โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ .
ตลอดระยะเวลา 4 ปี 6 เดือนกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอย่าง “เจริญ วัดอักษร” ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี ผู้มีบทบาทคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 โรงใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด สืบเนื่องมาจนถึงการเปิดโปงการออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดิน 53 ไร่โดยมิชอบในที่สาธารณะคลองชายธง แต่ “กระรอก” กรณ์อุมา พงษ์น้อย ภรรยาคู่ชีวิตเจริญ วัดอักษร ก็ไม่เคยท้อที่จะต่อสู้ ติดตามคดีนับตั้งแต่สามีถูกฆ่าตาย ไม่ใช่เพียงต้องการเพื่อแสวงหาความเป็นธรรมเท่านั้น แต่วัตถุประสงค์และเป้าหมายของเธอคือการสร้างการเรียนรู้ของสังคมต่อกระบวนก ารยุติธรรมของไทย
bsp;
กรณ์อุมา พงษ์น้อย
** ครึ่งหนึ่งของชีวิตที่หายไป
พี่กระรอกเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เจริญเสียชีวิตชีวิตของเธอก็เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในเรื่องของการดำรงชีพ เศรษฐกิจ ทำให้เกิดความยากลำยากยิ่งขึ้น จากเมื่อก่อนช่วยกันทำ 2 คน แต่ตอนนี้ต้องรับผิดชอบคนเดียวทั้งธุรกิจร้านอาหารและรีสอร์ท ซึ่งได้ร่วมกันสร้างร้านอาหารเล็กๆ จนขยายเป็นรีสอร์ทภายใต้ชื่อ “ครัวชมวาฬ”
และแน่นอน ยังมีการทำงานกับชุมชน กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก –กุยบุรีอีกด้วย
รีสอร์ทและห้องพักครัวชมวาฬ
พี่กระรอกบอกว่า ทั้งเธอและเจริญไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย แต่ที่สร้างมาได้เพราะได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ให้ยืมเงินโดยไม่คิด ดอกเบี้ย และเผอิญมีที่ดินซึ่งเป็นที่ดินของพ่อ จึงตัดสินใจสร้างรีสอร์ทขึ้นด้วยแนวคิดดัดแปลงธรรมชาติน้อยที่สุด และให้อิงกับธรรมชาติมากที่สุด
“ ครั้งที่เจริญมีชีวิตอยู่เขาจะช่วยได้ในเรื่องของการไปจ่ายตลาดให้ ส่วนเราก็ดูแลทางร้าน เมื่อหมดหน้าที่ของเขา เจริญก็ออกมาทำงานชุมชน หลังจากที่เสียเจริญไป พี่ก็ต้องออกมาทำงานกับชุมชนมากขึ้น เมื่อก่อนก็ร่วมกันทำงานกับชุมชนทั้ง 2 คนแต่เจริญจะทำเป็นหลัก กลายเป็นว่าทั้งเรื่องเศรษฐกิจในบ้าน เรื่องชุมชน เราก็ต้องมาขับเคลื่อน สานงานต่อจากเจริญทั้งหมด ตอนนี้พยายามถ่ายโอนให้หลานๆ พี่ๆ น้องช่วยดู ส่วนหนี้สินก็ยังคงมีอยู่”
สำหรับสภาพจิตใจ พี่กระรอกบอกว่าตอนนี้ดีขึ้น โดยได้กำลังใจจากชาวบ้าน ญาติพี่น้องเสมอมา
“ เราจะมัวแต่เศร้าเสียใจต่อการจากไปของเขาได้อย่างไร ขวัญกำลังใจของชาวบ้านก็จะสูญเสียไปด้วย ระยะที่ผ่านมาก็ท่องมาตลอดว่า เรามีภารกิจต้องทำต้องสู้ ไม่เข้มแข็งก็ต้องเข้มแข็งให้ได้”
ศูนย์การเรียนรู้ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ และขาดงบประมาณในการสร้าง
ส่วนภารกิจที่ต้องทำและสานต่อหลังจากที่เจริญเสียชีวิตคือ การสร้างศูนย์การเรียนรู้ซึ่งเป็นทั้งห้องประชุม พิพิธภัณฑ์เพื่อถ่ายทอดความรู้แก่ภาคประชาชน รวมทั้งสานต่อคลื่นวิทยุชุมชน ตำบลบ่อนอก 103.75 ซึ่งเป็นงานที่เจริญเป็นผู้ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2543
** ชีวิตที่มีค่าหัว
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาระในเรื่องของชุมชนที่สืบทอดจากเจริญ ก็ทำให้ชีวิตของพี่กระรอกดำรงอยู่ด้วยความไม่ปลอดภัย โดยมีค่าหัวอยู่ที่หลักแสนเลยทีเดียว
“ มีคนมาบอกว่าถูกหมายหัว ทีแรกก็พยายามบอกตัวเองว่า เป็นเพียงข่าวลือหรือเปล่า แต่เราก็เคยมีบทเรียนมาแล้วจากกรณีของเจริญ ซึ่งก็มีการขู่ฆ่า มีค่าหัว มีการเตือนมาตลอด ดังนั้น จึงต้องระวังตัวบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก เพราะเราต้องทำมาหากิน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่กลุ่มชาวบ้านบอกว่าเขาไม่ยอมที่จะสูญเสียอีกต่อไปแล้ว ถ้าจะเกิดการสูญเสียก็ต้องมีการป้องกันในระดับหนึ่ง”
“ การป้องกันก็จะมีพี่ๆ ชาวบ้าน ญาติๆ จัดเวรยามไปนอนเป็นเพื่อนทุกวัน ไปไหนก็ไปเป็นกลุ่มหรือมีคนไปเป็นเพื่อนเสมอ แต่วันนี้สำหรับพี่ต้องบอกว่าอยู่ในจุดที่ไม่กลัวแล้ว ถ้ากลัวพี่คงไม่มาสานงานนี้ต่อจากเจริญ ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ ปะทะกับกลุ่มคนเหล่านี้ ค่าหัวของพี่หลัก 2 แสนขึ้น เท่าที่รู้ของเจริญหลักล้าน” พี่กระรอกเล่าความรู้สึกทิ้งท้าย
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000007663
ขอสดุดีคุณเจริญและขอให้กำลังใจคุณกระรอกและชาวบ้านนักอนุรักษ์แห่งบ้านบ่อนอกและบ้านกรูดด้วย
ถ้ามีโอกาสอยากไปอุดหนุนครัวชมวาฬ จากภาพบังกาโลดูดีมีสุนทรียภาพเข้ากับสภาพแวดล้อม
สยามเขียว
ความสูญเสียหัวหน้าครอบครัว เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ และสร้างความเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดทางใจรักษาได้ด้วยเวลา แต่ผลกระทบทางการเงินเยียวยาได้ด้วยการประกันชีวิต อย่างน้อยเงินที่ได้จากประกันชีวิตก็ผ่อนคลายความลำบากได้บ้างไม่มากก็น้อย เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เกิดได้ตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเมื่อไร เพราะฉะนั้นจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ซื้อประกันชีวิตไว้แต่เนิ่นๆนะครับ
MoneyFreedomExpert@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น