++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แทนที่จะเสื่อมศรัทธา ทำไมเราไม่มองอีกด้านว่าเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เราเห็นคุณค่าและต้องรักษาพระดีที่ยังมีอยู่?


Kitichai Orr Chaiear

กรณีอาจารย์มิตสุโอะที่สังคมกำลังวิจารณ์อย่างหนัก
ในฐานะที่ผมเป็นชาวพุทธคนหนึ่งขอกล่าวว่า

"แทนที่จะเสื่อมศรัทธา ทำไมเราไม่มองอีกด้านว่าเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เราเห็นคุณค่าและต้องรักษาพระดีที่ยังมีอยู่?"

เราเป็นพุทธบริษัท4 เป็นเจ้าของศาสนาด้วย ต้องช่วยกันรับผิดชอบป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ด้วย อย่าบ่นว่าอย่างเดียว แต่ต้องกล้าพูดในสิ่งที่สมควร กล้าปกป้องในสิ่งที่สมควร

ผมเป็นหมอ เวลาพระมาตรวจแผนกผม ผมห้ามผู้หญิงแตะตัวเลย ยืนช่วยห่างๆหมอบริการเอง
จนท และพยาบาล ชอบคิดว่าพระป่วยไม่เปนไร
ผมบอก"ไม่ได้ ถ้าไม่ฉุกเฉิน ต้องให้ผู้ชายทำ" คิดตื้นๆมักง่ายอย่างนี้สิพระถึงทนไม่ไหวสึกกันหมด
พระที่ไม่เคร่งเรื่องนี้ก็มี แต่เราต้องมีจุดยืนว่าเราไม่อยากรับเศษกรรม เราไม่อยากเป็น 1 ในมือที่ทำลายศาสนา
ผมเห็นพระอรหันต์หลายองค์ทั้งที่สิ้นกิเลสแล้ว กลับยอมตายในป่า ไม่ยอมมารักษาเพราะกลัวพยาบาลจับตัว
พวกผมต้องรับประกันมั่นเหมาะว่าจะจัดทีมดูแลอย่างดีไม่ให้ผู้หญิงถูกตัว ท่านจึงยอมออกมารักษา
ปัญญาระดับท่านยอมตายเพื่อรักษาธรรมวินัย
ปัญญาพระปุถุชนอาจไม่ถึงขั้นท่าน
แต่เรารู้แล้วว่านักปราชญ์คิดยังไง
เราต้องเลือกปฏิบัติตามนักปราชญ์
หมอผู้หญิงให้ยืนยันไปเลยว่า"ให้ถูกตามธรรมวินัยดีกว่าค่ะ ให้น้องผู้ชายช่วยนะคะ หมอคุมอยู่ตรงนี้ค่ะ"

พระปฏิบัติหนีสังคมไปเข้าป่ามานาน ถ้ากิเลสยังไม่หมด เห็นแค่ผู้หญิงใส่ยีนส์ รู้ขนาดเรียวขา ก็คิดเตลิดไปถึงไหนแล้ว ถ้าถูกมือนิ่มๆของผู้หญิงสัมผัสตัวจะเตลิดขนาดไหน
วัดป่าจึงให้สตรีใส่ผ้าถุงดำมิดชิด เสื้อผ้าอย่าใส่คอกว้าง กราบทีเห็นนมหก อย่าใส่รัดรูปเห็นหมดว่าคัพ A B C อย่าใส่ผ้าบางเห็นทะลุถึงชั้นใน พวกนี้เรียกว่า"ชุดสึกพระ"

จริงอยู่ความรับผิดชอบส่วนใหญ่ต้องอยู่ที่ตัวพระเอง
แต่ฆราวาสอย่างเราก็มีส่วนใช่ว่าพวกเราจะไม่มีผลเสียเลย
ต้องทำในส่วนที่เราทำได้ดังกล่าวมา
ไม่งั้นให้สาวๆนุ่งสายเดี่ยวเข้าวัด เพราะเป็นความรับผิดชอบพระที่ต้องหลับตาเอาเองเหรอ?

เคยครั้งหนึ่งขณะทำการรักษาหลวงพ่อองค์นึงอยู่ ซึ่งต้องถอดจีวรท่านเปลือยท่อนบน ลูกศิษย์ชักกล้องออกมาถ่าย
ผมหยุดเลย บอกว่า พี่ลบรูปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นผมไม่ทำแล้ว
หลวงพ่อถอดอังสะออก นุ่งแต่ผ้าสบง มันงดงามมั้ย ถ่ายได้ยังไง
แถมบอกว่าจะอัพเฟสบุค ให้เพื่อนๆโมทนา
ไม่คิดบ้างว่า สมควรรึเปล่า เอารูปครูบาอาจารย์เปลื้องผ้ากำลังทำการรักษาไปลง social network

ผู้ชายก็ควรรู้ธรรมวินัยเช่น พระคุยกับสีกาตามลำพังเป็นอาบัติเพราะอาจมีการจีบกันได้ เวลาผมอยู่วัด ถ้าสีกามีธุระคุยกับพระผมต้องตามเข้าไปนั่งข้างๆ เพื่อไม่ให้ท่านอาบัติ และเป็นพยานให้ท่านว่าไม่มีการจีบกัน
เวลานั่งรถสองแถว หรือนั่งเก้าอี้ในที่สาธารณะอย่างหมอชิต สนามบิน ผู้ชายควรเข้าไปนั่งติดข้างพระเป็นต้น

การที่ท่านยังไม่บรรลุธรรม ไม่ได้แปลว่าท่านจะไม่บรรลุในอนาคต
เราในฐานะพุทธบริษัทต้องช่วยกันส่งเสริมป้องกันท่าน
ไม่ใช่มีส่วนกระชากผ้าเหลืองออกจากท่าน
เห็นครูบาอาจารย์บางองค์ที่ผมมีส่วนร่วมดูแลจนนาทีสุดท้าย เผาออกมากระดูกเป็นแก้วเป็นเครื่องยืนยันความเป็นพระอรหันต์ เราก็หายเหนื่อย
อย่าประมาทพระหนุ่มที่ยังไม่บรรลุธรรม
บางทีท่านจะบรรลุธรรมหรือไม่ อยู่ที่การส่งเสริมป้องกันของพวกเรานี่แหละใครจะรู้

หลวงปู่รูปนึง หลังจากอาพาธหนักจนเดินไม่ได้ขยับตัวไม่ได้ไข้ขึ้นสูงเกือบช็อค
พวกเราลากมารักษาที่ศิริราช อาการดีขึ้นมาก ถึงจะยังเดินไม่ได้ แต่หายปวดบวมหายไข้และพ้นจากICU
มีอาจารย์ผู้มีคุณธรรมท่านนึงกล่าวกับเพื่อนผมว่า
การที่ท่านทุเลาลงไป ทำให้ท่านตั้งจิตขึ้นมาใหม่และภาวนาต่อได้ พิจารณาความเจ็บปวดทรมานจนสิ้นกิเลสขณะรักษาตัวในศิริราชนั้นเอง
ที่เล่ามาเพราะอยากจะบอกว่า"ฆราวาสอย่างพวกเรามีส่วนมาก ในการสนับสนุนหรือทำลายพระอริยเจ้าที่กำลังจะเกิดขึ้น"

จึงอยากให้มองอีกด้านของเหตุการณ์นี้ว่า ถ้าเราไม่อยากให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก็อย่าแค่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องปกป้องดูแลศาสนาของเราด้วย

ผมคิดว่า"สิ่งผิดพลาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลก ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อให้เราก่นด่า หรือท้อแท้ต่อการทำดี
หากคือประวัติศาสตร์ที่สอนพวกเราอย่าให้ทำผิด และให้เห็นค่าสิ่งดีๆที่เรายังมีเหลืออยู่"

ความวุ่นวายทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้คนไม่สนใจการเมืองอย่างผมและคนมากมาย ลุกขึ้นมาเห็นค่าของคุณธรรมและเรียกร้องความถูกต้อง

การนองเลือดทางภาคใต้ทำให้คนไทยใฝ่หาสันติ และเกิดการตื่นตัวของปัญญาชนอิสลาม

หวังว่าเหตุการณ์อ.มิตสึโอะ จะไม่ทำให้พวกเราเสื่อมศรัทธา
หากแต่ให้พวกเราเห็นค่าของสิ่งที่มีและควรปกป้อง
ในฐานะ 1 ในพุทธบริษัท4 พวกเราเป็นเจ้าของศาสนา ไม่ใช่ลูกค้าที่จะคอยติว่าสินค้า

สุดท้ายนี้ยังไงผมก็ขอบคุณท่านมิตสึโอะที่รีบสึกก่อนจะเกิดเรื่องไม่งามให้ศาสนามัวหมอง
ใครจะมองว่าศาสนาเสื่อมแต่ผมว่าไม่เสื่อม!!
คนที่รู้ตัวว่าแพ้ ก็ถอยออกไปเพื่อรักษาผ้าเหลืองไม่ให้มัวหมอง แบบนี้สิศาสนาจึงยังบริสุทธิ์อยู่ได้ !!!!
"ขอบคุณท่านมิตสุโอะ ขอบคุณที่ยอมถอยออกไป ขอบคุณที่กระตุ้นจิตสำนึกพุทธบริษัทไทย ขอบคุณจริงๆครับ"

Crd by Sissayanusis Luangta shared Somsagol Piromwaragorn's status update

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น