++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2548

ภูมิปัญญาตะวันออก; เรื่องของลิ้น

ลิ้นเป็นอวัยวะสำคัญส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์
ลิ้นมีธรรมชาติและรูปร่างคล้ายกับหัวใจ
ลิ้นสัมพันธ์กับหัวใจและทำงานเป็นดั่ง
เข็มทิศหรือใบพายหางเสือเรือที่ควบคุม
การเปล่งเสียงที่ออกจากขั้วส่วนลึกของหัวใจ
หรือลิ้นสะท้อนความจริงจากใจก็เป็นได้
ลิ้นคือปลายบนสุดของขั้วพลังดินพลังหยิน
ที่ทำงานเป็นผู้ตรวจการควบคุมรสชาติอาหาร
ที่จะเข้าสู่ปาก สู่ร่างกาย ลิ้นคือยามด่านแรก
ที่เป็นผู้ส่งสัญญาณบอกระบบประสาทของร่างกายสู่สมองเพื่อสั่งการเพื่อ
เตรียมน้ำย่อย น้ำลาย ที่มีสัดส่วนของความเป็นกรด-ด่าง เข้มข้นหรือ
เจือจางก็จากสัญญาณรสอาหารที่เข้ามากระตุ้นบริเวณจุดต่างๆ
ตามลิ้น ปลายลิ้นด้านนอกเป็นบริเวณหยินสุดทำหน้าที่เด่นในการสัมผัสอาหาร
รสหวาน (หยินสุด) เช่นกัน ลัดเข้ามาขอบในเป็นรสเค็ม รสเปรี้ยวและ
รสขมอยู่บริเวณส่วนลึกภายในใกล้โคนลิ้น (หยาง)
จะเห็นว่าทุกครั้งที่เราไปหาแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ท่านจะให้
เราอ้าปากเอาไฟฉายส่องดูลิ้นและภายในลำคอ ที่จะสะท้อนสภาวะอาการผิดปกติ
จากระบบการหมุนเวียน
โลหิตของหัวใจที่ลิ้นมีส่วนสัมพันธ์ด้วย และ ลิ้นจะสะท้อนความผิดปกติเป็นผื่น เป็นตุ่ม
เป็นเม็ดบนผิวลิ้น ทำใหแพทย์สามารถวินิจฉัยอาการผิดปกติเบื้องต้นของสุขภาพคนเราได้
แพทย์จีนใช้การดูลิ้นคนไข้มาเป็นปัจจัยในการรักษาโรค
ตั้งแต่อดีตกาลเพราะคนจีนทราบดีว่าลิ้นคือจุดรวม
หรือหน้าต่างเป็นทางออกสะท้อนระบบการย่อยอาหารของกระเพาะลำ
ไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่จนสิ้นสุดทวารหนัก ดังนั้น อาหารการกินจึงเป็นปัจจัย
สำคัญที่เป็นตัวการสำคัญ สู่ความเจ็บป่วย ในขณะเดียวกัน
อาหารก็เป็น ปัจจัยสำคัญในการเป็นยาที่ช่วยบำบัดและบรรเทาให้คนเรากลับมีสุข
ภาพสมบูรณ์ดีได้

ปราชญ์จีนสังเกตพบว่า ร่างกายนั้นอาจแบ่งเป็น2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วน
ศีรษะกับส่วนร่างกาย ส่วนศีรษะมีลักษณะกลม มีใบหน้ากลมคล้ายรูปไข่ ท่านจึงบัญญัติว่า
ส่วนศีรษะคนเรา นั้นเป็นผลิตภัณฑ์เด่นจากพลังฟ้า (หยาง)
รูปร่างทรงกลมเป็นลักษณะเด่นของสรรพวัตถุ มวลสสาร
ที่ลอยอยู่ในอวกาศ บนท้องฟ้า ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์
ดาวต่างๆ ล้วนมีลักษณะกลม เพราะลอยอยู่ด้วยตนเอง
ดังนั้น ส่วนศีรษะจึงเป็นสรีระช่วงแรกของการบรรจบของ
พลังฟ้า-ดิน จากจุดบรรจบขั้น 1 ถึง 3 ใน 7 ระดับที่พลังฟ้าเด่น ลิ้นก็
คือ ปลายขั้วดินที่พัฒนาระบบลำไส้ได้ ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร
หลอดอาหาร ลำคอขึ้นออกสู่ประตูบนคือปาก ลิ้นก็คือปลายสุดจากขั้วล่าง
กลับสู่เบื้องบน ดังนั้น เมื่อภายในลำไส้
มีสิ่งใดผิดปกติ ลิ้นก็จะนำอาการออกมาให้ปรากฏ
ระบบกระเพาะลำไส้และหลอดอาหารเป็นอวัยวะกลวง
โปร่งโล่งตรงกลาง (หยิน) แต่มีลิ้นเป็นส่วนหยางปลายสุด เมื่อใดลิ้น
แตะเพดานบนของปากด้านในประจุทั้งหลายจากส่วนเกินจากพลังดิน
ส่วนล่างก็จะได้รับการแผ่กระจายให้กับขั้วฟ้าบริเวณเพดาน
ดังนั้น เราจึงรู้สึกคันหรือจั๊กจี้เป็นใช้ลิ้นถูไปมาบริเวณเพดานเพราะประจุ
บวก-ลบของฟ้า-ดิน ทำปฏิกิริยากัน
การใช้ลิ้นดุนเพดานจึงเป็นวิธีการ สำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างประจุสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
และสร้างจุดศูนย์กลางของการรวมพลังฟ้า-ดินเป็นการเปิดสะพาน
กระแสไฟฟ้าในร่างกายหรือเปรียบเหมือนกับการสับสวิตช์กระแสไฟฟ้าให้วิ่ง
ครบวงจร จากส่วนศีรษะถ่ายเทสู่ส่วนล่างลำตัว และกลับไปมาได้ ลิ้นจึง
เป็นอุปกรณ์สำคัญนอกจากลิ้มรสอาหารแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นสะพาน
เชื่อมพลังภายในร่างกาย การฝึกสมาธิ การฝึกวิชากำลังภายในล้วนให้
ความสำคัญ ในการใช้ลิ้นเป็นปัจจัยที่มีส่วนร่วมและเป็นทั้งศูนย์กลาง
การควบคุมระบบจิตใจ และระบบสมองที่ละเอียดอ่อน
การสำรวจตรวจดูลักษณะลิ้น ให้สังเกตลักษณะเด่น 2 ระดับคือ
1. ลักษณะโครงสร้างของลิ้นคนเรา ว่ามีรูปร่างเช่นใด
แหลม (หยิน) เหลี่ยม (หยาง) แดง แบน หนา-บาง-กลม
ด้วยลักษณะโครงสร้างทำให้เราสามารถทราบถึงธาตุภูมิก่อนเกิดที่ทารกได้รับจาก
ภูมิมารดาตอนอยู่ในท้อง 9 เดือน ว่าธาตุเป็นเช่นใด ความกว้างของลิ้น
ลิ้นกว้าง แสดงว่า มีธาตุหยาง
ลิ้นแคบ แสดงว่า มีธาตุหยิน ธาตุอ่อนกว่า ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
จิตใจจะค่อนข้างละเอียดอ่อนกว่า ในขณะเดียวกันก็จะใจแคบด้วย ทั้งนี้
เพราะลิ้นแคบก็คือ หัวใจแคบเล็กเพราะลิ้นกับหัวใจสร้างมาด้วยระบบ
และเซลล์ช่วงเดียวกัน
ลิ้นกว้างแต่บางแบน แสดงถึงลักษณะอวัยวะภายในค่อนข้างจะหลวง
ยืดออกง่ายจะเป็นคนที่อ้วนและน้ำหนักขึ้นง่ายด้วย ในขณะที่มีแนวโน้มของปัญหา
ของสภาวะจิตใจที่อ่อนไหว และเปลี่ยนแปรเร็วหรือใจง่ายด้วย

- ในขณะที่คนที่มีปลายลิ้นแบนเกือบเป็นสี่เหลี่ยม จะธาตุภูมิที่แข็ง
นอก แต่อ่อนเปราะในบางครั้งดูแข็งแรง แต่หากรับความกดดันเกินไป
อาจมีการเสียสติจากผิดปกติ

- คนที่มีลิ้นเป็นแฉก มีร่องลึกตรงกลางเกือบแบ่งลิ้นเป็นสอง มักจะเป็น
คนสองจิตสองใจ เป็นคนอารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เหมือนกับเป็นคนสองคนในคนเดียวกันลักษณะของลิ้น
กับอาการสภาวะกายและจิตใจเป็นเพียง
การวินิจฉัยพอสังเขปที่สะท้อนถึงโครงสร้างลิ้นที่สัมพันธ์กับโครงสร้างหัว
ใจ ที่เป็นศูนย์กลางของเลือดที่คนเรามีเลือดเป็นปัจจัยและวัตถุดิบใน
การกำหนดคุณลักษณะรวมถึงสภาพจิตใจที่ได้รับอิทธิพลของคุณภาพ
ของเลือดที่มีความเป็นกรด หรือด่างแล้วแต่

ปัจจัยอาหารการกิน ซึ่งปัจจุบันอย่างที่ทุกคนทราบดีว่า น้ำตาล
ความ หวานจากการสกัดอ้อยผ่านกระบวนการ
สังเคราะห์ให้ความหวานที่เป็นน้ำตาลในเลือดคนเรา
ทุกวันนี้ เกือบทุกคนมีเลือดเป็นกรดแทนที่จะเป็นด่าง
ทำให้จิตใจคนส่วนใหญ่แปรปรวน และตกอยู่ภายใต้อิทธิพล
ของน้ำตาลในเลือด ที่คอยส่งสัญญาณไปสู่สมองและระบบประสาทให้
คนเราประพฤติตนผิดธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
จนถึงยุคปัจจุบัน เหตุการณ์ผิดธรรมชาติได้
ปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นความเคยชิน
ลิ้นที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความแสดงความจริงใจ ซื่อสัตย์ สุจริต การ
ยึดมั่นในคำพูด ในคำมั่นสัญญา คำไหนคำนั้น
มาบัดนี้ ลิ้นหมดสภาพของความเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของ
มนุษย์ยุค ค.ศ. 2000 แล้วอนาคตของประเทศชาติและมนุษยชาติจะเป็น
เช่นใด ถ้าลิ้นที่เรามีอยู่นี้ มิใช่ลิ้นเดิมที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างให้เรามา

สีของลิ้น : สีลิ้นแดงคล้ำ แสดงว่า เลือดคลั่ง สะดุด มีลักษณะที่บก
พร่อง เรื้อรังลึกอยู่ในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง

สีขาว : ลิ้นขาว
แสดงว่า ไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ สเลดมีมากในปอด นำไปสู่การเป็นโรคโลหิตจาง
เลือดขาดความเข้มข้น อวัยวะภายในเช่น ไตอ่อนแอ

สีเหลือง : แสดงว่ามีความบกพร่องในอวัยวะต้นที่เป็น
ส่วนผลิตน้ำย่อยเช่น ตับ ถุงน้ำดี ทำให้
การหลั่งของสารน้ำย่อยออกมาล้วนปนกระแสเลือดมากเกิน
ในขณะที่ไขมันจากอาหารเนื้อที่มีมัน ทำให้อวัยวะอักเสบหรือบวมด้วย

สีม่วงหรือน้ำเงิน : แสดงว่า ระบบการหมุนเวียนของเลือดสะอาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนระบบย่อยอาหาร ระบบลำไส้ที่นำวัตถุดิบจากสาร
อาหารไปสร้างเม็ดเลือดใหม่
ไม่สะดวกและครบวงจรอย่างที่ควร

สีเขียว : ถ้ามีสีเขียวบริเวณใดบนลิ้น
ให้ระวังอาการของโรคมะเร็งหรือโรคเสื่อมพันธุ์
เพราะแสดงว่า เซลล์เลือดในร่างกายเสื่อมถอยวิวัฒนาการจากสีแดงของสิ่งมีชีวิตสู่สีเขียว(โค
โรฟิน) ของตระกูลพืชที่เป็นการย้อนศรของวิวัฒนาการในกรณีที่มีไฝเกิด
ขึ้นบริเวณใดของลิ้น แสดงว่าอวัยวะภายในส่วนที่สัมพันธ์กับลิ้นมีการขับ
ดันโปรตีนส่วนเกินของอาหารเนื้อที่ย่อยยากหรือเนื้อที่
ผิดธรรมชาติ ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ตามปกติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อย่าง เนื้อบาร์บีคิวที่รับประทานทั้งอาหารและ
กับแกล้มสะสมในกระเพาะ ลำไส้อุดตันจนกลายเป็นคาร์บอนตกผลึก
แข็งเหมือนถ่านสำหรับลักษณะบริเวณลิ้นที่สัมพันธ์กับอวัยวะร่างกาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
โดยคุณ : ดาบส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น