ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกปากเร่งรัดหน่วยงานรับผิดชอบแก้ปัญหารุกป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ใน 1 เดือน ให้มีความคืบหน้าการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิในระดับพื้นที่ หากพบมีการบุกรุกรายใหม่ให้ดำเนินคดีทันที
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตามข้อร้องเรียนของชมรมพารามอเตอร์จังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้ข้อมูลกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังห้วยตึงเฒ่า ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 พบว่า มีราษฎรบุกรุกพื้นที่และเข้าทำประโยชน์ในที่ดินประมาณ 600 กว่าแปลง ในท้องที่ตำบลขุนช่างเคี่ยน หากรวมพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ถูกบุกรุกและเข้าทำประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ รวมแล้วประมาณ 4,000 กว่าแปลง
ขณะนี้อยู่ในกระบวนการและขั้นตอนพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของราษฎร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41 และอุทยานฯ เคยดำเนินคดีต่อราษฎรที่บุกรุกและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่อุทยานฯ แต่ปรากฏว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีหลายคดี เนื่องจากเห็นว่าอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไม่มีข้อห้ามให้ราษฎรหยุดการทำประโยชน์ในที่ดินแต่อย่างใด แต่ห้ามขยายพื้นที่เพิ่มเติมโดยเด็ดขาดเท่านั้น
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อที่ประชุมว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ที่ประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะชมรมพารามอเตอร์ ที่มีจิตอาสา มีเจตนารมณ์ที่จะช่วยดูแลปกป้องพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและพื้นที่ป่า โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่เป็นหน้าตาและภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่
ดังนั้น จึงอยากจะขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เอาจริงเอาจังต่อการแก้ไขปัญหาการ บุกรุกพื้นที่ป่า กรณีนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ เบื้องต้นจะมุ่งเป้าไปที่พื้นที่บุกรุก 600 กว่าแปลงก่อน โดยขอให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก เร่งรัดการตรวจสอบตรวจทานในระดับพื้นที่ นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของราษฎรพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า) ท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2554 โดยมีผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เป็นประธานกรรมการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว กำหนดกรอบระยะเวลา 1 เดือน ที่จะต้องเห็นความคืบหน้าการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ
ทั้งนี้ หากพบว่ามีการบุกรุกรายใหม่ที่ไม่เป็นไปตามแนวทางของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 กำหนด ให้มีการดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกทันที ส่วนผู้บุกรุกรายเดิมที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิสูจน์สิทธิก็ให้ดำเนินการไปตามกรอบกฎหมายให้เป็นไปอย่างเป็นธรรม เสมอหน้ากันโดยไม่มีเลือกปฏิบัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น