++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

รักป่าจริง ฤาภาพลวงตา โดย ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต


เห็นภาพเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ นำเครื่องจักรกลและผู้คนจำนวนมากเข้ารื้อถอนรีสอร์ตและบ้านพักที่วังน้ำเขียว ทับลาน แล้วรู้สึกหดหู่ และเศร้าใจแทนผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น มิใช่เพราะเขาเป็นนายทุนกระทำความผิดบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ จึงต้องจัดการอย่างที่ได้กระทำไป ในขณะที่การตัดไม้ทำลายป่าในอุทยานฯ ทั่วประเทศไม่เคยจับนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง มีแต่ปลาซิวปลาสร้อยที่ถูกดำเนินคดี ชาวบ้านรอบบริเวณพลอยรับกรรมไปด้วย

ชนชั้นกลางที่พอมีเงินเก็บหอมรอมริบเพื่อเป็นเงินทุนไปซื้อที่ดิน ซึ่งมิได้มีสภาพป่าหลงเหลืออยู่แล้ว บางแห่งปลูกบ้านปลูกรีสอร์ตไว้ก่อน เพื่อการอยู่อาศัย หรือทำมาหากินบั้นปลายชีวิต จะรู้ว่าพื้นที่ของตนอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหรือไม่ก็ตาม แต่ลักษณะปัญหาเช่นนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในประเทศไทย บางกรณีในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีรีสอร์ตอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ถูกจับส่งฟ้องศาล เจ้าของรีสอร์ตแพ้คดี แต่ก็ยังปล่อยให้เช่าพื้นที่ต่อไปได้ เพราะมีเส้นสายอยู่เบื้องหลัง เหตุใดจึงปฏิบัติไม่เหมือนกัน

โครงการสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี และสวนราชพฤกษ์ซึ่งเป็นสถานที่จัดมหกรรมพืชสวนโลก โดยคณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดสร้างทับพื้นที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอุทยาน ฟ้องร้องไปหลายหน่วยงานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครจับกุม ไม่ถูกฟ้องร้อง ไม่ถูกรื้อทิ้ง นอกจากนั้นยังมีหน่วยราชการมากกว่า 20 หน่วยงานขึ้นไปก่อสร้างอยู่กลางอุทยานฯ บนดอยสุเทพโดยไม่มีปัญหาใดๆ

พื้นที่ฝั่งตรงข้ามวัดพระธาตุดอยสุเทพ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเคยเป็นพื้นที่ของเอกชนซึ่งทำเป็นสวนกุหลาบและรีสอร์ต ปัจจุบันถูกยึดและให้องค์การบริหารส่วนตำบลไปใช้ประโยชน์ พื้นที่ที่เหลือถูกทำเป็นอาคารพาณิชย์ให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าเพื่อค้าขายและอยู่อาศัย เหตุใดจึงไม่ปลูกป่าฟื้นคืนสภาพเช่นที่อื่นๆ ปล่อยให้มีแต่ความสกปรกจากขยะและน้ำเสีย

ผมเคยไปเกาะเสม็ด จ.ระยอง เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้วขณะที่ยังเรียนอยู่โรงเรียนช่างศิลป์ และเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยศิลปากรก็ไปรับน้องที่นั่น หาดทรายแก้วทอดยาวเหยียดขาวสะอาดดุจดังกระดาษ พวกรุ่นพี่ให้แก้ผ้าเดินลงทะเล เพราะไม่มีผู้คน หรือแม้แต่รอยเท้ามนุษย์บนหาดทราย ชาวบ้านดั้งเดิมที่นั่นทำมาหากินด้วยอาชีพประมงและทำไร่ ทำสวน ผมเคยไปนอนบ้านน้าหวังและได้พบกับฤาษีชาญที่นั่นด้วย ยืนยันได้ว่าคนอยู่มาก่อนการประกาศเขตอุทยานฯ ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ดในวันนี้ ทุกอ่าว ทุกชายหาดล้วนมีเจ้าของ ที่ดินมีราคาแทบทุกตารางนิ้ว รัฐพยายามที่จะยึดเอาที่ดินคืน ในสมัยรัฐบาลทักษิณได้จัดตั้งองค์การบริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เพื่อเข้าไปพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งหลายให้มีศักยภาพและเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยว โดยจะดึงนักลงทุนและเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาเกาะเสม็ดก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายเหล่านั้น นายปลอดประสพ สุรัสวดี คือผู้บริหารชุดแรกที่ลงไป แต่ก็ต้องรีบเผ่นออกมาเพราะไปทะเลาะกับชาวบ้านที่นั่น (ทุกวันนี้ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม)

กลุ่มทุนที่เข้าไปหนุนอำนาจรัฐต่างก็มีความปรารถนาที่จะได้ครอบครองพื้นที่อันงดงามเฉกเช่นเกาะเสม็ด ยืมมือรัฐไล่จับ ฟ้องร้อง ยึดที่ชาวบ้านและเจ้าของรีสอร์ตรายย่อย โดยอาศัยศาลเป็นเครื่องมือใช้กฎหมายมากดหัวชาวบ้าน

เมื่อที่ดินกลับมาเป็นที่ราชพัสดุในความครอบครองของรัฐ บรรดานักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีเส้นสายทางการเมืองก็เข้าไปเช่าที่สัมปทานระยะยาว สร้างโรงแรม รีสอร์ตหรู ค่าห้องพักคืนละหลายหมื่นไปจนถึงแสนต่อห้องก็มี ในขณะที่ชาวบ้านธรรมดาไม่มีโอกาสย่างกรายเข้าไป ทั้งที่ที่ดินเหล่านั้นเคยเป็นของตนมาก่อน

ชาวบ้านที่อยู่บนเกาะช้าง จ.ตราด ก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน โดยรัฐอ้างว่าที่ดินบนเกาะช้างเป็นเขตพื้นที่ของทหารเรือ ทั้งที่ที่ดินเหล่านั้นเป็นสวนผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกกันมาเกือบชั่วอายุคน แทบไม่มีเคยเห็นทหารเรือที่ไหนเข้าไปยุ่ง สุดท้ายก็กลายเป็นรีสอร์ต โรงแรมหรูซึ่งมีนักการเมืองเป็นเจ้าของอีกเช่นเคย

เกาะพีพี จ.พังงา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของภาคใต้ก็เป็นอีกแห่งซึ่งประสบชะตากรรมเดียวกัน นายปลอดประสพก็พยายามลงไปอธิบายกับชาวบ้าน อ้างว่าทำไปเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เกือบได้ชกต่อยกับชาวบ้านกันที่นั่น จากนั้นก็ไม่เคยลงไปอีกเลย ยังจำผลงานเรื่องอ่าวมาหยาของคนดังคนนี้ได้อยู่หรือไม่

ยังมีอีกหลายร้อยหลายพันกรณีที่จะนำมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการจัดการป่าไม้ที่ล้มเหลว คนในพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยดูแลอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ไว้ได้ ผมเคยเป็นกรรมาธิการยกร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน ได้เข้าไปชี้แจงจนผ่านสภาผู้แทนฯ เป็นเอกฉันท์ แต่กลับไปตกม้าตายในวุฒิสภา ซึ่งขัดขวางไม่ยอมให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมดูแลป่า

หลักการสำคัญของพ.ร.บ.ฉบับนี้ก็คือ เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้คนในพื้นที่เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ร่วมกันในการดูแล อนุรักษ์ และใช้ประโยชน์จากป่าอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและทำงานร่วมกันภายใต้กรอบของกฎหมาย

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2540 มาตรา 46 และฉบับปัจจุบัน พ.ศ.2550 ในส่วนที่ 12 ว่าด้วย “สิทธิชุมชน”

มาตรา 66 บุคคลซึ่งรวมกันเป็นชุมชน ชุมชนท้องถิ่น หรือชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ย่อมมีสิทธิอนุรักษ์หรือฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและของชาติ และมีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน

นักการเมืองและข้าราชการประจำไม่ยอมปล่อยวางอำนาจและผลประโยชน์ กลับยิ่งเพิ่มคน เพิ่มงบประมาณ เพิ่มอาวุธเพื่อดูแลป่า แต่ป่าไม้กลับเหลือน้อยลงทุกที พื้นที่ป่าหายไปปีละกว่า 3 หมื่นไร่ โดยที่ปืนก็ปกป้องป่าไม่ได้

วังน้ำเขียวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีค่าออกซิเจนมากที่สุดแห่งหนึ่งไม่แพ้ที่ใดในโลก จึงกลายเป็นที่หมายปองของนายทุนทั้งไทยและต่างชาติ ตลอดจนนักการเมืองทั้งหลายที่จ้องตาเป็นมันมานานแล้ว เช่นเดียวกับเกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะพีพี และที่อื่นๆ

ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่วังน้ำเขียวและทับลาน ดูเผินๆ เหมือนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะเป็นพระเอก ที่ได้กระทำการเด็ดขาดรุนแรงกับนายทุน อ้างว่าเพื่อคืนพื้นที่ป่าไม้ให้กับอุทยานฯ ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ต่างประโคมข่าวกันแทบทุกสื่อ และยังมีสกู๊ปข่าวเจาะลึกชีวิตและการทำงานของอธิบดีคนนี้ตามมาอีกหลายครั้ง ดูเหมือนครั้งนี้ป่าจะฟื้นได้เพราะมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยไว้

ย้อนกลับไปดูในอดีตเมื่อ 6 ปีก่อน อธิบดีคนนี้มิใช่หรือที่เอาลูกน้องมาป่วนพันธมิตรฯ ที่สวนลุมพินี ล่าสุดบรรดาลูกจ้างกรมอุทยานฯ ทั่วประเทศนับพันถูกระดมมาที่วัดธรรมกาย และได้มาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นเสื้อสีแดงในสวนสัตว์ดุสิต ออกมาปกป้องสภาเพื่อให้ออก พ.ร.บ.ปรองดอง

ทั้งหมดนี้ใครอยู่เบื้องหลัง ถ้าไม่ใช่นักการเมืองที่คอยจ้องหาผลประโยชน์ อย่าดูคนแค่การกระทำที่สร้างภาพลวงตา ต่อไปก็จะมาเป็นนอร์มินีของนักการเมืองตามรุ่นพี่ เช่น อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ อย่างนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมที่ดิน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หรืออดีตอธิบดีกรมชลประทาน อย่างนายธีระ วงศ์สมุทร ล้วนได้ตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีคุมกระทรวงสำคัญๆ ซึ่งมีงบประมาณมากมาย

ประเทศนี้กำลังเข้าสู่ยุคมืดในทุกเรื่องราว พระสยามเทวาธิราชเท่านั้นที่จะหยุดยั้งคนชั่วและความเลวเหล่านี้ เหลือบ่าเหลือแรงแล้วกับข้าราชการและนักการเมืองกำมะลอ

ยิ่งเห็นนายพลเอกของกองทัพไทยถือพานดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมานักการเมืองแล้ว แทบไม่ต้องไปทำดีท็อกซ์กับหมอเขียว เพราะมันอ๊อกออกไปหมดแล้ว อนิจจาประเทศไทย เห็นการเมืองน้ำเน่าแบบนี้แล้ว อยากจะอ้วกๆๆๆๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น