++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

ชมรมนกเขาชวาเสียงจะนะยกระดับฟาร์มนกเขารองรับส่งออกตลาดอาเซียน



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชมรมนกเขาชวาเสียงอำเภอจะนะ 147 แห่ง เร่งพัฒนาฟาร์มนกเขาเพื่อยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงสู่ระดับสากล รองรับการส่งออกตลาดนกเขาชวาเสียงในกลุ่มประเทศอาเซียน และรักษาความเป็นเอกลักษณ์สายพันธุ์เฉพาะของนกเขาชวาเสียง อ.จะนะ เพื่อครองความเป็นหนึ่งในอาเซียน

อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์นกเขาชวาเสียง ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในกลุ่มของผู้เลี้ยงนกเขาชวาทั้งใน และต่างประเทศ โดยปัจจุบัน ได้มีการรวมกลุ่มกันตั้งเป็นชมรมนกเขาชวาเสียง อ.จะนะ ขึ้นมีสมาชิกทั้งหมด 147 ราย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อยอีกหลายราย และแทบทุกหลังคาเรือนจะมีกรงนกเขาแขวนไว้หน้าบ้าน แต่จากปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนกเมื่อปี 47 ทำให้การส่งออกนกเขาชวาเสียงไปยังตลาดในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียต้องหยุดชะงัก และเป็นในลักษณะการลักลอบส่งออก

ทำให้ขณะนี้ บรรดาฟาร์มเพาะเลี้ยงนกเขาในพื้นที่ อ.จะนะ ต้องปรับตัวและเร่งพัฒนาฟาร์มเพาะเลี้ยงนกเขาให้ได้มาตรฐานตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด ทั้งระบบการจัดการฟาร์ม การเลี้ยง และการควบคุมโรคให้เหมือนกับฟาร์มการเลี้ยงสัตว์ปีกในระดับส่งออกทั่วไป เพื่อให้ได้ใบรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ และเป็นใบเบิกทางในการส่งออกนกเขาชวาเสียงไปยังตลาดต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้ทางกรมปศุสัตว์กำลังประสานความร่วมมือกับทั้งสองประเทศเพื่อให้สามารถกลับมานำเข้าส่งออกนกเขาชวาเสียงอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้งในต้นปีหน้า

นายดิเรก โดดะแซ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงนกเขาตอเล๊ะ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ หนึ่งในฟาร์มเพาะเลี้ยงนกเขาชวาเสียงที่ใหญ่ที่สุดใน อ.จะนะ โดยมีนกเขาชวาในฟาร์มกว่า 1 พันตัว และแต่ละปีสามารถทำเงินจากการส่งออกนกเขากว่า 2 ล้านบาท และมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ระดับราคา 1 ล้านบาท อยู่ในฟาร์ม 1 คู่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการฟาร์มนกเขาใน อ.จะนะ ทั้งรายเล็ก และรายใหญ่จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อพัฒนาฟาร์มเลี้ยงนกเขาให้ได้มาตรฐานในระดับสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าต่างประเทศรองรับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งเชื่อว่าตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก และจะเป็นสัตว์เศรษฐกิจอีกตัวหนึ่งของไทยที่จะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้นับร้อยล้านบาทในแต่ละปี นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งกรงนก อาหาร และอุปกรณ์การเลี้ยงซึ่งสร้างรายได้ในระดับชุมชนแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากการส่งออกนกเขาไปยังต่างประเทศยังคงประสบปัญหา และถูกกีดกันเพราะทุกประเทศยังห่วงเรื่องโรคไข้หวัดนก

ที่สำคัญคือ กลุ่มผู้เลี้ยงนกเขาใน อ.จะนะ จะต้องรวมตัวเพื่อรักษาชื่อเสียงคุณภาพของนกเขาชวาเสียงใน อ.จะนะ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ และคุณภาพเสียงเฉพาะตัวให้อยู่อันดับ 1 ของกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากขณะนี้หลายประเทศพยายามพัฒนาสายพันธุ์นกเขาชวาเสียงให้สามารถเทียบเคียงกับสายพันธุ์ของนกเขาจะนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น