by สำนักสารนิเทศ
เทศบาลเมืองมหาสารคาม จัดพิธีปฏิญาณตนและลงนามงดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายในหลวง ประจำปี 2555 เทศบาลเมืองมหาสารคามร่วมกับจังหวัดมหาสารคาม จัดพิธีปฎิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายในหลวง ประจำปี 2555 โดยมีวีระวัฒน์ ชื่นวารินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้นำกล่าวคำปฏิญาณตนและลงนามงดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายในหลวง เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2555 สืบเนื่องจากจังหวัดมหาสารคามได้ดำเนินงานตามโครงการตักสิลานคร บวร รัฐ ลดละเลิกอบายมุข ซึ่งดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยกิจกรรมสำคัญคือการรณรงค์งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นของเทศกาลลด ละ จากอบายมุขทั้งปวงตามวิถีชาวพุทธ ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2554 ที่ผ่านมามีผู้ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา จำนวน 113,801 คน โดยมีผู้ลงนามเลิกดื่มตลอดชีวิต 1,939 คน มีหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกิจกรรมรณรงค์จำนวน 117 หน่วยงาน ทั้งนี้การรณรงค์ในปี พ.ศ.2555 มีเป้าหมายคือมีบุคคลต้นแบบที่ปฏิญาณตนเลิกเหล้าจำนวน 2,600 คน มีครอบครัวต้นแบบเลิกเหล้า 1,400 ครอบครัว หมู่บ้านละ 1 ครอบครัว มีหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ร่วมสนับสนุน 400 หน่วยงาน ซึ่งสอดคล้องกับการณรงค์ทั่วประเทศ โดยการสนับสนุนงบประมาณดำเนินงานจากเทศบาลเมืองมหาสารคาม และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สสส.) เทศบาลเมืองมหาสารคามจึงได้ ร่วมกับจังหวัดมหาสารคามโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคาม ชุมชน 30 ชุมชน และสถาบันการศึกษา โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดพิธีปฏิญาณตนและลงนามงดเหล้าเข้าพรรษาทำความดีถวายในหลวง ประจำปี 2555 ขึ้น โดยให้หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม งดเหล้าช่วงเข้าพรรษา เพื่อทำความดีถวายในหลวง ทั้งนี้กิจกรรมประกอบด้วย นายวีระวัฒน์ ชื่นวารินทร์ ประธานในพิธีลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา/หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมลงนามงดเหล้าเข้าพรรษา ชาวคุ้ม นักเรียน/นิสิต/นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ร่วมลงนามปฏิญาณตน งดเหล้าเข้าพรรษา ทั้งนี้ในปีนี้ถือเป็นโอกาสฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อเทิดพระเกียรติพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้การงดเหล้าเข้าพรรษาถือเป็นการเริ่มปฏิบัติดี เหมือนเป็นการเริ่มจุดเทียนเล่มแรกในความมืด และเมื่อเราปฏิบัติมากขึ้น ก็เท่ากับจำนวนเทียนที่มากขึ้นก็ช่วยขับไล่ความมืด ให้ชีวิตเห็นแสงสว่างและมองอะไรๆ ได้กระจ่างชัด ซึ่งการดื่มเหล้าเหมือนกับสร้างความประมาทให้ตัวเอง สิ่งไม่ดีอื่นๆ ก็จะเริ่มตามมา แต่ละปีรัฐจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแล ซ่อมแซมสุขภาพ และรักษาผลที่ตามมาจากการที่ประชาชนทำร้ายตัวเอง ด้วยการกินเหล้า สูบบุหรี่ หากประชาชนใช้โอกาสนี้ เริ่มต้นลด ละ เลิก สิ่งที่เป็นอบายมุขต่างๆ ก็จะช่วยรัฐและตัวเองให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น