เห็นความแปลก แล้วไม่แปลก ก็ไม่แปลก

      
   
 ผู้เขียน: Peter    
ว ิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการหย่าของทักษินฯ กันมาก  เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าไม่มองว่าแปลก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก  หากพิจารณาภาพข่าว ตอนทักษินฯ กับ พจมานฯ ไม่เดินในห้าง ตั้งแต่ทักษินฯ ให้ช่อกุหลาบแดงกับพจมานฯ แม้ว่า พจมานฯ จะรับไว้แต่สีหน้าก็ไม่แสดงความปลาบปลื้ม เดินเมินไปทางอื่น คนที่เป็นผู้หญิงก็จะเข้าใจจิตใจของผู้หญิงว่าคิดอะไรอยู่  แม้ว่าทักษินฯ จะพยายามสร้างภาพว่ายังดีกันอยู่ แต่ฝ่ายหญิงก็แสดงออกว่าฝืนใจกระทำ  เดินในห้าง ธรรมดาของคนที่เป็นสามีภรรยาที่ยังรักกันอยู่จะเกาะเกี่ยวกันเดิน ไม่ใช่ต่างคนต่างเดิน เมินหมางต่อกัน เมื่อทักษินฯ จะยื่นมือไปแตะข้อศอก ฝ่ายหญิงก็สะบัดแขนหนี แล้วแสร้งทำเป็นหันไปมองสิ่งอื่นแทน สะท้อนให้เห็นความร้าวฉานลึกของครอบครัว  ประเมินสถานะของสามตระกูล จะเห็นว่า ตระกูลวงศ์สวีสดิ์ ก็ดูจะมีปัญหาอยู่ที่สมชายฯ เพียงคนเดียว ที่กำลังเผ๙ญชะตากรรมของคดีความต่างๆ ที่ดูจะรอดยาก  ตระกูลชินวัตร นั้น ก็มีเพียงตัวเล่นไม่กี่คน คือ ทักษินฯ เยาวภาฯ ยิ่งลักษณ์ฯ พายัพฯ ที่ดูจะมีจิตใจฝักใฝ่ที่จะเข้าสู่แวดวงการเมือง โดยไม่ประเมินศักยภาพตนเอง ด้วยจะเป็นวิบากกรรมที่ดลใจให้คนเหล่านี้ต้องเข้ามารับชะจากรรมที่จะเป็นไป สิ่งที่ทักษินฯ จะมีอยู่ตอนนี้ก็เพียงเงินที่มีอยู่เท่านั้น บารมีด้านอื่นนั้นไม่มี  ส่วนตระกูลดามาพงศ์ นั้น ดูจะมีศักยภาพด้านอำนาจอยู่ เพราะคุมตำรวจอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้คุมไปทั้งหมด เพราะตำรวจดีๆ ยังมีอยู่มาก แต่ถูกจำกัดอยู่ด้วยระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจ  แต่ถ้าสถานะการณ์ถึงในระดับหนึ่ง แล้วมีคนที่นำออกมาในการขัดขืน ก็จะมีตำรวจอักมากที่จะออกมาเคลื่อนไหวตาม จึงดูไม่มีอะไรน่ากังวลนัก พธม คงต้องยึดแนวทางเดิมไว้ ด้วยการใช้กฎหมายจัดการกับตำรวจนอกรีดนอกรอย  เพราะถ้าตำรวจเข้าสู่ทางที่ถูกต้อง ไม่ว่าเจ้าพ่ออีสานมต้ หรือเหนือ หรือปริมณฑล ก็ไม่กล้าหือ ถ้าไม่มีตำรวจหนุนหลัง
http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=279680&Mbrowse=68