 เปอร์เซ็นต์

ห้างค้าปลีกขาดแคลนน้ำมันปาล์ม

สถานการณ์การจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์มที่อยู่ในภาวะตึงตัวขณะนี้ จากการสำรวจในห้างคาร์ฟูร์ ลาดพร้าว ปรากฏว่า สินค้าน้ำมันปาล์มบรรจุขวดไม่มีจำหน่าย โดยทางห้างติดป้าย"อภัยสินค้าหมด" โดยได้นำน้ำมันชนิดอื่นๆ มาวางจำหน่ายแทน อาทิ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว และน้ำมันข้าวโพด โดยมีการจำกัดปริมาณการซื้อ ครอบครัวละ 1 ขวด ทำให้ลูกค้าบางคนแสดงความไม่พอใจ ซึ่งทางห้างจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าครบทุกคน โดยไม่มีการซื้อไปกักตุน
อย่างไรก็ตาม น้ำมันถั่วเหลือง จำหน่ายที่ราคาขวดละ 46 บาท น้ำมันรำข้าว 54 บาท น้ำมันดอกทานตะวัน ขวดละ 58 บาท

สสจ.ตาก เร่งควบคุมการระบาดโรคไข้กาฬหลังแอ่น

นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังมีรายงานผู้ป่วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น ที่โรงพยาบาลแม่สอด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตากได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ควบคุมป้องกันโรคเคลื่อน ที่เร็วไปที่หมู่บ้านดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายสู่คนอื่น โดยได้ตรวจคัดกรองและให้ผู้ที่สัมผัสกับคนต่างด้าว 18 ราย กินยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรค เป็นเวลา 3 วัน ส่วนผู้ที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกับผู้ป่วย 6 ราย ไม่พบติดเชื้อและยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม
ด้านนายแพทย์ปัจจุบัน เหมหงษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก กล่าวว่า บริเวณพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก พบผู้ป่วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นทุกปี เนื่องจากมีต่างด้าวเดินทางเข้าออกค่อนข้างมาก โดยขณะนี้อาการของผู้ป่วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลแม่สอด อาการดีขึ้น แต่ยังมีไข้ต่ำ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ประชาชนในพื้นที่ ส่วนในกลุ่มต่างด้าวหนีภัยซึ่งอาศัยในบริเวณสนามเฮลิคอปเตอร์เก่าปากทางเข้า หมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ มีประมาณ 200-300 คน ได้ประสานองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ หรือ เอ็นจีโอ ช่วยตรวจคัดกรองโรค ซึ่งได้รับรายงานยังไม่พบผู้ติดเชื้อเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้ที่ติดเชื้อโรคนี้จะมีอาการป่วย หลังติดเชื้อโรค 3-4 วัน พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอจะมีความเสี่ยงติดเชื้อสูงกว่าคนทั่วไป อาการจะคล้ายไข้หวัด เริ่มจากเจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ไข้สูง และมีอาการซึม เมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด จะทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจเสียชีวิตได้ โรคนี้มียารักษาหายขาด การป้องกันโรคนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในแหล่งชุมชนหนาแน่น ที่มีการถ่ายเทอากาศไม่ดี

ปชช.แนะรัฐเอาจริงกวาดล้างยาเสพติด ชี้อุปสรรคอยู่ที่ ตร.ร่วมค้า

สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่องคิดอย่างไรกับนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ พบว่า สาเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้ คือ 1. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐ บางคนรู้เห็นเป็นใจให้ความช่วยเหลือผู้ค้า 44.39% อันดับ 2 การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลยังไม่ครอบคลุม 28.21% อันดับ 3 สภาพสังคมและเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทำให้มีจำนวนผู้ค้าและผู้เสพมากขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดให้ได้ผลรัฐบาลควรดำเนินการอย่างไร ประชาชนส่วนใหญ่ 51.03% เห็นว่า รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจัง ทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง อย่ามัวแต่สนใจเรื่องการเมือง ขณะที่ 18.98% ต้องกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่อย่างเด็ดขาด แบบขุดรากโคน ส่วนกรณี จิ๊บ-โจ๊ก ให้บทเรียนสังคมอย่างไรนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 40.11 เห็นว่า ยาเสพติดก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา และมีความรุนแรง และการแก้ไขปัญหายาเสพติด ต้องอาศัยการเอาจริงเอาจังของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ 20.19% มองว่ากรณีน้องโตมี่ ทำให้ตำรวจตื่นตัวในการทำงานมากขึ้น เนื่องจากสังคมให้ความสนใจข่าวนี้ และจากมาตรการปราบปรามยาเสพติดของนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่ออกมาให้เร่งปราบปรามประชาชน 43.58% คงจะสำเร็จยาก เพราะปัญหายาเสพติดมีมานาน ผู้ค้ารายใหญ่ เป็นผู้มีอิทธิพล 24.20% เห็นว่า น่าจะสำเร็จ เพราะเห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ปัญหาอุปสรรคที่สำคัญที่สุดต่อการปราบปรามยาเสพติด คือ 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เอาจริงเอาจัง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 2.ขาดงบประมาณในการสนับสนุนการทำงานของตำรวจ และ 3.รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ขอประชาชนให้ดีขึ้นได้

“พระพยอม” เตือนสตินักการเมืองลด “วิชามาร” - เหน็บขึ้นเงินเดือนทำตัวดีหรือยัง

บุรีรัมย์ - “พระพยอม” เตือนสตินักการเมือง ลดวิชามาร-เล่นเกมการเมือง หันใช้สติปัญญาและปรองดอง ไม่ชื่นชมพวกปรองด่าปรองร้าย วอนอย่าทะเลาะด่ากันในสภา อายชาวบ้าน ติงขึ้นเงินเดือนทำตัวดี มีประโยชน์หรือยัง ที่สำคัญต้องช่วยเหลือประชาชน ทำให้บ้านเมืองสงบ

วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ศูนย์ร่มโพธิ์แก้วสาขา 7 ตั้งอยู่บ้านวังปลัด หมู่ 3 ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ได้กล่าวเตือนสติรัฐบาล และนักการเมืองในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2554 ว่า คนที่เป็นต้นแบบทางการเมือง ก็ขอให้เล่นการเมืองที่ใช้แบบวิชามาร และเกมทางการเมืองน้อยๆ ลงหน่อย ให้เหลือสมอง และสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนที่เขากำลังตกทุกข์ได้ยาก อย่าเอาสมองไปใช้ว่าเราจะชนะคู่แข่งอย่างไร เราต้องมีสมองว่าจะชนะความยากจน ความทุกข์ยาก หนี้สิน ภัยพิบัติน้ำท่วม ประชาชนล่มจม จะหาทางแก้อย่างไร ไม่ใช่ว่าแจกให้หัวคะแนนแล้วแกะไปเปลี่ยนถุงเป็นชื่อของตัว เพื่อหาเสียงให้ตัวเอง อย่างนี้บ้านเมืองพึ่งพานักการเมืองแบบนี้ไม่ได้

“อาตมาขอสรรเสริญนักการเมืองที่มีท่าทีปรองดอง มากกว่านักการเมืองที่ชอบปรองด่า ปรองร้าย ถ้านักการเมืองคนใดมีนิสัยชอบปรองดอง มีท่าที และเอกลักษณ์ปรองดอง ก็ขอให้เจริญก้าวหน้าทางด้านการเมือง มีชื่อเสียง และเจริญรุ่งเรือง ไม่ถูกโลกลืม มีแต่คนปลาบปลื้มในผลงานกับความประพฤติ และก็อย่าไปทะเลาะกันมากนักในสภา เขาว่าสภาผู้มีเกียรติ ไปด่ากันสภาควาย สภาอะไรเนี่ยไม่ไหว ชาวบ้านเขารับไม่ได้” พระพยอม กล่าว

พระพยอม กล่าวอีกว่า ที่ขึ้นเดือนไม่ได้นี่เพราะอะไร ถ้า ส.ส.ทำตัวดี มีประโยชน์ รับรองไม่มีใครค้านหรอกขึ้นเงินเดือน ขอให้ทำเกินกว่าที่เขาจะให้ก็แล้วกัน แต่ถ้าทำต่ำกว่าที่เขาให้เขาก็ไม่ให้ ดังนั้น ถ้าอยากได้เงินเดือนเพิ่ม ก็ต้องทำความดี ช่วยเหลือประชาชน และที่สำคัญ ต้องช่วยทำให้บ้านเมืองสงบเพิ่มขึ้น นักการเมืองเก่งอย่างอื่นอาตมาไม่ชื่นชมเท่าไร เก่งปรองดองเก่งสามัคคีเป็นนักการเมืองที่ดีที่สุดในยามนี้ ชาติบ้านเมืองขาดแคลนนักการเมืองที่เก่งในการปรองดองสามัคคี แต่เรามีเหลือเฟือเลยพวกปรองด่า ปรองร้ายมีมากเกินไปแล้ว ลดลงหน่อย

บุรีรัมย์จัด “เทศกาลข้าวมะลิหอม ปลาจ่อมกุ้ง” กระตุ้นท่องเที่ยวปีใหม่

บุรีรัมย์ - จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วม อบจ. เทศบาล และ อบต.จัดงาน “เทศกาลข้าวมะลิหอม ปลาจ่อมกุ้ง ชมทุ่งนกประโคนชัย” 30 ธ.ค.-1 ม.ค.นี้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 เชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และแหล่งดูนก

วันนี้ (22 ธ.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับอำเภอประโคนชัย องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ เทศบาล และ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ใน อ.ประโคนชัย จัดงาน “เทศกาลข้าวมะลิหอม ปลาจ่อมกุ้ง ชมทุ่งนกประโคนชัย” ขึ้น ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.53 -1 ม.ค.54 ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลประโคนชัย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฯในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน และประชาชนส่วนใหญ่มักนิยมเดินทางท่องเที่ยวและกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดในช่วง ปีใหม่

พร้อมทั้งยังเป็นการเพิ่มตลาดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของ อ.ประโคนชัย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ซื้อหา กลับไปเป็นของฝาก อาทิ กุ้งจ่อม ข้าวหอมมะลิ กระยาสารท ซึ่ง อ.ประโคนชัย เป็นจุดเชื่อมต่อและศูนย์กลางระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ทั้ง ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และ ทุ่งชมนกเขตห้ามล่าสัตว์ป่าสนามบินน้ำ

“การจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ที่ขึ้นชื่อของอำเภอประโคนชัย นอกจากนั้น ยังเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ที่มีอยู่หลายแห่งของจังหวัดฯให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมในช่วงเทศกาลปี ใหม่ คาดว่าจะมีเงินสะพัดหลาย 10 ล้านบาทโดยเฉพาะกุ้งจ่อมประโคนชัย ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อที่สุด เพราะมีรสชาติอร่อยโดยกุ้งจ่อมเพียงอย่างเดียวสร้างรายได้ให้อำเภอประโคนชัย ปีละกว่า 20 ล้านบาท” นายพีระศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานนอกจากจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อหลากหลาย อาทิ ปลาจ่อมกุ้ง กระยาสารท ข้าวหอมมะลิ ผ้าไหม และสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ตลอดเส้นทางสายโชคชัย-เดชอุดม ช่วง อ.ประโคนชัย แล้งยังมีการประกวดขบวนแห่ข้าวมะลิหอม การแข่งขันตำส้มตำ กินกระยาสารท ประกวดวาดภาพนก-พระราชกรณียกิจ อาหารพื้นบ้าน

นอกจากนั้น ยังมีการประกวดธิดาข้าวมะลิหอม นางฟ้าจำแลง การประกวดร้องเพลง รวมทั้งจัดแสดงผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เพื่อสร้างสีสันและส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิธีแก้กรรมให้ตนเองได้ผลดีเร็วชึ้น

วิธีแก้กรรมให้ตนเองได้ผลดีเร็วชึ้น

เวลาที่ทำบุญหรือทำความดีอะไรทุกครั้ง นอกจากจะทำบุญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแล้ว เช่น การใส่บาตร การถือศีลและอื่นๆ การพูดคุยธรรมะ การช่วยให้ผู้อื่นสบายใจ ชี้แนะทางแก้ไขปัญหาชีวิต การทำความสะอาดห้องพระ การถวายน้ำเปล่าแก่พระพุทธรูปเพียง ๑ แก้ว การร่วมอนุโมทนาการทำความดีของผู้อื่น โดยการใช้จิตน้อมไปทางบุญกุศล การกวาดใบไม้ทำสวน การทำความสะอาดห้องน้ำของส่วนรวม ความที่มีจิตใจดีหรือตั้งใจดีที่หมด การดูแลคนแก่ เด็ก ฯลฯทั้งหมดนี้เป็นมหากุศลทั้งสิ้น ให้ตั้งนะโม ๓ จบทุกครั้ง (ขอให้พระพุทธเจ้าเป็นพระประธาน ) เพราะบารมีพระพุทธเจ้าเปิด ๓ ภพ (โลก) สวรรค์ มนุษย์ นรก เจ้ากรรมนายเวร จะอยู่ภพภูมิไหน เช่น นรกขุมสุดท้าย (๑๘) เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรมหมดรวดเร็ว แล้วควรกรวดน้ำลงดินทุกครั้ง แม่พระธรณี แม่พระคงคา เป็นทิพย์พยาน เพราะท่านก็สำเร็จพระอรหันต์แล้ว ลูกได้ทำความดี เช่นทำบุญกุศลใส่บาตร ฯลฯ ขอถวายบุญกุศลแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ขอให้ทุกพระองค์นำส่งบุญให้ลูกมีเดชปัญญา โภคะ (ความสมบูรณ์) เพื่อจะได้อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร (วิญญาณโปร่งใส) ทุกภพทุกชาติ ศัตรูหมู่มารหรือหมู่พาล คือ มนุษย์ เช่น บริวาร ญาติ มิตร คนรับใช้ สามี บุตร ธิดา ทุกภพ ทุกชาติ ขอให้ได้รับมหากุศลนี้ รับแล้วขอให้อโหสิกรรม ให้ขาดจากกัน ณ เดี๋ยวนี้ บัดดนี้ ชอให้ข้าพเจ้ามีบุญบารมี สูงขึ้นๆๆๆ เต็มขึ้น เพื่อจะได้ช่วยสังคมให้สูงขึ้น และช่วยสร้างคนให้เป็นพระ เกิดปัญญาทางธรรม (จิตสัมผัส ชั่ว ดี เลว เหตุการณ์ ล่วงหน้า) ปัญญาทางโลกทุกคนมีอยู่แล้วจากพ่อแม่ แต่ขาดปัญญาทางธรรม ถ้าได้จะประสบแต่ความสำเร็จ สมบูรณ์พูนสุขทุกอย่าง เพราะบุญ คือ ขุมทรัพย์ ลาภยศจะมาเอง และยังช่วยผู้อื่น ครอบครัวได้ด้วย (กรรมเวรแก้ไขได้โดยการขอขมากรรม และส่งวิญญาณด้วยการสร้างพระสะดุ้งมารขนาด ๓ นิ้ว ๕ นิ้ว เป็นการต่อชะตาชีวิต)

ถ้าเจ้ากรรมนายเวรจากส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายบริเวณที่เจ็บป่วย ได้อโหสิกรรมจะหายเจ็บป่วยทันที ถ้าเป็นโรคหัวใจวิญญาณจะอยู่บริเวณนั้น

ที่มา คู่มือสวดมนต์ และวิธีแก้กรรม สะเดาะเคราะห์
รวบรวมโดย คณาจารย์เลี่ยงเซียงจงเจริญ

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อย่าลืมบอกรักพ่อหลวงไทย

อย่าลืมบอกรักพ่อหลวงไทยด้วยการดำเนินชีวิตตามหลักความพอเพียง ภาคเกษตรต้องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้เกิดความพอ ก่อนขยายโอกาส

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 5 ธ.ค.13.46 น.

เดือนเกิดของคนตามหลักธาตุเจ้าเรือนทั้ง 4

เดือนเกิดของคนตามหลักธาตุเจ้าเรือนทั้ง 4

ธาตุไฟ
คือ คนที่เกิดเดือน ๑, ๓, ๔
หรือเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม

ลักษณะรูปร่าง : มักขี้ร้อน ทนร้อนไม่ค่อยได้ หิวบ่อย กินเก่ง ผมหงอกเร็ว
ผิวหนังย่น ผม ขน และหนวดอ่อนนิ่ม ไม่ค่อยอดทน ใจร้อน
ข้อกระดูกหลวม มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง ความต้องการทางเพศปานกลาง
ควรทานอาหารรส : ขม เย็น และจืด
ผลไม้: แตงโม มันแกว พุทรา แอปเปิ้ล
ผัก ผลไม้ : ผักบุ้ง ตำลึง ผักกระเฉด ผักกระสัง สายบัว ผักกาดจีน
ผักกาดนา ผักกาดนกเขา มะระ ผักปรัง มะรุม มะเขือยาว ผักหนาม
ยอดมันเทศ กระเจี ๊ยบมอญ สะเดา ยอดฝักทอง หยวกกล้วย หม่อน
มะเขือขาว กุยช่าย
ตัวอย่างเมนูอาหาร : ผัดผักบุ ้ง แกงจืดตำลึง ผัดสายบัวใส่พริก
แกงส้มมะรุม แกงคูน แกงจืดมะระ แกงส้มหยวกกล้วยใส่ปลาช่อน
ยำผักกระเฉด ผักหนามผัดน้ำมันหอย
ตัวอย่างอาหารว่าง : ซ่าหริ่ม ไอศกรีม น้ำแข็งใส
ตัวอย่างเครื่องดื่ม : น้ำแตงโมปั่น น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย น้ำเก็กฮวย

ธาตุลม
คือ คนที่เกิดเดือน ๕, ๖, ๗
หรือเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน

ลักษณะรูปร่าง : ผิวหนังหยาบแห้ง รูปร่างโปร่ง ผอมบาง ข้อกระดูก
มักลั่นเมื่อเคลื่อนไหว ขี้อิจฉา ขี้ขลาด รักง่ายหน่ายเร็ว ทนหนาวไม่ค่อยได้
นอนไม่ค่อยหลับ ช่างพูด เสียงต่ำ ออกเสียงไม่ชัดเจน ความรู้สึกทางเพศ
ไม่ค่อยดี
ควรทานอาหารรส : เผ็ดร้อน
ผัก ผลไม้ : ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกไทย โหระพา กระทือ
ดอกกระเจียว ขมิ้นชัน ผักคราด ชะพลูผักไผ่ พริกขี้หนูสะระแหน่ หูเสือ
ผักแขยง ผักชีลาว ผักชีล้อม ยี่หร่า สมอไทย กานพลู
ตัวอย่างเมนูอาหาร : แกงปลาดุกใส่กระทือ ต้มข่าไก่ ต้มยำกุ้ง
แกงหอยขมใส่ใบชะพลูสมอไทยทุบผัดน้ำมันพืช สมอไทย จิ้มน้ำพริก
ตัวอย่างอาหารว่าง : บัวลอยน้ำขิง เต้าฮวย เต้าทึง มันต้มขิง ถั่วเขียวต้มขิง
เมี่ยงคำ
ตัวอย่างเครื่องดื่ม : น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำข่า น้ำกานพลู


ธาตุน้ำ
คือ คนที่เกิดเดือน ๘, ๙, ๑๐
หรือเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน

ลักษณะรูปร่าง : รูปร่างสมบูรณ์ สมส่วน ผิวพรรณสดใส เต่งตึง
ตาหวาน น้ำในตามาก ท่าทางเดินมั ่นคง ผมดกดำงาม ทนหิว ทนร้อน
ทนเย็นได้ดี เสียงโปร่ง ความรู้สึกทางเพศดี อากัปกิริยามักเฉื่อยและค่อนข้างเกียจคร้าน
ควรทานอาหารรส : เปรี้ยวและขม
ผลไม้: มะนาว ส้ม สับปะรด มะเขือเทศ มะยม มะกอก มะดัน
กระท้อน
ผัก : ขี้เหล็ก แคบ้าน ชะมวง ผักติ้ว ยอดมะกอก ยอดมะขาม
มะอึก มะเขือเครือ สะเดาบ้าน มะระขี้นก มะระจีน มะแว้ง ใบยอ
ตัวอย่างเมนูอาหาร : แกงขี ้เหล็กปลาย่าง แกงส้มดอกแค แกงอ่อม
มะระขี ้นก ผัดมะระไส่ไข่ ห่อหมกใบยอ แกงป่าสะเดาใส่ปลาหมอ
แกงป่าสะเดาปิ้ง ต้มโคล้งยอดมะขาม ใบยอผัดน้ำมันหอยใส่หมูบด
ตัวอย่างอาหารว่าง : มะยมเชื ่อม สับปะรดกวน กระท้อนลอยแก้ว
มะม่วงน้ำปลาหวาน มะม่วงกวน
ตัวอย่างเครื่องดื่ม : น้ำมะนาว น้ำใบบัวบก น้ำมะเขือเทศ น้ำมะขาม
น้ำสับปะรด น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะเฟือง

ธาตุดิน
คือ คนที่เกิดเดือน ๑๑, ๑๒, ๑
หรือเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม

ลักษณะรูปร่าง : รูปร่างสูงใหญ่ ผิวค่อนข้างคล้ำ ผมดกดำ กระดูกใหญ่
ข้อกระดูกแข็งแรง น้ำหนักตัวมาก ล่ำสัน เสียงดัง หนักแน่น ความต้องการทางเพศรุนแรง
ควรทานอาหารรส : ฝาด หวาน มัน และเค็ม
ผลไม้: มังคุด ฝรั่ง เผือก ถั่วต่าง ๆ เงาะ หัวมันเทศ
ผัก : ผักกระโดน กล้วยดิบ ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดมะยม
สมอไทย กระถินไทย กระโดนบก กระโดนน้ำ ผักหวาน ขนุนอ่อน สะตะ
ผักโขม โสน ขจร ผักเชียงคา ลูกเนียงนก บวบเหลี่ยม บวบงูบวบหอม
ตัวอย่างเมนูอาหาร : ผักกูดผัดน้ำมันงา ดอกงิ ้วทอดไข่ ผัดบวบงู
แกงเลียงผักหวานใส่ปลาย่าง ถั่วลิสงต้มเค็ม ดอกขจรผัดไข่ แกงป่ากล้วยดิบ
คั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง สมอไทยผัดน้ำมันหอย
ตัวอย่างอาหารว่าง : เต้าส่วน วุ้นกะทิ กล้วยบวชชี ตะโก้เฝือก
ตัวอย่างเครื่องดื่ม : น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำตาลสด น้ำมะตูม นมถั่วเหลือง
น้ำแคนตาลูป น้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำลูกเดือย น้ำข้าวโพด น้ำแห้ว

263 สีทาบ้าน ทั้งสีน้ำ สีพลาสติก สีน้ำมัน ฯลฯ ต้องทำอะไรบ้าง

ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง เล่ม 3
บ้านหลังน้ำท่วม( น้ำท่วมบ้าน จะทำยังไง ซ่อมอะไรก่อน อะไรรอได้)

โดย ยอดเยี่ยม เทพธราน





เรื่องขอการแก้ไขเกี่ยวกับสีทาบ้าน ขอให้เป็นสิ่งสุดท้ายหรือเกือบสุดท้ายที่เราจะซ่อมแซมบ้าน กรุณา อย่าอายใคร ที่เขาจะมาหาว่า บ้านเราสีกระดำกระด่าง หรือสีลอกเป็นขี้กลาก ปล่อยคนที่เขาดูถูกเราไปเถอะ เพราะเรื่องน้ำท่วม มิใช่กรรมของเรา ที่ก่อขึ้นมา (อย่างน้อย ก็ไม่ใช่ทางตรง) เขาจะว่าอะไร จะดูถูกอย่างไร ก็ปล่อยเขาไป (แล้วทำบุญกรวดน้ำ ให้เขา ลดอวิชชา ที่ครอบงำจิตใจเขาด้วย)

สีทุกชนิดที่เราใช้ทาบ้าน (ไม่รวมสีทาเรือ สีทาเครื่องบิน สีทาภายในถังน้ำ) เมื่อถูกความชื้นหนัก ๆ อย่างน้ำท่วมคราวนี้ จะต้อง มีอันเป็นไป เกือบทุกที่ ….ข้อคิดสำคัญ ในเรื่องของสีทาบ้าน ก็คือ ปัญหาของสีลอกสีล่อน หลัก ๆ ไม่เกิดเพราะ คุณภาพของสี แต่เกิดจาก ความไม่พร้อม ของพื้นผิวที่ทาสี หากพื้นผิว ที่จะทาสี เกิดความชื้น หรือมีสิ่งสกปรก ติดอยู่ ทาสีทับลงไปอย่างไร ก็ลอก ก็ล่อนออกหมด

ดังนั้นขอให้ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งทาสี ทำความสะอาดหรือลอกสีเดิมออก ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ (ลอกเฉพาะ ตรงที่มีปัญหา ไม่ใช่ลอกหมดทั้งบ้าน) ทิ้งไว้นาน ๆ (อาจจะหลายเดือน จนถึงหน้าแล้ง ฤดูร้อนก็นับว่าไม่สายเกินไป)

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปชช.อวยพรปีใหม่ให้"ในหลวง"ทรงแข็งแรง หวังนักการเมืองซื่อสัตย์

ปชช.อวยพรปีใหม่ให้"ในหลวง"ทรงแข็งแรง หวังนักการเมืองซื่อสัตย์

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนต่อเทศกาลปีใหม่ 2554 โดยคำอวยพรปีใหม่ที่ประชาชนขอ คือ ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ขณะที่ผลการสำรวจทัศนะต่อสถานการณ์ของประเทศไทยในปี 2554 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.8 มองว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น และสถานการณ์การเมืองในปีหน้าจะยังคงเหมือนปี 2553 เมื่อสอบถามถึงราคาสินค้าว่าจะแพงกว่าปัจจุบันหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 ระบุว่า จะมีราคาแพงขึ้น และเห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ควรมีมาตรการโครงการธงฟ้าราคาประหยัดต่อไปในปีหน้า รวมถึงการควบคุมราคาสินค้า เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน
ขณะที่การประเมินผลงานของรัฐบาลโดยรวม ประชาชนส่วนใหญ่ให้คะแนน 5.9 คะแนน จาก 10 ส่วนนักการเมืองที่ประชาชนอยากให้ของขวัญมากที่สุด ร้อยละ 62.94 คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่วนของขวันที่อยากได้จากรัฐบาลมากที่สุด คือความซื่อสัตย์ในการทำงาน

มูลนิธิเพื่อช้างฯ เรียกร้อง รบ.แก้ปัญหาแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนที่เชียงใหม่

ตัวแทนมูลนิธิเพื่อช้างและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิ Bring Elephant Home จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และองค์กร Elephant International จากสหรัฐฯ นำรายชื่อ 20,000 คนทั่วโลก ที่คัดค้านการนำช้างมาเดินเร่ร่อนใน จ.เชียงใหม่ ยื่นต่อนายฤทธิพงค์ เตชะพันธุ์ หัวหน้าสำนักงาน จ.เชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา
นางแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อช้างและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีการนำช้างมาเดินเร่ร่อนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่มากขึ้น ซึ่งเรื่องราวปัญหาของช้างที่เดินตามถนนในไทย โดยเฉพาะกรณีควาญช้างใช้ตะขอทำร้ายนักท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ ได้ถูกนำไปเผยแพร่ผ่านสารคดี และข่าวไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จึงต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหานี้

สธ.สั่งเฝ้าระวังไข้หวัดนกเต็มที่ หลังมีการพบเชื้อที่ญี่ปุ่นและฮ่องกง

นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ประเทศญี่ปุ่นและฮ่องกงตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเมื่อต้น เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่า แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 4 ปี แต่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบเฝ้าระวังการติดเชื้อในคนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลในสังกัดทั่ว ประเทศจาก 2 โรคสำคัญคือโรคปอดบวม และโรคไข้หวัดใหญ่ ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก เช่นมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก หรืออยู่ในพื้นที่มีสัตว์ปีกตาย และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกแม้แต่รายเดียว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลายจังหวัดในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็น ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท หากประชาชนพบสัตว์ปีก ทั้งสัตว์ปีกที่เลี้ยง หรือนกป่า นกธรรมชาติ ป่วยตายผิดปกติ ห้ามนำมาบริโภคอย่างเด็ดขาด และไม่สัมผัสซากสัตว์ด้วยมือเปล่า พร้อมขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรืออาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อนำไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไป

“วันที่ยุโรปรัดเข็มขัด แต่พี่ไทยฟาดแหลก”

เหลือเวลาอีกประมาณ 4 เดือน หน่วยงานที่มีหน้าที่จัดทำงบประมาณประเทศ ก็จะได้ฤกษ์เคาะตัวเลขงบประมาณประจำปี พุทธศักราช 2555 ออกมาให้ได้เชยชม ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และที่ประชุมรัฐสภาเพื่อรอการพิจารณาต่อไป

ที่น่าสนใจก็คือ ตัวเลขคร่าวๆ ของงบประมาณปีหน้า ใครได้ฟังก็คงจะหัวเราะ 555 ไม่ออกแน่ เพราะมีแนวโน้มที่ตัวเลขจะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 2.2-2.3 ล้านล้านบาท หรือ มากกว่าของเก่าถึง 20 เปอร์เซ็นต์

แม้ว่าตัวเลขงบประมาณปีที่แล้ว รัฐบาลชุดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะตั้งไว้สูงอยู่แล้วถึง 2.07 ล้านล้านบาท เรียกว่า สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย

ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูรายละเอียดของโครงสร้างงบประมาณปีที่แล้ว จะพบว่า พี่ไทยมีความสามารถในการจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 1.65 ล้านล้านบาทเท่านั้น แต่มียอดใช้จ่ายสูงถึง 2.07 ล้านล้านบาท พูดง่ายๆ คือ หาได้ไม่พอจ่าย หรือใช้เงินเกินตัว จึงทำให้ประเทศต้องทำงบประมาณอยู่ในรูปขาดดุลถึง 4.2 แสนล้านบาท

สำหรับในปีหน้าก็เช่นกัน เบื้องต้นมีรายงานว่า ได้มีการวางเป้าจะทำงบประมาณขาดดุลต่อเนื่องอีกปี ประมาณ 4 แสนล้านเป็นอย่างน้อย ด้วยข้ออ้างที่ยังคงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ไทยเราผ่าน การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจัดทำงบประมาณขาดดุลเยี่ยงนี้มาแล้วตลอด 14 ปีที่ผ่านมา และเรายังจะเดินหน้าขาดดุลต่อเนื่องเป็นปีที่ 15

แต่น่าแปลกที่ยิ่งกระตุ้นเท่าไร คนไทยยิ่งลำบาก ทำมาหากินยากเหมือนเดิม หรือยิ่งกว่าเดิม ตรงกันข้ามกับความเป็นอยู่ของ “กลุ่มการเมือง” หรือ “กลุ่มนายทุน” ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังแต่ละรัฐบาล กลับยิ่งมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายขึ้นเรื่อยๆ ตระกูลธุรกิจการเมืองบางตระกูลแถวคลองหลอด ใช้เวลาไม่ถึงสิบปี ในการพลิกสถานะจากที่เคยวิ่งแลกเช็คบริษัท มาเป็นคู่สัญญากับโครงการสัมปทานรัฐมูลค่ารวมหลักแสนล้าน...

กลับมาที่เรื่องการขาดดุลงบประมาณอีกนิด มีการตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจระบุว่า หลังการเลือกตั้งปี 2544 ที่พรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล และมีนายกรัฐมนตรีชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ที่ก่อเกิดให้การเปลี่ยนแปลงภายในโครงสร้างงบฯ

กล่าวคือ ถ้าจะเปรียบงบประมาณประเทศเป็นรายได้ในกระเป๋า เมื่อเราหารายได้มาแล้ว เงินจะต้องถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ใช้ชำระเป็น “รายจ่ายประจำ” อาทิ เงินเดือนข้าราชการ บุคลากร, ส่วนที่ต้องเตรียมไว้สำหรับการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และสุดท้าย คือ ส่วนที่ต้องนำไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ที่รัฐบาลที่แล้วไปกู้มา

ผลปรากฏว่า “นโยบายประชานิยม” ที่ถือกำเนิดขึ้นในสมัยแรกของรัฐบาลทักษิณ ยุคปี 2544 มีส่วนทำให้ยอดรายจ่ายประจำโตผิดหูผิดตา จนไม่พอจะนำไปใช้จ่ายส่วนอื่น

และที่น่าสนใจกว่า นั่นก็คือ หลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พ.ศ. 2549 แม้ทักษิณจะได้ถูกขจัดไปจากอำนาจการเมือง แต่มรดกบาปเรื่อง “นโยบายประชานิยม” ยังคงถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง

ดูได้จากงบประมาณปี 2554 จำนวน 2.07 ล้านล้านบาท ที่นอกจากถูกนำไปใช้เป็นค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าใช้จ่ายภาครัฐ และเป็นเงินเดือน โบนัสข้าราชการ (อัตราที่มีการปรับขึ้นแล้ว) มากถึง 37 เปอร์เซ็นต์ 7.39 แสนล้านบาท

มีงบส่วนที่นำไปใช้เป็นรายจ่ายตามนโยบายรัฐ 25 เปอร์เซ็นต์ อีก 2.8 แสนล้านบาท บวกงบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.2 -1.5 แสนล้านบาท (อัตราเก่ายังไม่มีการปรับเพิ่มตามมติ ครม.ล่าสุด)

และงบประชานิยมผสมสวัสดิการนิยม สุดแล้วแต่เรียก ในรูปเรียนฟรี 15 ปี, เจ็บป่วยรักษาฟรี ฯลฯ อีกกว่า 1.3 แสนล้านบาท

เฉพาะก้อนหลังนี้ ซานต้ามาร์ค ได้จัดแจกเพิ่มอีก ในปี 2555 ด้วยเหตุที่ประชานิยมผสมสวัสดิการนิยม ได้เริ่มแปลงร่างอำพรางตัวเป็น “ประชาวิวัฒน์ไปแล้ว ผลคือ ทำให้ต้องมีการใช้เงินมากขึ้น ผ่านโครงการเรียนฟรี ประกันรายได้เกษตรกร เบี้ยคนชรา คนพิการ อสม. พยุงราคาน้ำมัน ลดค่าครองชีพ ปล่อยกู้มอเตอร์ไซค์ แท็กซี่รับจ้าง โหลงโจ้งแล้วไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งแม้บางนโยบายน่าจะสนับสนุน แต่ก็มีหลายมาตรการที่ทำเพื่อหวังผลการเมืองมากกว่าช่วยประชาชน

นั่นยังไม่รวมโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสลิ่มหลากสีสัน ที่มีเอกชนได้รับสัมปทานอยู่ไม่กี่เจ้า และใช้งบก่อสร้างแพงเกินจริง จนถูกเรียกร้องให้ตรวจสอบหรืออย่างโครงการมหาอมตะ “ถนนไร้ฝุ่น“ และรถไฟความเร็วสูงที่จีนจะให้งบช่วยเหลือบางส่วน

ตอนนี้ เทรนด์การใช้เงินบ้านเรากำลังสวนทางกับยุโรปโดยสิ้นเชิง เจ้าของต้นตำรับสวัสดิการสังคมตัวจริงหลายเจ้ากำลังเจ๊ง และเร่งตัดลดงบประมาณภาครัฐอย่างหนักหน่วงจนถูกประชาชนที่เสียประโยชน์ออกมา เดินขบวนต่อต้านมากมาย

อังกฤษ การประท้วงต่อต้านมาตรการลดเงินอุดหนุนการศึกษา ทำให้นักศึกษาที่ต้องจ่ายค่าเทอมเพิ่มขึ้นพากันออกมาประท้วง เลยเถิดถึงขั้นทำลายขบวนรถยนต์พระที่นั่งมกุฎราชกุมารอังกฤษ และบุกขึ้นไปปัสสาวะรดอนุสาวรีย์ อดีตนายกรัฐมนตรีเซอร์ วินสตัล เชอร์ชิล เรียกว่าเดือดร้อนไปทั่ว

ที่ฝรั่งเศส ผลของการขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการขยายเวลาเกษียณอายุจาก 60 เป็น 62 ปี และขยายอายุรับบำนาญจาก 65 ไปอยู่ที่ 67 ปี สุดท้ายประชาชนหนีไม่พ้นต้องรับเคราะห์อยู่ดี ต้องทำงานหนักขึ้น และได้รับเงินช่วยเหลือช้าลง

ส่วนบรรยากาศที่กรีซ หรือแม้แต่ไอร์แลนด์ก็แทบจะไม่มีความแตกต่าง เมื่อผู้เสพติดรัฐสวัสดิการมายาวนานเกิดคุ้มคลั่งหลังไม่ได้ในสิ่งที่เคยได้ สำหรับไทยเรา ประชานิยมที่นักการเมืองใช้เป็นเครื่องมือเพื่อซื้อเสียงล่วงหน้ามาทุกยุค ทุกสมัยก็เช่นกัน คงไม่มีใครกล้าที่จะออกมาปฏิเสธได้อย่างเต็มปากว่า ความเสียหายจากการลุกขึ้นมาต่อต้านรุนแรงของชมรม “คนรักทักษิณ” จนนำไปสู่การเผาบ้านเผาเมือง ส่วนหนึ่งไม่ได้มาจากพฤติกรรมเสพติดประชานิยม ที่ระบอบทักษิณได้หว่านไว้สมัยเรื่องอำนาจ

และก็คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธอีกเช่นกันว่า กลวิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ไม่ใช่หนทางแก้ไขที่ดีสำหรับกรณีนี้ เพราะรังแต่จะเป็นการบ่มเพาะพฤติกรรมขาดความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในหมู่ ประชาชนให้ยิ่งรุนแรงและฝังราก และเคยตัวมากขึ้นเรื่อยๆ


โดย อุษณีย์ เอกอุษณีษ์

การทำไตปลา

         การทำไตปลา นำไส้ปลาทูสดมาล้างให้สะอาด คลุกเคล้ากับผงชูรส / เกลือกะปริมาณตามความเหมาะสม ใส่น้ำตาลเล็กน้อย หมักในภาชนะปิดฝาสนิทนาน 1 เดือน

SMS FArmer Info by DTAC - 24 ธ.ค.53 - 14.05 น.

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

1.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักเทคนิคการแพทย์ปฏิบัติการ(สสจ.ชลบุรี) จำนวนตำแหน่งว่าง : 1 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634287129664504985

2.) ชื่อตำแหน่งงาน : เภสัชกรปฏิบัติการ(สสจ.ชลบุรี) จำนวนตำแหน่งว่าง : 2 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634287130836788711

3.) ชื่อตำแหน่งงาน : พยาบาลวิชาชีพ,เจ้าพนักงานเวชสถิติ,เจ้าพนักงานธุรการ, จำนวนตำแหน่งว่าง : 3 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634287095814363201

4.) ชื่อตำแหน่งงาน : เจ้าพนักงานธุรการ,นักวิชาการสาธารณสุข,นักจิตวิทยา,นักกายภาพบำบัด,นัก กิจกรรมบำบัด,นักวิทยาศาสตร์การแพทย์,นักเทคนิคการแพทย์(รพ.เจ้าพระยายมราช) จำนวนตำแหน่งว่าง : 8 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634287022882628747

5.) ชื่อตำแหน่งงาน : เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป จำนวนตำแหน่งว่าง : 11 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สำนักบริหารบุคคล
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634287078091676899

ศูนย์สรรหาและเลือกสรร สำนักงาน ก.พ.

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตำแหน่งงาน ณ : วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

1.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักวิชาการเงินและบัญชี,นักวิชาการพัสดุ,นักวิชาการสถิติ,นักโภชนาการ,นัก กายภาพบำบัด,นักกิจกรรมบำบัด,นิติกร(รพ.หนองคาย) จำนวนตำแหน่งว่าง : 0 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634286242217088750

2.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักกายภาพบำบัด จำนวนตำแหน่งว่าง : 3 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : กรมการแพทย์
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634286317123651250

3.) ชื่อตำแหน่งงาน : เจ้าพนักงานส่งเสริมสหกรณ์ จำนวนตำแหน่งว่าง : 1 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : กรมส่งเสริมสหกรณ์
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634286050864745000

4.) ชื่อตำแหน่งงาน : นักวิชาการพาณิชย์ จำนวนตำแหน่งว่าง : 1 ตำแหน่ง
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานปลัดกระทรวงพานิชย์
ช่วงรับสมัคร : วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 - วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถคัดลอก URL ต่อไปนี้ไปเปิดเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ต่อไป http://job.ocsc.go.th/JobShow.aspx?JobID=634286114216151250

ศูนย์สรรหาและเลือกสรร สำนักงาน ก.พ.

3 ภาพในงานพระราชทานปริญญาบัตร ม.ขอนแก่น 23 ธ.ค.2553







อย.เตรียมเปิดตัว 'facebook-twitter' ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์สุขภาพผิด ก.ม.

อย.เตรียมเปิดตัว 'facebook-twitter' ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์สุขภาพผิด ก.ม.

       นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวเปิดงาน 36 ปี อย. "รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี" ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายผ่านทางสังคม ออนไลน์ โดยเฉพาะ facebook และ twitter ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนและตรวจพบผิดกฎหมายจำนวนมาก หากพบจะดำเนินการเอาผิดและปิดเว็ปไซต์ทันที โดยผู้บริโภคสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลข 1556 ซึ่งมีรางวัลนำจับให้
        นอกจากนี้ อย.เตรียมเปิดตัว facebook และ twitter เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคทราบถึงโทษและการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์สุขภาพ
        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานครบรอบ 36 ปี ของ อย. จะเร่งดำเนินการใน 3 ส่วน คือการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอย่างเคร่งครัด รณรงค์สร้างความเข้าใจด้านสุขภาพแก่ผู้บริโภค และการมีส่วนร่วมของทุกภาพส่วน ด้วยการเพิ่มจำนวน อย.น้อย จาก 6 พันคนเป็น 3 หมื่นคน และส่งเสริม อสม.สร้างความรู้ความเข้าใจในระดับชุมชนมากขึ้น

กทพ.ฟรีค่าผ่านทางบูรพาวิถีช่วงปีใหม่ พร้อมตั้ง 5 จุดบริการ

กทพ.ฟรีค่าผ่านทางบูรพาวิถีช่วงปีใหม่ พร้อมตั้ง 5 จุดบริการ    

        พ.ท.ทวีสิน รักกตัญญู ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกมากขึ้น ในเส้นทางมุ่งสู่ภาคตะวันออก การทางพิเศษจะยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี สายบางนา-ชลบุรี ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 28 ธันวาคม จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 3 มกราคม 2554
        นอกจากนี้ ยังจัดตั้งหน่วยบริการผู้ใช้ทางพิเศษช่วงเทศกาลปีใหม่ 5 จุด ได้แก่ ด่านอโศก ด่านบางแก้ว ด่านบางขุนเทียน และด่านบางปะอิน ทั้งขาเข้าและขาออก โดยบริการฟรี ตรวจสภาพเครื่องยนต์ เติมลม เติมน้ำกลั่น ตรวจเช็คแบตเตอรี่ และเป็นจุดพักแจกน้ำดื่มและกาแฟ พร้อมปล่อยขบวนรถเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือ ตรวจตราดูแลสิ่งผิดปกติบนทางพิเศษตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

กระทรวงสาธารณสุข จับมือ กลุ่มเพื่อนชุมชน ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมมือผลิตพยาบาล ๒๐๐ ทุน ลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาลในพื้นที่

กระทรวงสาธารณสุข จับมือ กลุ่มเพื่อนชุมชน ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมมือผลิตพยาบาล ๒๐๐ ทุน ลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาลในพื้นที่
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง





    นายแพทย์ทนงสรรค์  สุธาธรรม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก การขาดแคลนพยาบาลของจังหวัดระยอง   อัน มีสาเหตุมาจาก การเพิ่มจำนวนประชากร รวมถึงประชากรแฝงที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่ การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมทำให้ความต้องการในด้านสาธารณสุขมีเพิ่มมากขึ้น   ในขณะที่จำนวนพยาบาลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ในจังหวัดระยอง ยังมีจำนวนน้อย จึงไม่สามารถให้บริการสุขภาพได้อย่างพอเพียง “กลุ่มเพื่อนชุมชน”  ซึ่งประกอบไปด้วย  5 บริษัท คือ กลุ่มบริษัท ปตท. , เอสซีจี, บีแอลซีพี, ดาว เคมิคอล และโกล์ว เห็นถึงความจำเป็นในการผลิตพยาบาลเพิ่มขึ้น    เพื่อตอบสนองปัญหาความขาดแคลนพยาบาลได้แสดง  ถึงเจตนารมณ์ความร่วมมือในการมีส่วนร่วมผลิตพยาบาล   ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล  ในพื้นที่จังหวัดระยอง   จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุขกับภาคอุตสาหกรรม


     ด้านนายปรเมษฐ์  กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง   กล่าว ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนทุนการศึกษา อันเป็นการให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพของประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้มีการประชุมผลักดันโครงการต่างๆ  เพื่อ แก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่มาโดยตลอด การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้จึงได้จัดทำขึ้น เพื่อผลิตพยาบาลวิชาชีพ และส่งเสริมให้นักเรียนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดระยอง      ได้โอกาสรับทุน เพื่อศึกษาต่อเป็นพยาบาล รวมถึงการมีงานทำในโรงพยาบาลในพื้นที่ โดยแต่ละหน่วยงานจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก  เช่น   ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองจะคัดเลือกนักเรียนเข้าร่วมโครงการ    จำนวน  ๒๐๐  คน     หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรีและวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี ตามความเห็นควรของสถาบันพระบรมราชชนก  กลุ่มเพื่อนชุมชน   สนับ สนุนการกวดวิชาแก่ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ สนับสนุนงบประมาณ ด้านทุนการศึกษาให้นักเรียนพยาบาล ทุนละ ๖๐,๐๐๐ บาท/ปีการศึกษา ระยะเวลา ๔ ปี (การศึกษา ๒๕๕๔-๒๕๕๗) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๔๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท   (สี่สิบแปดล้านบาท)     เมื่อ สำเร็จการศึกษา พยาบาลเหล่านี้จะได้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลและสถานีอนามัย ในเขตควบคุมมลพิษเพื่อให้บริการแก่พี่น้อง ประชาชน ให้มีความพึงพอใจและเพียงพอต่อความต้องการต่อไป และคาดว่าในโอกาสต่อไป คนระยองคงได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

สสจ.หนองบัวลำภูตรวจร้านค้า รณรงค์กระเช้าไทยไร้แอลกอฮอล์

สสจ.หนองบัวลำภูตรวจร้านค้า รณรงค์กระเช้าไทยไร้แอลกอฮอล์
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by งานประชาสัมพันธ์ สสจ.หนองบัวลำภู

          เมื่อ วันที่ 23 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย น.พ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู ออกสำรวจร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองเพื่อตรวจกระเช้าของขวัญ และรณรงค์กระเช้าของขวัญปลอดเหล้า โดยได้กำชับให้ผู้ประกอบการจัดกระเช้าที่มีคุณภาพ ไม่มีสินค้าหมดอายุ และไม่มีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บรรจุอยู่ พร้อมทั้งให้ติดฉลากแสดงรายชื่อสินค้า วันหมดอายุ และราคาสินค้าให้เห็นชัดเจน ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการทางกฎหมายทันที.

มหาสารคามจัดตลาดนัดสุขภาพ

มหาสารคามจัดตลาดนัดสุขภาพ
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
ตลาด นัดสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับภาคีเครือข่ายบริการสุขภาพโรงพยาบาลโกสุมพิสัย จัดตลาดนัดสุขภาพ เพื่อถ่ายทอดความรู้การดูแลสุขภาพสู่ประชาชน ที่โรงพยาบาลโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นายศิริพันธ์ ขุ่มด้วงนายอำเภอโกสุมพิสัย พร้อมด้วยเครือข่ายบริการสุขภาพโรงพยาบาลโกสุมพิสัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดตลาดนัดสุขภาพนำร่องขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมมอบใบประกาศแก่ร้านอาหารที่ผ่านมาตรฐาน Clean Food good test เพื่อเป็นร้านอาหารต้นแบบด้านความปลอดภัยและเป็นการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ ของประชาชน โดยยึดหลัก 6 อ. ได้แก่ อ. อาหาร ออกกำลังกาย อโรคยา อารมณ์ อนามัยสิ่งแวดล้อม และ อ.ที่ 6 คืออบายมุข นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างเสริมให้บุคลากรในองค์กรและประชาชนในเขตพื้นที่ อำเภอโกสุมพิสัยและจังหวัดมหาสารคาม ตื่นตัวการบริโภคอาหารที่เหมาะสมและมีการออกกำลังกายต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้รับความรู้และมีทักษะด้านโภชนาการเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ทราบถึงแนวทางการจัดการภาวะอ้วนลงพุงด้วยตนเองและวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อ ป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคระบบหัวใจและโรคหลอดเลือด อันจะนำไปสู่การให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมการออกกำลังกายของประชาชนทุกกลุ่มอายุ ที่ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างลงตัว รวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตผลการเกษตรปลอดภัยจากสารพิษ สินค้าบริโภคสำเร็จรูป และสินค้าสมุนไพร โดยสินค้าทุกอย่างผ่านการตรวจสอบสารปนเปื้อนจากโรงพยาบาล และตลาดนัดสุขภาพกำหนดจัดขึ้นทุกวันพุธของสัปดาห์

จังหวัดอ่างทองจัดการแข่งขันกีฬาสาธารณสุขสัมพันธ์ ครั้งที่ 20 "อินทนิลเกมส์"

จังหวัดอ่างทองจัดการแข่งขันกีฬาสาธารณสุขสัมพันธ์ ครั้งที่ 20 "อินทนิลเกมส์"
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by งานสนับสนุนการสร้างสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง

นาย สาโรจน์  มะรุมดี  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง จัดการแข่งขันกีฬาสาธารณสุขสัมพันธ์ ครั้งที่ 20 “อินทนิลเกมส์” เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ธ.ค. 53  ณ สนามกีฬาโรงเรียนสามโก้วิทยาคม  อ.สามโก้    โดยมีนายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน และมีคณะผู้บริหาร พร้อมทั้งบุคลากรสาธารณสุขร่วมงาน โดยพร้อมเพียงกัน

ทั้งนี้ นายสาโรจน์   มะรุมดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง กล่าวต่อว่าการแข่งขันกีฬาสาธารณสุขสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรสาธารณสุข มีสุขภาพพลานามัย      ที่ สมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มีสติปัญญา มีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน  พร้อมทั้งส่งเสริมความรักความสามัคคี ให้เป็น    น้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อประสิทธิผลของการปฏิบัติงาน อันจะนำไปสู่องค์กรที่เข้มแข็ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

สาธารณสุขร้อยเอ็ด เข้ม ! เลือกเฟ้น อสม.ดีเด่น 12 สาขา เตรียมเข้าสู่เวทีระดับประเทศ

สาธารณสุขร้อยเอ็ด เข้ม ! เลือกเฟ้น อสม.ดีเด่น 12 สาขา เตรียมเข้าสู่เวทีระดับประเทศ
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by พิมลสิริ มณีฉาย งานสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด

สาธารณสุขร้อยเอ็ด เข้ม...เลือกเฟ้น อสม.ดีเด่น 12 สาขา เตรียมเข้าสู่เวทีระดับประเทศ

นาย แพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้นร้อยเอ็ด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด สมาคม อสม.จังหวัดร้อยเอ็ด สมาคม อสม.ทุกอำเภอ และเครือข่ายสุขภาพ ได้ร่วมกันคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2554 จำนวน 12 สาขา เพื่อคัดเลือกสุดยอด อสม. ดีเด่นเข้าแข่งขันระดับเขต ระดับภาค และระดับประเทศ และเพื่อเชิดชูเกียรติ อสม.ที่ทำความดีต่อบ้านเกิดและต่อสังคม

ผลการประกวด ดังนี้

สาขา การจัดการสุขภาพชุมชน ได้แก่ อำเภอพนมไพร โพธิ์ชัย สุวรรรณภูมิ และปทุมรัตต์      สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อำเภออาจสามารถและสุวรรณภูมิ        สาขาการบริการใน ศสมช. ได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อาจสามารถ และโพธิ์ชัย      สาขาการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ อำเภอโพธิ์ชัยและสุวรรณภูมิ        สาขาอนามัยแม่และเด็ก ได้แก่ อำเภอโพธิ์ชัยและสุวรรณภูมิ     สาขาการควบคุมโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ อำเภอสุวรรณภูมิและหนองฮี       สาขายาเสพติดในชุมชน ได้แก่ อำเภอโพธิ์ชัยและสุวรรณภูมิ       สาขาสุขภาพจิตในชุมชน ได้แก่ อำเภอโพธิ์ชัยและสุวรรณภูมิ      สาขาเอดส์ในชุมชน ได้แก่ อำเภอสุวรรณภูมิ เสลภูมิ และธวัชบุรี      สาขาการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่ อำเภอสุวรรณภูมิ หนองฮี เมยวดี และโพธิ์ชัย            สาขาการแพทย์แผนไทย ได้แก่ อำเภอสุวรรณภูมิ พนมไพร และธวัชบุรี      สาขาการควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ อำเภอสุวรรณภูมิ โพธิ์ชัย และจตุรพักตรพิมาน

ทั้ง นี้ คณะกรรมการดำเนินการประกวด จะลงพื้นที่เพื่อติดตามดูผลงาน อสม.ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก เพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียงสาขาละ 1 คน เพื่อส่งเข้าแข่งขันระดับเขต ระดับภาค และระดับประเทศ ต่อไป ซึ่งกำหนดการออกติดตามผลงาน ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2553 – วันที่ 5 มกราคม 2554

สสจ.พัทลุง จัดประชุมนำเสนอผลงานเด่นด้านการพัฒนางานสาธารณสุข ประจำปี 2553

สสจ.พัทลุง จัดประชุมนำเสนอผลงานเด่นด้านการพัฒนางานสาธารณสุข ประจำปี 2553
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by งานสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ สสจ.พัทลุง

วันนี้(23 ธันวาคม 2553) เวลา 09.00 น. นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒนาปานนท์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ได้ให้เกียรติไปเป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการประกวดผลงานการพัฒนาด้านสาธารณสุข ประจำปี 2553" ณ ห้องประชุมโรงแรมชัยคณาธานี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงาน สาธารณสุขและค้นหาวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ทำให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่าง รวดเร็ว มุ่งไปในทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน และเพื่อแสวงหากระบวนการทำงานที่ดี มีประสิทธิภาพ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานของสาธารณสุขจังหวัดพัทลุงต่อไป

ซึ่งผลการประกวดผลงานเด่น 3 ด้านได้แก่ ด้านผลงานวิจัย ด้านโครงการเด่น และด้านนวัตกรรม ได้ดำเนินการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ผลการประกวดมีดังนี้

ประเภทผลงานวิจัย รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรื่อง ผลของกระบวนการ Medication Reconcilliation ผลงานของ ภญ.อนงนุช อ้นพุ่ม จากโรงพยาบาลพัทลุง รองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง สมรรถนหลัก กระบวนการบริหารและผลการดำเนินงานตามมาตรฐานศูนย์สุขภาพชุมชนของหัวหน้า หน่วยบริการปฐมภูมิ ผลงานของ นายอเนก กลิ่นรส จาก สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง ผลของการสวดมนต์ต่อระดับภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยสูงอายุหญิงที่เป็นโรคซึม เศร้า ผลงานของ นางอรทัย ณ พัทลุง จากโรงพยาบาลพัทลุง

ประเภทโครงการเด่น รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง การส่งเสริมและยกระดับการพัฒนาคุณภาพงานสุขศึกษา ของนายนพพร สมจิตต์ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง รองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่องโครงการพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยหอบหืด ผลงานของ นางบุญญา อักษรชู จากโรงพยาบาลป่าบอน รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่องการลดค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลในการสั่งซื้อ Mask N95 ผลงานของ นางวารุณี เวชรังสี จากโรงพยาบาลป่าบอน

ประเภทนวัตกรรม รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง เครื่องดักฝุ่นผ้าราคาประหยัด ผลงานของ งานซักฟอกและจ่ายกลาง โรงพยาบาลป่าบอน รองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่องพรมนวดฝ่าเท้า ผลงานของ งานการแพทย์แผนไทยและทางเลือก โรงพยาบาลพัทลุง รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่องเสื้อให้นมบุตรสำหรับมารดาหลังคลอด ผลงานของ งานสูติกรรมหลังคลอด โรงพยาบาลพัทลุง

ซึ่งจะมีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 24 ธันวาคม 2553 จากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 6   ณ ห้องประชุมโรงแรมชัยคณาธานี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

"ตราด"ร่วมกีฬาสาธารณสุข เขต๙

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด

ร่วมแข่งขันกีฬาสาธารณสุข เขต๙

        วันที่๒๒-๒๔ธันวาคม๒๕๕๓ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด นำทีมโดยนายแพทย์ชุมพล สุวรรณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด,นายแพทย์จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด,นายแพทย์โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์ด้านเวชกรรมฯ,นายสุรชัย เจียมกูล นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ(ด้านส่งเสริมพัฒนา),นางนวลน้อย ธรรมกิตติคุณ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ(ด้านวิชาการ)พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมแข่งขัน"กีฬาสาธารณสุข เขต๙" ประกอบด้วย๔จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี(สีน้ำเงิน),ระยอง(สีเขียว),จันทบุรี(สีเหลือง),ตราด(สีบาน เย็น)แข่งขันกีฬาประกอบด้วย ฟุตบอล,บาสเกตบอล,วอลเลย์บอล,ฟุตซอล,เซปักตระก้อ,แบดมินตัน,เทเบิ้ล เทนนิส,เปตอง,ปาเป้า,หมากกระดานและกีฑา ประธานเปิดงานโดย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต๘และ๙ นางวีรวรรณ แตงแก้ว กล่าวรายงานโดยนายณรงค์ ธีรจันทรางกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี

ร.พ.ศิริราชเจ๋ง!! ปลูกถ่ายตับอ่อนสำเร็จแห่งแรกของไทย

       ศ.คลินิก น.พ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับคลินิกศัลยแพทย์ปลูกถ่ายอวัยวะแถลงความสำเร็จการปลูกถ่ายตับอ่อนแห่ง แรกของไทย โดยผู้ป่วยที่ได้ปลูกถ่ายคือ นายสมนึก พิสัยพันธ์ อายุ 47 ปี มีประวัติเป็นโรคเบาหวานมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ต้องฉีดอินซูลินทุกวัน ทำให้เป็นโรคไตวายเรื้อรังจากเบาหวาน เคยได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาคเมื่อปี 2550 แต่ยังต้องฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลทุกวัน
        การปลูกถ่ายตับอ่อนครั้งนี้ ได้ตับอ่อนจากผู้บริจาค ซึ่งได้ผ่าตัดเมื่อ 29 ตุลาคม 2553 และหลังจากผ่าตัดมา 2 เดือน ผู้ป่วยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้ดี ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ต้องฉีดอินซูลิน หรือกินยาลดน้ำตาล
        ทั้งนี้ ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาล บอบบาง และทนการขาดเลือดได้ไม่นาน หากตับอ่อนบกพร่องจะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือต่ำกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการช็อกได้ การหาผู้บริจาคที่เหมาะสมกับผู้ป่วยได้ยาก และการผ่าตัดต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งการปลูกถ่ายตับอ่อนครั้งแรกของโลก ทำได้เมื่อปี 2509 แต่ว่ามีปัจจัยที่ละเอียดอ่อน ทำให้จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายตับอ่อนทั่วโลก จำนวนเพียงแค่กว่า 20,000 รายเท่านั้น

เครือข่ายผู้บริโภคฯ ร้อง สคบ.แก้ปัญหาค่ายมือถือกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน

       ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคภาคกลาง เข้ายื่นหนังต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ปัญหา การกำหนดวันหมดอายุบัตรเดิม กรณีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินทุกเครือข่าย ที่มีร้อยละ 90 ของผู้ใช้มือถือทั้งระบบนั้นได้ถูกบริษัทผู้ให้บริการ กำหนดอายุการใช้งานโทรศัพท์ระบบเติมเงินและยึดเงิน หากว่าใช้เงินไม่หมดตามเวลาที่ระบุเอาไว้
        สำหรับขอบเขตการคุ้มครองของ สคบ.ระบุว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา แม้ไม่มีผู้บริโภคมาร้องเรียน แต่หากว่า สคบ.เห็นว่า ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถดำเนินการได้ ขณะเดียวกันความรู้เรื่องกฎหมายของประชาชน ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ หรือว่า 100 คนจะมีการร้องเรียนเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ 1200

บขส.จัดรถเสริมกว่า 5 พันคันรองรับ ปชช.เดินทางปีใหม่

       นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยถึงมาตรการการเตรียมรถโดยสารบริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาใน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า ขณะนี้ บขส.ได้เตรียมรถเสริมรวมกว่า 5,000 เที่ยว ซึ่งรองรับประชาชนเดินทางได้กว่า 200,000 คน ซึ่งการเดินทางนั้นคาดว่าจะมีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับตั้งแต่เย็นวัน พรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) และจะหนาแน่นมากในวันที่ 29 และ 30 ธันวาคม ซึ่งตลอดทุกปีจะมีการทำสถิติบันทึกไว้แล้ว และในปีหน้าคาดว่าจำนวนผู้โดยสารก็จะมีปริมาณมากดังเช่นทุกปี
        ส่วนมาตรการดูแลพนักงานขับรถนั้น บขส.มีมาตรการตรวจสอบดำเนินการเข้มมาตลอด โดยเน้นเรื่องการพักผ่อน และการดื่มสุราด้วย ซึ่งหากบริษัทใดทำผิดฝ่าฝืนกฎก็จะถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด รวมทั้งเรื่องตั๋วผีด้วย ส่วนการเดินทางกลับนั้น ได้สั่งการให้ขนส่งแต่ละจังหวัด ประเมินจำนวนผู้โดยสารและจัดรถปริมาณให้เพียงพอ โดย บขส.ก็มีการเตรียมรถเปล่าคอยรองรับประชาชน ซึ่งคาดว่าจะเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม เป็นต้นไป
        อย่างไรก็ตาม ขอเตือนประชาชนที่จะเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งต่างๆ ควรเผื่อเวลาเดินทาง และเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากการเดินทางในวันนั้น การจราจราค่อนข้างติดขัด และงดใส่เครื่องประดับมีค่า และระวังแก๊งมิจฉาชีพ หากพบสิ่งผิดปกติ ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที