++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

“จำลอง” ย้ำการเมืองใหม่ปกป้องเทิดทูนกษัตริย์อย่างแท้จริง

       เมื่อเวลา 21.20 น.วันที่ 21 ก.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ผู้สื่อข่าวยังสนใจถามเรื่องหมายจับ 9 แกนนำในข้อหากบฏ ซึ่งเราสึกเฉยๆ มานานแล้ว เพราะก่อนออกที่พวกเราจะออกจากบ้านมากู้ชาตินั้นได้คิดแล้วว่าเป็นยังไงก็เป ็นกัน อย่างโชคร้ายที่สุดก็แค่ถูกจับ เราจึงขอตอบผู้สื่อข่าวซ้ำอีกว่า เรา 9 คนถูกข้อหาอันเป็นเท็จที่ว่าเราเป็นกบฏภายในราชอาณาจักร ซึ่งถ้าเป็นจริงโทษขั้นต่ำที่สุดคือจำคุกตลอดชีวิต สูงสุดคือประหารชีวิต
      
       “พี่น้องลองคิดดู เราออกมากู้ชาติเป็นไปได้หรือที่จะถูกจำคุกตลอดชีวิต มันก็แปลกที่สุดในโลก แล้วยังพยายามเอาไปโยงกับคดีที่มีการพิจารณาแล้วแต่ไม่ยอมมาศาล จนศาลออกหมายจับ ขณะที่คดีของเราศาลยังไม่พิจารณาเลย เพียงแค่ถูกกล่าว แล้วข้อกล่าวหานี้ยิ่งกว่าเกินจริงเสียอีก คือข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จ เราไมได้ไม่เคารพกฎหมาย เราอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายซึ่งเราได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ท่านก็รับไว้พิจารณาแล้ว
      
       ตอนนี้ตำรวจอย่ามาขู่ว่าจะมาจับเสียให้ยากเลย มันล้าสมัยแล้ว เอาคำขู่อื่นมาขู่ดีกว่า ขอยืนยันว่าเราพันธมิตรเคารพกฎหมายทุกประการ และเราไม่บิดพลิ้ว ถ้าบิดพลิ้ว เราหนีไปต่างประเทศแล้ว” พล.ต.จำลองกล่าว
      
       พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ไม่กี่วันมานี้ พันธมิตรอาวุโสท่านหนึ่งได้นำเงินมาบริจาคหลักหมื่นบาท ท่านผู้นี้คือ นพ.เฉก ธนะศิริ ประธานชมรม “อยู่ร้อยปี ชีวีเป็นสุข” ซึ่งเคยแนะนำให้ตนเปิดหกลักสูตรพัฒนาคุณภาพชีวิตเมื่อ 22 ปีมาแล้ว ก่อนที่จะกลายมาเป็นโรงเรียนผู้นำในปัจจุบัน โดยท่านได้แนะนำให้จัดฝึกอบรมข้าราชการ กทม.สมัยที่ตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.จนสามารถเปลี่ยน กทม.จากเมืองที่ติดอันกับ 1 ใน 6 เมืองสกปรกที่สุดในโลก กลายมาเป็นเมืองที่น่าเที่ยว 1 ใน 10 ของโลก เคียงบ่าเคียงใหญ่กับ ปารีส ลอนดอน
      
       พล.ต.จำลอง กล่าวว่า นพ.เฉกได้นำบทความมาให้ ซึ่งเนื้อหาของบทความสรุปได้ว่า ที่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้น ของฝรั่งนักล่าอาณานิคมก็เพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว คือ มีพระมหากษัตริย์ ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคสุโขทัยจนรัตนโกสินทร์ต่อเนื่องกันมา 800 กว่าปี เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ กษัตริย์ของเราแม้จะเป็นพุทธมามกะ แต่ทรงมีจิตใจกว้าวงขวาง รับเอาทุกศาสนามาอยู่ในพระบรมราชุถัมภ์อย่างถ้วนหน้า ไม่มีประเทศใดในโลกที่เป็นเช่นนี้ ดังนั้น ใครก็ถามที่คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเสวยสุขหรือเป็นใหญ่ในดินไท ย คนไทยจะยอมไม่ได้เป็นอันขาด
      
       พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองใหม่ ซึ่งเราบอกซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า เป็นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หลายคนก็อาจจะถามว่าก็เป็นเหมือนเดิม ก็ขอตอบว่าระบอบเดิมแต่ไม่เหมือนของเก่าที่ได้แต่พูดโดยไม่ได้ทำตาม เราจึงเรียกใหม่ว่า การเมืองใหม่เป็นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประม ุขซึ่งต้องเทิดทูนและปกป้องสถาบันกษัตริย์
      
       “ที่ผ่านมารัฐบาลปกป้องจริงจังหรือเปล่า นั่นคือการเมืองเก่า เราออกมาชี้แล้วชี้อีกจึงจับคนบางคนขังคุกแล้ว แต่บางคนก็ยังลอยนวล เพราะรัฐบาลไม่เอาไหน กำหนดไว้แต่ปากว่ามีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเติมคำว่า ต้องปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง” พล.ต.จำลองกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น