++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เมื่อต้องอยู่ร่วมบ้านกับแมลงสาบ / เอมอร คชเสนี

โดย เอมอร คชเสนี    
      
      
      
       ธรรมชาติของแมลงสาบจะชอบอยู่ตามซอกหลืบ ที่มืด อับชื้น ซึ่งทำความสะอาดไม่ถึง ท่อระบายน้ำจึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างดีของแมลงสาบ การทิ้งเศษอาหารลงในท่อระบายน้ำเวลาล้างจาน จะกลายเป็นอาหารอย่างดีของพวกมัน ซึ่งจะเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์อยู่ในนั้น
      
       แมลงสาบสามารถแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า หากเราพบแมลงสาบที่ไหนสัก 1 ตัว ประเมินได้ว่าบริเวณนั้นจะมีพวกพ้องของมันอยู่อีกหลายร้อยตัว
      
       แมลงสาบเป็นสัตว์ที่กินไม่เลือก ทั้งขยะ เศษอาหาร อุจจาระ ของเสีย ของติดเชื้อต่างๆ ขณะที่กินอาหาร แมลงสาบจะสำรอกน้ำลายออกมาเพื่อให้อาหารนั้นเปียกนิ่ม แล้วจึงกินอาหารนั้นเข้าไป ดังนั้น หากเราวางจานอาหารทิ้งไว้ แมลงสาบจะมาตามกลิ่น สำรอกเอาเชื้อโรคในกระเพาะอาหารของมันออกมาปนเปื้อนกับอาหารของเรา แมลงสาบจึงเป็นพาหะนำโรคหลายชนิด เช่น อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย บิด ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค
      
       และยังพบโรคจากหนอนพยาธิที่มีแมลงสาบเป็นพาหะ เช่น โรคระบบลำไส้และโรคโลหิตจาง หนอนพยาธิหลายชนิดสามารถอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของแมลงสาบได้โดยไม่ถูกทำลา ยโดยน้ำย่อย และสามารถผ่านออกมากับขี้แมลงสาบ
      
       นอกจากนี้ ตามลำตัว หนวด และขาของแมลงสาบ จะมีขนซึ่งมีเชื้อโรคเกาะอยู่เต็มไปหมด เมื่อมันเดินผ่านอาหาร ภาชนะใส่อาหาร หรือข้าวของเครื่องใช้ของเรา นอกจากจะทิ้งกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจของมันเอาไว้แล้ว เชื้อโรคที่ติดมากับตัวมันก็จะหลุดร่วงลงมา และแพร่เชื้อเหล่านั้นมาสู่คน
      
       ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อแมลงสาบตายลง ตัวของมันเองและขี้ของมันจะย่อยสลายผสมอยู่ในฝุ่น ทำให้เกิดอาการแพ้ในระบบทางเดินหายใจ เกิดโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืด
      
       สารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบเป็นสาเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ในคนไทย นอกเหนือจากสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ เช่น ไรฝุ่น ขนแมว ขนสุนัข
      
       สารก่อภูมิแพ้จะมาจากส่วนต่างๆ ทั้งจากตัวแมลงสาบเอง เช่น ปีก ขา หนวด ไข่ จากสิ่งที่ขับถ่ายออกมา หรือจากสารคัดหลั่งของแมลงสาบ
      
       อาการภูมิแพ้แมลงสาบอาจมีเพียงเล็กน้อย เช่น คันที่ผิวหนัง คอ ตา และจมูก ท ี่พบบ่อยคือ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคแพ้อากาศ และโรคหืด ซึ่งมักเกิดอาการได้ตลอดทั้งปี หรืออาจก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคหอบหืดและผู้ป่วยโรคภู มิแพ้ก็ได้ หากเกิดอาการในเด็กจะมีความรุนแรงมากกว่า และมีโอกาสเสียชีวิตได้
      
       ผู้ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมหรือหอพักที่รวมห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัวไว้ด้วยกัน จะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่อาศัยในบ้านพักที่มีการจัดแบ่งห้องต่างๆ ไว้เป็นสัดส่วน จากการสำรวจพบว่า ห้องครัวจะมีสารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบมากที่สุด รองลงมาคือ ห้องนั่งเล่น และห้องนอน
      
       วิธีกำจัดแมลงสาบสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
       - ใช้ตลับเหยื่อล่อแมลงสาบสำเร็จรูป วางไว้ตามซอกมุมต่างๆ หรือใกล้ๆ ท่อระบายน้ำ เพื่อดักแมลงสาบที่ออกมาหากินยามค่ำคืน แต่วิธีนี้แมลงสาบจะตายเกลื่อนบ้าน
      
       - ใช้กาวดักแมลงสาบ โดยนำเหยื่อล่อไปวางไว้ตรงกลางแผ่นกาว แล้วนำไปวางไว้ตามซอกมุมต่างๆ เมื่อมีแมลงสาบมาติดจนเต็ม ก็เก็บทิ้งไป
      
       - ใช้กับดักแมลงสาบ โดยนำเหยื่อล่อไปวางไว้ตรงกลางกล่อง แล้วปิดฝาให้สนิท ด้านข้างโดยรอบจะมีช่องให้แมลงสาบเดินเข้าไปกินเหยื่อ แต่จะไม่สามารถกลับออกมาได้ นำไปวางทิ้งไว้กลางแดดจนแมลงสาบตาย จึงเปิดฝาแล้วเททิ้ง
      
       - นำน้ำตาลมาเคี่ยวกับน้ำให้มีกลิ่นหอม แล้วนำไปใส่ในภาชนะที่มีความลื่น แมลงสาบจะลงไปกิน แต่ไม่สามารถไต่ขึ้นมาได้ บางคนใช้เศษอาหารหรือน้ำแกงเหลือๆ แทนน้ำตาลเคี่ยว และใช้น้ำมันหมูทาที่ด้านในภาชนะเพื่อให้มีความลื่น
      
       - เด็กนักเรียนจากโรงเรียนสมเด็จประชานุเคราะห์ จ.กาฬสินธุ์ ได้คิดสูตรกำจัดแมลงสาบ ซึ่งประกอบด้วย ปูนซีเมนต์ แป้งข้าวเจ้า และโอวัลติน นำมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปวางไว้ในที่ที่มีแมลงสาบชุกชุม พร้อมทั้งนำน้ำไปวางใกล้ๆ กลิ่นหอมของโอวัลตินจะเป็นตัวล่อให้แมลงสาบมากิน ส่วนแป้งข้าวเจ้าจะทำให้แมลงสาบหิวน้ำ ซึ่งเมื่อกินน้ำเข้าไปผสมกับส่วนของปูนซีเมนต์ จะทำให้ปูนซีเมนต์แข็งตัว แมลงสาบก็จะตาย อย่างไรก็ตาม สัตวแพทย์เตือนว่าสูตรนี้อาจจะเป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน
      
       - วิธีป้องกันไม่ให้แมลงสาบเข้าไปในตู้เสื้อผ้าหรือตู้หนังสือ ให้ใช้การบูร กานพลู หรือพริกไทยเม็ด ใส่ในถุงผ้าเล็กๆ แล้วนำไปไว้ตามซอกตู้ หมั่นเปลี่ยนทุกๆ 2-3 เดือน สูตรนี้สามารถป้องกันมดได้ด้วย
      
       การป้องกันแมลงสาบสามารถทำได้ถ้าทุกคนในบ้านร่วมมือกัน
       - หมั่นรักษาความสะอาด ดูแลสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกบ้าน
       - พยายามเก็บอาหารให้มิดชิด อย่าวางทิ้งไว้
       - ควรทิ้งเศษอาหารในถังขยะที่มีฝาปิด หรือทิ้งในถุงแล้วมัดปากถุงให้เรียบร้อย แล้วเก็บทิ้งทุกวัน
       - อ่างล้างจานควรมีฝากรอง เพื่อป้องกันเศษอาหารตกลงไปในท่อ และเพื่อไม่ให้เป็นทางผ่านของแมลงสาบ
       - พยายามปิดช่องรูต่างๆ ที่จะเป็นทางเข้าของแมลงสาบ
      
       อ ย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าแมลงสาบเป็นสัตว์ที่ปรับตัวอยู่คู่โลกมานานหลายร้อยล้านปีมาแล ้ว การจะกำจัดมันให้หมดไป คงไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีที่ดีที่สุดก็คือ อย่าให้บ้านของเรา กลายเป็นแหล่งอาหารของมัน
      
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000005028

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น