++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“รมว.ศึกษา” มอบนโยบายครูชัยภูมิ -โปรยยาหอมดูแลครูทั้งชีวิต

ชัยภูมิ- “ชินวรณ์” รมว.ศึกษาธิการ ตระเวนลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เป็นประธานเปิดอาคารเรียนและมอบนโยบายครูชัยภูมิเน้น เรียนฟรี 15 ปี ให้เด็กไทยกว่า 12 ล้านคนเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ประกาศชัดไม่มีการเรียกรับเงินและฝากเด็กนักเรียนเป็นอันขาด พร้อมโปรยยาหอมจะดูแลครูทั้งชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะ ได้ตระเวนลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ โดยเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมโรงเรียนดีประจำตำบล โรงเรียนอนุบาลเทพสถิต ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 และเป็นประธานเปิดอาคารเรียน ของโรงเรียนชุมชนบ้านหนองแวง (คุรุราษฎร์อุปถัมภ์) ต.หนองแวง อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นอาคาร ใต้ถุนสูง จำนวน 4 ห้องเรียน ได้รับการจัดงบประมาณตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 2,537,600 บาท

พร้อมมอบนโยบายด้านการศึกษาแก่ข้าราชการครูจังหวัดชัยภูมิ ที่โรงแรมสยามริเวอร์ รีสอร์ท อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมี นายจรินทร์ จักกะพาก ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายพงศธร สัจจชลพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายพุฒิพงษ์ สงวนวงษ์ชัย ส.ส.ชัยภูมิ พร้อมผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครูให้การต้อนรับ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งออกกฎหมายการปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูให้มี ผลบังคับใช้ภายในเดือนมีนาคมนี้ รวมทั้งสวัสดิการต่างๆ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของครูไทยดีขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครูไทยทุกคน จะพัฒนาครูสร้างครูการเตรียมครูให้มีคุณภาพตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย จนถึงวัยเกษียณอายุ ซึ่งเราจะดูแลครูทั้งชีวิต

ด้านการเรียนฟรี 15 ปี จะให้เด็กไทยกว่า 12 ล้านคนเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน โดยครอบคลุมทั่วทุกกลุ่ม ซึ่งจะให้มีการสำรวจทุกตารางนิ้ว ปฏิบัติได้จริงโดยมีจุดเน้น คือ นักเรียนจะมีหนังสือเรียนฟรีโดยไม่ต้องยืมเรียน มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และที่สำคัญครูต้องปรับวิธีการสอนแบบใหม่ไม่เน้นท่องจำ แต่ให้เด็กได้มีการคิดวิเคราะห์ โดยเป็นเรียนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ปีนี้ได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีการเรียกรับเงินและฝากเด็กนักเรียน เป็นอันขาด โดยได้ประกาศกฎ 9 ข้อออกมาอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนต้องให้ความร่วมมือ และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ประกอบด้วย บุคคลภายนอก เช่น จากศาลปกครอง สตง. ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เป็นต้น และหากมีการแอบอ้างชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด

สำหรับกฎ 9 ข้อ ได้แก่ ต้องสร้างความเข้าใจถึงค่านิยมที่ถูกต้องในการรับนักเรียนตามนโยบายว่าในปี นี้การรับนักเรียนต้องโปร่งใส เป็นธรรมเพื่อคุณภาพการศึกษาและสร้างความเป็นธรรม ต้องวางแผนการรับนักเรียนที่ชัดเจน การรับนักเรียนต้องรับรอบเดียว ห้องละ 40 คน หรือหากมีความจำเป็นเพื่อได้ไม่เกินห้องละ 10 คน นักเรียนทุกคนต้องมีที่เรียนให้มีการเลือกโรงเรียน ตามลำดับคะแนนและตามความสามารถของนักเรียน

หากสถานศึกษาใดที่มีการจับสลาก การสอบหรือโควตาผู้มีพระคุณต้องประกาศก่อนให้ชัดเจน และหากใช้วิธีการสอบคัดเลือกต้องประกาศผลการสอบและระบุคะแนนตามลำดับอย่าง ชัดเจน ห้ามให้มีการฝากเด็กหรือการเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดในช่วงการรับ นักเรียน สถานศึกษาต้องอำนวยความสะดวก ในการขอรับทราบข้อมูลในการรับนักเรียน และให้ทุกสถานศึกษาถือว่านโยบายการรับนักเรียนเป็นภารกิจหลักที่ต้องปฏิบัติ ให้เป็นไปตามนโยบาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น