++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การเมืองถึงทางตัน

โดย ชัยสิริ สมุทวณิช 19 พฤศจิกายน 2551 16:17 น.
       ความจริงเร ื่องที่คุณทักษิณกับคุณพจมานแกจะแยกทางกัน น่าจะเป็นเรื่องผัวๆ เมียๆ และเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ที่มันไม่สู้จะเป็นเรื่องปกติก็เพราะว่าข้อสมมติที่ว่าเมียไม่พอใจที่ผัว ยังไม่หยุดมั่วการเมือง ทั้งๆ ที่เมียก็รู้อยู่ว่าผัวตัวเองนั้น เล่นการเมืองมานาน
      
        แต่ก็หยุดไม่ได้
      
        มันจะหยุดไปทำไม เมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว
      
        เหตุผลของคุณอ้อจึงฟังไม่ขึ้นครับ แล้วเป็นเหตุผลที่สุดจะเชยด้วยประการทั้งปวง
      
        เออ.. ถ้าบอกว่าหย่าเพื่อจะแบ่งสมบัติก็ยังจะฟังขึ้น
      
        แต่เผอิญว่าสมบัติก็โดนยึดไปหมดแล้ว
      
        ก็น่าคิดว่า จะยังเหลืออยู่ที่ไหนอีกล่ะ
      
        ถ้าบอกแล้วบอกอีกว่าลูกโตกันหมด และไม่มีภาระแล้วก็ฟังขึ้นบ้าง
      
        แต่ถ้าบอกว่าผัวนอกใจ อันนี้เข้าเค้า เพราะเรื่องผัวไปร่วมเพศกับสตรีอื่นนั้น ทำใจยากสำหรับเมียซึ่งกำลังจะได้ตำแหน่งเมียหลวง
      
        คุณทักษิณก็น่าจะยกตัวอย่างคุณสมชายให้ฟังว่าเป็นถึงนายกฯ ขนาดพาอีหนูเข้าม่านรูดประกอบกามกิจ เมียยังไม่ยกครกฟาดหัวเลย คุณอ้อน่าจะดูเป็นตัวอย่าง
      
        คุณทักษิณไม่รู้ยกกรณีนี้ให้เมียฟังหรือเปล่าก็ไม่รู้
      
        เอาเป็นว่าการหย่าครั้งนี้
      
        ไม่มีใครเชื่อสักราย

      
        ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องการหย่าเพื่อหวังผลอะไรสักอย่างหนึ่ง และน่าจะเป็นเรื่องการเมืองค่อนข้างแน่
      
        ซึ่งผลการหย่านั้น ย่อมไม่อาจทำให้กระบวนการยุติธรรมชะงักงัน
      
        คุณทักษิณและเมียจะต้องติดคุกวันยังค่ำ
      
        เงินก็ต้องโดนริบ
      
        บ ้านจะแตกสาแหรกจะขาด มันยากครับที่คนจะเข้าใจได้ เมื่อไม่มีคนเข้าใจก็ไม่มีใครสงสารมีแต่เวทนาที่ต้องโดนโทษ แต่เมื่อหนีโทษซึ่งเป็นอาญาแผ่นดินอย่างนี้ก็ยากที่ประชาชนจะให้อภัย
      
        ดังนั้นอย่าหวังเลยที่จะได้รับการ “อภัยโทษ” ถ้าขอเมื่อไร ผมว่าน่าจะมีคนลงชื่อคัดค้านเป็นบัญชีหางว่าวเพราะไม่ปรากฏว่า คนที่ยังไม่ได้เข้าคุกจะได้รับการอภัยโทษ
      
        แถมเป็นนักโทษหนีคดีเสียอีก
      
        อัยการเขาจึงออกมายืนยันว่า การให้ข่าวว่าหย่าร้างกัน มันหาได้ทำให้คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านเกิดผลแต่ประการใด
      
        ก็ทั้งสองคนผัวเมียไปให้การกับ ป.ป.ช.โดยโอนขาดแล้ว
      
        ก่อนหน้านั้นยังมีคนแอบไปเห็นผัวเมียคู่นี้สวีทกันอยู่เลยครับ
      
        การเล่นละครหรือปาหี่ตบตากันนั้น เมื่อโดนจับได้ก็ควรสารภาพเสีย
        ส่วนการเมืองไทยตอนนี้ก็หาได้ก้าวไปไกลกว่ามีจำอวดหน้าเดิมอย่างเฉลิม อยู่บำรุง ออกมาคุยโว
      
        บอกคนอย่างแกนั้น ถ้าจะฟ้องพันธมิตรฯ ก็ฟ้องได้ถึง 200 กว่าคดี และจะจับนายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ แต่ตนก็นึกถึงบุญคุณในความหลัง
      
        “ผมรู้จักมักจี่กันมาตั้งแต่ปี 2517 นะ คุณสนธิบอกว่า ผมเป็นหนี้บุญคุณ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นหนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่ผมยังเคารพรักอยู่นะ นึกถึงบรรยากาศเดิมๆ อยู่”
      
        เฉลิมอาจจะแกล้งจำไม่ได้ ยามตกยากไม่มีเงินก็มีแต่เงินคุณสนธิ เวลาหนีหัวซุกหัวซุนก็ไม่ใช่คุณสนธิหรือที่คอยช่วย
      
        สำหรับคุณทักษิณ บัดนี้เร่ร่อนไม่รู้อยู่ไหนนั้น มีแต่ข่าวมั่วไปหมด
      
        จนบัดนี้กระทรวงการต่างประเทศก็ยังไม่ยึดพาสปอร์ตสีแดง
      
        ปล่อยกันแบบนี้ไม่ดีนะครับ
      
        การหย่าอ้อนั้น มีการวิเคราะห์กันหลายรูปแบบมาก
      
        น อกจากชาวบ้านร้านตลาดจะหัวร่อกันเอิกเกริกแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ ปชป.ยังชี้ว่า ถ้าหย่าจริงก็มีเงื่อนไขทางกฎหมายทั้งเรื่องทรัพย์สินและอื่นๆ
      
        แต่ก็เห็นว่านี่เป็นเรื่องคนที่ยังไม่ยอมแพ้มากกว่า
      
        คนที่จะหยุดทักษิณได้ก็คือประชาชน
      
        กระบวนการเลือกตั้งก็ต้องหยุด อย่าไปเลือกสมุนของทักษิณให้กลับเข้ามาในสภาฯ ได้อีก
      
        คืออย่าปล่อยให้เข้ามามีเสียงข้างมาก จนตั้งรัฐบาลเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ทักษิณและพวกพ้องต่อไปอีก
      
        ไม่เช่นนั้นการเมืองไทยก็จะวนอยู่แบบนี้
      
        หาทางออกไม่ได้

      
        ทหารเองก็แอ๊บแบ๊วไม่กลัวปฏิวัติเพราะเข็ดขี้เข็ดเยี่ยวกลัวต้องตกเป็นหนังหน้าไฟให้กับพวกนักการเมืองมาด่าได้อีก
      
        เมื่อถึงทางตัน ก็ต้องพึ่งประชาชนเท่านั้น
      
        และประชาชนจะรวมกันติด ก็จำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้มแข็งพอ
      
        ครับ..ผมเองแม้จะเห็นว่า การโยนบาปไปให้กับประชาชนสู้กับเรื่องใหญ่ มันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นยอดภูเขา
      
        แต่นักการเมืองเองก็ไม่กล้าตัดสินใจมายืนข้างประชาชนเช่นกัน
      
        ดังนั้น การที่จะผนึกกำลังเพื่อทำการใหญ่มันจึงหาทางออกได้ยากจริงๆ
      
        คงต้องพึ่งพระสยามเทวาธิราชแล้วละครับงานนี้

from http://www2.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137140 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น