++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551

"พิภพ"มั่นใจ ปชช.ชนะหลังนิสิต-นศ.ตื่นตัวเข้าร่วม

วันที่ 5 ก.ย. เวลาประมาณ 10.10 น.นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีภายในทำเนียบรัฐบาลว่า การที่นักศึกษาออกมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ นั้นเป็นเพราะเขาไม่ต้องการทิ้งบ้านเมือง และอยากมาปกป้องประชาชนไม่ให้ซ้ำร้อยกับเหตุการณ์ 6 ตลุา และนายสมัครจะกลัวนักศึกษามาก เหมือนงูกับเชือกกล้วยก็ว่าได้ โดยมีข่าวว่านายสมัครจะกบฏตัวเอง และมีการศึกษากฏหมายหลายฉบับล่วงหน้าเพื่อยึดอำนาจตนเอง แต่ทราบว่านายทหารระดับผู้บังคับกองพันไม่เอาด้วย ซึ่งมีคำยืนยันมาจากนายทหารนอกราชการท่านหนึ่งว่า ขณะนี้ทหารยังอยู่กับประชาชน

สำหรับเหตุการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างตึงเครียด มีการเสริมตำรวจเข้ามามากขึ้น โดยอาจารย์มหาลัยจุฬาได้มาบอกว่า ตำรวจไม่ยอมให้เข้ามาร่วมชุมนุม เพราะเขาบอกว่าจะมีการจับ 5 แกนนำในคืนนี้ โดยข้อมูลที่พูดมาทั้งหมดได้มีการยืนยันมาแล้ว แต่เราก็พร้อมที่จะปักหลักสู้ และจะต่อสู้ด้วยสันติ อหิงสาเท่านั้น

ทั้งนี้ การดิ้นรนของนายสมัครนั้นทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดเจน และการที่ให้ ส.ส.ของพรรคตนเองเข้าไปร่วมากับ นปช. ในการทำร้ายพี่น้อง ก็เพื่อให้ทักษิณนำไปอ้างใช้ลี้ภัย ภายหลังมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นแผนของเขาตั้งแต่ต้น โดยเราเสียใจมาตลอดในการที่มีผู้เสียชีวิต แม้จะเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเราคิดว่าถึงแม้ความคิดจะต่างกันแต่ก็ไม่ควรมาทำร้ายกัน แต่นายสมัครกลับไม่เคยเห็นคุณค่าชีวิต เขาพร้อมที่จะทำร้ายประชาชนเพื่อตนเองมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ

นายพิภพ กล่าวอีกว่า ตามข่าวที่ว่าจะมีการเจรจา 3 ฝ่ายระหว่างพันธมิตร ผบ.ทบ.และรัฐบาลนั้น พันธมิตรฯ จะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากนายสมัครบอกว่าจะไม่คุย เราจึงต้องทำอย่างนั้นจนกว่านายสมัครจะลาออก แต่ก็ต้องขอบคุณท่านประธานวุฒิสภาที่ทำทุกอย่างให้เกิดการเจรจา ซึ่งต้องอธิบายก่อนว่าเราสู้กับใคร และเงื่อนไขเดียวที่เราจะยอมเจรจาคือ นายสมัครและรัฐบาลพลังประชาชนต้องออกไปเท่านั้น

"ผมมีโอกาสได้ฟังคำสัภาษณ์ของ แม่ทัพภาค 1 และ ผบ.ทบ. ที่แสดงออกผ่านสื่อนั้นชัดเจนว่าไม่ต้องการทำร้ายพันธมิตรฯ แต่อย่างใด และการที่ประชาชนและนิสิต ต้องออกมาก็เพราะไม่อยากทิ้งบ้านเมือง และตอนนี้ก็นับเป็นเวลา 100 กว่าวันมาแล้ว และผมมั่นใจว่าพวกเราจะต้องได้รับชัยชนะภายใน 7 วันนี้แน่นอน เพราะนายสมัครกำลังดิ้นสุดฤทธิ์"นายพิภพกล่าว

ทั้งนี้ สังคมต้องตั้งคำถามว่า การที่ประเทศมีนายกฯ ที่หลงตนเองไม่สนใจชาติ และเศรษฐกิจนั้นจะทำให้บ้านเมืองเสียหายขนาดไหน เพราะเขาไม่เคยคำนึงถึงเรื่องนี้เลย ฟังประชุมสภาก็มัวแต่พับนก และไม่เคยคิดจะร่วมหาทางออกแต่อย่างใดมีแต่การโต้เถียงตลอดเวลา ซึ่งนายสมัครแสดงออกถึงการคิดถึงแต่ตนเอง เป็นเหมืนอคนแก่ที่ได้อำนาจแล้วนึกถึงแต่ตนเอง และต้องการยื้อเวลาเพื่อจะรออนุมัติงบประมาณ เพื่อให้ภาษีของประชาชนไหลเข้ากระเป๋ารัฐบาล และพรรคร่วมเท่านั้น

"การที่ไม่เขาไม่ขัดขวางไม่เพราะไม่ต้องการให้เกิดเรื่องก่อนที่ พ.ร.บ.งบประมาณจะผ่าน และเมื่อสำเร็จแล้วเขาจะจัดการเรา นี่เป็นการเมืองรุ่นเก่าที่คิดแต่จะกิน โดยไม่คำนึงถึงประชาชน และตอนนี้ประชาชนก็ไม่เอาคนแบบนี้จนเกินครึ่งประเทศไปแล้ว การที่นักศึกษาออกมามันสะท้อนว่ามีคนไม่เอานายสมัครเพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อสำรวจจากสมาชิกเอเอสทีวีกว่า 10 ล้านคนก็ว่าเยอะแล้ว แต่เมื่อนักศึกษาออกมาจึงทราบได้ว่าคนเกินกว่า 30 ล้านไม่เอารัฐบาลชุดนี้แล้วแต่เขายังหน้าด้านอยู่อีก"นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวอีกว่า การเมืองครั้งนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายของนายสมัคร ซึ่งการที่เขาบอกว่า การได้เป็นนายกฯ ครั้งนี้ไม่เคยเสียเงินเลย แต่อยากบอกว่าการอยู่ของคุณต่างหากที่ทำให้ประเทศชาติต้องเสียเงินไปเป็นจำน วนมากแล้ว ซึงพวกเราต้องช่วยไล่คนแบบนี้ และการที่เราผ่านอันตรายมามาก และวันนี้เป็นวันที่จะผ่านจุดอันตรายอีกวัน แต่ก็มั่นใจได้ว่าความรู้สึกในการกล้าเผชิญกับอันตรายในครั้งนี้ประชาชนจะไม ่แพ้ ซึ่งเมื่อเหตุการณ์นี้ผ่านไปได้ เชื่อว่าเราจะสามารถไล่นายสมัครและพรรคพลังประชาชนไป โดยประชาชนต้องช่วยกันสร้าการเมืองใหม่ขึ้นมาหลังจากนี้ และนักศึกษาก็จะช่วยเราสานต่อ และร่วมพลังกับพวกเราเพื่อให้ภาระกิจนี้สำเร็จต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น