งู-งู-งู

ใช่ครับ งู ใครๆก็กลัวงูกันทั้งนั้น

แต่ งู คราวนี้ ไม่ใช่งูจริงๆ ไม่ใช่งู ที่เป็นตัวเป็นตน แต่ถ้าจะเอาตาม ตำราไทย และตำราฝรั่งมารวมกัน จะเห็นว่ามันร้ายกว่างูเป็นๆเสียอีก

มันคือ งูสวัด ครับ

เรื่องงูตัวนี้ มีเรื่องสนุกเยอะ เพราะ ฉะนั้นจะขอคุยยาวหน่อย ผมตั้งใจว่าจะ เอาเรื่องงูตัวนี้เป็น CASE STUDY คือเป็นตัวอย่างในเรื่องโรค ที่จะช่วยให้เราเรียนรู้ในเรื่อง การแพทย์ปัจจุบัน การแพทย์ทางเลือก และการแพทย์แบบผสมผสานไปพร้อมๆกัน

ต้องขอย้ำอีกทีนะครับว่า คอลัมน์ ปั้นชีวิตด้วยชีวจิต นี้เป็นเรื่องของการแพทย์ทางเลือกและการแพทย์แบบผสมผสาน ซึ่งผม (ขอประทานโทษที่ต้องอวดอ้างตัวเอง) เป็นคนแรกที่เอาวิชาการแบบนี้มาใช้ในเมืองไทย

ต้องพูดอย่างนี้ไว้ก่อน เพื่อที่ว่าคุณหมอ (บางคน) ที่คอยจ้องจะห้ำหั่นผมอยู่ทุกขณะเวลานี้ จะได้ทราบว่าการแพทย์แบบผสมผสานนั้นมีหลักฐานทางวิชาการที่แน่นอน แม้ว่าบางอย่างจะไม่ตรงกับที่คุณหมอเหล่านั้นได้ร่ำเรียนมา แต่ก็ไม่ใช่ของเถื่อนหรือยกเมฆกันแน่นอน

ขอย้ำอีกนิดหนึ่งว่า ขณะนี้โรงพยาบาลชุมชนของรัฐบาลหลายแห่ง ได้ขอให้ผมไปสอนเรื่องการแพทย์ทางเลือกและการแพทย์ แบบผสมผสานแก่โรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลชุมชน ซึ่งค่อนข้างจะขาดแคลนบุคคลทางการแพทย์ และขาดแคลนเครื่องไม้เครื่องมือสมัยใหม่นั้น จำเป็นที่จะต้องเสาะแสวงหาเครื่องไม้เครื่องมือและยาง่ายๆ ที่จะช่วยคนไข้เหล่านั้นอย่างได้ผลและในราคาที่คนไข้พอจะจ่ายได้

ความรู้เช่นว่านี้ได้ช่วยให้โรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งได้ช่วยคนไข้ ที่ค่อนข้างจะขาดแคลนเงินทองได้เป็นอย่างดี และยังสามารถมีรายได้ของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จนสามารถเอาเงินไปขยายกิจการของโรงพยาบาลให้ช่วยคนได้อีกมากมายเช่นกัน

ไม่เชื่อก็บอกมา ผมจะได้เอารายชื่อของโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ มาแจ้งให้ท่านผู้อ่านได้ทราบต่อไป

ขอประทานโทษท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำของคอลัมน์ ปั้นชีวิต นะครับ ขออนุญาตพูดถึงเรื่องงานของผมเสียบ้าง เพราะขณะนี้กำลังโดนโจมตีหนัก ถ้าไม่พูด ไม่ตอบโต้เสียบ้าง อีกหน่อยผมคงถูกตีจนหมดแรง และคงไม่มีข้อเขียน ที่จะมาเล่ามาคุยกับคุณอีกต่อไป

เอาละครับ ก็ขอเข้าเรื่อง งูซึ่งไม่ใช่งูเป็นๆ นี้เสียที ขอคุยแถมอีกนิดเดียวว่า นี่เป็นโอกาสเหมาะที่สุดที่ต้องคุยเรื่อง งู-งู-งู นี้ ก็เพราะขณะที่เขียนเรื่องนี้อยู่ ผมกำลังป่วยด้วยเจ้างูตัวนี้กัดอยู่พอดี เลยจะมีเรื่องวิธีรักษางูสวัด แบบผสมผสานมาเล่าพร้อมกันไปด้วย

ชื่อ งูสวัด นี้เหมาะสมมาก เพราะโรคนี้พบมานานแล้ว ของไทยเราก็มีมาตั้งแต่โบราณ โดยเชื่อกันว่า เมื่อเป็นแผลพุพองอักเสบที่หย่อมใดหย่อมหนึ่งแล้ว มันจะขึ้นต่อๆไปอีกเป็นหย่อมๆ จนกระทั่งเป็นรอบตัว การที่เป็นรอบตัวนี้ จะมีลักษณะเหมือนงูรัด จึงเรียกว่า งูสวัด ซึ่งถ้าจะเอาความหมายตามพจนานุกรมไทยก็บอกไว้แต่เพียงว่า ชื่อโรคเกิดจากพิษอักเสบตามผิวหนังทำให้คันแสบร้อน

แต่ถ้าจะเอาจากชื่อโรคแบบฝรั่งชาวบ้าน จะเรียกกันว่า SHINGLES ถ้าเอาชื่อภาษาการแพทย์ก็จะเป็น HERPES ZOSTER คำว่า HERPES แปลว่าการอักเสบที่ผิวหนังหรือเยื่อผิวหนัง และจะบอกให้ทราบต่อไปอีกจากคำคำนี้ว่า โรคต่างๆที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า HERPES นี้ หมายถึงโรคซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส คนไทยเริ่มรู้จักคำนี้ดีขึ้นเมื่อสมัยสักสิบกว่าปีนี้ คือ HERPES SIMPLEX || ซึ่งหมายถึง โรคเริมซึ่งเกิดที่บริเวณอวัยวะเพศ

แต่ HERPES ZOSTER นี้ จะว่าเป็นเริมก็คงได้เหมือนกัน แต่ ZOSTER นั้นเป็นภาษากรีก แปลว่า เข็มขัด หรือช่องทาง ตรงนี้ก็คงจะเห็นว่า ฝรั่งตั้งชื่อตามหลักการแพทย์คล้ายๆกับไทย ของไทยเห็นว่าเหมือนกับงูที่รัดรอบตัวเรา ของฝรั่งก็เห็นว่าเหมือนกับเข็มขัดรัดรอบตัวเราเหมือนกัน

อาการของมัน (ไม่นับระยะฟักตัว) ตอนเริ่มแรกจะมีไข้อ่อนๆ แล้วเริ่มรู้สึกคันผิวหนังที่จุดใดจุดหนึ่ง ส่วนมากเริ่มที่บริเวณหน้าอก หรือส่วนหลังด้านบน มักจะไม่ขึ้นเม็ดเดียว แต่จะขึ้นเป็นกระจุก หรือเป็นปื้น พอกระจุกแรกเริ่มขึ้น คันมาก พอเป็นตุ่มเล็กๆเม็ดใส จะปวดแสบปวดร้อน ต่อจากนั้นจะขึ้นต่อเป็นกระจุกๆจนกระทั่งขึ้นครึ่งตัว หรือรอบตัวเป็นลักษณะเข็มขัดหรืองูรัดดังกล่าวแล้ว

ตอนนี้แหละจะเกิดอาการปวดแสบ ปวดร้อนที่บริเวณแผลหรือตุ่ม โดยเหตุที่ไวรัสตัวนี้จะเกิดที่ปุ่มประสาทก่อน ฉะนั้นการอักเสบจะลามไปทั่วสายหรือเส้นประสาทจะเป็นการอักเสบเป็นช่องหรือ เป็นสายๆ

ตรงนี้แหละที่เชื่อกันว่าเป็นการทรมานที่สุดของ งูสวัด หรือ สายรัดเข็มขัด นี้ เพราะการปวดนั้นจะเป็นการปวดแบบจี๊ด แล้ววิ่งไปตามสายเป็นพักๆ บางคนก็ปวดได้เป็นแบบพักๆ แต่จะปวดอยู่ตลอดเวลาทีเดียว ในขณะเดียวกันแผลภายนอกก็จะปวดแสบปวดร้อน ถูกเข้าเบาๆหรือแม้แต่จะสวมเสื้อผ้าหนาหน่อย ก็จะสะดุ้งสุดตัว

ถ้าป่วยเป็นงูสวัดขนาดนี้ พูดถึงตัวเชื้อโรคหรือไวรัส HERPES ZOSTER นี้จะไม่น่ากลัวนัก แต่อาการปวดภายใน และอาการเจ็บแสบ หรือปวดแสบปวดร้อนของแผลภายนอกนี่สิ มันทรมานเหลือแสน ถ้าประกอบกับไข้แม้แต่จะอ่อนๆเข้าด้วย อาการก็เหมือนถูกไฟเผาตลอดเวลา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเหมือนในเนื้อ เพลงลูกทุ่ง เธอจ๋า พี่นอนไม่หลับ ได้แต่ กระสับกระส่าย อะไรทำนองนั้นนั่นแหละ

แล้วทำไงดี เอาไว้คุยต่อคราวหน้านะครับ พลาดไม่ได้ เพราะโรคนี้อาจจะลามเป็นอย่างอื่นร้ายแรงได้.