Theขี้ฝุ่นริมทาง
วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จริงหรือไม่
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว วัดกันที่ตรงไหน
อะไรคือทำดี อะไรคือทำชั่ว........เอาอะไรมาเป็นเส้นแบ่งคะ................
ถ้าบอกว่า พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม
ไอ้คำว่าเจตนาเนี่ยแหละ ที่มักสำคัญผิดกันไปมา หากได้ลองพิจารณาดูด้วย ลองพิจารณาแค่เล่นๆ
คนที่ไม่เคยได้ปฏิบัติธรรม เวลาเขาจะกล่าว มุสา เอาแค่ศีลเบื้องต้น ที่ไม่เคยรักษา ไม่เคยภาวนา
จะเห็นตามเป็นจริงไหมว่า กำลังมุสาอยู่ กำลังถูกกิเลสที่ลากเอาตัวกูวางแผนแยบยลให้ เอ่ยมุสา หรือผุสาวาท ออกไป
โดยที่บางทีไม่มีสติมารองรับ เลยไม่เห็นเจตนาของตน แล้วก็เอามาอ้างข้างๆคูว่า กู... ก็ไม่เจตนา
มีคนชอบอ้างว่า ทำไมอีกาไปกินข้าวที่เขาเอาไว้ใส่บาตรพระพุทธเจ้า(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วไปเกิดเป็นเปรต
อีกาก็ต้องกินข้าว อีกาคุยรู้เรื่องเหรอ ว่านี่นะ เป็นอาหารสงฆ์ ถ้ากินแล้วบาป แต่คนเราก็ชอบเอาไปอ้างว่าไม่น่าบาปเพราะไม่เจตนา
เอาแบบว่า ไม่รู้ย่อมไม่ผิด บางคนก็บอกว่า ก็ด้วยกรรมเก่า ถึงเกิดเป็นอีกา อีกาก็มีนิสัยขี้ขโมยอยู่แล้ว เลยบาป
นั่นสิ......จะกรรมเก่ากรรมใหม่ กาจะเจตนาหรือไม่ แต่การไปกินข้าวสงฆ์ ก็ต้องรับบาป ลองคิดใหม่
คุณขับรถไป แล้วชนหมาตาย โดยที่คุณไม่รู้ไม่เห็นด้วยซ้ำว่า หมามันวิ่งออกมาตอนไหน แล้วมันตายไปแล้ว
คุณมารู้เอาตอนได้ยินเสียงเอ๋ง พร้อมกับรถยกขึ้นทับ ลงไปดูก็ว่ามันตายแล้ว....เราไม่ผิด ก็เราไม่เจตนา
แล้วจิต.ตอนนั้นนะ มันหดหู่ไหม .......ถ้าวางไม่เป็นนะ เกิดขับรถแล้วไปเหยียบหมาแล้ว ตกกะใจ เหยียบคันเร่ง ไปชนต้นไม้
จิตขณะตายเกิดไปคิดอยู่ว่าเห็นหมาถูกรถเราเหยียบ ..........ไปนรกไหม????
เรื่องสัทธิวิหาริก (ลูกศิษย์) ของท่านพระสารีบุตร ๕๐๐ องค์ ชาติก่อนเคยเกิดเป็นค้างคาวห้อยหัวอยู่ในถ้ำ บังเอิญได้ยินพระท่านท่องบ่นสวดสาธยายพระอภิธรรมกันอยู่ ก็สำเหนียกตั้งใจฟังทั้งๆ ที่ฟังไม่ออก และไม่รู้เรื่องว่าพระท่านทำอะไรว่าอะไรกัน จึงได้แต่ฟังประจำจนคุ้นหู แค่อานิสงส์ที่ได้ฟังด้วยความตั้งใจเท่านั้น ทำให้เมื่อตายแล้วได้ไปเกิดเป็นเทวดา จิตเป็นกุศลก็ได้บุญแล้ว
อย่างนี้ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว.......คงมิได้หมายความแต่เพียงแค่อ่านและแปลตามตัวอักษรเท่านั้น........................................
เจตนาตามพุทธพจน์ ก็คงมิได้หมายความแค่เจตนาที่ปุถุชนคนธรรมดาที่ขาดทั้ง สติ และปัญญาที่ระเอียดขึ้นตามลำดับ
จะเข้าใจได้โดยง่าย จึงมีพุทธพจน์เพื่อไม่ให้ผู้ยังไม่ปฎิบัติธรรม อันสมควรแก่ธรรมจะรู้ได้ ว่า กรรมเป็นอาจิณไตยอย่างหนึ่ง
ผู้ปฏิบัติธรรม อันสมควรแก่ธรรม จึงไม่ใช่คำง่ายๆที่จะตีความเช่นกัน
เช่นนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว .........ก็ต้องเป้นผู้ที่รู้เห็นตามความเป็นจริงเหตุเพราะการปฏิบัติธรรมโดยสมควรแก่ธรรม
มิใช่ ด้นเดาเอาตามความหมายตรงตามสมมติ..............
จึงยากที่จะอธิบาย
ปุ๋ม
10/7/55
ให้หมั่นพิจารณาอยู่เสมอว่า
เรามีกรรมเป็นของตน
เรามีกรรมเป็นผู้ให้ผล
เรามีกรรมเป็นแดนเกิด
เรามีกรรมเป็นผู้ติดตาม
เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ไม่ว่าทำกรรมใดไว้
เราจะต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นสืบไป
เมื่อเข้าใจกฎแห่งกรรมจริงๆแล้ว
เราจะสามารถทำใจและรักษาใจดีไว้ได้ในทุกสถานการณ์
มีความสุขใจ พอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
พอใจในการสร้างความดี ละความชั่ว
ยินดีในการให้ทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น