++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

นิทานเซน ใครชนะ

ในประเทศญี่ปุ่นสมัยก่อน มีประเพณีอย่างหนึ่งของพระภิกษุนิกายเซ็น คือ พระภิกษุอาคันตุกะ ที่เดินทางมาถึงที่วัดใด จะต้องตอบปัญหาธรรมชนะพระภิกษุที่อยู่ก่อน จึงจะมีสิทธิ์เข้าพักได้ถ้าแพ้ก็ต้องเดินทางหาวัดใหม่ต่อไปวันหนึ่ง มีพระอาคันตุกะองค์หนึ่ง จาริกมาจากที่ไกลถึงที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น มีพระภิกษุพี่น้อง 2 องค์อาศัยอยู่ องค์พี่เป็นผู้คงแก่เรียนรอบรู้แตกฉานมาก องค์น้องนอกจากจะตาบอดข้างหนึ่งแล้ว ยังมีสติปัญญาค่อนข้างทึบอีกด้วย เมื่อทราบระเบียบว่า จะต้องมีการโต้ธรรมะกันก่อนเข้าพักอาศัย พระอาคันตุกะก็ยินดีปฏิบัติตาม แต่เนื่องจากพระองค์พี่เหน็ดเหนื่อยจากการปฏิบัติงานมาทั้งวัน จึงได้มอบให้พระองค์น้องทาหน้าที่โต้ปัญหาธรรมแทน และได้แนะให้พระองค์น้องใช้วิธีโต้ปัญหาแบบ "เงียบ" พระทั้งสององค์จึงไปยังที่บูชา จุดธูปบูชาพระรัตนตรัย เสร็จแล้วการโต้ปัญหาธรรมะก็เริ่มขึ้น ชั่วครู่เดียวพระอาคันตุกะก็เดินออกไปหาพระองค์พี่ แล้วกล่าวว่า"น้องชายท่านเก่งเหลือเกิน ผมยอมแพ้แล้ว ""ท่านโต้ปัญหากันว่าอย่างไรล่ะ" พระองค์พี่ถามพระอาคันตุกะจึงชี้แจงว่า "ทีแรกผมชูนิ้วขึ้นมาก่อนหนึ่งนิ้ว ซึ่งหมายถึงพระพุทธ น้องชายของท่านชูสองนิ้วตอบ ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีพระพุทธก็ต้องมีพระธรรมด้วย ผมจึงชูสามนิ้วตอบซึ่งหมายถึงว่าถ้าจะให้ครบ ก็ต้องมีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ด้วย คราวนี้น้องชายท่านกลับชูกาปั้นมาที่หน้าผม ซึ่งหมายความว่า จะเป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็ตาม ก็ต้องมารวมเป็นหนึ่งเดียว คือสัจธรรม ผมจึงว่าน้องท่านเป็นผู้ชนะ ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่"พระภิกษุอาคันตุกะกล่าวแล้ว ก็ลาพระภิกษุองค์พี่เดินทางต่อไปสักครู่ พระองค์น้องก็เข้ามาหาพระพี่ชายอย่างเร่งรีบ แล้วถามหาพระอาคันตุกะว่า"เจ้าหมอนั่นมันไปไหนแล้วล่ะ ?""เธอชนะเขาแล้วไม่ใช่หรือ ?" พระผู้พี่ถามด้วยความสงสัย"ชนะกะผีอะไรล่ะ" พระองค์น้องโกรธ"เธอโต้ปัญหากับเขาว่าอย่างไรล่ะ?" พระองค์พี่ถามต่อ"โต้อย่างไรนะหรือ" พระองค์น้องตะโกน "พอเห็นหน้าผมเท่านั้น มันก็ชูนิ้วเดียวมาที่หน้าผม ซึ่งมันดูหมิ่นว่าผมมีตาข้างเดียว ผมสู้อดทนเพราะเห็นว่าเป็นแขก จึงชูตอบไปสองนิ้ว แสดงความยินดีที่เขามีตาครบบริบูรณ์ แทนที่มันจะรู้ตัว มันกลับชูนิ้วกลับมาอีกสามนิ้ว ซึ่งหมายความว่า ทั้งผมและมันมีตารวมกันอยู่สามตา อย่างนี้ไม่ใช่เยาะเย้ยแล้วจะเรียกว่าอะไร ผมเหลืออดจริงๆ จึงชูกาปั้นขึ้นมาจะต่อยหน้ามันสักหน่อย แต่มันกลับวิ่งออกมาเสียก่อน"พระที่แท้นั้น ท่านมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะไปทั้งหมด แต่พระที่พบเห็นในปัจจุบันส่วนมากจะเป็นแบบพระองค์น้องเสียทั้งนั้น คัดลอกจาก http://www.dharma-gateway.com/ผู้คัดลอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น