++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไม่ทุกข์เพราะคิด แต่ทุกข์เพราะคนจิตใจไม่ดี





ปุจฉา – กราบนมัสการเจ้าค่ะ หนูมีปัญหาขอคำชี้แนะจากหลวงพี่ดังนี้ค่ะ หนูภาวนามาประมาณ ๑๐ ปี ด้วยวิธีการเจริญสติ หลัง ๆ พบว่าความทุกข์จากความคิดนั้นแทบไม่มี คือ พอคิดปุ๊บก็รู้ทัน เป็นไปแบบอัตโนมัติ จึงมีความทุกข์จากการคิดปรุงแต่งภายในของตัวเองน้อยลงไปมาก ๆ และมีความศรัทธาในพุทธศาสนามากขึ้นทุกวัน

แต่ปัญหาคือเวลามีเหตุภายนอกมากระทบ คือ จากคนที่จิตใจไม่ดี หนูจะไม่ค่อยยอมคนเหล่านี้ คือ จะไม่ยอมก้มหัวให้แก่ความไม่ถูกต้อง เพราะมีความเชื่อว่า หากเราพากันนิ่งเฉย คนไม่ดีก็จะยิ่งเบียดเบียนคนอื่น แต่เมื่อเราภาวนาจะค้นพบว่าจิตแบบนี้ไม่ดีเลย เวลาไปต่อสู้กับเขามันไม่ใช่จิตที่ปกติ มันมีอัตตาตัวตนขึ้นมาเป็นระยะ ๆ แต่ถ้าเราคุยดี ๆ คนพวกนี้ก็จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง หนูเลยต้องใช้โทสะจัดการบ้าง ซึ่งบางทีก้อได้ผล ปัญหาแก้ได้ เขาคงสยองหนูเพราะหนูโหดมากเวลาโกรธ ^-^ แต่จิตหนูก็หมดแรงเจ้าค่ะ ซึ่งในทางธรรมแล้วไม่คุ้มเลย หนูพยายามหาสมดุลในเรื่องนี้อยู่ ขอความเมตตาหลวงพี่ช่วยชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ ^-^

พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - เวลามีอะไรมากระทบ อย่าลืมกลับมาดูใจตนเอง หากส่งจิตออกนอก เพ่งไปที่คนอื่นซึ่งทำตัวไม่น่ารัก อัตตาและความโกรธเกลียดจะได้ช่องครอบงำจิตคุณได้ง่าย ทำให้คุณเผลอพูดและทำ ในสิ่งที่ไม่สมควรออกไป

อย่าลืมว่าภาวนานั้นไม่ได้ทำเฉพาะเวลาอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่สามารถทำ(และควรทำ)เวลามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน โดยเฉพาะเมื่อเจอคนที่ไม่น่ารัก พร้อมกันนั้นก็ควรตระหนักว่าการรู้ทันความคิดอย่าง เดียวย่อมไม่พอ ต้องรู้ทันอารมณ์รวมทั้งอัตตา(หรือความยึดติดในอัตตา)ที่อยู่ เบื้องหลังความคิดและอารมณ์เหล่านั้นด้วย

บางครั้งคำพูดหรือการแสดงออกที่ดุดันแข็งกร้าวก็มีประโยชน์ สามารถใช้จัดการกับคนที่ทำตัวเป็นปัญหาได้ แต่หากคุณทำด้วยโทสะหรือความโกรธเกลียด อารมณ์เหล่านั้นก็จะเผาผลาญใจคุณ และหากทำบ่อย ๆ ก็จะหล่อหลอมนิสัยหรือบุคคลิกของคุณให้เป็นคนเจ้าโทสะ หากจำเป็นจะต้องแสดง ความดุดันแข็งกร้าวออกมา ก็ขอให้เป็นแค่อาการภายนอก ส่วนใจคุณนั้นเป็นปกติ ไม่ได้โกรธเกลียดเขา

อย่างไรก็ตามอาตมาอยากให้คุณลองคิดหาวิธีอื่นดูด้วย เช่น สร้างกฏเกณฑ์ กติกา หรือปัจจัยแวดล้อมบางอย่างที่โน้มน้าวหรือผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ถูกต้อง หรือป้องปรามไม่ให้เขาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรื่องแบบนี้ต้องใช้ปัญญา รวมทั้งความเชื่อว่าคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากต่อมเห็นแก่ตัวแล้ว คนเรายังมีต่อมคุณธรรม ซึ่งหากกระตุ้นให้เป็นก็สามารถส่งผลที่สร้างสรรค์ได้

admin - ขอเสริมด้วยคำสอนของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ในเรื่องคล้าย ๆ กันครับ

"ด่าโดยไม่โกรธ"

มีอธิบดีผู้เอาการเอางานคนหนึ่ง มาปรารภความทุกข์ในงานว่า ผมเวลานี้ ความโลภมากความอยากได้มันก็ไม่มีอะไรแล้ว เพราะว่าทรัพย์สมบัติก็พอมี ไม่มีลูกมีเต้า ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นอะไรนักหนา งานการก็ทำกันอย่างเต็มที่

แต่มีเรื่องเดียวคือ เรื่องโกรธมันยังแรงอยู่ แล้วก็ไม่ใช่ไปโกรธใครที่ไหน โกรธลูกน้องนั่นแหล่ะ มันทำไม่ถูกผมโกรธนัก ถ้ามันไม่รู้ผมไม่โกรธผมสอนให้ทำ ผมเป็นคนชอบสอนคนให้ทำงาน แต่นี่โกรธเพราะเขาทำผิดทั้งรู้ ๆ นี่ผมโกรธนักหนา พอโกรธด่าเขาทีไร ผมเจ็บทุกที ไม่สบาย จะทำอย่างไรดีเจ้าคุณ?

ก็บอกว่า อ้าว....ก็อย่าไปด่าให้มันเป็นทุกข์ซิ ให้เขาด่าโดยไม่เป็นทุกข์ ว่าเขาโดยไม่ให้เราเป็นทุกข์นั้นทำอย่างไร ก็คืออย่าทำไปด้วยอารมณ์ซิ แต่ว่าทำด้วยใจที่รู้ตัว ใจที่เย็น ๆ ทำด้วยความรู้เท่ารู้ทัน ว่าเรากำลังปฏิบัติงานอีกตอนหนึ่ง คือ ตอนด่าไปโดยเพียงปากว่า ใจนั้นไม่มีอะไร เพียงเพื่อให้งานมันเป็นไปด้วยดี งานการไม่เสีย และผลทางราชการก็ไม่ตกเรี่ยเสียหาย มันก็เป็นการทำหน้าที่เหมือนกัน

ปัญญานันทภิกขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น