++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สงคราม 9 ทัพ เผด็จศึกรัฐบาล

โดย ชัยสิริ สมุทวณิช 26 พฤศจิกายน 2551 17:15 น.






สงครามเก้าทัพของพันธมิตรฯ ขณะนี้เคลื่อนไหวด้วยกำลังไม่น้อยเลยครับ และยังไม่มีความรุนแรงแต่ประการใด โดยรัฐบาลก็ตั้งรับและดูเชิงอยู่ ไม่มีวี่แววว่าจะถอยเพราะคนอย่างนายสมชายนั้นไม่มีวันลาออกง่ายๆ ด้วยรู้ดีว่ามีกองหนุนจากอดีตนายกฯ ทักษิณคอยยกหางอยู่



แต่คนอย่างทักษิณ นับวันจะยิ่งเหิมเกริมครับ



ด่ากราดไปทั่ว แม้กระทั่งประเทศอังกฤษซึ่งเคยใจดีให้เขาไป เคยพำนักพักพิงอยู่ตั้งนาน แต่ทักษิณไม่เคยนึกถึงบุญคุณ พอเขาถอดวีซ่าก็อาละวาดด่าเปิงถึงขั้นหาว่ารัฐบาลเขาไปรับสินบน ซึ่งหาใช่วิสัยของผู้ดีอังกฤษ ต่างจากกุ๊ยอดีตนายกฯ ซึ่งแย่กว่ากุ๊ยเพราะตกเป็นนักโทษหนีคดีจากประเทศไทย



ควรขอบคุณอังกฤษเขาด้วยซ้ำที่ไม่ได้ร่วมมือกับตำรวจไทยจับตัวมาติดคุก



ไม่งั้นป่านนี้เข้าซังเตไปแล้ว



ทักษิณซึ่งห้อมล้อมด้วยบริวารซึ่งล้วนแต่ติดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพยังสะเออะคิดจะขอพระราชทานอภัยโทษ โดยไม่เคยส่องกระจกดูตัวเองเลยว่านักโทษหนีคดีอย่างตัวเขานั้นสมควรหรือไม่



มีแต่คนที่ต้องมาติดคุกก่อนเขาจึงใช้สิทธิขอมาพึ่งบารมี



นี่หนีหัวซุกหัวซุน



ทำอะไรแทนที่จะนึกไม่ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทกันบ้าง รังแต่จะหาเรื่องให้บ้านเมืองวุ่นวาย



เอาเป็นว่าโดยสรุปนั้น ทักษิณยังหลงคิดว่าตัวเขาจะกลับมาฟื้นฟูประเทศได้เหมือนกับว่าคนไทยเวลานี้ ไม่มีใครมีฝีมือพอที่จะเทียบชั้นเท่าเขาแล้ว



การที่ทักษิณเหิมเกริมแบบนี้ ทำให้พวกเลียแข้งเลียขาอย่างนายจักรภพ เพ็ญแข เอาทักษิณขึ้นตีเสมอรัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ อีกแล้วครับท่าน



ห่างกันลิบลับ



รัฐบุรุษอย่างปรีดี พนมยงค์ นั้นเคยดำรงตำแหน่งถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เป็นเสรีไทย รักชาติ และรักษาราชบัลลังก์ก็ยิ่งชีพ มีความเป็นอยู่สมถะ แค่นี้ก็ห่างไกลกับอดีตนายกฯ สัมภเวสีทักษิณ ที่อย่าว่าแต่เคยมีเกียรติระดับผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเลย, เสรีไทยรักชาติก็ไม่เคยทำอะไรเทียบชั้นได้ แถมโกงจนรวย และคอร์รัปชันมากที่สุด นายปรีดี และท่านผู้หญิงพูนสุขนั้น แม้แต่บาทเดียวก็ไม่เคยฉ้อฉล เศษอิฐเศษดินที่ทิ้งแล้วแถวหน้าบ้านยังไม่เก็บมาทำถนนในบ้านเลย อย่าว่าแต่เอามาทำประโยชน์ส่วนตัวอย่างอื่นเลย



การที่นายจักรภพพยายามอ้างนายปรีดี มาเทียบกับทักษิณนั้น นายจักรภพก็ไม่เคยเรียนประวัติศาสตร์ไม่รู้จักนายปรีดีว่าเป็นอย่างไร เคยทำอะไรบ้าง คิดเพียงว่าเคยลี้ภัยอยู่ต่างประเทศเท่านั้น



การลี้ภัยกับการหนีหัวซุกหัวซุนเพราะเป็นนักโทษฉ้อโกงมันคนละเรื่องว่ะจักรภพ แล้วการเป็นรัฐบุรุษก็ต่างกับการเป็นโมฆบุรุษอย่างนายทักษิณด้วย



เทียบไม่ได้ ดังนั้นเอ็งอย่าได้เสือกคิดอะไรที่เทียบชั้นกันไม่ได้



เพราะยิ่งเทียบยิ่งเห็นถึงความแตกต่างห่างชั้นกันชัดเจน



ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความรักชาติ เพราะว่าคนอย่างรัฐบุรุษที่ชื่อปรีดี พนมยงค์นั้น เมื่ออยู่ประเทศจีน พวกคอมมิวนิสต์ไทยเคยเสนอให้ใช้ชื่อถนนในเมืองไทยเป็นภาษาจีน ท่านยังไม่ยอมเลย นี่แหละรักชาติยิ่งชีพละ



และท่านก็ไม่ได้ลี้ภัยไปอยู่ในฐานะคนร้าย แต่ได้รับเกียรติจากรัฐบาลจีน



ไม่เคยต้องใช้พาสปอร์ตแดง ซึ่งนายทักษิณยังหน้าด้านใช้อยู่ ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่า มันไม่สมควร แต่ก็อยากยึดเอาไว้เพื่อให้ได้สิทธิอันมิบังควร



กระทรวงการต่างประเทศก็พิลึกควรถอนพาสปอร์ตนี่ได้แล้ว

ควรทำนานแล้วครับ



กลับมามองสงคราม 9 ทัพดีกว่า



เวลานี้สภาผู้แทนฯ เตลิดเปิดเปิงครับ เพราะพันธมิตรฯ เข้าปิดล้อมไว้หมด



มีแค่ 4-5 คน ที่หลงเข้ามาดูลาดเลา



เลขาธิการรัฐสภา นายพิทูร พุ่มหิรัฐ แกก็ยืนยันว่าอย่างไงเสียคงประชุมไม่ได้แน่ๆ เพราะดูรูปการแล้ว ชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 28 พ.ย. แน่ สภาฯ จะยึดในวันนั้นเสียด้วย



เปิดอีกทีก็ปีหน้าฟ้าใหม่นั่น



ประสาร มฤคพิทักษ์ พูดถูกใจคนทั้งหลายว่า กลุ่ม 40 ส.ว. ซึ่งรวมตัวแกด้วยรวม 40 กว่าคน ได้ดูสถานการณ์แล้ว เห็นว่ารัฐบาลนี้หมดสิ้นความชอบธรรมไปแล้ว เพราะเหตุการณ์เมื่อ 7 ตุลาคม ก็ไม่เห็นว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบ



ความจริงต้องรีบลาออก ไม่ก็ต้องยุบสภาฯ ไป



พวกดื้อรั้น ส.ส.พลังประชาชนก็ยังทำพิเรนทร์คิดจะปีนรั้วอีก ทำตัวเป็นฮีโร่ โดยไม่กลัวว่าจะตกลงมา



อีกทัพหนึ่งของพันธมิตรฯ ไปชุมนุมอยู่หน้า บช.น.ครับ ซึ่งตามปกติพวกตำรวจรีบปิดประตู ทั้งๆ ที่แกนนำบอกว่ามาแบบอหิงสา และจะไม่มีการประท้วงรุนแรงแล้วก็ตาม



อีกทัพหนึ่งไปกระทรวงการคลัง



ทัพนี้นำโดยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และศิริชัย ไม้งาม มีพลพรรคร่วม 3,000 คน อยู่ตั้งแต่ 11.00 น. เปิดปราศรัยคึกโครม เรียกร้องให้ รมต.รีบกลับบ้านไปนอนเล่นจะเข้าท่าที่สุด



แท็กซี่อุบาทว์คันนึง คงโดนเมียเอาครกทุ่มหัวหรือโดนไม้ตีพริกแพ่นกบาลก่อนออกรถกระมัง เลยควันออกหูเห็นพันธมิตรฯ เดินอยู่ดีๆ ก็เอาหินปาใส่เฉยเลย ทำให้ไปโดนรถยนต์บางคัน คนขับรถยนต์ซึ่งไม่รู้เรื่องจึงอยากลงมาเตะปากเข้าให้สักครั้ง ดีแต่ว่าคนขับหนีไปเสียก่อน



ครับ... บรรยากาศก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก



แต่น่าจะแตกหักกันไม่พรุ่งนี้ก็อีกไม่นาน



สงคราม 9 ทัพก็เตรียมกันมาดี



และเป็นการรวมตัวของประชาชนชาวพันธมิตรฯ ครั้งใหญ่มีคนมากที่สุดครั้งหนึ่งนะครับ





http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000140058

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น