“จำลอง” ชี้สถานการณ์สุกงอม วางยุทธศาสตร์เคลื่อนพลกลางวัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 13:37 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138625

แกนนำพันธมิตรฯ รอวัดใจพลังมวลชน เชื่อสถานการณ์สุกงอม ย้ำหากประชาชนออกมาเคลื่อนใหญ่เผด็จศึก “ม้วนเดียวจบ” ยัน 24 พ.ย.เตรียมบุกล้อม

รัฐสภา ปัดเคลื่อนกำลังกลางคืน ไม่เชื่อลมปาก ปธ.สภา ปฏิเสธข่าวบุกยึดทีวี-สื่อสิงพิมพ์ และเผาสถานที่ราชการ
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงของพันธมิตรฯว่า

การที่พันธมิตรฯ ถูกโจมตีด้วยอาวุธสงครามเอ็ม 79 เมื่อวันที่ 20 พ.ย.นั้น ขณะนี้ นายยุทธพงษ์ เสมอภาค ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ระบุว่าเป็นการฆาตกรรมธรรมดานั้น การออกมาพูดเช่นนี้ ก็เพราะนายสมชายเห็นชิวิตประชาชนเหมือนผักเหมือนปลา และพร้อมที่จะยืนอยู่บนซากศพของ

ประชาชน เพียงเพื่อให้ตนเองและว่านเครือญาติ รวมทั้งพี่ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สืบทอดอำนาจต่อไปอย่างไร้จริยธรรม และ

ศีลธรรม สะท้อนถึงความอำมหิตที่พร้อมจะเห็นคนายโดยตัวเองไม่รู้สึก ทั้งๆ ที่คือตัวการสั่งฆ่าประชาชน
      
       พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพันธมิตรฯ จะบุกยืดสื่อโทรทัศน์ และสื่อหนังสือพิมพ์ว่า แกนนำไม่มีการปรึกษากันในเรื่องนี้ แต่เห็นวาสื่อหนังสือ

พิมพ์ และโทรทัศน์ที่เป็นของเอกชนเราคงไปทำอะไรไม่ได้ เช่นเดียวกับสื่อของรัฐก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร คงต้องหารือกันในแกนนำเสียก่อน

แต่ที่แน่ๆ การเคลื่อนไหวในวันที่ 24 พ.ย.จะเคลื่อนไปยังรัฐสภาฯ และอาจจะเคลื่อนไหวไปที่อื่นๆ ด้วย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
      
       ส่วนที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ระบุว่าจะไม่มีการเปลี่ยนสถานที่การประชุมรัฐสภาฯ แตอาจจะเลื่อนการประชุมออกไป นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า

เป็นคำพูดกลับไปกลับมาเชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้ารัฐบาลจริงใจไม่แก้ไขรัฐธรรมนุญก็ต้องประกาศมาก่อนหน้านี้ โดยไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร.

เข้าในวาระการประชุม ฉะนั้น คำพูดของรัฐบาลที่กลับไปกลับมา รัฐบาลจะไม่เชื่ออีกต่อไป
      
       พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไปยังรัฐสภาฯ นั้น มี2 เหตุผลคือ เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ให้รัฐสภาฯ ดำเนินการตาม

มติของกรรมาธิการของ ส.ว.ที่ได้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ 7 ตุลาระบุว่า นายสมชายและตำรวจที่เกี่ยวข้องมีความผิดชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับผลสรุปของ

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านไปเดือนกว่าแล้ว ก็ยังไม่มีการนำคนผิดมาลงโทษได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม หากไม่มี

การประชุมรัฐสภาฯ พันธมิตรฯ จะกลับมาปักหลักที่ทำเนียบต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
      
       เมื่อถามว่า รัฐบาลระบุว่าพันธมิตรฯ จะเผาสถานที่ราชการนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ใช่ฝีมือของพันธมิตรฯ แน่นอน แต่เห็นฝีมือของคนที่ออกมา

พูดคือรัฐบาล ซึ่งจ้างแก๊งอันธพาลมาเป็นผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ก็ไม่ประมาท มีการป้องกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งตำรวจต้องออกมาปกป้องผู้ชุมนุม

อย่ามาบอกว่าจับคนร้ายไม่ได้อย่างเดียว ถ้าเป็นตำรวจแล้วจับคนร้ายไม่ได้ก็อย่าเป็นตำรวจเลย เพราะมีก็เหมือนไม่มี
      
       “มั่นใจว่าการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.จะเป็นแบบม้วนเดียวจบ ไม่มีการอยู่เป็นแรมเดือน สาเหตุที่มั่นใจเพราะเชื่อในความเข้มแข็งของประชาชน และ

สถานการณ์ก็สุกงอมแล้ว ถ้าประชาชนมามากก็ม้วนเดียวจบทันที แต่ถ้าคนมาน้อยก็จบเหมือนกัน แล้วยกบ้านยกเมืองให้คนชั่วไป” พล.ต.จำลอง กล่าว และว่า

การชุมนุมของพันธมิตรฯ แม้จะประกาศว่าม้วนเดียวจบ แต่ก็ไม่ได้ขีดเส้นตาย และระบุไม่ได้ว่าจะเคลื่อนกี่โมง แต่จะไม่เคลื่อนในเวลากลางคืนแน่นอนเพราะ

ไม่มีประโยชน์

//--
      
   
ความคิดเห็นที่ 6     +37         คลิกที่นี่หากท่านสนับสนุนความเห็นนี้     คลิกที่นี่หากท่านไม่สนับสนุนความเห็นนี้     คลิกที่นี่หากท่าน

ต้องการตอบกลับความคิดเห็นนี้     คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
    เรียน แกนนำและพี่น้องพันธมิตรทุกท่าน
 ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ติดตามดูพันธมิตรมาตลอด ผมไม่กล้าพูดว่าผมเป็น พธม.เพราะผมไม่เคยออกมาร่วมกู้ชาติกับพี่น้องเลย
ผ มได้แต่นั่งอยู่หน้าจอ TV ทั้งนี้ผมได้ติดตามดูคุณสนธิ ตั้งแต่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ช่อง 9 จนถึงนั่งอยู่หน้าจอ ASTV ในปัจจุบัน
 บ่อยครั้งที่ผมนั่งดู ASTV แล้วน้ำตาไหล และทุกครั้งที่มีการเรียกระดมพันธมิตร(เป่านกหวีด) ผมเจ็บแค้นและเจ็บใจ
ตัวเองมากๆ ผมกระวนกระวายใจ ผมนอนไม่หลับ ผมอยู่ไม่เป็นสุข และต่อจากนี้ไปผมจะมีจุดด่างพล้อยอยู่ในหัวใจตลอดไป ดังนั้นหากผู้ไดก้ตาม
ท ี่ไม่มีพาระและสามารถปลีกตัวออกมาร่วมชุมนุม กู้ชาติได้ ขอให้ตัดสินใจออกมาตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่จะหมดโอกาส และท่านจะมีจุดด่างพล้อยอยู่ในหัวใจ
เช่นเดียวกับผม ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี ที่ผมไม่สามารถออกมาร่วมกับพี่น้องทั้งหลายได้ ครั้นผมจะบริจาคเงินช่วยสนับสนุนก็ไม่สามารถทำได้
เนื่องจากลำพังตัวผมเองกับลูกเล็กอีก 2 คน ก็จะเอาตัวไม่รอด
 เหตุที่ผมไม่สามารถออกมาร่วมกู้ชาติกับพี่น้อง พธม.ก็เพราะผมอยู่ที่เมืองตราดกับลูกแค่สองคน คนหนึ่งอายุ 5 ขวบ
อ ีกคนหนึ่งอายุ 12ขวบ ไม่มีญาติพี่น้องที่จังหวัดตราด ต้องดูแลรับผิดชอบลูกทั้งสอง ลำพังแล้วถ้าลูกคนเล็กเหมือนเด็กอื่นๆ ผมก็สามารถมาได้ทั้ง
3คนพ่อลูก แต่ลูกคนเล็กซนมากๆ หรือจะพูดว่าเป็นเด็กสมาธิสั้นก็ได้ อยู่นิ่งได้ไม่ถึงสองนาที
 หลายครั้ง ตั้งแต่ปี48 ผมคิดยอมพลีชีพเพื่อกำจัดคนชั่ว คนโกงชาติกินเมือง คนหนักแผ่นดิน ถ้าผมไม่มีเด็กที่ต้องรับผิดชอบ
ผมคงทำไปนานแล้ว
 ผมไม่รู้จะตอบแทนพี่น้อง พธม.ทั้งหลายได้อย่างไร ไม่รู้จะตอบแทน ASTV ได้อย่างไร ต่อจากนี้เป็นต้นไปหากพี่น้อง พธม.
และชาว ASTV ทั้งหลายมีโอกาสมาเที่ยวหรือมาธุระ ที่จังหวัดตราด ผมยินดีต้อนรับทุกท่าน บ้านผมสามารถรองรับคนได้ไม่น้อยกว่า 1 คันรถบัส
(เฉพาะที่อาบน้ำและที่นอน ไม่มีแม่บ้านทำกับข้าว) โทร 080 564 9498 หรือ E-mail :charin.md@thaimail.com
 ผมเสียใจมากๆ ที่ไม่อาจมาร่วมชุมนุมได้ ใครที่สามารถออกมาได้ขอให้รีบออกมา  จาก cmตราด
 
charinmadla

//

    ขอเสนอว่าการใช้วิธีแบบอหิงสาสำหรับ รัฐบาลชุดนี้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว ต้องเป็นแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน หากมีคนของเราล้มตายอันเนื่องมาจาก

รัฐบาล คนของรัฐบาลก็ต้องมีล้มตายเหมือนกัน ดูซิว่าใครจะอยู่ได้ยืนยงกว่ากัน
ส ำหรับในครั้งนี้ที่บอกว่าม้วนเดียวจบ ก็ต้องจบจริงๆ ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม อย่าให้ยืดเยื้อเพราะยิ่งปล่อยไว้นาน เราจะเดือดร้อน ตายเป็นตาย

เผาเป็นเผา หรือทำวิธีใดก็ได้ที่รัฐบาลอยู่ไม่ได้ แล้วตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ เอาแบบ คนดีๆ มีคุณธรรม (ไม่รู้จะฝันไปหรือเปล่า) รักนะพันธมิตร
asthai

//
    สมมุติว่า มันเลือนประชุมสภา เปลี่ยนสถานที่ หรือเลื่อนแก้ไข รธน หรือหามุขอะไรมาหลอกล่อ ยื้อเวลาไปอีก

มันก็จะไมม้วนเดียวจบ คนก็จะพากันเบื่อ กลับ แล้วต่อไป พธม จะทำอย่างไรครับท่านจำลอง

ผมว่า เหตุผลที่ต้องม้วนเดียวจบ มันฟ้องตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาเหตุเพื่อมาตอบสื่ออีกเลย
1/ เหตุการณ์วันที่ 7 ไม่รับผิดชอบ
2/ ทำร้ายประชาชนตายรายวัน
3/ ปล่อยให้มีการจาบจ้วงเบื้องสูง หลักฐานเพียบ ไมมีการจัดการใดๆ
4/ ไม่มีการยกเลิกพาสปอร์ต นช แม้ว
5/ ปล่อยให้นักโทษโฟนอินสร้างความแตกแยก

ฯลฯ เยอะแยะ ที่จะทำให้ม้วนเดียวจบได้
งงงงง
//
    สิ่งที่มันทำในวันที่7สามเวลา
ถ้าถ้าถ้า
ถ้าพวกมันผิดจริง
วันนี้เราควรเผานายเลิ้งบอชอนอยึดสภาฯเผาป้อมทุกป้อม
และอยู่บนท้องถนนทุกแห่ง
เพราะวิถียุทธศาสตร์แบบสันติกับพวกทักษิณใช้ไม่ได้ตั้งแต่2548 พวกเรามีแต่ร่วงวันละคน
ไม่ใช่จงใจยุให้เสียงาน แต่จงใจแนะนำอย่างมีเหตุผล
(และจะตอบว่าทำไม......)
แต่เพียงมองดูแล้วไม่มีทางชนะพวกเหอี้ยนี้ได้
คนมากๆคุมไม่อยู่ๆแล้วจึงน่าจะลงตัวในวิธีนี้
พอเหตุการณ์เช่นดังกล่าวเกิดขึ้น
ทหารพ่อหลวงก็ออกมาสะสางต่อ
เก็บอุ้มขังยึดทรัพย์พวกโกงชาติและที่หมิ่นพ่อหลวงเราอย่างเด็ดขาดไม่ยกเว้นแม้แต่คนเดียว
เสื้อแดงที่ยังบ้าคลั่งก็จับเข้าคุกจนกว่าจะหมดไป

ตำรวจเลวที่เข้าข้างทักษิณ คงรถูกลงโทษให้ตาย
ตำรวจดีมีมากมายแต่ไม่กล้าทำอะไรเลย ละเว้นหน้าที่...
ทหารดีมีมากมายแต่ไม่กล้าทำอะไรเลย ละเว้นหน้าที่...
นายเลิ้งบอชอนอทำร้ายประชาชนสมควรยุบทิ้งอันตธานไป
ป้อมต่างๆไม่มีประโยชน์ไม่ทำหน้าที่จับผู้ร้ายไม่รักษากฎจราจรเลย มีไว้เป็นที่ซุกหัวนอนใต้แอร์ตอนหนีเมีย
สุวิทย์

//

    ขอเสนอ ยุทธวิธีพรุ่งนี้

1.ทัพหน้า ครึ่ง แสน ปิดล้อมตึกรัฐสภาแต่เช้า

2.ทัพกลาง 1.5 แสน เตรียมโอบล้อมทุกด้านอีกชั้น หาก นปก.เข้าล้อมทัพหน้าเรา แหวกทางให้ ทัพหน้า ออกมา แ้ล้วดัน นปก.เข้าไปแทน

3. ทัพหลัง 3 แสน เตรียมโอบล้อมทุกด้านอีกชั้น หาก นปก.เข้าล้อมทัพกลาง+ทัพหน้าเรา แหวกทางให้ ทัพหน้า+กลาง ออกมา แ้ล้วดัน นปก.เข้าไปแทน

ปิดล้อมไว้ สัก 2 - 3 วัน ดูิซิว่า นปก.จะอึดแค่ไหน

(ได้ข่าวว่า ร้านค้าใน กทม.กว่าครึ่ง จะปิดร้าน นำคนงานมาร่วมชุมนุมกับ พธม.ด้วย กะเอาให้จบเลย)

ขอเสียงหนับหนุนหน่อย
ใครเห็นด้วย
//






“ชัย” ยันประชุมร่วม 2 สภาพรุ่งนี้ แต่เริ่มขวัญหนี ส่อเลื่อน-ปิดสมัยประชุมฯ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 12:12 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138595

ปธ.สภาฯ ยังยืนกรานเดินหน้าประชุมร่วม 2 สภาพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน ย้ำไม่มีสอดไส้แก้ รธน. ขณะเดียวกัน หวั่นเกิดเหตุวุ่นวาย เล็งสั่ง

เลื่อนหรือปิดสมัยประชุมสภาไปเลย แต่ขอหารือ ปธ.วุฒิสภาก่อน ด้าน ตร.ผวาพันธมิตรฯ จับมือ รปภ.วางกำลังเข้มโดยรอบรัฐสภา
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า หากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) ส่อเค้าว่าจะ

เกิดความวุ่นวายหรือความรุนแรง อาจต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน หรือไม่ก็สั่งปิดสมัยประชุมไปเลย เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นภายในบ้านเมืองใน

ช่วงนี้ เพราะใกล้จะถึงวันที่ 5 ธันวาคมแล้ว แต่ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีการหารือกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา
      
       อย่างไรก็ตาม นายชัย ยืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้ยังคงมีการประชุมร่วม 2 สภา เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน โดยไม่มีการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เข้าเป็นวาระแต่อย่างใด
      
       นอกจากนี้ ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางเข้าประชุมตามปกติ เพราะฝ่ายนิติบัญญัติต้องมีหน้าที่รักษากฎหมาย ขณะเดียวกัน

ไม่ได้มีการเตรียมรับมือพันธมิตรฯ เพราะตนกับพันธมิตรฯ ไม่ใช่ศัตรูกัน
      
       ส่วนบรรยากาศโดยรอบรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีตำรวจร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐสภา เพื่อเฝ้าระวังและ

ดูแลพื้นที่โดยรอบ มีการจัดเตรียมแผงเหล็กกั้นตลอดระยะทาง โดยประตูเข้า-ออกรัฐสภาทั้ง 2 ด้านจะมีเจ้าหน้าที่รัฐสภาเปิด-ปิด อย่างเข้มงวด พร้อมการ

ตรวจรถเข้า-ออก
      
       ขณะที่บริเวณถนนสุโขทัย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประสานขอรถดับเพลิงมารองรับเหตุการณ์ชุมนุมตาม แผนสกัดกั้น ซึ่งเบื้องต้นจะใช้น้ำ

ก่อนแก๊สน้ำตา
      
       ทั้งนี้ ภายในอาคารยังคงปิดเงียบ ในเวลา 14.30 น.ทางกองทัพจะจัดการซ้อมสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5

ธันวาคม บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เป็นวันที่ 2 ส่งผลให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางผ่านเส้นนี้




รบ.เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกด่วน! เผย “ชาย” สายตรงกำชับอดทนถึงที่สุด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 11:31 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138573

“ชวรัตน์” เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เตรียมรับมือสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรฯ และนปช. เผยนายกฯ สายตรงจากเปรู กำชับให้ใช้ความ

อดทนอย่างที่ถึงสุด รวมทั้งพยายามใช้ความละมุนละม่อมในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมของทั้งสองฝ่าย ระบุขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้การชุมนุมของทั้ง

สองกลุ่มในวันนี้จะนำไปสู่ค วามรุนแรง
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมรับ

มือกับสถานการณ์การชุมนุ มของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยมี พล.ต.ท.

สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่ง

ชาติฝ่ายความมั่นคงและปฏิบัติการพิเศษ รวมถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เข้าร่วมในการประชุม
      
       นายชวรัตน์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมเอเปกที่ประเทศเปรู ได้โทรศัพท์สายตรง

มากำชับให้ใช้ความอดทนอย่างที่ถึงสุด รวมทั้งพยายามใช้ความละมุนละม่อมในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมของพันธมิตรประชาช นเพื่อประชาธิปไตย และ

กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะมีขึ้นในวันนี้
      
       นอกจากนี้ นายชวรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รายงานล่าสุดเท่าที่ได้รับทราบจากหน่วยข่าวกรอง ยังไม่พบว่าจะมีสัญญาณที่บ่งชี้ ว่าการชุมนุมของทั้ง

สองกลุ่มในวันนี้จะนำไปสู่ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง


กองทัพห่วงชุมนุม ตั้งศูนย์เฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ 24 ชม.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 10:03 น.

กองทัพห่วงสถานการณ์ ส่งทหารเข้าร่วมสังเกตการณ์การจัดรายการพร้อม “ความจริงวันนี้สัญจร” ของกลุ่ม นปช.ที่วัดสวนแก้ว พร้อม ประสาน ตร.-

มหาดไทย เฝ้าระวังเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมตั้งศูนย์เฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า กองทัพได้ส่งทหารเข้าร่วมสังเกตการณ์การจัดรายการ “ความจริงวันนี้สัญจร” ของ

กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่วัดสวนแก้ว แล้ว ขณะเดียวกัน ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ และมหาดไทย

เพื่อเฝ้าระวังเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนกองทัพก็ได้มีการตั้งศูนย์เฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
      
       อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วงการชุมนุมทั้งของ นปช.และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นัดรวมตัวกันที่หน้ารัฐสภาในเช้าวันพรุ่งนี้
      
       แม่ทัพภาคที่ 1 ยังระบุด้วยว่า สาเหตุที่พันธมิตรฯ เลื่อนการชุมนุมใหญ่หน้ารัฐสภาเป็นเช้าวันพรุ่งนี้ เนื่องจากในวันนี้ กองทัพต้องใช้สถานที่บริเวณ

ลานพระบรมรูปทรงม้าซักซ้อมพิธีสวนสนามของทหารมหา ดเล็กรักษาพระองค์
      
       ขณะที่ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยันความพร้อมของตำรวจในการดูแลรักษาความปลอดภัยการ

ชุมนุมของพันธมิตรประช าชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันนี้ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประชุมเตรียมการ และติดตามข้อมูลข่าวสาร รวมถึงความ

เคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมสนธิกำลังกับกองปราบปราม ตำรวจตระเวนชายแดน สับเปลี่ยนกำลังผลัดละ 2,000 คน
      
       ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรง พกพาเพียงโล่เท่านั้น และแม้พันธมิตรฯ จะประกาศเคลื่อนไหวเพื่อปิดล้อมรัฐสภาในเช้า

วันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาล่อแหลมนั้น ยืนยันว่าตำรวจจะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และตั้งจุดตรวจจุดสกัดป้องกันกลุ่มมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย

อย่างเต็มที่ และหากเกินการรับมือของตำรวจ ก็จะประสานขอความช่วยเหลือกับฝ่ายทหารทันที
      
       ส่วนการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรที่วัดสวนแก้ว อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งได้มีการวางแผนเตรียมกำลังไว้เช่น

กัน เชื่อจะไม่เกิดเหตุรุนแรง


ส.ว.แนะจับตา “รบ.เขยแม้ว” เปิดสภาสอดไส้แก้ รธน.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 16:25 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138658

“กลุ่ม 40 ส.ว.” นัดหารือลับประเมินสถานการณ์ประชุมสภาฯ พรุ่งนี้ ลั่นปล่อยข่าว “แม้ว” กลับไทยหวังใช้เป็นตัวล่อให้ปฏิวัติฉีก รธน.สลัดมลทินทิ้ง แฉแผน

เปิดประชุมสภาสอดไส้แก้ รธน.แน่ แนะผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึก-พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน หากเกิดเหตุรนแรงการชุมนุมหน้ารัฐสภาพรุ่งนี้
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในวันที่ 24 พ.ย.นี้คาดว่าจะไม่มีการประชุม เพราะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ

ประชาธิปไตยมาปิดล้อมจะเข้าประชุมได้อย่างไร ถ้าเปลี่ยนสถานที่ในการประชุมสภาฯ คงลำบาก เพราะจะต้องติดต่อสถานที่นานกว่า 2 อาทิตย์ นอกจากนี้

ยังจะมีปัญหาทางเทคนิคอย่างมาก เพราะการประชุมจะต้องมีการลงมติ จะให้มายกมือกันแล้วนับองค์ประชุมคงไม่ไหว
      
       นายประสาร กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่านายกฯ หรือประธานสภา บอกว่าจะไม่ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะหากในการประชุม ถ้า ส.ส.พรรค

พลังประชาชนเสนอให้พิจารณาการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้ามีสมาชิกทั้ง ส.ส.และส.ว.ยกมือเห็นด้วยก็สามารถนำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาได้ เนื่องจากเรื่องนี้ค้างอยู่

ในวาระอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะนำหยิบยกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้“ผมคิดว่าใจของประธานรัฐสภา ไม่อยากจะบรรจุวาระนี้ไว้ เพราะกลัว ถ้าหากถอนวาระนี้ได้คง

อยากถอน”
      
       นายประสาร กล่าวว่า ตนคิดว่าในคืนนี้ทางประธานสภาน่าจะแจ้งสมาชิกทั้ง ส.ส.และส.ว.ว่าให้เลื่อนการประชุมสภาฯ ออกไปก่อน ถ้าหากจะประชุมต่อ

รัฐบาลก็สามารถเรียกประชุมวิสามัญได้ เพราะการเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ถึง 21 ม.ค.2552
      
       นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับ

ประเทศไทยในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า เป็นการปล่อยข่าวเพื่อสร้างสถานการณ์ของ ส.ส.พลังประชาชนเอง เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาอยู่ในสถานะเสียเปรียบ

เขาจึงจะเดินทางมาเพราะรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบ เข้ามาประเทศไทยถือว่าสุ่มเสี่ยง เพราะตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะควบคุมมวลชนที่สนับ

สนุนให้อยู่กับตัวเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่
      
       ด้าน นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา กล่าวว่าหลังจากเวลา 16.00 น.วันนี้ กลุ่ม 40 ส.ว.บางส่วนจะหารือและประเมินสถานการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ (24

พ.ย.) จะมีการประชุมหรือไม่ และถ้ามีการประชุมแน่นอนรัฐสภาจะต้องพิจารณาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน ถ้าหากที่ประชุมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา

กลุ่ม 40 ส.ว.จะประท้วงในที่ประชุมแน่นอน
      
       นายวรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกเดินทางมาช่วงนี้ เนื่องจาก

จะเดินทางเข้ามาเพื่อเป็นตัวล่อให้มีการปฏิวัต เพราะจะเห็นได้จากมีการล็อกวันกลับอย่างชัดเจนไว้แล้ว ทั้งนี้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณอยากให้มีการปฏิวัต เนื่องจาก

ตนเองจะได้หลุดคดี และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนก็จะหลุดด้วย
      
       นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในการประชุมสภาฯในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) นาย ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาน่าจะเลื่อนการประชุมหรือย้ายที่

ประชุมรัฐสภาฯ หรือแม้หากย้ายที่ประชุมไปที่หอประชุมกองทัพบกก็ได้ไม่เห็นน่าจะมีปัญหา เพราะท่านเป็น ส.ส.ตั้งหลายสมัยน่าจะทราบดี ว่าควรจะทำอย่าง

ไร แต่ตนเห็นว่าถ้าเลื่อนการประชุมก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะที่ผ่านมาที่ประชุมรัฐสภาก็ไม่สามารถพิจารณากฎหมายใดออกมาได้เลย
      
       “ผมอยากให้ประธานรัฐสภาฯ รับผิดชอบหากตัดสินใจว่าจะใช้สภาฯ เป็นที่ประชุมต่อไป เพราะประธานวุฒิสภาฯ ก็หารือแล้วว่าให้เลื่อนหรือย้ายที่ประชุม

ก็ดูแล้วกันว่าท่านชัยจะฟังเสียงของสมาชิกหรือไม่” นายสมชาย กล่าว
      
       นายสมชาย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ถ้าหากในการชุมนุมหน้ารัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรมีเหตุการณ์รุนแร งเกิดขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.จะ

ต้องออกมาโดยการประกาศกฎอัยการศึกเฉพาะพื้นที่ หรืออาจใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในก็ได้ ถ้าใช้แนวทางนี้ ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงแน่นอน

มุกเดิม “อนุพงษ์” ยันกองทัพไร้อำนาจสั่งการควบคุมสถานการณ์ชุมนุม!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 19:11 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138748

ตามคาด ผบ.ทบ.มาฟอร์มเดิม ย้ำไม่มีอำนาจสั่งการควบคุมสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่จะใช้อำนาจ กม.ของแต่ละหน่วยที่รับผิดชอบ ยัน

ทหารไม่ใช้ความรุนแรง ขณะเดียวกัน หวังการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ด้าน กทม.สั่งปิดโรงเรียนในเขตพื้นที่ใกล้การชุมนุม 3 แห่ง
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม เปิดเผยหลังเป็นประธานซ้อม

พิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ยืนยันไม่มีอำนาจสั่งการเป็นพิเศษในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะ

เคลื่อนพลใหญ่ โดยจะใช้อำนาจกฎหมายของแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมยืนยันไม่ใช้ความรุนแรงในการควบคุมสถานการณ์ โดยหวังให้การชุมนุม

เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
      
       ทางด้าน นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร สั่งปิดโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 3 แห่งที่อยู่ใกล้พื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ ประกอบ

ด้วย โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร และโรงเรียนวัดญวน

//
...คุณอนุพงษ์
เมื่อคุณคิดว่าคุณไม่มีอำนาจสั่งการเป็นพิเศษในการควบคุมส ถานการณ์ คุณจะอยู่ในอำนาจในการสั่งการไปทำไม เปิดโอกาสให้คนเขาคิดเป็น...ทำได้...

ใช้อำนาจไม่ดีกว่า

......หรือคุณก็อยู่ถ่วงๆ อย่างแนบเนียน

.....หรือคุณเข้าแต่สนามกอล์ฟ อย่างเขาว่า จนไม่เคยสังเกตเห็น ป้ายหน้ากองทัพบก ที่เขียนว่า เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

.....หรือที่เขาว่าภรรยาคุณสนิทอยู่กับพจมารนั้น ที่แท้คือความจริง
.....หรือที่เขาว่าคุณรับเงินทำบุญ ๕๐ ล้าน นั้นเป็นไปได้
.....หรือตอนลูกคุณเรียนอังกฤษได้ ก็เพราะพึ่งพิงเขา

คุณยังมีความรู้สึกนึกคิด มีจิตสำนึก มีความรู้สึกรู้สาดีอยู่หรือ

คุณจำได้ไหม.. คำถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์

ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม

- ข้าพระพุทธเจ้า (ยศ-ชื่อ-นามสกุล) ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า
- ข้าพระพุทธเจ้า จะยอมตายเพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า
- ข้าพระพุทธเจ้า จะจงรักภักดี และถวายความปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่
- ข้าพระพุทธเจ้า จะเชิดชูและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์
ทั้งจะปฏิบัติตน ให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

...........หรือที่แท้คุณไม่เคยใส่ยศและชื่อคุณลงไปเลย
รู้สึกแย่กับคุณ จริงๆ

//


“เรืองไกร” เตือนสมาชิกอย่าโง่หนุนแก้ รธน.คืนสมบัติ “แม้ว”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     23 พฤศจิกายน 2551 22:07 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138810

   
“เรืองไกร” จวกเหตุผลแก้ รธน.ฉบับ “เหวง” ฟังไม่ขึ้น อ้างเพื่อให้บ้านเมืองสงบ แต่กลับมุ่งคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้ “ทักษิณ” ทำบ้านเมืองปั่นป่วนกว่าเดิม ซ้ำ

หมกเม็ดประเด็นศาสนา จุดชนวนแตกแยก เชื่อ7 หมื่นรายชื่อสนับสนุนแค่ตบตา ส่วนใหญ่ไม่ได้อ่านเนื้อหา เตือน ส.ว.-ส.ส.อย่าโดนจูงจมูก ย้ำ ปชช.มีสิทธิ

ขัดขวาง หากสภาไม่ทำหน้าที่ตัวแทนปวงชน
      
       วันนี้ (23 พ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า จะร่วมประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย. และหากมีการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ตนเองจะอภิปรายอย่างเต็มที่และเป็นเรื่องที่ฝ่ายที่เสนอต้องตอบให้ได้ว่าเสน อเข้ามาทำไม โดยเฉพาะหากพิจารณาเหตุผลที่ระบุว่าต้องการให้เหตุการณ์

บ้านเมืองกลับไปเป็น แบบในช่วงก่อน 19 ก.ย.2549 ถามว่าการย้อนกลับไปแบบนี้หมายถึงการที่จะต้องคืนเงินจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณ

ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ อยากถามว่ากลัวอะไรกับกระบวนการยุติธรรมถ้าไม่ทำผิดจริงจะกลัวอะไร การแก้รัฐธรรมนูญเพียงเพื่อคืนทุกสิ่ง

ทุกอย่างให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กลับประเทศไทยอีกครั้งเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ จะเอาต้นไม้พิษกลับมาทำไม หลัก

การและเหตุผลตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในเจตนารมณ์ที่ระบุว่าต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อ ยในบ้านเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เพื่อคนๆ เดียวและพวกพ้องคงไม่สามารถทำให้บ้านเมืองสงบได้
      
       นายเรืองไกร กล่าวว่า นอกจากนี้มีคำถามว่าทั้ง 7 หมื่นคนที่ลงชื่อมาได้ศึกษาข้อดีข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ ที่เสนอเข้ามาในลักษณะนี้

พวกเขารู้รายละเอียดหรือเปล่า โดยควรมีการพิสูจน์โดยการมาถามทีละคนไปเลยว่า ท่านรู้หรือไม่ว่าการเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อประสงค์อะไร กระทบ

ต่อสถาบันสูงสุดของชาติขนาดไหน อีกทั้งคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นมาได้จดทะเบียนตามกฎหมายหรือไม่

เรื่องเหล่านี้ต้องตอบคำถามให้ได้
      
       “ดูๆ ไปแล้วเหมือนกับว่าการเสนอร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ทั้ง 7 หมื่นไม่ได้รู้เรื่องอะไร มันเหมือนกับมีคนยกร่างไว้ให้แล้วใช้ชื่อ 7 หมื่นคนแนบเข้ามา ทำ

แบบนี้เจตนาตบตาสมาชิกรัฐสภาหรือเปล่า และผมถามว่าสมาชิกทั้ง 630 คนจะยอมให้มีการใช้กระบวนการแบบนี้หรือเปล่า ผมหวังว่าเพื่อนสมาชิกทุกคนก็

กินข้าว มีความรู้ คงไม่มีใครถูกจูงจมูกง่ายๆ และหวังว่าทุกคนจะทำตามปฏิญาณตนไว้”
      
       นายเรืองไกร กล่าวว่า หากในวันที่ 24 พ.ย. ถ้าสมาชิกรัฐสภาไม่สามารถทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนให้ประชาชนไว้วางใจได้ ก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะเข้า

มาขัดขวางไม่ให้ท่านทำหน้าที่และมาทวงสิทธิความเป ็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของปวงชนตั้งแต่ต้น ซึ่งคนที่มาเรียกร้องสิทธิก็คงจะมีเป็นหมื่นเป็น

แสนและไม่น้อยกว่า 7 หมื่นแน่นอน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาควรจะรับผิดชอบต่อเสียงเหล่านี้ด้วย และควรคิดด้วยว่าท่านกำลังทำอะไร กำลังเป็นเครื่องมือของใคร

อยู่หรือไม่ ไม่ว่ามันคนนั้นจะอยู่ในหรือต่างประเทศก็ตาม
      
       นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้เสนอให้มีการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าประเด็นนี้จะสร้างความ

แตกแยกให้กับสังคมอย่างหนัก เพราะประชาชนที่อยู่ในผืนแผ่นดินไทยมีความหลากหลายและได้นับถือศาสนาต่างๆ โดยเสรีตั้งแต่แรกเกิดไม่ว่าจะเป็นพุทธ

คริสต์ อิสลาม และศาสนาอื่นๆ ถามว่าการแบ่งแยกศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ จะทำให้ประชาชนในศาสนาอื่นๆ อยู่ร่วมกันได้ด้วยความรู้สึกว่ามีความ

เท่าเทียมกันได้อย่างไร