++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

อธิบดีฯ จี้เร่งแจ้งความคนรุกที่อุทยานฯ สิรินาถเสร็จภายใน 25 ก.ย.นี้




ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ดำรงค์ พิเดช” ว้าก ! เจ้าหน้าที่บางชุดทำงานช้า ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ตไม่คืบ ให้เวลาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีให้เสร็จภายใน 25 ก.ย.นี้ ขณะที่เตรียมตั้งทีมตรวจสอบที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถอีก 400 ทีม ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิทับที่อุทยานฯ อีก 3,500 ไร่



       เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (12 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยการตรวจสอบเอกสารสิทธิและปราบปรามการบุกรุกยึดถือครอบครองเอกสารสิทธิในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพืช พร้อมคณะ ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานตามยุทธการทวงคืนผืนป่า กรณีการบุกรุกยึดถือครอบครองเอกสารสิทธิในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่จาก 10 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ เข้าทำการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่เชื่อได้ว่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 12 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงแรมภูเก็ตอาเคเดียในทอนบีช รีสอร์ท 2.โรงแรมภูเก็ตเพนนิซูล่า สปาแอนด์รีสอร์ท 3.บริษัท ลาคอรีน จำกัด 4.บ้านฝรั่ง 5.บริษัท แลนด์สเตรท จำกัด และบริษัทบางเทา บีช จำกัด 6.บริษัท ทรีดอลฟินซ์ จำกัด 7.บริษัท สุรีย์สัมฤทธิ์ จำกัด และมาลัยวนา 8.ที่ดินครอบครองโดยบุคคลธรรมดา 1 ราย (นางสุชาดา สังข์สุวรรณ) 9.บริษัท พาวิลเลี่ยน บีช รีสอร์ท จำกัด 10.บริษัท อันดามันไวท์บีช จำกัด 11.บริษัท ลายันภูเก็ต จำกัด และ 12.บริษัท เซ็นทรัล แอนด์ ซิตี้ ดีวีลอปเม้นท์



       ทั้งนี้ ในการประชุมเจ้าหน้าที่ของสำนักพื้นที่อนุรักษ์เขตต่างๆ ก็ได้รายงานถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งบางชุดก็สามารถตรวจสอบ และมีความคืบหน้าจนถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทที่เข้าไปครอบครองที่ดิน แต่ยังมีการตรวจสอบบางแปลงที่ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากติดขัดเรื่องของการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ และการยืนยันแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติจากทางกรมป่าไม้ ซึ่งทำให้นายดำรงค์ถึงกับ “ว้าก”เจ้าหน้าที่ พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด



       ส่วนผลการดำเนินงานตรวจสอบทั้งที่ดินทั้ง 12 แปลง ปรากฏว่าขณะนี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว 5 ราย ได้แก่ 1.โรงแรม ภูเก็ตอาเคเดียในทอน บีช 2.โรงแรมภูเก็ตเพนนิซูล่า สปาแอนด์รีสอร์ท 3.บริษัท ลาคอรีน จำกัด 4.บ้านพักชาวต่างชาติ และ 5.บริษัท แลนด์สเตรท จำกัด กับบริษัทบางเทา บีช จำกัด



       อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบแล้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมคณะได้ลงไปตรวจสอบที่ดินแปลงของบริษัท เพนนิซูล่า สปา แอนด์ รีสอร์ท จำกัด หมู่ 2 บ้านสาคู ต.สาคู อ.ถลาง พบสิ่งปลูกสร้างเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ มูลค่ากว่าพันล้านบาท ซึ่งปล่อยทิ้งร้าง และบริเวณติดกับพื้นที่ก่อสร้างโครงการมีสภาพเป็นป่า และจากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ใกล้กับโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังพบหลักหมุดของกรมที่ดินวางกองอยู่จำนวนมาก คาดว่าน่าจะมีการเตรียมออกเอกสารสิทธิให้แก่นายทุนอีก 3-4 ราย เนื้อที่นับร้อยไร่ โดยที่ดินแปลงของโรงแรมเพนนิซูล่า สปา แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ทางอุทยานฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชยแล้ว



       นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการตรวจสอบการการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห้งชาติสิรินาถพบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ส่วนหนึ่งก็ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งหลังจากนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ดำเนินการตรวจข้อเท็จจริงการออกเอกสารสิทธิในเขตอุทยานทั้งหมด และให้แจ้งความดำเนินคดีไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะแปลงที่ตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิหลัง พ.ศ.2507 โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ ซึ่งการทำงานวันนี้ต้องแข่งกับเวลา ต้องรีบทำ ตอนนี้กระแสสังคมไปไกลแล้ว ปัญหาเรื่องการออกเอกสารสิทธิที่ดินมีทั่วประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะภูเก็ต แต่ที่ภูเก็ตหนักมาก เพราะว่าไปออกในพื้นที่อุทยานฯ โดยที่หัวหน้าอุทยานฯ ไม่รู้เรื่อง”



       นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า หลังวันที่ 25 กันยายน ไปแล้ว ตนจะแต่งตั้งหน่วยงานภาคสนามอีก 2 หน่วย โดยตั้งทีมเจ้าหน้าที่ออกเป็นทีม 400 ทีม เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและหาพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งดำเนินคดีเอาผิดกับผู้บุกรุกถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 3,500 ไร่ ที่มีการออกเอกสารสิทธิในเขตอุทยานฯ ทั้งนี้ การดำเนินการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทั้ง 400 ทีม ให้ดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จภายใน 30 วัน เพื่อเอาพื้นที่อุทยานสิรินาถกลับมาทั้งหมด



       นายดำรงค์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถพบว่ามีที่ดินเพียง 2 แปลงเท่านั้นที่ได้รับการรับรองว่ามีสิทธิครอบครอบ คือ ที่ดิน ส.ค.1 แปลงของนางเชย เพชรกุล เนื้องที่ 2 ไร่ 3 งาน และที่ดิน ส.ค,1 แปลงของนายเล็ก สงวนวงศ์ เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ แต่จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้มีการใช้ ส.ค.1 แปลงของนางเชย ไปออกเอกสารสิทธิที่ในบริเวณ ต.สาคูจำนวน 2-3 แปลง โดยพบว่ามีจำนวนพื้นที่เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีของนายเล็กนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าขณะที่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 50,000 ไร่ เป็นที่ดินที่อยู่บนบกประมาณ 13,000 กว่าไร่ และพื้นที่ในทะเลอีกประมาณ 30,000 กว่าไร พบว่าบนบกมีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วประมาณ 3,500 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบทุกแปลง และดำเนินการเช่นเดียวกับการตรวจสอบที่ดินทั้ง 12 แปลงที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น