พฤติกรรมการกินของคนไทยเราทุกวันนี้ เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่โหยหาแต่อาหาร ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน ซึ่งถือเป็นมหันตภัยตัวใหม่ ของสังคมไทย แล้วจะรับประทานอย่างไร เพื่อไม่ให้ต้องเสี่ยงกับโรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และอีกหลายๆโรค สมาคมภัตตาคารไทย จึงจัดบรรยายพิเศษ โดย อ.สง่า ดามาพงศ์ เจ้าของโครงการเมนูชูสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อช่วยให้คนไทยรับประทาน อย่างมีสุขภาพ
อ.สง่า กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยกำลังกลายเป็นโรคอ้วนติดอันดับ คือทุก 100 คน มีคนอ้วน 47 คน โรคนี้เป็นภัยเงียบที่คุกคามสังคมไทย เพราะคนไทยทิ้งอาหารไทย หันไปบริโภคอาหารที่เต็มไปด้วยไขมัน ดังนั้น เราคงต้องนำอาหารไทยกลับคืนสู่สังคมไทย และสร้างจิตสำนึกให้คนไทยรู้ว่า อาหารไทยมีคุณค่าและเป็นมรดกตกทอดกันมา บรรพบุรุษของเราปรุงอาหารแบบมีที่มาที่ไป และจะเรียกว่าปรับสมดุลให้แล้วก็ว่าได้ อย่าง แกงเขียวหวานใส่มะเขือพวง เพราะมะเขือพวงที่มีรสเฝื่อนนั้น ช่วยแก้เลี่ยนได้ดี และยังมีแคลเซียมและธาตุเหล็กสูงมาก, สะเดา ปลาดุก น้ำปลาหวาน ก็ถือเป็นอาหารที่ให้สารอาหารครบทุกหมู่จริงๆ ปลาดุกไขมันต่ำและมีโปรตีนสูง หรือ ข้าวต้มมัด ก็ให้ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ผลไม้ และไขมัน จนชาวต่างชาติยกให้อาหารไทยเป็นอาหารที่มีเสน่ห์ เพราะมีหลายรสชาติและมีสารอาหารครบถ้วน
มาถึงเมนูชูสุขภาพ ก็คืออาหาร 1 จาน ที่มีสารอาหารอย่างน้อย 4 หมู่ เลือกง่ายๆก็คือ ไขมันไม่เกินร้อยละ 30 มีรสไม่เค็มหรือหวานจัดเกินไป เพราะเวลานี้ความเค็มกำลังบั่นทอน สุขภาพของคนไทย นำมาซึ่งโรคความดันโลหิตสูง และปรุงจากผักสด ที่ปราศจากสารปนเปื้อน และส่วนใหญ่เป็น อาหารประเภทต้มไม่ใส่กะทิ อาหารที่มีผักมากๆ อาหารประเภทยำจะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพแบบง่ายๆ อ.สง่า ย้ำในตอนท้ายว่า อาหารไทยส่วนใหญ่เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ ขอให้คนไทยหันมารับประทานอาหารไทยอย่างภาคภูมิ และนำอาหารไทยกลับสู่สังคมและวิถีชีวิตของเรา หรืออย่างที่เขาบอกกันมาแต่โบราณว่า กินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นพื้น ร่วมไปกับการดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย ด้วยวิธีไหนก็ได้ และระวังอารมณ์ของตัวเอง สลัดความเครียดออกให้เร็วที่สุด แล้วคุณจะอยู่ได้อย่างมีสุขภาพดี.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น