++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มูลค่าพ่อราคา 3.5 แสน

//// :::นึกถึงวันที่เอาเงิน 1 แสนบาท ไปคืน... ขอบคุณมากครับ คุณลุง..อย่าเสียใจไปเลยครับ ///


.....................ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติดกัน มีคุณลุงคนหนึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆ ทั้ง 3 คนต่างก็แต่งงาน มีครอบครัว ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด ..ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียว มาเกือบ 10 ปี

..........เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก ..มีโรคประจำตัวตาม ประสาคนแก่ คือ เบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ...

ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วย เหลือ ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุระต่างๆ และถ้าป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูกๆ ของแกให้.....ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส


แต่ !!! เรารู้ว่า คุณลุงเหงา !!!!..

..........บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะ ท่านเสียไปหลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่...

..........ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้ ...ลุงก็ดีใจ ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่ ...

แล้ว!!!.................

ท่านก็ได้แต่ รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ ......จนน้ำตาไหล ท่านได้แต่เฝ้ารอ นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้าน รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้างในช่วงเทศกาล ....
หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ...เจอเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาข้างกายของคนที่เรียกลุงว่าพ่อ

..........เราก็ได้แค่ ปลอบ ว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่าๆ...

............ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อย เป็นพิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และคุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง.......ลุงจะคัดลูกสวยๆ เก็บใส่กล่อง ดูแลเป็นพิเศษ...เก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ .......หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุงรอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน

หลายปี ????? มานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้ด้วยใจรัก แม้แต่ครั้งเดียว

........คุณลุงมีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ ...5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่ สุดก็มีผู้สนใจ และก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท ...

........เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ...คิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่า จะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน ...

..........วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไปโอนเงินให้ลูก เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร...คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท ...

..........เมื่อกลับมา...จอดรถส่งลุงหน้าบ้าน...ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงินในกระเป๋า 1 แสนบาทยื่นส่งให้ บอกว่า..เอานี่ "ลุงให้" เรารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว

ลุงบอกว่า "เอาไปเถอะ...........ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเราต้องรับโทรศัพท์และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับรถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไรตอบแทนบ้างเลย
พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้สารพัด....
......รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ....เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง

..........กลับมานอนคิดไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ...แต่ลุงไม่รับคืนและยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริงๆ....

...........อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็ก และคนกลางมาเยี่ยม และทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า...เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้านหยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง...

..........ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้แล้วเดินออกมา
ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป ...................สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว

คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ..ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้...
ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท...

..........เราบอก ว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น..

..........อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโต
........... เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ.. พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนาหลายวัน ออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก..

..........พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆ...เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหม เดี๋ยวกลับไปพี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้

.............. ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร.....เราปฏิเสธไป


..........วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่า วางแผนไว้แล้ว อีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่...เราสังเกตเห็นแววตาอันสดใสของคุณลุง บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด

.......ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว

..........ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทินที่คุณลุงขีดฆ่าวันแล้ววันเล่า ...เดือนแล้วเดือนเล่า..ปีแล้วปีเล่า

และสุดท้าย........

..... ลุง ..... ลุง..... ลุง.....น่าจะอดทนรออีกนิด ..อีกนิดเดียวเองครับลุง ความสุขที่ลุงเฝ้าฝันใฝ่หามาตลอดจากลูกชายที่ลุงรักสุดหัวใจ..

............ในห้อง ไอซียู เรากับพี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้.......ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ...ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ
..................................................................................................................................

.....................ชายชราที่เกิดมาเพื่อรอคอย ความอบอุ่นจากบุตร จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับมา.......................

*** หลังงานศพ เสร็จสิ้น..........................ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้

บอกว่า -- พ่อฝากไว้ให้
พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ...
เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง......
จ่าหน้าว่า... คืนเงิน เดือนที่ 1-2-3...ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ

............ซองสุดท้าย มีข้อความว่า...

ถึง...
......หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ...ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญา .....
...ขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆเรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด...
.................................................................
...................ป้ามารอลุงแล้ว...ลุงต้องไปก่อน.

-------------------------------------------------------------------------------------------


............อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด...เราสังเกตเห็นปฏิทินที่คุณลุงใช้ขีดฆ่า เพื่อนับวันรอลูกๆ ...ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน ....


-------- เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้.....ขายบ้านด่วน !!!!! --------

.................เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด ..นึกถึงภาพคนแก่ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลขบนปฏิทินด้วยอาการมือสั่นเทา ... แต่ใจแอบยิ้มเฝ้าฝันวันลูกชายที่รักกลับมาใกล้กาย.....

.................ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้มันซ่อนความห่วงหาอาลัย ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ..ซ่อนความเจ็บปวดร้าวลึกของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดียวเพียงลำพังมานานกว่า 10 ปี ...

.................ความรู้สึกทั้งหมด คงซึมซับอยู่ในปลายปากกาที่ขีดเขียนลงไปในแต่ละครั้ง
ในบางครั้งเรารอคนที่เรารักเพียง 1 วัน 1 ชั่วโมง 1 นาที ยังทนแทบไม่ได้ อยากเจอใจจะขาด ส่วนลุงที่รอมาจาก 365 วัน เป็น 730 วัน เป็น 1095 วัน เป็น 1460 วัน จนวันสุดท้ายของลมหายใจ สภาพจิตใจคงย่ำแย่ เกินกว่าใครคนใดจะรู้ได้ แต่ทำไมทุกครั้งที่เราเจอลุงยังยิ้มได้ตลอดเวลา


.................เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก...ตลอดไป...

*** .............ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดีทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ..ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น ...................................... ชั่วนิรันดร์.......


...............รักคุณลุงครับ

เผื่อจะรักคนรอบตัวขึ้นมากกว่าเดิมค่ะ สำหรับคนที่คุณเรียกว่า "พ่อ" ขอให้ทุกคนที่อ่านจบ รักคนรอบข้างให้มากๆนะคะคนที่ใกล้ตัวเราที่สุดมักจะเป็นคนที่เราอาจจะละเลยมากที่สุดแต่ใครคนนั้น...ไม่เคยละเลยต่อคุณเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น