++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

จอห์น ดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ : ผู้เปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม


จอห์น ดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ : ผู้เปลี่ยนเงินเป็นบุญ เปลี่ยนทุนเป็นธรรม“ยอห์น. ดี. รอคกี้เฟลเลอร์ (บิดา) มีเงินถึงหนึ่งล้านเหรียญเมื่ออายุเพียง ๓๔ ปีและเมื่ออายุ ๔๓ ปี ได้เป็นผู้ตั้งบริษัทผูกขาดในการค้าน้้ามันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คือ บริษัทน้้ามันสแตนดาร์ดออยล์ (Standard Oil)แต่พออายุ ๕๓ ปี สุขภาพของเขาเสื่อมโทรมมาก เพราะนิสัยชอบทุกข์ร้อนเคร่งเครียดของเขา ผู้เขียนประวัติของเขา คนหนึ่งกล่าวว่า“เมื่อรอคกี้เฟลเลอร์อายุ ๕๓ ปี รูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนมัมมี่”เมื่ออายุ ๕๓ ปี เป็นโรคเครื่องย่อยอาหารพิการอย่างรุนแรง จนผมร่วง ขนตาและอื่นๆ ก็ร่วง ขนคิ้วยังเหลืออยู่เพียงหยอมแหยมแพทย์บอกว่าที่เขาหัวล้านเช่นนี้ สืบเนื่องมาจากประสาทอ่อนก้าลัง เขาสะดุ้งกลัวมากจนเขาต้องสวมฝาครอบผ้าบางๆ ปิดศีรษะอยู่ตลอดเวลา ต่อมาเขาซื้อผมปลอมชนิดสีเงินมาสวม ราคาชุดละห้าร้อยเหรียญ และสวมผมปลอมต่อมาจนตลอดชีวิตเดิมที รอคกี้เฟลเลอร์ เป็นผู้มีอนามัยดีแข็งแรงปราดเปรียวครั้นพออายุได้ ๕๓ ปี ไหล่ของเขาตก เดินกระย่องกระแย่งทั้งนี้สืบเนื่องจากการท้างานหักโหมหนัก วิตกทุกข์ร้อนไม่รู้จักสิ้นสุด

โมโหโทโสดุด่าไม่เว้นแต่ละวันกลางคืนนอนไม่หลับ ขาดการบริหารร่างกายและพักผ่อนหย่อนใจดูเถิด มหาเศรษฐีแท้ๆ ท้าไมจึงกลายเป็นผู้ไร้ความสุขไปได้ แม้ว่าขณะนั้นเขาเป็นมหาเศรษฐีที่ร่้ารวยที่สุดในโลก เขาด้ารงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่คนยากคนจนไม่อยากจะแตะต้องรายได้ของเขาเวลานั้นตกสัปดาห์ละหนึ่งล้านเหรียญแต่ค่าอาหารประจ้าวันของเขาทุกมื้อตกเพียงสัปดาห์ละสองเหรียญเท่านั้นรอคกี้เฟลเลอร์ อยากให้คนทั้งหลายรักเขา แต่ปรากฏว่ามีคนชอบเขามีเพียงไม่กี่คนคนส่วนมากเกลียดเขา ไม่ต้องการติดต่อเกี่ยวข้องกับเขาไม่ว่าในทางธุรกิจ หรือ ในทางใดๆ แม้น้องชายของเขาเองก็เกลียดเขาจนถึงกับพาลูกๆ ออกไปจากบ้านประจ้าตระกูล ซึ่งรอคกี้เฟลเลอร์สร้างขึ้นน้องชายของเขาพูดว่า“ฉันไม่ยอมให้สายเลือดของฉันต้องอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เป็นของเจ้ายอห์น.ดี.”เสมียนพนักงานของเขาก็ไม่ชอบเขา หวาดกลัวเขาไปตามๆ กันเพราะรอคกี้เฟลเลอร์เ ป็นคนขี้ระแวง เขาเป็นคนไว้วางใจมนุษย์ด้วยกันน้อยที่สุดปรากฏว่า ในบริเวณบ่อน้้ามันต่างๆ ในรัฐเพ็นซิลเวเนีย รอคกี้เฟลเลอร์ เป็นคนที่ถูกเกลียดชังมากที่สุดในโลก คู่แข่งขันของเขา ซึ่งถูกท้าลายย่อยยับไปแล้วด้วยวิธีต่างๆ ต่างเคียดแค้นชิงชังเขาและอยากจะแขวนคอเขาเป็นที่สุด มีจดหมายแช่งชักหักกระดูกรวมทั้งขู่เข็ญจะเอาชีวิตหลั่งไหลมาสู่ส้านักงานของเขานับไม่ถ้วน

เขาต้องการองครักษ์จ้านวนหนึ่งเพื่อป้องกันชีวิตลงท้าย เขาได้ประจักษ์ความจริงว่า …ตัวเขาหนีความเป็นมนุษย์ไปไม่พ้นเขาไม่สามารถทนทานต่อความเกลียดชังของคนหมู่มาก ซึ่งอยู่รอบตัวเขา และไม่สามารถทนทานต่อความทุกข์ร้อนซึ่งมีอยู่ประจ้าได้ ผลก็คือสุขภาพของเขาเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ เขาต้องเผชิญกับศัตรูใหม่คือความเจ็บป่วยอาการของเขา คือนอนไม่หลับ เครื่องย่อยอาหารพิการ จิตใจของเขา สุมอยู่ด้วยความทุกข์ร้อน กระสับกระส่ายแพทย์ได้บอกความจริงกับเขาว่า ขอให้เขาเลือกเอาอย่างหนึ่งคือ ธุรกิจการเงิน หรือ ชีวิต และจะต้องตัดสินใจเลือกอย่างรวดเร็วด้วยถ้าเขาเลือกเอาชีวิตไว้ ขอให้เลิกงานด้านธุรกิจอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้น เขาจะต้องตายอย่างแน่นอนเขาเลือกเอาชีวิตไว้ แพทย์ได้วางกฎ ๓ ข้อให้เขาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ๑. อย่าวิตกทุกข์ร้อนในสิ่งหนึ่งสิ่งใดทุกๆ กรณี๒. พักผ่อนด้วยการออกก้าลังกายขนาดเบากลางแจ้ง๓. ระวังเรื่องอาหารประจ้าวัน อย่ากินเมื่อยังไม่หิวรอคกี้เฟลเลอร์ ปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ ผลก็คือ เขารอดตายเขาหยุดงานด้านธุรกิจแต่หันมาสนใจเรื่องของเพื่อนบ้านและเล่นกีฬาในร่มเล็กๆ น้อยๆ

ระหว่างที่ รอคกี้เฟลเลอร์ ทรมานจากโรคนอนไม่หลับและหยุดงานธุรกิจแล้วนั้น เขามีเวลาเหลือเฟื่อที่จะค้านึงถึงสิ่งต่างๆเขาเริ่มคิดถึงผู้อื่นเขาเลิกคิดถึงเรื่องการกอบโกยเงินแต่เขากลับคิดว่าเขาจะต้องใช้เงินจ านวนสักเท่าใดจึงจะสามารถสร้างความสุขให้ปวงมนุษย์ในโลกได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวมา เขาเริ่มบริจาคเงินจานวนล้านๆ เพื่อสาธารณกุศลวิทยาลัยเล็กๆ แห่งหนึ่งบนฝั่งทะเลสาบมิชิแกน ซึ่งก้าลังจะถูกธนาคารยึด แต่ได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชิคาโกเพราะการช่วยเหลือของเขาโดยการบริจาคเงินหลายล้านเหรียญ เขาบริจาคเงินช่วยเหลือการศึกษาของชาวนิโกรเขา เองอีกนั่นแหละ บริจาคเงินหลายล้านเหรียญในการปราบพยาธิปากขอจนหมดไปจากภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาเขาได้ตั้งมูลนิธิอันยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นประโยชน์แก่โลก นั่นคือ รอคกี้เฟลเลอร์มูลนิธิ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ และเพื่อความสุขสวัสดีของปวงมนุษย์ทั่วโลกไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ว่าจะมีองค์กรใดได้บ้าเพ็ญประโยชน์แก่มนุษย์อย่างกว้างใหญ่ไพศาลเหมือนรอคกี้ เฟลเลอร์มูลนิธิ รอคกี้ เฟลเลอร์ มูลนิธิ เป็นสิ่งแปลกและใหม่ของโลกเขาให้ทุนเพื่อการศึกษาค้นคว้าสิ่งต่างๆ มากมายรวมทั้งในวงการแพทย์ด้วยเราต้องขอบคุณเขาในเรื่องยาหลายชนิดเช่น เพนนิซิลิน ยาในการรักษาเยื่อหุ้มสมองอักเสบเขาร่วมบริจาคในการต่อสู้ท้าลายโรคมาเลเรีย วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ โรคคอตีบและโรคอื่นๆ อีกมาก ซึ่งระบาดอยู่ทั่วโลก

ส าหรับรอคกี้เฟลเลอร์เอง ได้รับผลจากการปฏิบัติเช่นนั้นของเขาอย่างดียิ่ง คือได้รับสันติสุขทางใจอย่างล้นเหลือ ได้รับความยกย่องนับถือไปทั่วโลกยอห์น. ดี. รอคกี้เฟลเลอร์ ผู้ซึ่งกาลังจะตายเมื่ออายุ ๕๓ ปี กลับเป็นผู้มีอายุยืนถึง ๙๘ ปี อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งนี้เพราะเขาได้เปลี่ยนชีวิตของเขา จากความหน้าเลือดเห็นแก่ได้ เอารัดเอาเปรียบมาเป็นผู้เสียสละ บ าเพ็ญประโยชน์เพื่อความสุขของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและ ตัวเขาเองก็กลายเป็นผู้มีความสุข ความสงบแห่งจิตเขาเปลี่ยนคนเกลียดชังให้รักใคร่เพราะเขาเปลี่ยนแปลงแนวคิด การกระท าของเขาก่อนรวมความว่าเปลี่ยนแปลงตัวเขาเองท าตัวเขาให้เป็นประโยชน์แก่คนทั้งหลาย ท าความดีและเพิ่มพูนความดีอยู่เรื่อยๆความส าเร็จในชีวิตอย่างแท้จริงอยู่ตรงนี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น