บก.บห.เอเอสทีวี ชี้ เว็บไซต์ประชาทรรศน์ มั่วข่าวผู้จัด-ผู้ประกาศเอเอสทีวี นับ 10 แห่เตรียมยื่นใบลาออกเหตุรับไม่ได้ถูก “สนธิ” บังคับให้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ยันเป็นเรื่องความสมัครใจ และแนวทางของแต่ละคน
ยังคงออกมาอยู่เรื่อยๆ สำหรับกระแสข่าวเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือการชุมนุมของ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การบริหารของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปกป้องผืนแผ่นดินไทยจากการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุด ก็เป็นทางด้านเว็บไซต์ประชาทรรศน์ ภายใต้การดูแลของ นายเนวิน ชิดชอบ ที่ได้นำเสนอข่าวในทำนองว่า มีผู้จัดรายการของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี อาทิ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก หรือ เจ๊ปอง, นางอัญชลีพร กุสุมภ์, นายสุทิน วรรณบวร อดีตนักข่าวอาวุโสจาก AP และ บก.ฝ่ายข่าวการเมืองรวมกันกว่า 10 คน ได้เตรียมยื่นใบลาออกเหตุรับไม่ได้ที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน บีบให้ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไปยังนางอัญชลีพร กุสุมภ์ ที่มีชื่อในผู้ที่จะยื่นใบลาออกด้วย เผยว่า ทุกวันนี้ตนยังทำงานอยู่กับทางเอเอสทีวี และกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังวางแผนงานในส่วนของรายการที่ตนรับผิดชอบ นั่นก็คือรายการธรรมาภิวัฒน์ ซึ่งจะมีการพัฒนาขึ้นมาอีก ส่วนเรื่องการไปขึ้นเวทีนั้น เจ้าตัวบอกว่าย่อมมีทั้งคนที่พร้อม และไม่พร้อม แต่ไม่มีผู้ใหญ่มานั่งบีบแน่นอน
“พี่เองก็เป็นคนที่อยู่ในส่วนที่ไม่พร้อม เพราะว่ามันก็มีปัญหาเรื่องความสบายใจของคนรอบข้างน่ะค่ะ พี่ก็คุยกับผู้ใหญ่ แล้วโครงการนี้ก็เป็นโครงการที่พี่กำลังทำอยู่แล้วด้วย ผู้ใหญ่ก็บอกกับพี่ว่าน่าจะใช้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทำงานที่ยังค้างๆ อยู่ให้เรียบร้อย ก็คุยกับทางผู้ใหญ่ก็เข้าใจกันดี”
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ในการนำเสนอข่าวครั้งแรกของเว็บไซต์ประชาทรรศน์นั้น ได้มีชื่อของ “เติมศักดิ์ จารุปราณ” รวมอยู่ในรายชื่อด้วย ทว่า เจ้าตัวได้โต้กลับจนมีการลบชื่อออกไป
ด้าน นายสุรวิชช์ วีรวรรณ บก.บห.ช่องเอเอสทีวี ได้เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า ทาง นายสนธิ บีบให้ผู้ประกาศไปขึ้นเวที เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นความสมัครใจของแต่ละคน อย่างเช่น การชุมนุม 193 วันที่ผ่านมา ก็มีผู้ประกาศหลายคนที่ไม่ได้ไปขึ้นเวที แต่ปัจจุบันก็ยังทำงานอยู่ที่นี่
ส่วนเรื่องที่มีพนักงานบางส่วนลาออกไปนั้น ทางด้านของ บก.บห.ช่องเอเอสทีวี ยอมรับว่า มีจริง เช่นในส่วนของ น.ส.กิตติมา ธารารัตนกุล, โบ เหลืองทอง รวมถึง นายสุทิน วรรณบวร ที่ทำอยู่ที่ช่องทีเอเอ็น แต่ก็เป็นเรื่องความคิดและการตัดสินใจส่วนตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งทางเราเคารพในสิทธิดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการถูกบังคับว่าจะต้องขึ้นหรือไม่ขึ้นเวที
“อย่างคุณอัญชะลี นั้น จริงๆ ไม่ได้เป็นพนักงานที่เอเอสทีวีนะ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลาออก ส่วนกรณีของ คุณบัณฑิต ปิ่นมงคลกุล ที่หลายคนอาจจะสงสัยว่าหายไปไหนนั้น จริงๆ เขาได้ยื่นใบลาออกมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการชุมนุมแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ได้ขึ้นเวทีมาอย่างต่อเนื่องก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า แนวทางเป็นเช่นไร เพราะฉะนั้นข่าวที่ออกมาจึงไม่เป็นความจริงเลย”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000019878
ขอบคุณนักข่าว astvทุกท่านที่กล้าหาญและยืนหยัด
อยู่กับประชาชน
พวกท่านกล้าหาญมาก เพราะต้องอดทนกับอุปสรรคต่าง ๆ
รวมทั้งคดีความที่จะตามมาอีกด้วย
ขอบคุณทุก ๆ ท่านด้วยใจ
astv ถ้าใจไม่ถึงอยู่ไม่ได้หรอก
ไม่มีค่าเสี่ยงภัยด้วยนะนั่น
ดูอย่างคุณบาส ขนาดตอน 193 วัน
แทบไม่ได้ขึ้นเวที แต่เฉียดตายสุด
ตอนที่นั่งอ่านข่าวแล้วลูกปืนยิงไปโดนแก้วกาแฟน่ะ
คืนนั้นนั่งดูอยู่ยิงสองนัดแรกเขายังอ่านต่ออีกนะ
ค่อยๆ เอียงๆ สุดท้ายพริ้วไปอย่างว่องไว
สุดยอดดดดด
พนักงานกลุ่มเมเนเจอร์ลาออก เป็นเรื่องธรรมดา
แต่กรูอยากได้ข่าว iมาร์คลาออก มากกว่า..
Bany
ผมไม่เคยเจอหน้าคุณเติมสักเลย...แต่..ตั้งผมติดตามผลงานเขามาตั้งแต่ปี 48จนตอนนี้54ผมคิดว่าคุณเติมสัก...เป็นคนดี
อัน ที่จริงคุณเติมสักไม่น่าจะมาอ่านข่าวทำราย แต่ตำ่แหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกเท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับเขาที่สุด..ไปสอน ให้คนอย่าง สุรยุทร กิตติ ให้เข้าใจถีงการเป็นสื่อมวลชลที่ดีนั้นเป็นยังงัย ไม่ใช่แค่คิดถึงเงินตรา กิเลสตัณหารอบตัว ให้หันมาดูความถูกต้องของเนื้อหา ความน่าสนใจในการนำเสนอ ผมเคยนั่งดูรายการคนในข่าวทั้งที่เนื้อหาชื่อเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจเท่าใหร่ อย่างเช่นเรื่องกฎหมาย แต่พอเห็นคุณเติมสักเป็นคนจัดผมก็ดูจนจบ เพราะฟังแล้วเข้าใจในคำถามที่พิธีกรตั้ง ยกกรนีศึกษาที่เห็นภาพ รู้จักเปรียบเทียบ ช่วยผู้แขกรับเชิญหากติดขัดในข้อมูล และที่สำคัญคิดเองได้ว่าใหนผิดชอบชั่วดีไม่นอกประเด็น คนอย่างนี้น่าจะเป็นผู้อำนวยรายการข่าว ของฟรีทุกช่องทุกรายการเพราะนักข่าวบางคนกฏหมายใช้กับพวกนันไม่ได้...ผม นับถือคุณเติมสัก
รักคุณเติมสัก...จากใจ
เท่าที่ผมติดตามเอเอสทีวี มา
เอเอสทีวี อาจจะไม่มีทุนเยอะ
เอเอสทีวี อาจจะไม่มี เฮลิคอปเตอร์
อาจจะมี รถโอบี ไม่กี่คัน
เครื่องมือ อาจจะล้าหลัง
ฉากหลัง คงไม่ใช่ วีดีโอวอลล์
กราฟฟิค คงไม่ฉาบฉวยหมุนได้ พลิกซ้ายขวาได้
แต่สิ่งที่ฟรีทีวี และช่องข่าวช่องอื่นๆ ไม่มี
และเอเอสทีวีมีคือ
เอเอสทีวีมีบุคลากรที่ทำงานด้วยใจ
เนื้อหาข่าวในเชิงลึกที่หาไม่ได้ในช่องอื่น
ทำสิงผิดเป็นสิ่งที่ถูก เสมือนตะเกียงนำทางสังคม
M
เข้าใจในข้อจำกัดของแต่ละท่าน
เพราะถ้าอยู่ที่ astv เงินเดือนออกช้าแล้วอาจจะใด้คดีแถมด้วยถ้าขึ้นเวที
ซึ่งต้องคารวะในหัวใจของทุกคน
ส่วน ผมในฐานะสาวก astv สิ่งที่ทำใด้ในตอนนี้ก็ช่วยรับข่าวเดือนละ 200 บาท และช่วยบริจาคครั้งละไม่กี่ร้อยในช่วงชุมนุมแต่พยายามทำสม่ำเสมอตามอัตภาพ
ส่วน ใครจะตำหนิใครนั้นผมคิดว่าถ้าหลีกเลี่ยงใด้ก็หลีกเลี่ยงเพราะการออกมาชุมนุม พันธมิตรไม่ใด้บังคับใคร เห็นด้วยก็มา ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องมา
สิ่งสำคัญถ้าจุดยืน astv พันธมิตร มั่นคงเพื่อส่วนรวมเชื่อว่าแม้มีคนออกแต่ก็มีคนที่อยากเดินเข้ามาอีกมากมาย
รัก astv&pad
เสียดาย กิตติมา ธารารัตนกุล และ โบ เหลืองทอง
แต่มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าพนักงานจะลาออก ก็เป็นการสมัครใจของคนๆนั้น เราไม่สามารถไปบังคับใจใครได้
แต่สำหรับพนักงานของ ASTV ที่เราคุ้นเคยในจอ อยากบอกว่าแต่ละคนที่ลาออกกระทบจิตใจคนที่ติดตามอยู่หน้าจออยู่ไม่น้อย
ขอบคุณน้องๆพี่ๆเหล่านั้นด้วย ที่อ่านข่าวให้เราฟังทุกวัน
และขอบคุณพี่ๆน้องๆที่ยังยืนหยัดอยู่กับพวกเราพันธมิตรด้วยเช่นกัน เราชื่นชมพวกคุณที่ร่วมต่อสู้กับพวกเรามาตลอด
ใจหาย
ที่ ASTV เข้ายาก ออก ง่าย
เค้าคัด เฉพาะคนที่มีคุณภาพ จ้า
คนเข้ามาทำงานที่นี่ เค้าก็รู้อยู่แเล้วว่า
เป็นอย่างไร ทำเพื่อ อะไร
อุดมการณ์ จากการเป็นสื่อมวลชน
นั้นต้องมี นะที่นี่อะ
ถ้าไม่มี
อาเป๊าะลิ้ม เค้าก็ไม่ให้อยู่หรอก
ชอบเต้าข่าวทุกอย่างที่ทำร้าย
ค่ายที่เค้ามี สัจจะ กับวิชาชีพ
มีมารตราฐาน
อย่าง ASTV
พวกป้ายข่าวนี้ถิอว่า
ไม่ได้ ขี้ตรีน
อย่าง ASTV สถานีข่าวสารเพื่อประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น