นักวิทยาศาสตร์ชาวซากุระ พบความลับของฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์ ยักษ์อัศจรรย์ สามารถผลิตยาทากันแดดเป็นเครื่องสำอางป้องกันรักษาผิวหนังจากแสงแดด และยาสมานแผลไว้ใช้ของตัวเองได้
คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยเภสัชกรรมญี่ปุ่น ได้เปิดเผยผลการศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของฮิปโปโปเตมัส ในวารสารวิทยาศาสตร์ "ธรรมชาติ" ว่า มันสามารถขับเหงื่อออกมาได้สองสี เป็นสีแดงกับสีส้ม เหงื่อสีแดงเหมือนเลือดนั้น มีสรรพคุณเป็นทั้งยาฆ่าเชื้อโรคและยาสมานแผล ช่วยให้แผลตามเนื้อตัวอันเนื่องมาจากการกัดกันเป็นประจำ หายในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เหงื่อสีเลือดที่ผุดออกมาจากผิวหนังหนาตามตัวมัน นับว่าสำคัญมากกว่า เพราะช่วยให้มันมีชีวิตอยู่ได้ เหตุที่มันเป็นสัตว์หากินพืชตอนกลางคืน ตอนกลางวันต้องหลบแดดลงน้ำ พักผ่อนบ้าง กัดกันเองบ้าง และที่สำคัญเพื่อย่อยอาหารไปด้วย "มันมีกระเพาะสำหรับย่อยหมักอาหาร เนื่องด้วยเป็นสัตว์กินอาหารหยาบกร้าน มีคุณภาพต่ำ กว่าจะย่อยสกัดเอาคุณค่าอาหารออกมาได้ ต้องใช้เวลากินและย่อยอาหารนานๆ มันจึงต้องกินจุ จึงบางคราวก็ต้องตากแดดหาอาหารเพิ่มอยู่ในน้ำตั้งครึ่งค่อนวัน และการมีขนเหมือนกับสัตว์อื่นก็ไม่เหมาะกับมัน ธรรมชาติจึงช่วยให้มันมีเหงื่อ ที่เป็นยาทากันแดดในตัว ทั้งยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและเป็นยาฆ่าเชื้อโรคด้วย"
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเหงื่อของมันจะเป็นยากันแดดขนานเอกก็ตาม แต่ก็อย่าเพิ่งรีบไปเก็บเอาตามสวนสัตว์ ด้วยนักวิทยาศาสตร์เพิ่งเผยความลับ ของมันอีกอย่างหนึ่งว่า เหงื่อของมันมีกลิ่นเหม็นฉุนชะมัด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น