++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

ความน่าเชื่อถือของการวิจารณ์การเมืองเรื่องพันธมิตรของชาวห้องราชดำเนินใน pantip.com

           มีหลายประเด็นที่ได้อ่านพบในกระทู้ต่างๆของห้องราชดำเนินในเวบไซต์พันทิพดอทคอม pantip.com เวบไซต์ที่หลายคนถือว่าเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ใหญ่แห่งหนึ่งของไทย แต่หลายคนกลับรับรู้ได้ถึงความไม่เป็นกลางของคนในห้องราชดำเนิน

            แน่นอนว่า ผู้คนที่แสดงความคิดเห็นในห้องราชดำเนินมีผู้คนหลากหลาย มีความรู้ มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง และมีความเชื่อมั่นในแนวคิดของตัวเองอย่างเต็มที่ และแสดงความคิดเห็นออกมาตามหลักการประชาธิปไตย  แต่หลายคนที่ได้อ่านกระทู้และการแสดงความคิดเห็นในสถานที่แห่งนี้ รู้สึกถึงความไม่เป็นกลางอย่างชัดเจน

            มีหลายกระทู้เรื่องการเมือง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพันธมิตร ถึงแม้ว่าจะมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและต่อต้านการกระทำของพันธมิตร แต่ในหลายประเด็นที่ปรากฏใน pantip นั้น ทำให้คนอ่านหลายท่าน รู้สึกว่า ห้องราชดำเนินขาดความน่าเชื่อถือเสียแล้ว  จนดูจะเป็นแหล่งรวมคนที่มีความคิดเห็นในทางเดียวกัน คือ สนับสนันพรรคการเมืองพลังประชาชน และต่อต้านคัดค้านฝ่ายตรงข้าม

            ไม่ว่าจะมีประเด็นใดที่นำเสนอออกมาจากฝ่ายตรงกันข้ามพรรคการเมืองที่ชาวห้องนี้นำเสนอออกมา ผู้คนส่วนใหญ่จะแสดงความคิดเห็นคัดค้าน ไม่เห็นด้วย วิเคราะห์วิจารณ์อย่างเต็มที่ ที่น่าสังเกต คือ การแสดงความคิดเห็นของบางคน ขัดกับหลักความเป็นจริง ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายที่คิดตรงกันข้ามกันอย่างชัดเจน

            นอกจากนี้ หลายคนในห้องราชดำเนิน ยังนำข้อความไปเผยแพร่ โดยไป post ในกระดานข่าว ใน blog หลายแห่ง โดยการ copy ข้อความ บทความ ความคิดเห็นยาวๆ รวมทั้งตัดแปะข้อความที่ตนเองเห็นด้วย หรือเพื่อหักล้างความคิดเห็นของฝ่ายที่คิดต่างจากตน ไป post หลายที่ จนเป็นข้อความขยะในเวบไซต์หลายแห่ง   จนหลายคนเอือมระอาจากการเข้าไป post ซ้ำๆ เปลี่ยนชื่อแล้วเข้าไปpost ไปเขียนด่าว่าคนที่มีความคิดเห็นตรงกันข้าม คอยวิเคราะห์จับผิดทุกอย่าง เมื่อฝ่ายตรงข้ามตามเข้ามาสังเกตการณ์ ก็พบว่า มีบางคนจากห้องราชดำเนินนี่เองที่ไป post ป่วนตามเวบต่างๆ เหมือนคนหาเรื่อง ระรานไปทั่ว

            ในบางเหตุการณ์ พวกคนเหล่านี้ ต่างวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นตามที่ตนเองคิด หรือข้อมูลจากฝ่ายที่ตนเองเลือกที่จะเชื่อ แต่ไม่เคยที่จะไปสัมผัสเหตุการณ์ของจริง เช่น การชุมนุมของพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล กับข่าวที่ออกมาว่า การ์ดอาสาของพันธมิตร ทำร้ายประชาชน ทำให้บางคนในห้องราชดำเนินมีความเชื่ออย่างฝังใจว่า การ์ดพันธมิตรนั้น น่ากลัว หากไม่พอใจใครจะเข้าทำร้ายทันที ทั้งๆที่ความเป็นจริง เมื่อมีคนเข้าไปร่วมการชุมนุม จะต้องมีการขอตรวจกระเป๋า ว่ามีอาวุธที่อาจเป็นอันตรายต่อคนส่วนใหญ่หรือไม่ รวมทั้งการเฝ้าระวัง คัดกรองคนที่อาจจะเข้ามาสร้างปัญหาให้กับผู้มาร่วมชุมนุม เมื่อผู้มาร่วมชุมนุมให้ความร่วมมือ เปิดกระเป๋าให้ตรวจค้นด้วยดี  การ์ดก็จะตรวจดู เมื่อไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายก็จะให้ผ่านเข้าไปพร้อมกับคำพูดจาที่สุภาพ................ แต่บางคนใน pantip ยังคงเชื่ออย่างฝังหัวว่า การ์ดอาสาไม่ได้สุภาพอย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ โกหก....

            แล้วคุณคนนั้นเคยไปร่วมชุมนุม ไปสัมผัสของจริงสักครั้งหรือยัง

            ดูจากการแสดงความคิดเห็นออกมา ล้วนผิดจากความเป็นจริงทั้งสิ้น แต่เมื่อคนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คิด และเชื่อเหมือนกัน จึงได้แต่สนับสนุนความคิดเห็นนั้นตามๆกันไป  โดยไม่มีการตรวจสอบความเป็นจริง ไม่ได้ไปดูของจริง
   
            ถ้าเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยน่าเป็นห่วง เมื่อคนเราเลือกที่จะเชื่อในข้อมูลที่ตนเองยอมที่จะเชื่อเท่านั้น ส่วนจะจริงหรือเท็จ ถ้าเป็นข้อมูลมาจากฝ่ายที่ตนเองเชื่อ นั่นถือว่า ถูกต้องรับได้

            เมื่อเป็นแบบนี้ ห้องราชดำเนินในพันทิพ ดูเป็นสถานที่ที่ไม่น่าเข้าไปจริงๆ เพราะมีความคิดเห็นข้างเดียว โดยคนกลุ่มเดียว คิด และจินตนาการกันไป

            น่าเสียดายจริงๆ หากบุคคลในห้องราชดำเนิน นำเวลาที่ใช้ การแสดงความคิดเห็นต่างๆ มาคิด หาแนวทางที่เป็นรูปธรรม เสนอทางออก ทางเลือกที่สามารถนำไปทำได้ ในการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น คงจะดีไม่น้อย แต่นั่น อาจไม่เคยอยู่ในความคิดของบุคคลในห้องราชดำเนินกระมัง เพราะถนัดแต่วิเคราะห์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์มากนัก แต่เกิดผลที่ทำให้ฝ่ายที่คิดต่าง  เป็นศัตรูกันมากยิ่งขึ้น

            ถ้าชาวราชดำเนินแน่จริง หลังจากวิจารณ์ประเด็นต่างๆแล้ว น่าจะระดมสมองเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์บ้าง เช่น แต่ละคนควรจะมีส่วนแก้ไขปัญหาอย่างไร  1 2 3 4  ไม่ใช่เอาแต่ด่า วิจารณ์อย่างมันปาก เพื่อสนองตัณหาทางอารมณ์ของคนกลุ่มเดียวกันเท่านั้น

            กลับมาแสดงความคิดเห็นที่สร้างสรรค์กันบ้างเถอะ ชาวห้องราชดำเนินแห่ง pantip

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น