น.พ.ปิติ พลังวชิรา คณะแพทยศาสตร์ ศูนย์ผิวหนัง มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า รอยดำคล้ำใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุดังนี้ พันธุกรรม พักผ่อนไม่เพียงพอ เครียด หรืออาจมีโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ในแง่กลไกการทำงานของร่างกาย เชื่อว่าความเครียดหรือพันธุกรรมจะเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองผลิต ฮอร์โมนตัวหนึ่ง ซึ่งสามารถกระตุ้นเซลล์สร้างสีเมลาโนไซต์ ซึ่งอยู่รอบดวงตาให้สร้างรงควัตถุชื่อ เมลานิน เพิ่มปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้เห็นขอบตาดำคล้ำชัดเจนขึ้น นอกจากนั้น ภาวะการมีประจำเดือน ช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ซึ่งมีผลเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนสามารถทำให้ขอบตาคล้ำเพิ่มมากขึ้น ในวัยผู้สูงอายุที่มีขอบตาดำคล้ำจะเป็นอยู่นานและจะคงอยู่เช่นนั้นเรื่อยไป
น.พ.ปิติ กล่าวต่อว่า การที่เกิดรอยคล้ำใต้ตานั้น อีกประการหนึ่งสืบเนื่องมาจากผิวหนังรอบดวงตาบาง ไขมันใต้ผิวหนังมีน้อย ทำให้เห็นเงาดำเหล่านี้ชัดขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากหลอดเลือดดำ ซึ่งไหลผ่านบริเวณนั้น คนที่ผิวซีด หรือมีอาการเหน็ดเหนื่อย ก็จะเห็นขอบตาคล้ำชัดขึ้น เนื่องจากเหตุผลแบบเดียวกัน นอกจากนั้น อาจจะเกิดจากการมีเม็ดเลือดหลุดออกมานอกหลอดเลือดในบริเวณดังกล่าว ผู้ที่มีความกังวลเรื่องรอยคล้ำใต้ตา อาจทำให้เบาบางลงโดยใช้เครื่องสำอางทากลบ ทายาลบรอยดำ ทาครีมกันแดด และเมื่อออกแดดก็ให้สวมแว่นตา ซึ่งสามารถป้องกันแสงแดด อันจะส่งผลให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น แพทย์บางคนอาจรักษาโดยวิธีใช้คลื่นความถี่สูง (ultrasonic) ซึ่งสามารถทำให้รอยคล้ำใต้ตาลดลงได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น