“สุวัตร” ระบุฝ่ายการเมืองแทรกแซงทั้งตำรวจ ทั้งอัยการ บางครั้งลามไปถึงศาล ถ้าวันใดศาลไม่มีความยุติธรรม ประเทศนี้ก็อยู่ไม่ได้ ยืนยันรัฐบาล ปชป.ไม่เคยมาช่วยเรื่องคดีของพันธมิตรฯ มีแต่มากระทืบซ้ำ เดินหน้า “โหวตโน” ไม่เอานักการเมืองเลว มั่นใจคดี 7 ต.ค.ปราบปรามพันธมิตรฯ คนผิดต้องถูกลงโทษ
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “ตอบโจทย์” ทางไทยพีบีเอส ถึงปัญหาของตำรวจไทยวันนี้ ว่าตำรวจจะต้องไม่ขึ้นกับนักการเมือง ตำรวจจะต้องเป็นตำรวจของรัฐ เป็นตำรวจของประชาชน ต้องไม่ตามนักการเมือง ที่ผ่านมาเมื่อนักการเมืองมีอำนาจก็จะแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม การปรับโครงสร้างตำรวจยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะปัจจุบันสำนักงานตำรวจขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ตอนนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ควบคุมดูแล ดังนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจก็จะขึ้นอยู่กับนักการเมือง มีการวิ่งเต้น มีข่าวเสียเงินเสียทอง กัน หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตำรวจของรัฐบาลเก่าก็จะถูกเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนรัฐบาล ผบ.ตร.ก็จะถูกเปลี่ยนตัวทันที
นายสุวัตรกล่าวว่า การชุมนุมเป็นการใช้สิทธิทางการเมือง ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดให้ประชาชนชุมนุมได้โดยปราศจากอาวุธ การชุดนุมของพันธมิตรฯ รัฐบาลจ้องจะสลายการชุมนุมหลายครั้ง สลายไม่ได้ก็จะยึดส้วม มีการตั้งข้อหา 10 คน ว่าขัดขืนการรักษาสงบ มีการออกประกาศห้ามเข้าเขตที่กำหนดไว้ แต่ตอนนี้มีรถยนต์วิ่งผ่านเข้าออก ก็ไม่เห็นถูกจับ มีการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา 10 คน นัดมาวันไหนเราก็ไปวันนั้น ซึ่งเราก็ต่อสู้ว่าการออกประกาศต่างๆที่ออกมาภายหลังการ ชุมนุมนั้นขัดกับรัฐธรรมนูญ
นายสุวัตรกล่าวว่า อัยการในยุคก่อนๆ ก็เป็นอย่างหนึ่ง พอมีการแต่งตั้งโยกย้าย ตนมองว่าตอนนี้อัยการเป็นเสื้อแดงมากถึง 80% อย่างอธิบดีคนปัจจุบันก็ได้ดีในยุค รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็มาทำคดีของเสื้อแดง ตอนนี้อัยการก็มีปัญหามาก นักการเมืองมีการสั่งอัยการ ขณะที่อัยการมีคณะกรรมการอัยการ หรือ ก.อ. ตอนนี้ฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซงได้ทั้งตำรวจ ทั้งอัยการ บางครั้งลามไปถึงศาล ศาลบางคนก็มั่นคง บางคนก็ไม่มั่นคง สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง มีทั้งคนที่เห็นด้วยกับเสื้อเหลือง มีทั้งที่ เห็นด้วยกับเสื้อแดง แต่ตอนนี้ยังถือว่าดีที่ในขั้นตอนของศาลยังให้อุทธรณ์ได้ แต่ในขั้นตอนของตำรวจอุทธรณ์ไม่ได้ ถ้าเสื้อเหลืองโดนเล่นงาน เขาจะเร่งคดี แต่ก็ไม่มีคดีไหนที่เราหนี เราไปทุกเรื่อง เมื่อก่อนต้องใช้เงินประกันตัวสูง ตอนนี้ดีขึ้นบางคดีไม่ต้องประกันตัว
สำหรับเรื่องสิทธิในการประกันตัว นายสุวัฒน์กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของศาล รัฐธรรมนูญให้ประชาชนชุมนุมได้ แต่การชุมนุมยังไม่มีกฎหมายประกอบออกมารองรับ ซึ่งการชุมนุมในที่สาธารณะแล้วมีผู้ฟ้องร้องขับไล่ เมื่อมีคดีเกิดขึ้นและเรื่องมาถึงศาล ศาลก็จะปรับใช้กฎหมายแพ่ง ฟ้องเมื่อไรก็ไล่ให้ออกไปจากสถานที่นั้น ซึ่งเราก็ต่อสู้ทั้งกฎหมายเอกชน กฎหมายมหาชน รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ เราส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความมากที่สุด เราใช้สิทธิอุทธรณ์ ฎีกาหลายเรื่อง แต่ศาลยังเป็นที่ พึ่งสุดท้ายอยู่ ยังมีขั้นตอนอยู่ ตอนนี้ทั้งตำรวจ และอัยการต่างล้มเหลว ถ้าวันใดศาลไม่มีความยุติธรรม ประเทศนี้ก็อยู่ไม่ได้
นายอานนท์ นำภา ทนายความของคนเสื้อแดง กล่าวว่า ศาลมีความสุ่มเสี่ยง ถ้าหากอำนวยความยุติธรรมไม่ได้ โดยเฉพาะคดีการเมือง ในช่วงที่เสื้อแดงชุมนุม มีการ ประกาศพระราชกำหนดฉุกเฉิน ห้ามชุมนุม มีการปิดเว็ปไซต์หลายเว็บไซต์ แต่โดยหลักคือ ต้องให้ประกันตัว ตนยังมีความเชื่อมั่นในศาล แต่ที่ผ่านมาเราหวังความ ยุติธรรม แต่เราต้องติดคุก ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
นายสุวัตรกล่าวว่า การเอา พ.ร.ก.มาใช้นั้นผิด ตนฟ้องรัฐบาลว่ามีการออกประกาศ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดี ตนยังได้ฟ้องตำรวจเรียกค่าเสียหายที่กล่าวหา พล.ต.จำลองในข้อหาผู้ก่อการร้าย รวมถึงฟ้องการออกประกาศทุกฉบับของรัฐบาลที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นายอานนท์กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงก็ต่อสู้เหมือนกัน แต่ศาลได้ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าการออก พ.ร.ก.รัฐบาลได้กระทำโดยชอบแล้ว นายกฯ มีอำนาจในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นายสุวัฒน์กล่าวว่า จะฟ้องขอให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ไม่ได้ แต่สิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ คือ ประกาศต่างๆ ที่ออกตามมา
นายสุวัตรกล่าวว่า ตอนนี้เราถูกฟ้องรวม 72 คดี รวมของนายนิติธร ล้ำเหลือ อีก 50 คดี ที่ผ่านมาเราสู้กับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อถูกดำเนินคดีก็เข้าใจได้ว่าเพราะเราต่อต้านรัฐบาล พอมาในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ เขาไม่ได้มาช่วยอะไรพันธมิตรฯ เลย มีแต่มาช่วยเหยียบพันธมิตรฯ ไม่เคยช่วยแม้แต่คดีเดียว เราใช้ปัญญา ใช้สมองของเรา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์กดเราไว้ เขาไม่เคยปล่อยพันธมิตร เราไม่เคยได้สิทธิพิเศษแม้แต่คดีเดียว เราไม่ได้มีเส้นอะไร เราต้องหาเงินประกันตัวเอง แต่เสื้อแดงยังได้เงินประกันตัวจากกองทุนยุติธรรม พันธมิตรฯไม่เคยได้อะไรจากรัฐบาลเลย ที่พรรคประชาธิปัตย์บอกว่าโหวตโนไม่ได้ ต้องเลือกคนที่เลวน้อยกว่า แต่พันธมิตรฯ ไม่เลือกแล้ว เพราะรักการเมืองเป็นอย่างนี้ ไม่มีนักการเมืองคนใดดี สาเหตุที่บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะการคอร์รัปชัน การซื้อเสียง ซึ่งประชาชนไม่เอาแล้ว
นายอานนท์กล่าวว่า อำนาจอธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทย ต้องเชื่อว่าประชาชนมีสมอง พันธมิตรฯ จะโหวตโนก็รณรงค์ไป เสื้อแดงก็เลือกพรรคเพื่อไทย ถ้าได้ เกิน 50% ก็มาบริหารประเทศ สิ่งที่อยากจะเห็นคือจะต้องมีการเยียวยาคนที่ถูกฆ่า และต้องเอาคนที่ฆ่าติดคุก เชื่อว่าวันหนึ่งคนฆ่าจะถูกลงโทษ
นายสุวัตรกล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะได้เห็นคนใดที่ทำไม่ถูกจะต้องถูกลงโทษ แต่กฎหมายตัดสิทธิไม่ให้เราฟ้องเอง การฟ้องข้าราชการการเมือง หรือนักการเมือง ต้อง ให้ไปที่ ป.ป.ช. แต่หลายเรื่องพอฟ้องไปที่ ป.ป.ช.ก็ทำคดีขาดอายุความไปหลายคดี แต่ตนเชื่อว่าวันหนึ่งจะเกิดผล อย่างคดี 7 ต.ค. ที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ สั่งปราบปรามประชาชน วันนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น