Oh Jtp - กราบพระอาจารย์ค่ะ ลองปฏิบัติธรรมหลายรูปแบบ เพื่อหาแบบที่ถูกจริตกับตัวเอง สังเกตว่าหลังปฏิบัติครั้งใดหรือวันต่อมามักจะอารมณ์ฉุนเฉียวกว่าเดิม ปกติเป็นคนลังเลหวาดกลัว ก็จะกลายเป็นไม่กลัว เด็ดขาด ไม่กังวลในสิ่งที่ทำและพูดและหงุดหงิด รำคาญมากขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ อีกข้อคือปกติไปวัดมักจะผิดหวังต่อเจ้าหน้าที่แม้พระชี เรื่องความไม่สำรวม ความไม่สมถะ มักแสดงความหงุดหงิดเมื่อถามไถ่อะไร เพิ่งไปวัดสนามในมาเพราะพระอาจารย์เคยบวชที่นั่น ประทับใจความมีเมตตาของหลวงพ่อ หลวงพี่ที่ให้ความสงสัยบางประการหายไป และเจ้าหน้าที่ที่ใจเย็น ให้ความเมตตาดีค่ะ จึงเป็นที่ๆจะไปพักค้างเพื่อเรียนรู้ แม้รูปแบบการเคลื่อนไหวยังขัดเขินอยู่บ้าง หลวงพ่อท่านหนึ่งบอกว่าเป็นหนึ่งในห้ารูปแบบที่ได้ผล บางแห่งบอกว่าอานาปานสติเป็นรูปแบบของพระพุทธเจ้า การเคลื่อนไหวมือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของหลวงพ่อเทียนที่เมื่อฝึกฝนก็จะพ้นทุกข์ได้ในที่สุดเช่นกัน รูปแบบต่างแต่จุดหมายเหมือน เข้าใจถูกต้องไหมเจ้าคะ พระอาจารย์ยังปฏิบัติแบบนี้อยู่ไหมเจ้าคะ กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - ที่คุณหงุดหงิด อาจเป็นเพราะตั้งใจปฏิบัติมากไป อยากให้ใจสงบ ไม่แวบไปไหน ก็เลยพยายามเพ่งหรือกดข่มความคิด ซึ่งอาจทำให้สงบได้ดั่งใจ แต่เป็นเหมือนหินทับหญ้า คือสงบชั่วคราว แถมเป็นความสงบแบบเก็บกด พอเลิกปฏิบัติจึงหงุดง่ายเวลา มีสิ่งไม่ถูกใจมากระทบ
การปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียนนั้น วางอยู่บนหลักสติปัฏฐานสี่ คือการมีสติระลึกรู้กาย เวทนา จิต ธรรม แม้รูปแบบจะเป็นสิ่งที่ท่านคิดขึ้นเองก็ตาม ในสติปัฏฐานสี่นั้น หมวดแรกคือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน พระพุทธเจ้าได้แยกออกมาเป็นหลายวิธี หนึ่งในนั้นคืออานาปานสติภาวนา นอกจากนั้นยังมีวิธีการที่เรียกว่า อิริยาบถ และ สัมปชัญญะ สองวิธีหลังนั้นคือสิ่งที่หลวงพ่อเทียนสอนให้ลูกศิษย์ปฏิบัติ โดยมีรูปแบบของท่านเป็นตัวช่วย สติปัฏฐานสี่นั้นเป็นหัวใจของกรรมฐานแบบพุทธ เพราะสามารถนำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น