นมแม่ ถือเป็นสิ่งพิเศษ สำหรับลูก แต่สถิติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น มีต่ำมาก โดยเฉพาะประเทศไทย มีสถิติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ครบ 6 เดือน เพียง 16% เท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้ องค์การยูนิเซฟ ืจึงร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และกลุ่มนมแม่ จัดประชุมระดมสมอง เพื่อกำหนดกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในประเทศไทย ตลอดจนเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง ในเรื่องความสำเร็จ ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้กับบรรดาแม่ๆ และว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
มร.เดวิด คลาร์ก เจ้าหน้าที่โครงการด้าน โภชนาการ องค์การยูนิเซฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า หากเด็กทุกคนได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวนับแต่แรกเกิดเป็นเวลา 6 เดือน เราก็จะไม่สูญเสียประชากรถึง 1.3 ล้านคน เพราะนมแม่ช่วยป้องกันเด็กให้ รอดพ้นจากโรคท้องร่วง การติดเชื้ออย่างเฉียบพลันที่ระบบหายใจ กระตุ้นระบบสร้าง ภูมิคุ้มกันในร่างกาย และปลุกเร้าร่างกายให้ตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีขึ้น กระตุ้นให้สมองเจริญเติบโตได้ดีขึ้น นอกจากนั้นเด็กที่ดื่มนมแม่ ยังช่วยสร้างสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้ ก่อให้เกิดการกระตุ้นและปฏิสัมพันธ์แบบพิเศษ ที่หาที่อื่นไม่ได้ เมื่อนมแม่มีแต่คุณค่า หลายประเทศจึงมีการประมวลสากลว่าด้วยการตลาด สำหรับสินค้าประเภทอาหารทดแทนนมแม่ ซึ่งตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลไทยหันมาใส่ใจ ในเรื่องเหล่านี้ อาทิ ห้ามเผยแพร่การใช้สินค้าประเภทอาหารทดแทนนมแม่ ขวดนม และหัวนมในหมู่ ประชาชนทั่วไป, หน่วยงานด้านอนามัยและผู้ปฏิบัติวิชาชีพ อนามัย ไม่ควรมีบทบาทส่งเสริมการเผยแพร่การใช้อาหารทดแทนนมแม่ และไม่ควรแจกตัวอย่างสินค้าประเภทนี้แก่หญิงมีครรภ์ แม่ลูกอ่อน และสมาชิกในครอบครัว
พ.ญ.พิพรรพร วรมงคล จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ ไทยมีโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูกกว่า 98% แต่เด็กยังกินนมแม่ผิดวิธี ทั้งที่เด็กสามารถกินนมแม่ได้อย่างเดียวหรืออย่างน้อยที่สุด 6 เดือน เพราะนมแม่มีคุณค่าและสารอาหารเพียงพอ หากต้องการเสริมอาหารก็สามารถทำได้ตามวัยหลัง 6 เดือน ตามความเป็นจริง น้ำนมแม่นั้นสามารถให้ลูกกินได้นานที่สุด ซึ่งอาจจะนานไปจนถึง 1-2 ปีก็ได้ ขณะนี้กรมอนามัยกำลังผลักดัน และอยู่ในระหว่างดำเนินการให้มีการปรับลาคลอดได้ถึง 4 เดือน เพื่อให้ แม่ได้เลี้ยงดูลูกได้นานที่สุด รวมทั้งการให้เด็กได้กินนมแม่ได้นานที่สุดไปจนถึง 2 ปี
พ.ญ.สุวิมล ชีวมงคล จากกลุ่มนมแม่ ได้เล่าถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ของเหล่าคุณแม่นับพันคนในจังหวัดต่างๆว่า แม่มีความรู้ไม่ชัดเจนในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือรู้ว่ามีประโยชน์ แต่ไม่ทราบว่าจะให้อย่างไรและนานเท่าไรดี หลายคนมีความตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่คิดว่าตัวเองมีน้ำนมไม่พอ หรือเสียงรอบข้างที่ไม่สนับสนุนให้กินนมแม่ ที่เป็นเหตุสำคัญให้แม่เข้าใจไม่ถูกต้อง ดังนั้น สังคมควรสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตลอดจนหน่วยงานที่ควรจัด มุมให้นมแม่ เพื่อให้แม่สามารถให้นมลูกได้ แม้ต้องไปทำงาน และสำคัญที่สุด ความเชื่อมั่นว่า นมแม่ดีจริง ก็เป็นอีกเรื่องที่เราควรสนับสนุน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น