มหาสารคามจัดอบรมความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสามเณร

by สำนักสารนิเทศ
สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดอบรมความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสามเณร สำนักงานศาลยุติธรรมจัดประชาสัมพันธ์เชิงรุกผลักดันความรู้ด้านกฎหมายสู่สามเณร ณ. วัดมหาชัย พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานศาลยุติธรรมโดยกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดโครงการอบรมความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสามเณร ครั้งที่ 10 โดยมี นายวิวัช ชันวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด นายสุริยัณห์ หงส์วิไล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อเป็นการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ความรู้เกี่ยวกับศาลยุติธรรม ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายแก่สามเณร และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 84 พรรษา ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ครบ 80 พรรษา และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ครบ 60 พรรษา รวมถึงเป็นการคุ้มครองสถานะและสวัสดิภาพเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั่วประเทศ และยังเป็นการระดมแนวคิดในการกำหนดกรอบแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพเยาวชนตามกฎหมายไทยและกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 เพื่อให้เยาวชนได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และบุพการี ด้วยการบรรพชาเป็นสามเณร คือการศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและสำรวมกาย วาจา ใจ ให้เกิดสติ สมาธิ และปัญญา โดยมีสามเณรซึ่งเป็นเยาวชนในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ในจังหวัดมหาสารคามจำนวน 500 รูป เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ นาย วิวัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า โครงการอบรมความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสามเณร ครั้งที่ 10 ในครั้งนี้ เพื่อให้ความรู้ทางด้านกฎหมายแก่สามเณร ซึ่งเป็นเยาวชนให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจถึงสิทธิต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และพัฒนาจิตใจ ส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรม วางรากฐานการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงามให้แก่เยาวชน และมีส่วนทำให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้และประสบการณ์จากการอบรมไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคม เพราะด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตลอดจนการบริโภคข้อมูลข่าวสารจากสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากมายในชีวิตประจำวัน จนเป็นสาเหตุให้เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ถูกชักนำไปในทางที่ผิดโดยง่าย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีผู้ชี้แนะแนวทางและให้ความรู้ที่ถูกต้อง รวมทั้งต้องมีการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ควบคู่กันไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมให้เยาวชนสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต