++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

นิทานสไลด์ธรรมะ เล่ม 1 เรื่อง "หมาหางด้วน" ตอนที่ 2

นิราลัยบรรยายภาพ
จัดพิมพ์โดย..สำนักพิมพ์ธรรมสภาสนใจหนังสือติดต่อได้ที่...
ธรรมสภา เลขที่ ๑/๔-๕ ถนนบรมราชชนนี ๑๑๙
เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทรศัพท์..(๐๒)๔๔๑๑๕๘๘,๘๘๘๗๙๔๐,
โทรสาร..(๐๒)๔๔๑๑๔๖๔,๔๔๑๑๙๘๓


พอสนใจแต่เรื่องรักสวยรักงาม แข่งขันกันในเรื่องแฟชั่นโดยเฉพาะแฟชั่นนักศึกษาสาว ๆ มักจะแข่งกันนุ่งกระโปรงสั้น ๆ เที่ยวโชว์ขาอ่อนล่อตะเข้ผู้ชาย ผลเป็นอย่างไร? หนังสือพิมพ์ลงข่าว “นักเรียนฉุดนักเรียนจะข่มขืน 6 ต่อ 1” แล้วจะไปเหลืออะไร นี่ยังโชคดีนะที่เป็นเพียงแค่ Future Tense (คือจะข่มขืน) ถ้าเกิดเป็น Present Tense แล้วไม่รู้จะบรรยายอย่างไร?
พ่อแม่ครูบาอาจารย์บอกสอนก็ไม่ค่อยจะเชื่อฟัง แม่บอกว่า “นี่ ! ลูกเวลาไปโรงเรียนอย่ากลับให้มืดค่ำนักนะ ระวังจะเสียเด็ก” มันกลับเถียงแม่ว่า “ใครบอกว่าหนูจะเสียเด็ก หนูกำลังจะได้เด็กต่างหากละแม่”


แม้แต่หมอซึ่งเป็นผลผลิตมาจากการศึกษา เมื่อการศึกษากลายเป็นการศึกษาหมาหางด้วน แทนที่หมอจะมีจรรยาบรรณของแพทย์ เมื่อนักศึกษาสาวซึ่งเป็นคนไข้มาให้หมอตรวจรักษาโรค หมอกลับไปทำอานาจารนักศึกษาสาวกลางโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ จนต้องตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งทางหนังสือพิมพ์


วัยรุ่นสมัยนี้แทนที่จะแข่งกันเรียนหนังสือว่าใครทำเกรดได้ดีกว่ากัน เป็นอย่างไรพวกนักเรียนนักศึกษาหมาหางด้วน กับมาสนใจแข่งกันเรื่องเซ็กซ์ จนกระทั่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า “เซ็กซ์วัยรุ่นวิกฤติหนัก อึ๊บ ทำยอดแลกเสื้อพละนักเรียนชาย สะสมอวดกันในโรงเรียน” นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นในหมู่นักเรียนนักศึกษาในยุคนี้ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ ถ้าไม่ใช่เพราะการตัดศีลธรรมออกจากการศึกษา แล้วมันจะมาจากเหตุอื่นใดกันเล่าลองคิดดูกันซิ


เดี๋ยวนี้ยิ่งเรียนยิ่งไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว วัยรุ่นสมัยนี้กับพากันไปมั่วสุมอบายมุขติดยาเสพติด เหล้า เฮโรอีน ฝิ่น กัญชา ยาบ้า อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ บางพวกก็ไปมั่วสุมกับการพนันถั่วโป ไฮโล พนันม้า พนันบอลกัน แทนที่จะตั้งใจขยันเรียนหนังสือ กลับขยันไปทำอบายมุขสิ่งเสพติด
สมัยเป็นเด็กเมื่อก่อนจะมีบทอาขยานท่องก่อนเลิกเรียนว่า “เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน…..” เดี๋ยวนี้พวกวัยรุ่นเขาท่องอะไรกัน “โตขึ้นผมจะขยันยิ่งกว่าขยัน จะบากบั่นพากเพียรเรียนหนังสือ หาวิชาความรู้เป็นคู่มือ จูนมือถือขายยาบ้า ค้าเฮโรอีน”



เดี๋ยวนี้เขาพยายามรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องเมาไม่ขับ เพราะมีตัวอย่างมากมายอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มสุราแล้วขับรถ ที่พิการไปก็ไม่น้อย บางรายเสีย ชีวิตไปเลยก็มี แต่ยังมีวัยรุ่นอีกจำนวนมากที่ไม่ สนใจ ไม่กลัวว่าจะต้องตายไปลงนรกเจอยมบาล จึงเที่ยวเมาแล้วขับรถซิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุมากมาย สุรานั้นมีโทษมาก
“อันสุราเมรัยใครเสพติด พาชีวิต มืดมนจนฉิบหาย
หนึ่งสินทรัพย์ตนนั้นพลันวอดวาย สอง อาจตายด้วยทะเลาะเพราะความเมา
สามเจ็บป่วยด้วยโรคาพยาธิ สี่คนตำหนินินทาพาอับเฉา
ห้าหน้าด้านหนักหนาเวลาเมา หกโง่เขลาปัญญาหดหมดสิ้นเอย.”
นักศึกษาวัยรุ่นผู้นี้ เมาแล้วขับรถไปชนคอสะพาน ผลเป็นอย่างไร?อนาคตการ ศึกษาต้องจบลง ตัวเองก็ต้องมาตาย รถก็เสียหาย นี่เกิดจากโทษของสุรานั่นเอง




นี่ ! ก็เป็นผลพวงมาจากการศึกษาที่ไม่สามารถพัฒนาให้นักเรียนนักศึกษาสนใจในการเรียนหนังสือ กลับไปสนใจยาเสพติด พอไปติดยาบ้าเข้าเป็นอย่างไร เสียสติคลุ้มคลั่งถึงกับทำมาตุฆาต ดังที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า “ลูกทรพีติดยา ทำมาตุฆาตใช้ไม้ฟาดแม่คอหัก” เป็นบาปกรรมอันหนัก ไม่มีบาปกรรมใดที่จะหนักเท่ากับการทำมาตุฆาตหรือปิตุฆาต คือฆ่าพ่อฆ่าแม่ ในทางพระพุทธศาสนาถือว่าบาปหนักห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน ตายไปก็มีนรกเท่านั้นเป็นที่หมายสถานเดียว




นี่ก็เป็นหนุ่มนักศึกษาพาณิชย์แห่งหนึ่งไปหลงรักสาวเทคนิคผมหยิกตาคม? เขียนจดหมายไปหาแฟนสาวคนรัก พอเขาไม่เขียนตอบกลับมาก็กินยาตาย ก่อนตายได้เขียนจดหมายลาตายยาวเป็นหางว่าว มันเขียนเป็นภาษาไทยปนEnglish เขียนดี แต่ไอคิวเตี้ยไอเดียต่ำซ้ำอีเดียด มันเขียนว่า
“เผย Window โผล่มามองโอ้น้องจ๋า เห็น Star ส่องแสงแทงใจฉัน
I have not seen you อยู่หลายวัน โอ้จอมขวัญจง answer letter มา
พอแฟนไม่ตอบจดหมายกลับ มันก็เลยเซ่อกินยาฆ่าตัวตาย สมน้ำหน้าตายเสียได้ก็ดี ถ้าการศึกษาถูกต้อง คงจะสอนให้ไอ้หนุ่มคนนี้มันรู้สัจธรรมความจริงว่า
“ทุกสิ่งสรรค์อันสลอน On the ground this is round ตัวเราอย่าเมาหลง
Everything เป็นสิ่งไม่ยืนยง มันก็คงหมดสิ้น in one day
คิดคิดไปใจหายไม่วาย Sad I think that ทุกสิ่งสรรค์ต้องหันเห
มีเงินทองของใช้ไม่พอเพ ก็ Stay at home ไม่ต้องตรอมตรมใจ


เจ้าหมาฝรั่งตัวนี้มันมาเที่ยวชวนหมาไทยวัยรุ่นทั้งหลาย มาตั้งวงเล่นการพนัน อย่างวันนี้มันก็ชวนกันเล่นไฮโล โปเขย่าลูกเต๋าทอด เอ้าเชิญแทงกันมาเลย เจ้าหมาหางด้วนไทยวัยรุ่นทั้งหลายก็พากันมาแทงพนันกันเป็นจำนวนมาก โดยหวังว่าจะรวยจากการแทงพนันในครั้งนี้ “การพนันไม่เคยทำให้ใครร่ำรวยได้แท้จริง”
คนที่แทง “ไฮโล” คำว่า “ไฮ (high) แปลว่าสูง โล (low) แปลว่าต่ำ คนที่แทงไฮโล ก็ทำให้จิตใจมีแต่สูง ๆ ต่ำ ๆ นอกจากนี้ก็ยังพากันพนันบอลยิ่งช่วงบอลโลกหรือบอลยูโร พวกนักเรียนนักศึกษาจะหลงใหลบ้าคลั่งกันเป็นจำนวนมาก นี่หรือคือเยาวชนของชาติในอนาคต


พวกวัยรุ่นสมัยนี้พากันคลั่งไคล้ดารานักดนตรีกันมาก ถึงขนาดเอาภาพมาติดตามฝาพนังในห้องนอน แทนที่จะเอารูปพ่อ รูปแม่หรือรูปพระมาติด ไม่รู้ไปหลงใหลอะไรมัน พอจะชวนมาฟังธรรมะกลับไม่สนใจ มันบอกว่าฟังธรรมะไม่สนุก อยากจะบอกวัยรุ่นทั้งหลายว่า “ฟังอะไรก็ไม่ดีเท่ากับฟังธรรมะ”
“ฟังธรรมะแล้วทำให้หายโง่ ถ้าไปฟังโลโซแล้วจะซมซาน
ฟังธรรมะแล้วไม่ทำให้ชีช้ำ ถ้าไปฟังไอน้ำก็จะไปหลงรักคนมีเจ้าของ
ฟังธรรมะแล้วทำให้หายเซ่อ ถ้าไปฟังไฮเปอร์มันบอกว่าเธอนั้นมันง่ายเอง
ฟังธรรมะแล้วทำให้หายเศร้า ถ้าไปฟังวงเอ้าท์ก็เป็นได้แค่กิ๊ก “มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน”
ฟังธรรมะแล้วทำให้สุขสันต์ ถ้าไปฟังน้องพั้นสรุปแล้วเราคงต้องเป็นแฟนกัน
ฟังธรรมะรับรองว่าไม่ตลก ถ้าไปฟังพี่เบิร์ดโกหกขี้จุ๊เบเบ๊ะ ขี้จุ๊ตะลาล่า อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ


การเรียนการสอนในยุคปัจจุบันก็เป็นไปเพื่อปริมานมากกว่าคุณภาพ ทำให้การศึกษาหมาหางด้วนจึงเกิดขึ้น นักเรียนขายตัวนักศึกษามั่วเซ็กซ์จึงเกิดขึ้นมากมาย วิ่งตามกระแสวัตถุนิยมกันจนฝุ่นฟุ้งตลบ ประเภทที่เรียกว่าอารมณ์เดือด กินด่วน หัวเด่ โชว์สะดือ เรียนโดด สายเดี่ยว เที่ยวดึก ส้นตึก มือเติบ ใจแตก แหกคอก นอกครู ไม่อยู่ในโอวาทแม่พ่อ ตอแหล
ยิ่งสังคมปัจจุบันนี้ พวกผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ได้ก็พากันสร้างสถานเริงรมย์สิ่งมอมเมาทั้งหลายอาทิเช่น บาร์ คลับ ผับ อาบ อบนาบนวด แม้แต่สร้างอาบอบนวดอยู่ตรงข้ามสถานศึกษาก็ยังจะดันอนุมัติให้เปิด ด้วยข้ออ้างเพียงแค่อยู่คนละฟากถนน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้วัยรุ่นใจแตกได้อย่างไร


ณ ที่สนามหมานางเลิ้ง สนามแห่งนี้มีการแข่งม้ากัน พวกหมาหางด้วนทั้งหลาก็พากันไปแทงพนันม้า ใครที่จะเข้าไปในสนามแห่งนี้เขาบอกว่า คนขายตั๋วก็เป็นหมา กรรมการก็เป็นหมา คนขี่ก็เป็นหมา คนดูที่อยู่ในสนามก็ล้วนแต่เป็นหมาทั้งนั้น มีทั้งหมาไทย หมาฝรั่ง แม้แต่หมาขี้เรื้อนก็ไปกับเขาด้วยเหมือนกัน (แต่คนเขียนนี้ไม่ใช่หมานะ !) เมื่อก่อนนี้เขามีสุภาษิตสอนใจไว้ว่า
“ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” แต่เดี๋ยวมันเปลี่ยนไปเสียแล้ว “ระยะทางพิสูจน์ม้า ม้าพิสูจน์คน” ไม่เชื่อลองไปถามคนที่เมาม้าดูก็ได้ ตอนเข้าไปหน้ายังสดชื่นดีอยู่ พอออกมาจากสนามม้าหน้าเหยี่ยวย่นเหมือนโดนถูกม้าเหยียบออกมานี่
บรรดานักเรียนนักศึกษาหมาหางด้วนทั้งหลาย แทนที่จะสนใจในเรื่องตำหรับตำรา กลับพากันสนใจเปิดแคทตาล็อกแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ โทรศัพท์มือถือ รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ๆ ชอบแต่งตัวหวือหวาน่าหวาดเสียว สายเดี่ยว เกาะอก บางทีไม่ที่จะเกาะก็ดันเสือกไปเกาะ ! รองเท้าก็ต้องสนสูง สนตึก สนแก้วอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายจนจำได้ไม่หมด
นักศึกษาสาว ๆ บางคนนุ่งกระโปรงสั้นแล้วยังอุตส่าห์พาตัวเองนวยนาถเข้าไปในเขตวัดวาอันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรเคารพ เรียกว่าไม่เห็นใจพระเณรกันบ้างเลย น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วหัวใจพระหนุ่มเณรน้อยยังอ่อน ๆ จะไม่กร่อนกันบ้างหรือไร สงสารพระเณรท่านบ้างเถอะ คุณแม่(น้องทรายขอร้องนะครับ !)


ผู้อำนวยการเองก็ต้องมานั่งกุมขมับ กินยาพาราเซตาม๋องหมดไปเป็นขวด ไม่รู้จะแก้ปัญหานักเรียนนักศึกษาหมาหางด้วนเหล่านี้อย่างไรดี เดี๋ยวก็เรื่องโดดเรียนบ้าง เรื่องชู้สาวท้องในขณะยังเรียนหนังสือ แล้วยังต้องมานั่งตรวจเครื่องแบบนักศึกษาที่ผิดระเบียบ ไว้ผมทรงนั้นทรงนี้ พอบอกให้ตัดผมสั้นมันดันไว้ผมยาว จนกระทั้งไม่รู้จะทำอย่างไร อยากไว้ผมยาวก็ให้มันไว้ไปเลย แทนที่มันจะไว้ผมยาว มันกลับดันโกนหัวเสียเกลี้ยง พอถามว่าโกนไปทำไม มันบอกว่าสกรีนเฮด
นักศึกษาบางคนก็เที่ยวขับรถซิ่งมอเตอร์ไซค์ แต่งรถให้เสียงมันดังไปถึงเมืองนรก ก่อความรำคาญให้ผู้อื่น จนผู้อำนวยการต้องเอือมระอา แม้จะลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน สั่งพักการเรียนก็แล้ว มันก็ยังไม่เข็ดหลาบกันเสียที


พอวันหยุดแทนที่จะพากันไปห้องสมุดเพื่อค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม กับนัดกันไปเป็นคู่ ๆ เพื่อจะไปซิ่งมอเตอร์ไซค์กัน ซิ่งที่ไหนไม่ซิ่งดันไปสิ่งบนถนนหลวงก่อความรำคาญให้ชาวบ้าน ชาวบ้านถึงกับพากันสาปส่งแช่งให้ลงนรกเร็ว ๆ ไม่ว่าตำรวจจะจับอย่างไรก็ไม่หมดสักที ไม่สามรถหยุดพวกนักซิ่งเหล่านี้ได้ จนถึงกับรัฐมนตรีบางคนเสนอไอเดียที่จะแก้ปัญหาด้วยการจัดสนามให้พวกมันซิ่งกัน
ไอ้พวกนี้มันอยากหมั้นกับยมบาล เวลามันบิดแต่ละที รู้เลยทีเดียวว่าต้องไปนรกแน่นอน มันบิดเสียงดังตาย ๆ ๆ ๆ คงจะได้ตายสมอยากสักวันหนึ่งแน่ ๆ บางทีมันเที่ยวไปบิดท้าแข่งกันกับพวกรถสิบล้อ ทำเป็นบิดเสียงดังแบ้น ๆ ๆ ๆ รถสิบล้อบอกเดี๋ยวเถอะมึง ๆ กูทับแบนแต๊ดแต๋มาหลายรายแล้ว ไอ้พวกไม่กลัวนรกทั้งหลาย ถ้ามันอยากซิ่งปล่อยมันไปเถอะ



นี่แหละโทษของการตัดหาง คือศีลธรรมและศาสนาออกจากการศึกษา การเรียนการศึกษาแทนที่จบปริญญาแล้วจะเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์ กลับกลายเป็นบัณฑิตทาส ตกเป็นทาสของอบายมุข สุรา นารี พาชี บุหรี่ กีฬาบัตร หลงใหลสารพัดเทคโนโลยีต่าง ๆ จนโงหัวไม่ขึ้น
บัณฑิตหมายถึงผู้รู้ ต้องรู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรควรทำไม่ควรทำ ไม่ใช่อะไร ๆ ฉันก็รู้หมด เช่น เหล้าไม่ดี บุหรี่ไม่ดี การพนันไม่ดี ฯลฯ ทั้งหมดนี้ฉันรู้หมด แต่ฉันอดไม่ได้….



ในที่สุดบรรดาพวกนักเรียนนักศึกษาหมาหางด้วนทั้งหลายก็เริ่มแปลกใจในพฤติกรรมของตนเอง หลังจากที่ได้ตัดหางตามก้นเจ้าหมาฝรั่ง แล้วพากันแสวงหาความสุขจากวัตถุ ลุ่มหลงมัวเมาในเทคโนโลยีต่าง ๆ หาความสุขจากเนื้อหนังมังสา แต่ความสุขที่ได้รับมันเป็นความสุขจอมปลอม เป็นความสุขสนุกสนานชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้นเอง ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
เมื่อเกิดเหตุการณ์วุ่นวายต่าง ๆ ขึ้น พวกมันจึงพากันมาปรึกษาหารือว่าจะต้องหาวิธีการแก้ไข มันจะต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้ และจะต้องรีบทำเป็นการด่วนมิฉะนั้นแล้วอาจจะสายเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ ในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะต้องต่อหางให้กลับมาเหมือนเดิม



หลังจากที่ตกลงกันแล้วว่าต้องต่อหางให้กลับมาเหมือนเดิม มันก็พยายามที่จะช่วยกันต่อหาง ด้วยการเอากิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการต่อหาง ส่งเสริมศีลธรรม เช่น การอบรมค่ายพุทธบุตรหรือค่ายพุทธธรรมเป็นต้น แต่ระวังให้ดีอย่าเผลอไปเอาหางลิงมาต่อเดี๋ยวมันจะยิ่งยุ่งกันไปใหญ่ เหมือนอย่างการจัดเข้าค่ายอบรมบางค่ายที่จัดแล้วแทนที่จะทำให้เด็กมีคุณธรรม กลับกลายเป็นการสอนให้เด็กมีนิสัยร้อนแรง มีความแข็งกระด้าง ขาดความรักความเมตตา ขาดความเป็นพี่น้อง คอยคิดจะแก้แค้นเอาคืนจากรุ่นน้อง มีมิจฉาทิฐิเห็นผิดไปเลยก็มี
กิจกรรมรับน้องใหม่ก็เช่นเดียวกันทำกันจนเลยเถิด จนกระทั่งผู้ใหญ่ต้องมีการเบรกห้ามปรามกัน เรื่องเหล่านี้คงต้องฝากให้ผู้อำนวยการสถานบันการศึกษาต่าง ๆ ไปพิจารณาให้รอบครอบก่อนที่จะจัดกิจกรรมอะไรก็ตาม



จากนั้นมากระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมมือกับมหาเถรสมาคม จัดร่างหลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนาขึ้นมาในทุกระดับช่วงชั้น และทางมหาเถระสมาคมก็ยังได้จัดอบรมถวายความรู้แก่พระภิกษุรุ่นแรกทั่วประเทศเพื่อไปช่วยสอนวิชาพระพุทธศาสนาตามสถานศึกษาต่าง ๆ
ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548 ทางกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดให้มีการอบรมครูพระเพื่อไปช่วยสอนวิชาพระพุทธศาสนาขึ้นอีก เนื่องจากที่ได้อบรมไปแล้วนั้นยังไม่เพียงพอ ยังขาดครูพระที่จะไปทำการสอนอีกเป็นจำนวนมาก โดยในครั้งนี้ได้มีการถวายนิตยภัตให้ท่านด้วยเดือนละ 2,000 บาท นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ทุกฝ่ายต่างเห็นความสำคัญในการที่จะได้ช่วยกันสนับสนุนพระภิกษุสงฆ์ให้ไปช่วยสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้แก่เยาชนไทยของเราให้เขาได้มีการศึกษาที่สมบูรณ์แบบกันเสียที



สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ก็พากันตื่นตัวจัดกิจกรรมต่าง ๆ อันจะเป็นการส่งเสริมศีลธรรม จริยธรรม เป็นการช่วยต่อหางที่ขาดหายไปให้มันสมบูรณ์ขึ้น โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศ ตื่นตัวนิมนต์พระจัดอบรมค่ายพุทธบุตร ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งในหลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนา นอกจากจะให้นักเรียนได้เรียนรู้เข้าใจในหลักธรรมคำสอนแล้วยังมีการฝึกภาคปฏิบัติพร้อมกับสอดแทรกธรรมบันเทิงเข้าไปในกิจกรรมด้วย



โรงเรียนแกลงวิทยสถาวร ก็เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่เป็นตัวอย่างในด้านนี้ นำโดยท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครูอาจารย์ที่มองเห็นความสำคัญในการที่จะอบรมคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เยาวชน ได้คิดจัดการล้อมคอก “วัยโจ๋” ดึงเข้าค่ายคุณธรรมนำชีวิตเยาวชน เพื่อต้านภัยยาเสพติด ณ วัดชงโค ตำบลวังจันทร์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยได้นิมนต์เจ้าคณะจังหวัดระยองเป็นประธานสงฆ์ และนิมนต์คณะวิทยากร “กลุ่มรักษ์ธรรม” ซึ่งมีพระอาจารย์บุญนพ สุทธสีโลเป็นหัวหน้าคณะพระวิทยากรมาให้การอบรม
การอบรมในครั้งนั้นนับว่าประสพผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จึงได้จัดให้มีการอบรมต่อเนื่องกันมาอีกหลายรุ่น



วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพ ก็เป็นสถาบันอุดมศึกษาอีกแห่งหนึ่งที่เห็นความสำคัญในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม โดยได้นิมนต์คณะวิทยากร “กลุ่มรักษ์ธรรม” มาให้การอบรมทั้งปฐมนิเทศ และปัจฉิมนิเทศ ในการอบรมปฐมนิเทศจะจัดขึ้นที่วิทยาลัย ส่วนการอบรมปัจฉิมนิเทศจะพานักศึกษาไปปฏิบัติธรรมที่วัด และได้ทำการจัดอบรมต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว เริ่มตั้งแต่สมัยท่านผู้อำนวยการสายหยุด ศิริภาภรณ์ โดยมี อาจารย์นิทรา คชรักษ์รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดอบรม
แต่หลังจากที่ อาจารย์นิทรา คชรักษ์เกษียณอายุราชการ การอบรมก็ได้หยุดลง หวังว่าอนาคตข้างหน้าผู้บริหารคนใหม่คงจะช่วยกันสานต่อโครงการที่ดี ๆ นี้ต่อไป เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อนักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง



หลังจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้พากันจัดกิจกรรมที่ต่อหางให้แก่นักเรียนนักศึกษาแล้ว เหตุการณ์ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น ความมีระเบียบวินัยก็เกิดขึ้น การตรงต่อเวลาก็มีมากขึ้น การร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมก็เกิดขึ้น เพราะมีศีลธรรมเข้ามาเป็นบ่วงถ่วงตัว ทำให้เกิดสมดุล เรียกว่าตอนนี้เรามีการศึกษาทั้งในด้านความรู้ ด้านอาชีพ และด้านศีลธรรม คุณธรรม จึงเป็นการศึกษาที่สมบูรณ์แบบ ดังที่ท่านเจ้าคุณพุทธทาสได้แสดงธรรมไว้ว่า การศึกษาที่มุ่งเน้นสอนแต่เพียงให้รู้หนังสือ รู้อาชีพ แต่ขาดด้านคุณธรรมจริยธรรมหรือศีลธรรมแล้วไซร้ การศึกษานั้นจะกลายเป็น “การศึกษาหมาหางด้วน” ขึ้นมาทันที
เมื่อท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ลองถามตัวเองว่า “คุณเป็นคนหนึ่งในบรรดาหมาหางด้วนหรือไม่? และถ้าเป็นจริงคุณได้ต่อหางของคุณเองกันแล้วหรือยัง?”




ภาพนี้จะได้สรุปให้เห็นว่า ชีวิตคนเรานั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ กาย จิต และวิญญาณ ตลอดชีวิตนั้นเราทุ่มเทอยู่กับการศึกษา ไม่ว่าจะศึกษาในระบบไหนก็ตาม เมื่อก่อนนี้เราแบ่งการศึกษาออกเป็นองค์ 4 ด้วยกันคือ
1.พุทธิศึกษา การศึกษาด้านความรู้ คำว่า พุทธิหมายถึง โพธิคือปัญญาความรู้ที่สามารถดับทุกข์แก้ ปัญหาได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะวิชาการอ่านออกเขียนได้เท่านั้น
2.จริยศึกษา การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติ ซึ่งมิได้หมายเพียงแค่กายวาจาเท่านั้น แต่รวมถึงการกระทำที่เกิดจากความสำนึกภายในจิตใจด้วย
3.หัตถศึกษา การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องอาชีพการทำมาหากิน
4.พละศึกษา การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังทางกาย รวมทั้งกำลังภายในคือสมาธิด้วย




จะเห็นว่าเป้าหมายของการศึกษาในปัจจุบันนี้ ได้ผิดไปจากวัตถุประสงค์เดิมแล้ว ทำให้เกิดอะไรขึ้น ลองมาดูกันซิ
1.ด้านพุทธิศึกษา เรามุ่งสอนแต่ด้านความรู้ เฉพาะวิชาการอ่านออกเขียนได้เท่านั้น ไม่ได้มุ่งสอนด้านปัญญาคือความรู้ที่สามารถดับทุกข์แก้ปัญหาได้ด้วย
2.ด้านจริยศึกษา เรามุ่งสอนเพียงมารยาทภายนอกคือ การกราบ ไหว้ ฯ ไม่ได้สอนให้เกิดจากความสำนึกภายในจิตใจ แล้วจึงกระทำออกมาทางกายและวาจา
3.ด้านหัตถศึกษา ก็สอนเกี่ยวกับเรื่องอาชีพ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องจิตใจ
4.ด้านพละศึกษา ก็สอนเกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังทางกาย แต่ไม่สนใจเรื่องกำลังภายในเลย
ตกลงว่าการศึกษาทั้ง 4 ด้านต่างก็มุ่งไปเรื่องกายเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจเรื่องจิตวิญญาณ จึงเป็นการศึกษาหมาหางด้วน ที่ตัดเอาเรื่องคุณธรรมจิตใจออกไป




เมื่อการศึกษาเป็นการศึกษาแบบหมาหางด้วน ทำให้เกิดปัญหาวุ่นว่ายขึ้นมากมายในสังคม วิธีแก้ปัญหาด้านการศึกษา มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือจะต้องต่อหางที่ถูกตัดออกไปให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม คือ
1.สอนให้เขามีความรู้ สามารถ อ่านออกเขียนได้
2.สอนให้เขาสามารถนำความรู้นั้นไปประกอบอาชีพได้
3.สอนให้เขามีคุณธรรม ด้านจิตวิญญาณ มีความสำนึกรับผิดชอบในความเป็นมนุษย์ของตนเอง อันจะยังประโยชน์ตนและผู้อื่น ทำให้สามารถที่จะดำรงอยู่กับเพื่อนมนุษย์ในสังคมได้โดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
เมื่อการศึกษามีการสอนครบถ้วนทั้ง 3 อย่างนี้แล้ว จึงเป็นการศึกษาที่สมบูรณ์แบบ และก็จะสามารถแก้ปัญหาทั้งหลายได้อย่างแท้จริง แล้วหมาก็จะได้มีหางเหมือนเดิมเสียที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น