++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"ศัลยกรรม" จำเป็นกับวัยรุ่นจริงหรือ??

โดย A


ปัจจุบัน"ศัลยกรรมความงาม" กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น โดยเฉพาะหนุ่มสาวระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการทำศัลยกรรมลบรอยสิว รอยแผลเป็น เสริมจมูก เสริมคาง ฉีดปาก กรีดตา ทำหน้าใส ล้วนแล้วแต่มาจากกระแสเกาหลีที่กำลังระบาดในหมู่วัยรุ่นบ้านเรา ทำให้เรื่องศัลยกรรมตบแต่งเป็นเรื่องธรรมดา
      
       จากคำบอกเหล่าของวัยรุ่น ส่วนใหญ่ให้เหตุผลง่ายๆ เพียงแค่ว่า “อยากสวย” หรือ “อยากดูดี” แต่บางคนกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดในวัยเรียน
      
       “เอื้อ” โอบเอื้อ ชิโนสุนทรากร นิสิตป.โท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นสำหรับการทำศัลยกรรมว่า การทำศัลยกรรมถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ไม่สมควรที่เกิดขึ้นในช่วงการเรียน "บางคนคิดว่าทำแล้วเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต แล้วก็ไม่เดือดร้อนกับเรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ถ้าอยู่ในวัยเรียน คิดว่า มันเกินความจำเป็น เอาเวลามาตั้งใจเรียนดีกว่า เรียนจบทำงานเก็บเงิน แล้วค่อยไปทำศัลยกรรมก็คงไม่แปลก”
      
       “ โดยส่วนตัวคิดว่า ศัลยกรรมไม่มีความจำเป็นกับชีวิต ควรพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ดีกว่า แต่ถ้ารู้สึกไม่พอใจ ก็คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำศัลยกรรม เพราะเดี๋ยวนี้เมคอัพช่วยได้เยอะ ลบจุดด้อย เสริมจุดเด่น มั่นใจได้เหมือนกันโดยไม่ต้องเจ็บตัว”
      
       ทั้งนี้ เอื้อไม่ลืมที่จะยกตัวอย่างของกระแสความแรงของแฟชั่นเกาหลี ที่ล้วนแต่แต่งเสริมเติมแต่งด้วยการทำศัลยกรรม “บ างครั้งกระแสแฟชั่นมีผลให้ค่านิยมเปลี่ยนอย่าง ต้องผอม ขาว จมูกโด่ง ตาโต ถึงจะเรียกว่าดูดี เห็นได้ชัดมาก อย่างหนุ่มๆ สาวๆ เกาหลี ดาราทำศัลยกรรมเกือบทุกคน ผู้ชายบางคนถึงขนาดโพสต์ข้อความลงในอินเตอร์เน็ตเพื่อถามหาวิธีการดูแลเอง ดูแลผิวหน้า”
      
       “นิว” ปิยะนันท์ ขุนทอง นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา เป็นอีกหนึ่งคนที่กลัวการทำศัลยกรรม เพราะต้องเสี่ยงกับอันตรายและเชื้อโรคที่ตามมา
      
       “ เราสังเกตุอาการเพื่อนๆ บางคนที่ตัดสินใจทำศัลยกรรม เพราะหลังจากไปทำแล้ว ต้องมานั่งกังวล ห้ามจับ ห้ามนอนตะแคง ต้องระวังไปทุกอย่าง หรือถ้าไม่ดูแล อาจจะทำให้ติดเชื้อ ติดโรคได้ ทั้งร่างกาย และหน้าตาเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เราให้มาตั้งแต่เกิด ทำไมเราต้องทำลายมันด้วยการเอานำสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ไปในร่างกาย"
      
       แต่สำหรับ “น้อยหน่า” ทิพย์ทัณตรี รุจิรานนท์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต สาวน้อยประเภทสอง ผู้มีตำแหน่ง Miss Tiffany 2005 บอกถึงสาเหตุที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมจมูก ทำโบท็อก และแปลงเพศ
      
       “สิ่งแรกที่ตัด สินใจทำ เพราะอยากดูดี อยากลบปมด้อยที่ไม่ดีของเราออกไป แต่ก่อนที่จะทำศัลยกรรม เราต้องศึกษาเยอะมาก ต้องดูว่าเมื่อทำแล้วจะดี หรือว่าแง่ลง ร่างกายเราพร้อมมากแค่ไหน คุณหมอเชื่อถือได้หรือไม่”
      
       น้อยหน่า เล่าว่า เธอเริ่มตัดสินใจทำศัลยกรรมตั้งแต่ ม. 5 “ คนที่ทำศัลยกรรมครั้งแรก จะกลัว ไม่กล้า แต่ถ้าลองได้ทำแล้วก็อยากจะทำอีก หลายคนทำตามแฟชั่น เห็นเพื่อนทำก็อยากทำตาม มีเพื่อนบางคนมาขอคำแนะนำเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม เราก็ยินดี แต่ก็ไม่ได้ส่งเสริม แต่ถ้าอยากทำต้องศึกษาให้ดี อย่าทำเพราะแฟชั่นหรือตามเพื่อน”
      
       ด้าน เบ็ญจา เตากล่ำ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต กล่าวว่า การทำศัลยกรรมในหมู่วัยรุ่น อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ผู้ใหญ่ควรสนใจและเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับวัยรุ่น
      
       “ เรื่องของจิตใจ และกระบวนการทำศัลยกรรมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าหลายประเทศจะมองว่าการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องธรรมดาของชายและหญิง แต่สำหรับประเทศไทย คงต้องมองที่สังคมรอบข้าง เพราะการทำศัลยกรรมบางอย่างถือว่าผิด และไม่สมควรปฏิบัติ ดังนั้นวัยรุ่นคนไหน อยากทำศัลยกรรมตบแต่ง ใบหน้า หรือร่างกาย ขอคำนึงถึงจิตใจของตัวเอง ถามถึงเหตุผลว่าทำเพราะอะไร และที่สำคัญอายุ และครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งสื่อ และกระแสแฟชั่นก็มีส่วนผลักดันและสร้างค่านิยมให้กับวัยรุ่น ไม่ค่อยพิถีพิถัน เรื่องเพศและวัย ตัดสินใจตามอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง"
      
       “ มหาวิทยาลัยควรจัดตั้งศูนย์แนะนำให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาในทุกๆ เรื่อง แม้ว่าการทำศัลยกรรมในหมู่วัยรุ่นอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เราจะปล่อยปละละเลยคงไม่ได้ อย่างน้อยเราต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้อง” คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มสด. กล่าวทิ้งท้าย

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000007199

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น