> ตอนเด็กๆ ฉันเคยหัวเสียกับเชือกที่พันกันยุ่งเหยิง
> ยิ่งแก้ยิ่งอารมณ์เสีย
> ฉันร้องห่มร้องไห้ โทษดินฟ้าอากาศ
> แล้วคิดว่าทำไมฉันต้องทนกับเจ้าเชือกไร้สาระพวกนี้ด้วย
> เลยใช้มีดตัดๆ ตัดจนเชือกขาดเป็นชิ้นๆ (สะใจจริง)
> พอหายโมโห ฉันนั่งมองกองเชือกขาดๆ ที่ไร้ประโยชน์
> (โถช่างน่าสงสารจริงๆ ทั้งตัวเองและเชือก)
> แต่แล้วครั้งต่อมา พอเชือกพันกันอีก...
> ฉันก็ใช้มีดตัดมันอีกอย่างไม่คิดอะไร
> จนวันหนึ่ง...
> ฉันเห็นแม่นั่งแก้เชือก ที่พันกันกองโต
> มันยุ่งชนิดที่ว่า ชาตินี้คงไม่สามารถกลับมาเป็นเส้นตรงได้เหมือนเดิม
> ฉันเห็นแม่นั่งแก้ทุกวัน วันละนิดละหน่อย
> พอเบื่อก็ไปทำอย่างอื่น
> ทิ้งกองเชือกกองไว้ แล้วก็กลับมานั่งแก้อีก
> จนฉันรำคาญ และคิดว่า
> ทำไมแม่ต้องทนกับกองเชือกไร้สาระพวกนี้
> เลยบอกแม่ว่าเอามีดตัดมันออกเถอะ...
> นั่นแหละฉันถึงได้เข้าใจเมื่อแม่ตอบว่า...
> "เวลาที่เชือกพันกัน เขาห้ามใช้มีดตัด ต้องแก้ออกให้ได้
> เพราะเชือกเป็นเส้นเดียวต่อให้พันกันยุ่งแค่ไหนก็แก้ได้
> ถ้าแค่เชือกพันกันแค่นี้ลูกแก้ไม่ได้
> แล้วต่อไปจะแก้ปัญหาอะไรในชีวิตได้
> อีกหน่อยลูกก็จะแก้ปัญหาสุ่มๆ เหมือนที่ใช้มีดตัดเชือกนั่นแหละ
> ...ถ้าลูกไม่อดทนแก้เชือกด้วยมือตัวเอง
> ค่อยๆ แกะวันละนิดละหน่อย
> แค่นี้ทำไม่ได้แล้วจะไปทำอะไรได้
> ไม่มีอะไรยากไปกว่าความอดทนของคนหรอก..."
> หลังจากนั่นอีก 3 วัน
> ฉันเห็นขดเชือกเส้นสวยเป็นระเบียบแขวนอยู่
> ฉันมองอย่างทึ่ง แม่ยิ้มอย่างภูมิใจ
> เรื่องนี้ทำให้ฉันรู้ว่า
> ปัญหาของคนเรา จริงๆ แล้วคือการหนีปัญหานั่นแหละ
> เพราะถ้าเราตั้งใจแก้มัน มีหรือจะไม่มีทางออก
> แพ้บ้าง ชนะบ้างเป็นเรื่องปกติ
> จะได้ "ล้มเป็นลุกเป็น"
> โลกสร้างปัญหา สร้างความทุกข์
> ให้เราผ่านไปให้ได้...
> ฉันไม่เคยซ้ำเติม คนที่ฆ่าตัวตายว่าเขาโง่
> เพียงแต่เขาก้าวผ่านปัญหาบนโลกไปไม่ได้
> เขาเลยเลือกที่จะหนีไปจากโลกนี้แทน
> ด้วยความขาดสติ ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
> พอวันวัยผ่านมา ตอนนี้ฉันได้รู้ว่า
> ชีวิตคนเราผิดพลาดได้ ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติ
> ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไรเลย...
> ไม่ว่าจะเหนื่อยจะท้อแค่ไหน อย่าหนีปัญหาไปเฉยๆ ล่ะ
> แค่บอกปัญหาว่าพักสักเดี๋ยว แล้วค่อยมาเจอกันใหม่.
LAUGHTER IS THE SOUL'S MEDICINE!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น