ครั้งนี้อัมพวาที่เคยสวยงามกำลังจะถูกทำลายความเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมไปอีก ปัญหาของเราคือคนที่มีเงินมากจะไปทำตึกอาคารต่างๆแบบโรมันก็จะทำลายความเป็นไทยไป ซึ่งตนรู้สึกเห็นใจคนอัมพวาเพราะสถานที่จะเปลี่ยนจิตใจคนทำให้เป็นธุรกิจมากขึ้นและจะมุ่งแต่แสวงหาผลกำไรมากขึ้น
น.ส.อารียา ศิริโสภา อดีตนางสาวไทยปี 2537
จาก ประชาคมคนรักแม่กลอง
www.facebook.com/PrachakhmKhnRakMaeKlxng
-------
ชาวบ้านแห่วางดอกกุหลาบอาลัย-ห้องแถวเรือนไม้ริมคลองอัมพวาถูกรื้อ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานกรณีนายชูชัย ชัยฤทธิเลิศ อายุ 50 ปีนักธุรกิจค้าเพชรชื่อดังชาวกรุงเทพฯ ลงทุนก่อสร้างโครงการชูชัยบุรีศรีอัมพวา โรงแรมขนาด 5 ดาว มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท เป็นที่พักนักท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณริมคลองตลาดน้ำอัมพวา ถนนเลียบนที ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีการซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวประมาณ 3 ไร่ และมีการไล่รื้อบ้านห้องแถวเรือนไม้ริมคลองอัมพวา จำนวน 12 ห้อง ซึ่งมีอายุเก่าแก่เกือบ 100 ปี ออกไปภายในวันที่ 31 ส.ค. 2555 นี้
และวันนี้ที่บริเวณลานริมคลองวัดปากง่ามพยาญาติ ซึ่งอยู่ตรงข้ามฝั่งคลองกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้มีชาวสมุทรสงคราม นักท่องเที่ยว นักอนุรักษ์และผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติห้องแถวเรือนไม้ริมคลองอัมพวาได้ชักชวนกันในโลกออนไลน์ เฟสบุ๊ค นำดอกกุหลาบมาวางบริเวณหน้าห้องแถวดังกล่าวเพื่อร่วมกันไว้อาลัยให้กับบ้านที่ถูกไล่รื้อโดยมีนักเรียนนิสิตนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆเช่นนักศึกษาสถาปัตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,คณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาจัดกิจกรรมรำลึก เช่น วาดภาพระบายสี, การวางดอกกุหลาบไว้อาลัย เป็นต้น นอกจากนี้นางสาวอารียา ศิริโสภา อดีตนางสาวไทยปี พ.ศ.2537 ยังได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
นายบุญเกิด อารัมพจน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านเรือนไม้ห้องแถวริมคลองอัมพวา 1 ใน 12 ห้อง ซึ่งกำลังเร่งรีบเก็บข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่น บอกว่าบ้านหลังนี้ครอบครัวของตนเช่าที่ดินปลูกสร้างห้องแถวอยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่ ปัจจุบันตนอายุ 56 ปี ตนเกิดและโตทำมาหากินอยู่ที่นี่ จึงมีความผูกผันอย่างมาก และคิดว่าเกิดที่นี่ก็อยากจะตายที่นี่ แต่น่าเสียตายในช่วงปลายชีวิตต้องถูกไล่รื้อบ้านจึงต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นซึ่งก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนและตายที่ไหน
น.ส.อารียา ศิริโสภา อดีตนางสาวไทยปี 2537 บอกว่าตนรักในวิถีชีวิตริมน้ำอัมพวามานานแล้ว ครอบครัวตนเกิดริมน้ำที่อยุธยา จึงเกิดความจดจำวิถีความเป็นไทยแบบริมน้ำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับห้องแถวริมคลองอัมพวาครั้งนี้ตนรู้สึกใจหาย ว่านี่หรือคือความศิวิไลซ์ ความเปลี่ยนแปลงที่คนเรียกว่าความเจริญ ซึ่งคนสมัยนี้คิดว่าเป็นอาคารคอนกรีต ห้างต่างๆ ในอดีตสถานที่ท่องเที่ยวเช่นสมุย, อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ถูกทำลายธรรมชาติมาแล้ว
ครั้งนี้อัมพวาที่เคยสวยงามกำลังจะถูกทำลายความเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมไปอีก ปัญหาของเราคือคนที่มีเงินมากจะไปทำตึกอาคารต่างๆแบบโรมันก็จะทำลายความเป็นไทยไป ซึ่งตนรู้สึกเห็นใจคนอัมพวาเพราะสถานที่จะเปลี่ยนจิตใจคนทำให้เป็นธุรกิจมากขึ้นและจะมุ่งแต่แสวงหาผลกำไรมากขึ้น
ที่มา www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5qSXpOek00TkE9PQ%3D%3D&subcatid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น