++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ความต่างระหว่าง พาลกับบัณฑิต


ความต่างระหว่าง
พาลกับบัณฑิต



ทั้งอันธพาลและบัณฑิตต่างก็อยากให้คนอื่นทำอย่างตน แต่อันธพาลจะใช้วิธีด่าหรือทับถมคนที่ต่างจากตน ขณะที่บัณฑิตใช้วิธีสรรเสริญหรือยกย่องคนที่ตนนับถือ

หลักการหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงกระทำไว้เป็นแบบอย่าง คือ เผยแผ่พระสัทธรรมโดยไม่ว่าร้ายใคร ไม่มีการตรัสว่า ลัทธินั้นพาคนลงเหว ศาสนาโน้นเชื่อแล้วโง่เขลา มีแต่จะตรัสบอกว่า ถึงแม้ทำบุญในศาสนาอื่น ความเชื่อแบบอื่น ก็จัดเป็นบุญเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเกี่ยงว่า ศาสนาเราจึงทำบุญได้ หรือทำแล้วถึงจะได้บุญ

แต่ธรรมชาติของมนุษย์นั้น มักตีตราไว้ว่า ไม่เชื่ออย่างข้า ก็เป็นคนละพวกกับข้า หรือถ้ายิ่งเชื่อแล้วขัดกันเป็นตรงข้าม ก็ถือเป็นศัตรูกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเคยมีเหตุบาดหมาง แค่เห็นหน้าว่ายืนอยู่อีกข้าง ก็กางเล็บแยกเขี้ยวใส่กันได้แล้ว

ในชีวิตประจำวัน คนเราเมื่อรักใครชอบใคร ก็เชียร์แบบหรี่ตาข้างหนึ่ง หรือปิดตาทั้งสองข้างกันหมด ประเด็นคือ ถ้าจะ ‘ฝึกตนให้ไร้อคติอย่างพุทธแท้’ ก็ ต้องเริ่มจากการเชียร์ข้างที่ชอบอย่างเดียว ไม่ต้องไปแช่งฝ่ายตรงข้ามเขา ไม่ต้องไปพยายามขุดคุ้ยเพ่งโทษใคร สมดังที่บรมครูของเราสอนไว้ว่า บัณฑิตติเตียนผู้อื่น (แม้ผิดจริง) โดยรวบรัด และสรรเสริญผู้อื่น (ที่เรามองว่าดี) โดยอเนก

ดังตฤณ
มีนาคม ๕๖
http://www.twitter.com/Dungtrin
http://www.facebook.com/Dungtrin

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น