++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สั่งปิดพื้นที่ตลิ่งน้ำตุ๋ย พิสูจน์อิฐเก่า คาดเป็นเตาเผาโบราณกว่า 400 ปี





ลำปาง - เร่งตรวจสอบบริเวณที่พบอิฐเก่าข้างตลิ่งลำน้ำตุ๋ย เมืองลำปาง เบื้องต้นคาดเป็นเตาเผาโบราณอายุกว่า 400 ปี ด้านรองผู้ว่าฯ สั่งปิดกั้นพื้นที่ จัดเวรยามเฝ้าระวัง กันมิจฉาชีพแอบขุดหาของมีค่า
     
       รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 7 จ.น่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำตุ๋ย ลำน้ำสาขาของแม่น้ำวัง ที่บ้านสบก๋ง หมู่ 12 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง จุดที่พบอิฐเก่าวางเรียงกันคล้ายกับเจดีย์โบราณ ทันทีหลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา
     
       นายทินกร สุริกัน นักวิชาการวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการวางเรียงตัวของอิฐที่พบเป็นการขุดหลุมลงไปก่อน จากนั้นมีการนำอิฐลงไปเรียงจากด้านใน ซึ่งเป็นการวางเรียงในลักษณะให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการกระแทกและถล่มลงมา และลักษณะอิฐก็เป็นการปั้นด้วยมือ และใช้มีดปาดให้เรียบ ส่วนอายุหรือความเก่าแก่นั้นตนไม่สามารถสรุปได้ แต่มั่นใจว่าน่าจะเก่ากว่า 150 ปีอย่างแน่นอน
     
       ด้านเจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 7 จ.น่าน ซึ่งได้เดินทางเข้าตรวจสอบเบื้องต้นบอกว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าสิ่งที่พบเป็นอะไร แต่เท่าที่ดูมีลักษณะคล้ายเตาเผาโบราณ คาดว่าจะมีอายุมากกว่า 400 ปี ซึ่งจะได้ส่งทีมงานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
     
       ขณะที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการปิดกั้นบริเวณดังกล่าวห้ามรถแบ็กโฮเข้ามาตัก ขุด เจาะใดๆ ในบริเวณดังกล่าวโดยเด็ดขาด พร้อมสั่งให้นายก อบต.บ้านเป้า และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านสบก๋ง จัดเวรยามเฝ้าเนื่องจากเกรงมิจฉาชีพจะเข้าไปแอบขุดเพื่อหวังหาของมีค่าที่อยู่ภายใน
     
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ชาวบ้านบ้านสบก๋ง ม.12 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง ได้พบอิฐเก่าวางเรียงกันคล้ายกับเจดีย์โบราณข้างตลิ่งแม่น้ำแม่ตุ๋ย ขณะที่มีการนำรถแบ็กโฮทำการขุดลอกแม่น้ำและซ่อมแซมตลิ่งบริเวณดังกล่าว
     
       ทั้งนี้ นายบุญธรรม ธะชมพู อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 12 บ้านสบก๋ง ต.บ้านเป๋า อ.เมือง จ.ลำปาง อดีตผู้ใหญ่บ้านสบก๋ง ได้กล่าวว่า หลังคนงานใช้รถแบ็กโฮขุดเพื่อทำแนวตลิ่งก็พบกับกองอิฐเก่าซึ่งมีการวางเรียงกันเป็นชั้นคล้ายรูปทรงยอดเจดีย์ สร้างความแตกตื่นให้ชาวบ้านภายในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก ต่อมาหลังมีข่าวแพร่สะพัดออกไปประชาชนที่ทราบข่าวต่างทยอยมาดูต่อเนื่อง กระทั่งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและเข้ามาดำเนินการดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น