โดย พัชรา อร่ามศรี
27 พฤษภาคม 2547 03:52 น.
เมื่อผ่านการตรากตรำทำงานอย่างหนัก คนเราย่อมรู้สึกอ่อนหล้าและเหน็ดเหนื่อย เมื่อเกิดความรู้สึกเมื่อยหล้าหลายคนหันไปหาเครื่องดื่มชูกำลัง หรือไม่ก็กาแฟ ไม่ก็น้ำอัดลม เพื่อทำให้รู้สึกตื่นตัวจะได้มีกำลังกลับไปทำงานอีก
เนื่องเพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีคาเฟอีนและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ สำคัญ จึงไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดพลังงานและกระปรี้กระเปร่า แต่ส่วนประกอบทั้ง 2 เหล่านี้กลับส่งผลเสียต่อร่างกาย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง อันเป็นบ่อเกิดของโรคเบาหวาน ส่วนคาเฟอีนนั้นก็จัดอยู่ในจำพวกสารเสพติดชนิดหนึ่ง
ดังนั้น การหันมาดื่มน้ำผักและผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มพลังงานจึงถือเป็นทาง เลือกที่ดี เพราะนอกจากร่างกายจะได้พลังงานดังประสงค์แล้ว ยังไม่มีโทษอื่นๆ พ่วงมาด้วยเพราะเป็นพลังงานที่ได้จากธรรมชาติล้วนๆ แถมยังทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยป้องกันและต้านทานโรคได้ด้วย
วันนี้ เราจึงขอนำเมนูน้ำผักและผลไม้ที่ช่วยให้พลังงานและต้านทานโรคมาฝากกัน เป็นผลไม้ที่หาได้ไม่ยากนัก และราคาก็ไม่แพงจนเกินไป แถมยังดื่มกันได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกเวลา
น้ำสับปะรด-ขิง เอ็นไซม์ในสับปะรดจะไปช่วยทำให้ร่างกายเกิดความตื่นตัวและมีสมาธิ ส่วนขิงและสะระแหน่จะไปช่วยเพิ่มรสชาติให้แก่เครื่องดื่ม เมนูนี้เหมาะสำหรับคนทำงานหนัก รวมทั้งนักเรียนและนักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวสอบ
ส่วนผสมสำหรับ 1 แก้ว มีสับปะรดขนาดกลางกะให้พอสำหรับคั้นน้ำได้ 1 แก้ว นำไปปอกเปลือก แกะแกนกลางออก และหันเป็นชิ้นๆ, ขิงสด 1 ชิ้น และใบสะระแหน่สับละเอียดครึ่งช้อนชา
เมื่อเตรียมส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้แยกกาก ปั่นขิงลงไปปั่นก่อนแล้วค่อยใส่สับปะรดลงไป แล้วเอาน้ำที่ได้เทใส่แก้ว เติมใบสะระแหน่ลงไป คนให้เข้ากันและดื่มทันที
น้ำแครอท-มะเขือเทศ-แตงกวา เครื่องดื่มชนิดนี้เหมาะสำหรับคนนอนดึก เพราะใบโหระพาจะไปช่วยให้มีสมาธิและช่วยย่อย ส่วนน้ำมะเขือเทศที่มีเกลือแร่ จะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ขณะที่แตงกวาจะเข้าไปช่วยให้ร่างกายตื่นตัว
ส่วนผสมสำหรับ 1 แก้ว มีแครอท 2 หัว หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ, มะเขือเทศขนาดกลาง 1 ลูก, แตงกวา 1 ลูก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และใบโหระพาสด 5-6 ใบ เอาไปสับให้ละเอียด เมื่อเตรียมส่วนผสมครบแล้ว ให้นำแครอทไปปั่นในเครื่องคั้นแยกกาก ตามด้วยมะเขือเทศ และแตงกวา เมื่อคั้นรวมกันแล้วก็เทใส่แก้ว เติมใบโหระพาลงไป คนให้เข้ากัน แค่นี้ก็ดื่มได้แล้ว
น้ำแอปเปิล-องุ่น-กีวี ถือเป็นน้ำผลไม้ที่ช่วยเพิ่มพลังงานในช่วงบ่ายๆ เพราะจะช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยขึ้น เพราะได้รับน้ำตาลจากผลไม้ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซีและเอนไซม์จากผลกีวี สารต้านมะเร็งจากแอปเปิล และสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากองุ่น
ส่วนผสมสำหรับ 1 แก้ว มีแอปเปิล 1 ลูก องุ่นแดง 220 กรัม และกีวี 1 ลูก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ให้นำส่วนผสมทั้งหมดนี้ไปปั่นให้เข้ากันในเครื่องคั้นแยกกาก เทใส่แก้วแล้วดื่มทันที
น้ำมะเขือเทศ-ขึ้นฉ่าย เนื่องจากเครื่องดื่มสูตรนี้มีโปแตสเซียมสูง จึงเหมาะสำหรับคนทำงานหนักที่เสียเหงื่อมากๆ เพราะโปแตสเซียมในมะเขือเทศและขึ้นฉ่าย จะไปช่วยปรับระบบหุมนเวียนโลหิตให้มีความสมดุลมากขึ้น
ส่วนผสมก็มี ขึ้นฉ่าย 1 ต้นนำมาสับให้ละเอียด และน้ำมะเขือเทศ 1 แก้ว วิธีก็ง่ายๆ ใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้ปั่นขึ้นฉ่ายก่อน แล้วจึงนำน้ำมะเขือเทศลงไปปั่นให้เข้ากัน แล้วดื่มทันที
สำหรับผู้ปกครองที่อยากหัดให้ลูกๆ หันมาดื่มน้ำผักและผลไม้แทนที่น้ำหวานชนิดอื่นๆ เราก็มีเมนูสำหรับเด็กมาฝากเหมือนกัน เพราะต้องยอมรับกันว่า น้ำผักและผลไม้ที่บอกมาข้างต้น บางชนิดอาจจะมีรสชาติไม่ถูกอกถูกใจเด็กๆ ดังนั้น จึงต้องหาสูตรเฉพาะสำหรับพวกเขามาให้กัน
น้ำมะม่วง-สตรอเบอรี่ เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กนักกีฬาที่ใช้พลังงานมากๆ เพราะทั้งมะม่วงและสตรอเบอรี่จะเข้าไปช่วยเพิ่มพลังงาน ขณะที่ไอศกรีมและนมถั่วเหลือง จะให้น้ำตาลฟลุกโตสแก่ร่างกาย และนมถั่วเหลืองยังให้แคลเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของเด็กๆ อีกด้วย
ส่วนผสมสำหรับ 2 แก้ว มีดังนี้ มะม่วงสุกครึ่งลูก ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ, สตรอเบอรี่ ประมาณ 1.25 ขีด, ไอศกรีมไขมันต่ำ 1 ลูก และนมถั่วเหลือง 1 ถ้วย วิธีทำก็คือให้นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นให้ละเอียดในเครื่องปั่น (blender) เมื่อผสมกันดีแล้ว ก็เทใส่แก้วให้เด็กๆ ดื่มทันที
น้ำแครอท-กล้วย-ส้ม เป็นน้ำผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม และโปแตสเซียม ซึ่งดีและมีประโยชน์สำหรับกระดูกและฟันของเด็กๆ
ส่วนผสมสำหรับ 1 แก้ว ก็มี แครอท 1 ขีดครึ่ง นำไปปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ, ส้มประมาณ 1 ขีด และกล้วยอีก 1 ขีด นำไปปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เช่นกัน
วิธีทำก็ง่ายๆ กล่าวคือ นำแครอทและส้มไปคั้นในเครื่องปั่นแยกกากก่อน แล้วเอากล้วยใส่ตามไป เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้เทใส่แก้ว ผสมน้ำแข็ง 1-2 ก้อน ให้เด็กดื่มทันที
แค่นี้ก็จะได้น้ำผักผลไม้ที่อร่อยและมีคุณประโยชน์ แต่สิ่งที่อยากเตือนก็คือเรื่องสารปนเปื้อนในผักและผลไม้ที่จะต้องระวังกัน เป็นพิเศษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น