โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 20 ธันวาคม 2553 16:47 น.
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้จัดงานมอบรางวัล “รัษฎากรพิพัฒน์” ที่ใช้ภาษาอังกฤษว่า “ Taxpayer Recognition Award” นับว่าน่าสนใจมาก เพราะนี่เป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติทางด้านภาษี ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและมาตรฐานความน่าเชื่อถือในความรับผิดชอบของผู้ เสียภาษีที่ดี มีส่วนสร้างชาติและก่อประโยชน์ต่อประเทศเป็นส่วนรวม
กรมสรรพากรต้องการให้คุณค่าที่สร้างความภาคภูมิใจแก่ผู้ได้รับ และสมควรยกให้เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไทย
ในขณะเดียวกันก็หวังจะสร้างผลกระทบหรือกระตุ้นให้เกิดกระแสสังคม เร่งให้การประกอบการในภาคธุรกิจมีความโปร่งใส รู้จักรับผิดชอบต่อการสร้างความเจริญให้กิจการธุรกิจ พร้อมๆ กับมีสำนึกในหน้าที่ที่ดีต่อบ้านเมือง ให้เกิดจิตสำนึกที่จะดำเนินการด้วยหลักบรรษัทภิบาลอย่างเต็มตัว อันจะส่งผลดีต่อความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ และช่วยสร้างศักยภาพในเชิงจริยธรรมทางการค้า ซึ่งจะส่งเสริมให้เป็นที่ยอมรับและเกิดความมั่นคงยั่งยืน
นี่จึงนับเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมให้เกิด “ประสิทธิผล” ในการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรดีขึ้นตามลำดับ ส่วน “ประสิทธิภาพ” จะเกิดขึ้นได้เมื่อการจัดเก็บทำได้ “เต็มที่-ถูกต้อง-โปร่งใส”
ในขณะที่สังคมทั้งภาคผู้ประกอบการหรือนิติบุคคล และบุคคลที่ทำงานมีรายได้ เสียภาษีอย่างถูกต้องทั่วถึง
ไม่ใช่เพียงเพราะกฎหมายบังคับ แต่รัฐต้องทำให้สังคมทุกระดับมีความรับผิดชอบในการเสียภาษีด้วยความรู้สึก “ถูกต้อง-ภูมิใจ-ให้ชาติ”
รัฐจึงจำเป็นต้องสร้างความตระหนักรู้ว่า “การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองดี” เพราะภาษีจะถูกนำไปพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายจ่ายของรัฐในการเป็นเงินเดือนข้าราชการ และการสร้างเสริมสิ่งจำเป็นของประเทศชาติ รัฐต้องหารายได้มาจากภาษีอากร
อย่างเช่นงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 ที่ตั้งไว้ 1.7 ล้านล้านบาทนั้น ก็มีเป้าหมายรายได้จากภาษี 1.35 แสนล้านบาท ที่ขาดไปรัฐก็ต้องหาเงินกู้มาปิดหีบ
ดังนั้น การขยายฐานการเก็บภาษีให้ทั่วถึงและถูกต้อง จึงเป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่มีกฎหมายบังคับและมีโทษเป็นเครื่องมือเอาผิด การยกย่องผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง มีมาตรฐาน ก็เป็นการส่งเสริมมาตรการดังกล่าว
การมอบรางวัล “รัษฎากรพิพัฒน์” แก่ผู้เสียภาษีที่ดี ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งแรก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ผู้เสียภาษีนิติบุคคลที่ได้รับการคัดเลือก (จำนวน 3 ราย)
คุณสมบัติ
1.บริษัทฯ หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ประกอบกิจการไม่น้อยกว่า 3 ปี
2.มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป
3.ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ภายในกำหนดเวลาต่อเนื่อง 3 รอบระยะเวลาบัญชี โดยแสดงรายได้และชำระภาษีเพิ่มขึ้นปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาบัญชีที่ผ่านมา (รอบระยะเวลาบัญชีปี 2550-2552)
4.ผลการตรวจสภาพมีความมั่นคง และให้ความร่วมมือในการเสียภาษีอากร
กลุ่มที่ 2 ผู้เสียภาษีนิติบุคคลที่มีคุณภาพเป็นรายจังหวัด (จำนวน 76 ราย)
คุณสมบัติ
1.บริษัทฯ หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ประกอบกิจการไม่น้อยกว่า 3 ปี
2.ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ภายในกำหนดเวลาต่อเนื่อง 3 รอบระยะเวลาบัญชี (รอบระยะเวลาบัญชีปี 2550-2552)
3.เป็นผู้เสียภาษีที่มีความน่าเชื่อถือ และให้ความร่วมมือในการเสียภาษีอากร
กลุ่มที่ 3 ผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่มีคุณภาพ (จำนวน 20 ราย)
คุณสมบัติ
1.บุคคลธรรมดา ประกอบกิจการไม่น้อยกว่า 3 ปี
2.ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในกำหนดเวลาต่อเนื่อง 3 ปีภาษี (ปีภาษี 2550-2552)
3.เป็นผู้เสียภาษีที่มีความน่าเชื่อถือ และให้ความร่วมมือในการเสียภาษีอากร
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า ในบรรดากิจการธุรกิจที่ได้รางวัลครั้งนี้ มีเพียง บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับรางวัลในกลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็นกิจการที่สังคมไทยรู้จักกว้างขวาง เพราะบริหารเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกที่มีสาขาทั่วประเทศ
ถ้าบอกว่ารางวัลนี้ยกย่องกิจการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้านการเสียภาษี ที่ดีน่าเชื่อถือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนก็ควรอยู่ในมาตรฐานนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น