++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

น่าห่วง! นร.เริ่มขายตัวเฉลี่ย 16 ปี เสนอขายถุงยางในปั๊ม-โรงแรม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
   
ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
       ตะลึง! นักเรียนนักศึกษาเริ่มขายตัวอายุเฉลี่ย 16 ปี ขณะที่เยาวชน 69% ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง ห่วงเยาวชนไม่สนสวมถุงยาง เสี่ยงติดโรค เสนอวางถุงยางอนามัยบริการตามปั๊มน้ำมัน-โรงแรม สธ.คาดปี 52 ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่พุ่งเพิ่มกว่า 1 หมื่นคน ส่วนใหญ่ติดจากสามี-คู่รัก
      
       วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวเรื่อง “เอดส์พุ่ง! เยาวชนรวมพลังสังคม ป้องกันเอดส์”ว่า ในปี 2552 มีการคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ประมาณ 1,127,168 ราย เป็นผู้ใหญ่ที่เสียชีวิตแล้วประมาณ 613,510 ราย เป็นผู้ใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 516,632 ราย และคาดว่า จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่อีกประมาณ 11,753 ราย ส่วนใหญ่เป็นสตรีที่ติดเชื้อจากสามี หรือคู่รัก รองลงมา คือ ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ชายที่ติดเชื้อจากหญิงบริการ ชายที่ติดเชื้อจากภรรยาหรือคนรัก ผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย และหญิงบริการทางเพศติดเชื้อจากลูกค้า
      
       นายมานิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สธ.กำหนดเป้าหมายสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ต้องลดลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจากที่เคยประมาณการ ไว้ภายใน 5 ปี ระหว่าง 2550-2554 2.ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สามารถเข้าถึงบริการอย่างครอบคลุมและทั่วถึง และ 3.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ ครอบครัว และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลทางสังคม สามารถเข้าถึงบริการทางสังคมได้ไม่น้อยกว่า 80%
      
       ด้านนายมีชัย วีระไวทยะ ประธานคณะอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ กล่าวว่า จากการศึกษาในปี 2551 ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ พบว่า อายุเฉลี่ยเมื่อเข้าสู่การขายบริการ คือ 16 ปี และ 44% ของกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนนักศึกษา นอกจากนี้ เยาวชนเป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2550 พบว่า 32% ของผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นเยาวชน ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะการไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีเพียง 1 ใน 5 ที่ใช้ถุงยางอนามัย การแก้ปัญหาในเรื่องนี้รัฐควรสนับสนุนให้มีการวางถุงยางอนามัยในปั๊มน้ำมัน และโรงแรม เช่นเดียวกับการวางสุราไว้ให้บริการแขกที่เข้าพัก จะทำให้ประชาชนเข้าถึงถุงยางอนามัยมากขึ้น ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้มาก
      
       พญ.เรณู ศรีสมิต ที่ปรึกษาอาวุโส สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในปี 2551 สปสช.ให้การดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จำนวน 151,909 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้กำลังรับประทานยาต้านไวรัส 117,903 คน และมีผู้ติดเชื้อลงทะเบียนรับการรักษารายใหม่ทั้งที่รับยาต้านไวรัส และไม่รับ 2,787 คนต่อเดือน หรือคิดเป็น 90 คนต่อวัน และมีเยาวชนมารับบริการตรวจเลือดและขอรับคำปรึกษา 56,924 คน และพบผลติดเชื้อในกลุ่มเยาวชน 1,448 คน ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเยาวชน 2.54% สปสช.จึงได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งเป็นการเฉพาะเพื่อสนับสนุนให้เกิด กิจกรรมรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
      
       นายกิตติพันธ์ กันจินะ ประธานคณะทำงานเยาวชนป้องกันเอดส์ กล่าวว่า จากการสำรวจของเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย เมื่อเดือนธันวาคม 2551 ในกลุ่มเยาวชน 2 พันคน จากกว่า 20 จังหวัดทุกภูมิภาคของประเทศไทย พบว่า เยาวชน 69% ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง 24% เท่านั้นที่สามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องเอดส์และเพศ สู่เพื่อนเยาวชนได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ 93% คิดว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ควรมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเอดส์ในเยาวชนและกว่า 92% ที่คิดว่ารัฐบาลควรส่งเสริมการรณรงค์ป้องกันเอดส์ในกลุ่มเยาวชน
      
       อนึ่ง สถานการณ์โรคเอดส์ของไทยตั้งแต่ พ.ศ.2527-30 กันยายน 2551 รวม 24 ปี มีผู้ป่วยโรคเอดส์สะสมทั้งหมด 337,989 ราย เป็นชายมากกว่าหญิงในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 เสียชีวิตแล้ว 92,111 ราย หรือประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ป่วยทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น