++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

เจอวัตถุโบราณอายุกว่า 1 พันปีที่ชุมพรเจ้าของเตรียมถวายพระเทพฯ



ชุมพร - เจอแหล่งวัตถุโบราณอายุกว่า 1 พันปี จำนวนมากที่ชุมพร เจ้าของปิดเงียบนาน 7 ปี เสี่ยนักสะสมของเก่าติดต่อขอซื้อ 30 ล้านไม่ขาย ประสานกรมศิลปกรตรวจสอบ พร้อมเตรียมนำถวายสมเด็จพระเทพฯ





เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายชูศักดิ์ ช่วยบำรุง อายุ 48 ปี และ นางวันเพ็ญ ช่วยบำรุง อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 249 หมู่ที่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่า ได้รวบรวมวัตถุโบราณไว้จำนวนมาก มานานกว่า 7 ปีแล้ว ถึงเวลาที่จะเปิดเผยให้สังคมรับทราบ และเพื่อนำทูลเกล้าถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี





โดยนายชูศักดิ์ และนางวันเพ็ญ สองสามีภรรยา ได้พาผู้สื่อไปดูโบราณวัตถุ ที่เก็บรักษาไว้อย่างดีภายในบ้านซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิง “เขาเสก” เป็นบ้านไม้ยกสูง บนในพื้นที่ 14 ไร่ เมื่อเข้าไปภายในบ้านพบว่า เป็นห้องโล่งขนาดใหญ่ มีตู้กระจกใส จำนวน 8 ตู้ ภายในตู้ เต็มไปด้วยวัตถุโบราณจำนวนมาก นับพันชิ้น เช่น กำไลหินสีต่างๆ ทั้งสภาพที่ยังสมบูรณ์ และแตกหัก ลูกปัดสีขนาดต่างๆ ทั้งที่ร้อยเป็นสร้อยคอ สร้อยมือ และ ที่เป็นเม็ดอีกจำนวนมาก ทองคำโบราณที่ทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ สร้อยคอ กำไล ต่างหู แหวน รวมถึงเครื่องปั้นดินเผา ไห ภาชนะต่างๆ อีกจำนวนมาก และยังมีอาวุธโบราณ เช่น มีดดาบนักรบสมัยโบราณ กว่า 30 กว่าด้าม อุปกรณ์เครื่องมือในการเจาะหิน ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และวัตถุโบราณประเภทอื่นๆ อีกจำนวนมากนับพันชิ้น ซึ่งวัตถุโบราณทั้งหมด 2 สามีภรรยาได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี





นายชูศักดิ์ กล่าวว่า วัตถุโบราณจำนวนมากทั้งหมดเก็บสะสมไว้เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา โดยมีที่ไปที่มาเนื่องจากตนมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและรับเหมาขุดดิน ซึ่งก่อนที่จะได้วัตถุโบราณดังกล่าว่า มีญาติคนหนึ่งมาจ้างให้ไปขุดดินเพื่อปรับพื้นที่ ในบริเวณเขาสก หมู่ 14 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่สวนผลไม้ ก่อนทำการขุดปรับสภาพพื้นที่ก็ได้ทำพิธี ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขออนุญาต และจะทำการขุดปรับดินในวันถัดไป เนื่องจากทราบว่า พื้นที่บริเวณ “เขาเสก” มีการเล่าขานกันว่าเป็นเมืองเก่าในอดีต จึงต้องทำพิธีขออนุญาตและขมาเจ้าที่เจ้าทางกันก่อนกันก่อน





นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นในตอนกลางคืน ก้ได้นอนหลับและฝันว่า มีชายโบราณแต่งกายนุ่งผ้าโจมกระเบนแดง มีลูกปัดและเครื่องทองคำประดับไปทั่วทั้งลำตัว เดินถือดาบ เข้ามาบอกว่า “ให้ขุดเอาสมบัติของแผ่นดินขึ้นมาให้คนในชาติได้เก็บไว้” ตนจึงตอบกลับไปว่า “ไม่มีเวลาเพราะงานมาก และ ไม่มีความรู้เรื่องของโบราณ อีกทั้งที่ดินก็เป็นของญาติไม่ใช่ของตน” ชายโบราณในฝันย้อนถามอีกว่า “ถ้ารับปากจะทำ จะจัดการเรื่องที่ดินให้”แล้วตนก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา พร้อมๆ กับที่นางวันเพ็ญภรรยา ที่นอนอยู่ด้วยกัน เมื่อสอบถามก็พบว่า ฝันในเรื่องเดียวกันเหมือนกัน





นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า จากนั้นในช่วงเช้าจึงไปสำรวจพื้นทั้ง 14 ไร่ อย่างละเอียด พบว่าที่เชิง “เขาเสก” มีดินสไลด์เป็นทางยาวประมาณ 500 เมตร ลงมาจากภูเขา เมื่อตนตรวจสอบดูมีวัตถุโบราณฝังดินปะปนอยู่จำนวนมาก จึงปรึกษาภรรยาว่าจะทำอย่างไรกันดี และตัดสินใจนำตัวอย่างวัตถุโบราณเหล่านั้นไป ปรึกษา พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น. และ อดีต สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ซึ่งมีบ้านพักอยู่ตรงกันข้ามกับ “ภูเขาเสก” โดย พล.ต.ท.วรรณรัตน์ ได้เดินทางเข้าไปดูแล้วบอกว่าให้ปิดเรื่องให้เงียบ เพื่อป้องกันพวกขุดวัตถุโบราณมาขุดคุ้ยไปขาย หลังจากนั้นตนจึงเร่งไปเก็บรวบรวมวัตถุโบราณในบริเวณดังกล่าวให้ได้มาก โดยที่ญาติซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่มาจ้างตนไม่ทราบเรื่อง





นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนเก็บวัตถุโบราณได้จำนวนหนึ่งและพากลับบ้านในช่วงเย็นของวันนั้น ปรากฏว่า ญาติซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้มานั่งรอพบและได้เสนอขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับตน ตนจึงรีบตัด สินใจซื้อทันที และตนได้สร้างบ้านไม้ยกพื้นสูงหลังที่อยู่ในปัจจุบันนี้ หลังจากนั้นตนได้ออกสำรวจพื้นที่ทั้งหมด พร้อมกับขุดหาเก็บรวบรวมวัตถุโบราณที่พบตามกองดินต่างๆ และที่ดินสไลด์ลงมาจากยอดภูเขาสูง ซึ่งมีวัตถุโบราณ ชนิดต่างๆ อยู่จำนวนมาก ตนได้นำไปเก็บรักษาไว้อย่างดี





นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเมื่อต้นเดือน ส.ค.55 หลังจากรวบรวมวัตถุโบราณได้จำนวนมากแล้ว เรื่องดังกล่าวเริ่มระแคะระคายถึงหูชาวบ้าน และเริ่มเข้ามาขโมยขุดทั้งในจุดที่เป็นพื้นที่ของตนเอง และพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งชาวบ้านก็พบวัตถุโบราณเหมือนกับที่ตนเองพบเช่นกัน ตนจึงเกรงว่าถ้าชาวบ้านรู้มากขึ้นจะเกิดปัญหาและวัตถุโบราณจะสูญหายได้อยู่ในกลุ่มพวกค้าวัตถุโบราณ ตนจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร จ.นครศรีธรรมราช ให้เข้ามาตรวจสอบ และ ประกาศห้ามขุดวัตถุโบราณในบริเวณดังกล่าว





ส่วนที่ตนเองพบและรวบรวมมาได้นั้น ได้มีเศรษฐีนักเก็บสะสมของเก่ามาติดต่อขอซื้อในราคา 30 ล้านบาท แต่ตนไม่ขาย และกลัวว่าถ้าเก็บไว้จะเกิดอันตรายขึ้น จึงได้ ปรึกษากับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น. เพื่อนำวัตถุโบราณ ทั้งหมด ทูลเกล้าถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และ จะถวายที่ดินในบริเวณดังกล่าวอีก 5 ไร่ เพื่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และยกให้เป็นสมบัติของทางราชการซึ่งในขณะนี้ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ กำลังอยู่ประสานงานกับสำนักพระราชวัง ส่วนอายุของวัตถุโบราณที่พบนั้นเจ้าหน้าที่กรมศิลปกร ตรวจสอบแล้วบอกว่า อายุไม่ต่ำกว่า 1 พันปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น