++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พระสูตรความย่อ ติมพรุกขสูตร ว่าด้วย สุขและทุกข์


 พระสูตรความย่อ
ติมพรุกขสูตร
ว่าด้วย สุขและทุกข์
ที่มา: พระไตรปีฎกภาษาไทย ฉบับหลวง พ.ศ. ๒๕๒๕
เล่ม ๑๖ ข้อ ๕๓ - ๕๖  หน้า ๑๙ - ๒๑

ดูพระสูตรตอนเดียวกัน โดยคลิกที่  




สาระสังเขป

สถานที่: พระเชตวัน พระนครสาวัตถี
ผู้สอน: พระพุทธเจ้า
ผู้รับคำสอน: ติมพรุกขปริพาชก
หัวข้อธรรม: สุขและทุกข์ เกิดเพราะตนเอง หรือผู้อื่น ?   ดู:ข้อ[๑]
สุขและทุกข์ เกิดและดับเพราะปัจจัยต่าง ๆ   ดู:ข้อ[๒]


 [๑] พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ปริพาชกชื่อติมพรุกขะ ได้เข้าไปเฝ้าถึงที่ประทับ ติมพรุกขะได้ทูลถามปัญหาทีละข้อดังนี้

สุขและทุกข์ตนกระทำเองหรือ ?
สุขและทุกข์ผู้อื่นกระทำให้หรือ ?
สุขและทุกข์ตนกระทำเองด้วย ผู้อื่นกระทำให้ด้วยหรือ ?
สุขและทุกข์ตนเองกระทำก็มิใช่ ผู้อื่นกระทำให้ก็มิใช่หรือ ?
พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบแต่ละข้อนั้นว่า อย่ากล่าวอย่างนั้น ติมพรุกขะ
      ติมพรุกขะจึงทูลถามอีกว่า สุขและทุกข์ไม่มีหรือ ท่านพระโคดม ?
     ภ. สุขและทุกข์มีอยู่ ติมพรุกขะ
      ต. ถ้าอย่างนั้น ท่านพระโคดม ย่อมไม่รู้ไม่เห็นสุขและทุกข์ ?
     ภ. ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ไม่เห็นสุขและทุกข์ เรารู้เห็นสุขและทุกข์อยู่
     ต. เมื่อข้าพเจ้าถามปัญหาเหตุเกิดของสุขและทุกข์แต่ละข้อ พระองค์ก็ตรัส ตอบว่า อย่ากล่าวอย่างนั้น ทุกข้อไป เมื่อข้าพเจ้าถามว่า สุขและทุกข์ไม่มีหรือ พระองค์ก็ตรัสว่า สุขและทุกข์มีอยู่ ครั้นข้าพเจ้าถามว่า ถ้าอย่างนั้น พระองค์ย่อมไม่รู้ไม่เห็นสุขและทุกข์น่ะซิ พระองค์ก็ตรัสว่า เรารู้เห็นสุขและทุกข์อยู่ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงตรัสบอกให้ข้าพเจ้ารู้ถึงสุขและทุกข์ด้วยเถิด
ที่มา: ติมพรุกขสูตร ๑๖[๕๓ - ๕๔]๑๙-๒๐
 [๒] ภ. ท่านติมพรุกขะ เมื่อบุคคลถืออยู่ว่า เวทนากับผู้เสวยเวทนาเป็นสิ่งเดียวกัน ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่กล่าวว่า สุขและทุกข์ตนกระทำเอง เมื่อบุคคลที่มีเวทนาอยู่ ถือว่า เวทนากับผู้เสวยเวทนาเป็นคนละสิ่งกัน เราก็ไม่กล่าวว่า สุขและทุกข์ผู้อื่นกระทำให้
      ท่านติมพรุกขะ ตถาคตไม่เข้าไปใกล้ส่วนสุดทั้ง ๒ นั้น เราแสดงธรรมโดยสายกลางว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ..... ทุกข์ทั้งมวลจึงเกิดขึ้นด้วยประการอย่างนี้ เพราะอวิชชาดับสิ้นเชิง สังขารจึงดับ เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ..... ทุกข์ทั้งมวลจึงดับด้วยประการอย่างนี้
ที่มา: ติมพรุกขสูตร ๑๖[๕๕]๒๐

 [๓] เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ติมพรุกขะได้ทูลว่า ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าพระองค์ขอถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะ และขอจงทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะจนตลอดชีวิต
ที่มา: ติมพรุกขสูตร ๑๖[๕๖]๒๑

http://www.navy.mi.th/newwww/code/special/budham/tps/tps160118.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น