ผลวิจัยหลายชิ้นพบว่า...สารสำคัญ ในชาเขียวมีคุณสมบัติต่อต้าน อนุมูลอิสระ เพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยยับยั้งการเกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง กล้ามเนื้อหัวใจตาย
ณ วันนี้ ชาเขียวกลายเป็นกระแสฮอตฮิต ในหมู่คนไทย จนกลายเป็นชาเขียวฟีเวอร์
สินค้านับไม่ถ้วนเปลี่ยนแปลง พัฒนาตัวให้มีส่วนประกอบชาเขียว ไม่ว่าจะด้วยส่วนประกอบวัตถุดิบหรือด้วยกลิ่น
ไม่เว้นกระทั่ง...ผ้าอนามัย ก็ยังมีผ้าอนามัยกลิ่นชาเขียว
ยุคแรก 2 ปีที่แล้ว บริษัทหนึ่งผลิตออกมาจำหน่ายในลักษณะแผ่นอนามัยชาเขียว ใช้รองป้องกันกลิ่นและสิ่งไม่พึงประสงค์ แล้วพัฒนารูปลักษณ์และการใช้งานเพิ่มเป็นผ้าอนามัยสูตรธรรมชาติ
ผู้บริโภคที่เคยใช้ผ้าอนามัยสูตรธรรมชาติบอกว่า ถึงบริษัทไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นผ้าอนามัย แต่ก็สัมผัสถึงความต่างจากผ้าอนามัยธรรมดา
ผ้าอนามัยสูตรธรรมชาติมีสีสันออกเขียวๆ ห่อมีลวดลายคล้ายใบชาเขียว เวลาใช้...ลดกลิ่นเหม็น กลิ่นอับของประจำเดือนได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลการพุ่งทำตลาดชาเขียวยี่ห้อดังๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สร้างมูลค่าทางการตลาดได้เกือบปีละ 5,000 ล้าน...
คาดการณ์ว่าสิ้นปี 2547 คนไทยจะบริโภคชาเขียวพร้อมดื่มประมาณ 100 ล้านลิตร
ข้อมูลนี้...นักวิเคราะห์ยังเชื่อมั่นต่อไปว่า...จะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ อีก 2-3 ปีข้างหน้า...มูลค่าการตลาดอาจพุ่งสูงถึง 10,000 ล้านบาท
ก้องเกียรติ วัติรางกูร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทยูนิเพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า พฤติกรรมการบริโภคชาเขียวพร้อมดื่มของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก
สาเหตุหลัก...มาจากประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากชาเขียว
สาเหตุรอง...ได้รับอารยธรรมจากประเทศญี่ปุ่น
สาเหตุสุดท้าย...บริษัทผู้ผลิตชาเขียวพร้อมดื่มโหมโฆษณาต่อเนื่อง ใช้ กลยุทธ์การตลาดเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายชาเขียวพร้อมดื่มเพิ่มขึ้น แต่เครื่องดื่มน้ำอัดลมแบบขวด กระป๋อง ยอดขายตกลงไป 5%...
คาดว่าสิ้นปีน่าจะลดลงถึง 7-8%
หลายคนอาจตั้งคำถาม...ชาเขียวที่คนไทยนิยมบริโภค มีประโยชน์ จริงหรือ?
วารสารสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ 60% และสารประกอบในชาเขียวยังช่วยยับยั้งอัตราการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็ง...และลดระดับคอเลสเทอรอล
แต่มีข้อแม้...ต้องดื่มอย่างน้อย 10 ถ้วยต่อวัน
ข้อมูลจากศาสตราจารย์มาซาชิโอมูริ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชา มหา-วิทยาลัยอ๊อมซูมา โตเกียว ญี่ปุ่น บอกว่า ชาเขียวที่มีคุณภาพจะต้องดูที่กลิ่นและรสชาติ
ชาเขียวที่ดีต้องมีกลิ่นหอม ดื่มเข้าไปตอนแรกรสชาติละมุนชุ่มคอ
คุณภาพชาเขียวนอกจากจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แร่ธาตุวิตามินในดิน และสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมแล้ว ยังขึ้นอยู่กับอายุต้นชาและช่วงการเก็บเกี่ยวยอดอ่อน
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด...คือ...ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน-พฤษภาคม)
เก็บใบอ่อนชามาแล้ว จะนำไปตากแดดให้สารสีเขียวในใบชาเขียวทำปฏิกิริยากับแสงแดด เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมตามธรรมชาติ และนำไปเก็บในร่ม ที่อุณหภูมิปกติ...อีก 6 ชั่วโมง
ใบชาเขียวจะคายสารแทนนิน เพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กลมกล่อม จากนั้นนำไปเข้าเครื่องปั่นนาน 12 นาที...ให้ใบชาทำปฏิกิริยากับอากาศ...คายสารโพลีฟินอล
การถนอมคุณค่าใบชาเขียว ทำได้โดยการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อน 382 องศาฟาเรนไฮต์ บีบน้ำในใบชาให้เคลือบผิวใบด้านนอก นำไปคลายตัว ไม่ให้เกาะกัน
ขั้นตอนสุดท้าย...นำไปเข้าเครื่องตากแห้ง ด้วยความร้อน 80 องศาเซลเซียส นาน 5-6 นาที จนใบชาแห้งสนิท
ศาสตราจารย์มาซาชิโอมูริ ระบุอีกว่า ชาเขียวที่มีคุณภาพสูงและหายากที่สุดในโลกคือ...ชาฮาลุชา เป็นยอดใบชายอดแรกต้นฤดูใบไม้ผลิ
ชาฮาลุชา...เป็นชาที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง กลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อม ดื่มแล้วชุ่มคอ มีรสหวานติดลิ้น หายากและราคาแพง
การแบ่งเกรดชาเขียว ถ้าแบ่งตามคุณภาพชา...ชาเขียวคุณภาพต่ำ ราคาถูกที่สุด เรียกว่า หางชาหรือเศษชา มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ มีวิตามินต่างๆน้อย นิยมเอามาผลิตเป็นเครื่องดื่ม
ชาเขียวคุณภาพปานกลาง...ถึงราคาจะไม่แพงมากนัก แต่ก็ได้รับความนิยม บริโภคกันอย่างกว้างขวาง
ใบชาเขียวตามกระบวนผลิต อบด้วยไอน้ำเพื่อหยุดกระบวนการของเอนไซม์ จะแบ่งได้ 7 ชนิด ได้แก่
เกียวคูโร...ใบชาคุณภาพดีที่สุด มีรสฝาดเล็กน้อย เก็บเกี่ยวภายใต้การพรางแสงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ สัดส่วน 0.3% ของใบชาเขียวที่ผลิตมาทั้งหมด
เซงชา-ฟูกามูชิชา ชาเขียวที่ได้รับความนิยมสูงสุด สัดส่วน 77.9% มีสีเขียวเข้ม แต่รสไม่ขม...บันชา ชาคุณภาพต่ำลงมาหน่อย ใบจะหยาบกว่า มีสัดส่วน 9.8%...โฮจิชา มีคุณภาพลดลงอีกนิด ใช้เวลาอบ 2-3 นาที มีสีน้ำตาล...ชงแล้วสีจะอ่อนลงคล้ายสีทอง
เกงไมชา เป็นชาผสมจากบันชากับข้าวตอก ชาที่ได้จะมีสีน้ำตาลอ่อน รสชาติกลมกล่อม...มัทชา เป็นชาที่ใช้ในพิธีชงชา ผลิตโดยการบดใบชาแห้งจนเป็นผงละเอียดเรียกว่า เทนชา สัดส่วน 1.1%
และ...ทามาเรียวคูชา หรือ กูริชา หลังจากอบไอน้ำ จะม้วนใบชาเป็นรูปลูกน้ำ...มีสัดส่วนการผลิต 4.7%
ชาเขียวเกรดดีมีคุณภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ราคาจะแพงมาก เพราะมีปริมาณผลผลิตน้อย เก็บได้เฉพาะยอดอ่อนๆ
กล่าวกันว่า...การดื่มชาแบบญี่ปุ่น ซึมซาบอยู่ในวิถีชีวิตญี่ปุ่น ใช้เพื่อแสดงความนับถือให้เกียรติ และช่วยย่อยหลังรับประทานอาหาร แต่กับกระแสชาเขียวฟีเวอร์ในปัจจุบัน ก็มีข้อควรระวังที่ต้องเตือนกันไว้...
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2547 จอร์จีน่า เคร์นส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กรรมการผู้จัดการศูนย์ข้อมูลอาหารแห่งเอเชีย (เอเอฟไอซี) ระบุว่า คนเอเชียมีแนวโน้มมองอาหารบางอย่างมีส่วนประกอบ ที่เผาผลาญไขมันหรือสกัดกั้นแคลอรีในอาหารได้
มุมมองนี้ไม่ใช่เรื่องดี...เพราะไม่มีอาหารประเภทไหนที่มีคุณสมบัติมหัศจรรย์แบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเกรปฟรุต ชาเขียว หรือสมุนไพรบางตัวที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
กล่าวถึงอาหารเสริมสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก ที่มีข้อความระบุ...ลดได้อาทิตย์ละ 2 ปอนด์ หรือ 1 กิโลกรัม อ้างถึงทุกสารหลายอย่าง แต่การที่จะลดน้ำหนักได้ 1 ปอนด์ ต้องคำนึงถึงสิ่งที่เรากินไป กับสิ่งที่เราใช้...
จะทำให้น้ำหนักลดได้...ต้องทำให้ขาดทุน 3,500 แคลอรี
ฉะนั้น วิธีที่ทำให้ขาดทุนโดยไม่ต้องออกกำลังกายเพิ่ม สารในอาหารเสริมนั้นๆ...ต้องลดการดูดซึมของอาหารลง หรือไม่ก็เพิ่มการเผาผลาญของพลังงาน
ข้อมูลวิจัยที่เชื่อมโยงถึงชาเขียว มีข้อสรุป...ชาเขียวเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้ 4% แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่า...ทำให้น้ำหนักลดลงได้ และชาเขียวก็ไม่มีคุณสมบัติในการลดการดูดซึมของอาหาร....
อะไรก็ตามที่มากเกินไป ก็อาจจะกลายเป็นโทษ กระแสชาเขียวฟีเวอร์ก็เช่นเดียวกัน ควรระวังเรื่องการบริโภคมากเกินขนาด
จอร์จีน่า เคร์นส์ บอกว่า การดื่มชาเขียวในปริมาณสูงเกินไป ก็อาจมีผลในการลดการดูดซึมวิตามินบี 1 และธาตุเหล็ก
ถึงปัจจุบันผลการวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณการรักษาโรคของชาเขียว ยังมีการศึกษาในคนจริงเป็นส่วนน้อย อาจสรุปผลได้ไม่ชัดเจน...
การทดลอง ต้องมีการควบคุมปัจจัยอื่นที่มีผลกระทบอย่างเข้มงวด ผู้บริโภคควรเชื่อสรรพคุณในฉลากที่อนุญาตจากองค์การอาหารและยา ก่อนจะตัดสินใจซื้อ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น