++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิด


 
 ผู้เขียน: Peter  
จ ากการที่พรรคพลังประชาชนออกมาข่มขู่ว่าอาจเกิดการนองเลือดขึ้นในแผ่นดิน จนอาจถึงเกิดการแยกแผ่นดินนั้น  คนพวกนี้มองเหตุการณ์อย่างพื้นเกินไป  ไม่ต่างกับทักษินฯ ในยุคอดีต ที่มองปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าเป็นโจรกระจอก มีอยู่ไม่กี่ร้อยคน ไม่มีศักยภาพ ประกอบกับพฤติกรรมของนายตำรวจบางคนต่อเรื่องของการอุ้มฆ่า จนก่อให้เกิดสถานะการณ์ที่เลวร้ายมาจนทุกวันนี้  จนบัดนี้กลุ่มคนพวกนี้ก็กำลังจะสร้างเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก แต่ครั้งนี้เหตุการณ์จะแพร่ขยายไปทั่วประเทศ จนยากจะควบคุม  เหตุเพราะคนพวกนี้มองปัญหาพื้นเกินไป ด้วยหลักสองประการคือ มองว่าคู่ต่อสู้นั้นมีเพียง กลุ่มผู้ชุมนุมของ พธม เท่านั้น  และยังมองว่า พวกตนเป็นฝ่ายกระทำการ โดยอีกฝ่ายยึดหลักอหิงสาไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง  แต่คนพวกนี้ไม่เคยมองเลยว่า ในประเทศอาจจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่เห็นด้วยกับ พธม แต่ไม่เห็นพ้องกับวิธีการของ พธม  คือไม่เห็นด้วยว่าการต่อสู้แบบอหิงสา จะสามารถเอาชนะกลุ่มคนที่ไร้จิตสำนึกชั่วดี  และมองว่ามีแต่การใช้ความรุนแรงคอบโต้เท่านั้นจึงจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้   เพียงแต่ที่ยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ ก็เพียงต้องการดูผลของปฏิบัติการของ พธม  สิ่งนี้คือสิ่งที่เรียกว่า เห็นด้วยแต่ไม่เห็นพ้อง  คือเห็นด้วยว่ารัฐบาลปัจจุบันและการเมืองปัจจุบันมีความชั่วร้าย และต้องมีการเมืองใหม่  แต่ไม่เห็นพ้องกับวิธีการแบบอหิงสา  ก็ได้แต่หวังว่า พธม จะไม่ท้อเสียก่อน เพราะหากสถานะการณ์ดำเนินไปถึงจุดนั้นจริง การนองเลือดที่พลังประชาชนคาดการณ์ไว้ ก็จะเกิดขึ้นได้จริง หากมีกลุ่มคนพวกนี้อยู่จริง  แต่การนองเลือดนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า ปัจจุบันนั้นเป็นที่เปิดเผยแล้วว่าใครเป็นใคร ทั้งตำรวจและนักการเมืองที่เป็นเป้าหมายก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร และตรรกะของคนพวกนี้ก็ชัดเจนอยู่ว่า ปัญหาอยู่ที่ตัวบุคคล การแก้ปัญหาจึงต้องกำจัดตัวบุคคลที่เป็นปัญหา  และในการรบกันแบบกองโจรในเมืองนั้น ภายใต้พื้นที่ 76 จังหวัด เทียบกับกำลังคนของรัฐที่มีอยู่ คิดจะต่อสู้กันก็นึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กับเวลาซุ่มทำการถึง 24 ชั่วโมง  ก็ได้แต่หวังว่า หากเกิดเหตุการณ์นั้นจริงๆ ก็ขอให้คนพวกนี้กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน อย่าให้เกิดความสูญเสียกับประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลย อย่าให้เหมือนสามจังหวัดชายแดนที่ประชาชนู้บริสุทธิ์ต้องเป็นฝ่ายที่รับกรรม ไปด้วย  อำนาจรัฐที่คิดว่ามีกำลังและอาวุธอยู่ในมือ ก็ควรดูอุทธาหรณ์จากเหตุการไม่ว่าใน อัฟก่นิสถาน อิรัก เลบานอน หรือแม้แต่เบรุต ที่รัฐมีกำลังและอาวุธอยู่ในมือ แถมยังพร้อมที่จะปฏิบัติการตอบโต้แบบไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ด้วย ยังควบคุมสถานะการณ์ไม่ได้เลย  หวังว่าคนที่มีหน้าที่จะคิดอะไรให้ไกลสักหน่อย ไม่ได้ห่วงต่อชีวิตของนักการเมืองและตำรวจชั่วหรอก แต่สงสารประชาชนผู้บริสุทธิ์ แม้แต่พวกที่อ้างความเป็นกลางทั้งหลาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น